Jump to content


kaomadoo

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2555 17:07
-----

Posts I've Made

In Topic: พระธาตุ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

19 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 17:07

พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จัดอยู่ในพวกไหน?

//พวกมหาสติปัฏฐาน กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เฉพาะกายานุปัสสนาสติปัฏฐานนี้ เราตั้งกายของเราเป็นฐานที่ตั้งของสติ เป็นฐานที่รู้ของจิต เพื่อเป็นการฝึกฝนอบรมสติให้มีประสิทธิภาพขึ้น จนกลายเป็นมหาสติ
ทีนี้โดยทางปฏิบัติแล้ว พระผู้ที่ปฏิบัติท่านเพ่งอาการ ๓๒ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ ในเมื่อกายคือ อาการ ๓๒ ถูกเพ่งบ่อยเข้า จิตเกิดมีสมาธิ แล้วย่อมเกิดนิมิตให้เห็นในกายทั่วไป ส่วนมากสิ่งที่ปรากฏให้รู้เห็นอยู่นานที่สุดก็คือกระดูก มีโครงกระดูก เป็นต้น ในบางครั้ง ในเมื่อจิตวิ่งเข้ามาดูกายแล้วก็มาสงบสว่างในกาย จิตจะมองทะลุกายออกมามีลักษณะ ดูเหมือนคล้าย ๆ กับแก้วโปร่ง มีความใสเหมือนกับแก้วโปร่ง
เพราะฉะนั้น กระดูกของพระอริยบุคคล ถูกจิตที่บริสุทธิ์สะอาดเพ่งเป็นวิหารธรรมอยู่บ่อย ๆ ด้วยอิทธิพลของจิตนั้น จะสามารถทำให้กระดูกของท่าน เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว กลายเป็น พระธาตุ ขึ้นมาได้

In Topic: พระธาตุ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

19 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:57

เห็นแบบนี้มันทำให้ผมนึกถึงคำทำนาย3ข้อที่มีต่อทักษิณ รู้สึกสาแก่ใจลึกๆ
ไม่รู้จะสำนึกได้รึเปล่า คนแบบนี้

In Topic: พระธาตุ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

19 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:53

ผมก็ไม่เข้าหลักธรรมอะไรมากมายแค่สงสารพวกเวบแดงที่ว่าหลวงตามหาบัว
เพราะมีมิจฉาทิฐิไปเป็นสาวกทักษิณสมัยก่อนก็คงจะเป็นพระเทวทัต แต่พระเทวทัตโชคดีที่รู้สำนึกและคิดจะเข้าไปขอขมากับพระพุทธเจ้าแต่ธรณีสูบเสียก่อนแต่กระนั้นพระพุทธองค์ก็อโหสิกรรมให้
แต่กรณีหลวงตาพวกนี้ไม่มีโอกาสขอขมาเลยสิ้นใจพุ่งไปอเวจีนรกเลย

In Topic: พระธาตุ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

19 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:39

การปรามาสพระอริยะสงฆ์ นั้น มีโทษ ๑๐ ประการ
๑. ผู้นั้นยังไม่บรรลุธรรมที่บรรลุ หรือที่บรรลุแล้วในคุณธรรมเบื้องต่ำ ก็จะไม่บรรลุในคุณธรรมบื้องสูง

๒. เสื่อมจากคุณธรรมที่บรรลุแล้ว มีโลกียฌาน เป็นต้น

๓. สัทธรรมของผู้นั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว

๔. เป็นผู้เข้าใจตนว่าบรรลุสัทธรรมทั้งหลาย

๕. เป็นผู้ไม่ยินดีในการประพฤติพรหมจรรย์

๖. ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง

๗. ย่อมเป็นโรคอย่างหนัก

๘. ถึงความเป็นบ้า จิตฟุ้งซ่าน

๙. เป็นผู้หลงใหลในการทำกาลกิริยา

๑๐. เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงทุคติ อบายภูมิ


การตำหนิติเตียนพระอริยบุคคล
ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ก็ตาม
เรียกว่า "อริยุปวาท"

อริยุปวาท มีโทษ เป็น
"มัคคาวรณ์ = ปิดกั้นมรรคผล นิพพาน
และเป็น
"สัคคาวรณ์ = ขวางกั้นไม่ให้ไปเกิด
ในสรรค์เทวโลก
อริยุปะวาท แปลว่า ผู้มีวาจาดูหมิ่นเหยียดหยาม จัดเป็น อนัตริยกรรม
กรรมที่ส่งผลอันดับแรกตอนตาย ก็คือ อนันตริยกรรม

น่าสงสารพวกเวบสีแดงที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
จะขอขมาลาโทษก็ไม่ทันเสียแล้ว