ดอกปีบ

 

25 ก.พ.57 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง นายกรัฐมนตรี เลขาธิการ กปปส หัวหน้าพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ หลังเกิดเหตุความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งมีการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ส่งผลให้เศรษฐกิจและประเทศชาติเสียหาย ประชาชนต่างแตกแยก โดย ดร.โสภณ ได้เสนอทางออกประเทศไทย จำนวน 5 ข้อ

จดหมายของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ถึงนายกฯ กปปส และทุกฝ่าย

เรื่อง ห้าขั้นตอนทางออกประเทศไทย

เรียน นายกรัฐมนตรี เลขาธิการ กปปส หัวหน้าพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ

ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้รุนแรงมาก มีการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจและอนาคตของชาติต่างเสียหายหนัก และยังเกิดความแตกแยกอย่างหนักในหมู่ประชาชน กระผมจึงขอเสนอทางออกประเทศไทยโดยไม่ทำลายรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นใด ดังนี้:

1. ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหยุดชุมนุมทันที เพื่อรักษาชีวิตและหยุดความแตกร้าวในหมู่ประชาชน

2. รัฐบาล ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และพรรคการเมืองทุกพรรค ลงสัตยาบรรณว่า
     2.1 จะปฏิรูปการเมืองในประเด็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม หลังการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นภายใน 4 เดือน
     2.2 ในระหว่างการมีรัฐบาล 4 เดือนนี้ พรรคการเมืองที่ได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่นี้จะใช้อำนาจอย่างจำกัด เพื่อไม่สร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งใหม่

3. กกต.จัดการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด ภายในเดือนมีนาคม 2557

4. ปฏิรูปการเมืองในระหว่างเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2557 แล้วรัฐบาลยุบสภา ลาออก

5. จัดการเลือกตั้งใหม่ที่ให้ทุกพรรคมีส่วนร่วมอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมในเดือนกันยายน 2557

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ด้วยความเคารพ
ดร.โสภณ พรโชคชัย

http://www.naewna.com/politic/92191

********************************************************

ไหงเสนอเข้าไปทางรัฐบาลหมดหล่ะด็อก!!??

 ภาพการเคารพศพของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกแชร์ว่อนอินเทอร์เน็ตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายๆ คนเห็นแล้วคงหัวเราะขบขันในท่าทางการเคารพศพแบบยิ่งลักษณ์ที่คนอื่นคงทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นมารื้อฟื้นความทรงจำกันสักหน่อยว่าการกราบเคารพศพที่ถูกต้องนั้นต้องทำอย่างไร
       
        การกราบคนและกราบศพ กราบด้วยวิธีกระพุ่มมือ กราบเพียงครั้งเดียวไม่แบมือ มีวิธีปฏิบัติดังนี้
       
        ๑. หากบุคคลหรือศพอาวุโสกว่าให้ประนมมือไหว้ขึ้น ให้ปลายนิ้วจรดจมูกก็ได้หรือจะให้ปลายนิ้วมือจรดอยู่ระหว่างคิ้ว หัวแม่มืออยู่ระหว่างจมูกก็ได้ ถ้าคนเสมอกันประนมมือขึ้นแค่อกก็พอ
        ๒. นั่งพับเพียบเก็บเท้า ตามแบบนั่งพับเพียบหรือจะใช้วิธีหมอบกราบก็ได้
        ๓. หมอบลงตามแบบหมอบ
        ๔. มือทั้งสองกระพุ่มทอดลงกับพื้น ไม่แบมือราบกับพื้น
        ๕. ก้มศีรษะลงจรดสันมือ กราบเพียงครั้งเดียว
        ๖. เสร็จแล้วลุกขึ้นนั่งพับเพียบตามปกติ
       
       ที่มา : กรมการศาสนา

http://www.manager.c...D=9570000021765

***************************************************************************************************

รู้ไว้ใช่ว่า.. อย่าให้อายหมานะคร้า  

เผื่อได้กราบศพไอ้แม้วเร็วๆนี้ !!??

 1959318_265121606987329_866704343_n1.jpg   54.77K   94 downloads

You can fool all the people some of the time, and some of the people all the time, but you cannot fool all the people all the time. “คุณหลอกคนทุกคนได้ในบางเวลา และหลอกบางคนได้ตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถหลอกทุกคนได้ตลอดเวลา” อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 16

!?!?!

ประเด็นปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ดูจะกลายเป็นเชื้อร้ายที่ใกล้จะคร่าชีวิตใกล้คว่ำรัฐนาวาลำนี้เต็มทน กลายเป็นเชื้อร้ายที่กัดกินคุณภาพสมองของคนในซีกรัฐบาลที่มีอยู่น้อยเต็มประดากันจนเกือบหมดสิ้น

ยิ่งดิ้นก็ยิ่งชี้ให้เห็นเด่นชัด

เห็นความโง่เขลาเบาปัญญาของซีกรัฐบาล

!?!?!

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เด่นชัดกว่าใครๆ ถึงปัญหาเชื้อไวรัสร้ายเกาะกินสมอง แถลงการณ์เมื่อ 2 วันก่อนที่เสแสร้งถึงความห่วงใยเกษตรกรชาวนา เป็นการตอกย้ำครั้งสำคัญว่า หล่อนไร้สมองสิ้นดี

“ขณะนี้การบ่อนทำลายโครงการจำนำข้าว ไปถึงขั้นการสกัดกั้นที่จะไม่ให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนา การขัดขวางทำกันอย่างเป็นกระบวนการ เพื่อให้การจัดหาแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวจะต้องสะดุดหยุดลง หรือชะลอการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันควรทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย”

“...ในความเป็นจริงหากทุกฝ่ายมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา หากทุกธนาคารและผู้บริหารจะเห็นใจและมีน้ำใจต่อชาวนาไทย เข้าใจถึงความเดือดเนื้อร้อนใจ การบริหารการเงินของรัฐบาลก็จะเดินหน้าได้ ดิฉันยืนยันว่าเงินทุกบาทรัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว เงินของธนาคารก็มีหลักประกันตามกฎหมาย จึงไม่มีใครสามารถนำเงินฝากของทางธนาคารไปใช้ในทางที่ผิด...”

“ดิฉันในฐานะหัวหน้ารัฐบาลขอยืนยันอีกครั้งว่า รัฐบาลจะปกป้องรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องชาวนาและพี่น้องประชาชนทุกคน ดิฉันจะไม่ยอมให้เกมการเมืองมาเอารัดเอาเปรียบเอาพี่น้องเป็นตัวประกัน ดิฉันขอความร่วมมือและความเห็นใจของทุกฝ่ายต่อความทุกข์ยากของพี่น้องชาวนา ทุกหยาดเหงื่อของพวกเขา มีค่ามากต่อวิถีชีวิตของคนไทยทุกคน เราจะต้องไม่ปล่อยให้กระดูกสันหลังของชาติพิกลพิการ ชาวนาไทยจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับคนไทยทุกคน”

“คุณปู” หนวกหูโว้ย!! จนวันนี้ชาวนาก็ยังไม่ได้เงิน

ตรงไหนที่บ่งบอกว่า เห็นใจ ปกป้องผลประโยชน์

พฤติกรรมใดชี้ให้เห็นว่าไม่ปล่อยให้กระดูกสันหลังของชาติพิกลพิการ

แก้ตัว ...ไปวันๆ คนแบบไหนกัน

มีหลายคนพูดจนคอแหบแห้ง คอโก่งคอขัน ท่านทั้งหลายก็ยังไม่ฟัง รู้ก็รู้กันอยู่ว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถปฏิบัตินอกกรอบกฎหมายได้ โดยเฉพาะในรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ดังนั้นหนทางที่จะช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาก็น่าจะมีเพียงหนทางเดียวนั่นก็คือ ขายสินค้าเอาเงินมาให้ชาวนา

ปัญหามันจึงอยู่ที่ว่า ขายให้ใครขายอย่างไร ถ้าผมจำได้ตามหยักสมองที่มีอยู่ ผมจำได้ว่าเมื่อครั้ง พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคฝ่ายค้าน ประกาศชัดเจนว่า เป็นเลิศด้านการตลาด สามารถค้าขายเปิดตลาดหาเงินเข้าประเทศได้เป็นอย่างดี ที่จริงครั้งนี้ครั้งสำคัญที่จะเกทับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยโดนก่นด่าว่า เป็นแต่กู้หาเงินไม่เป็นอย่างชัดเจน

แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าการหาตลาดรับซื้อข้าวไทย

ก็คือ ข้าว ยังมีอยู่ในโกดังจริงหรือไม่ เท่านั้น

ยิ่งทุกถ้อยคำที่บรรดาขุนพลในรัฐบาลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการรับจำนำข้าว และเกี่ยวเนื่อง รวมไปถึงพวกเสนอหน้าออกมาสำรอกผ่านสื่อต่างๆ ว่า เกษตรกรชาวนาส่วนใหญ่ได้เงินค่าจำนำข้าวไปหมดแล้ว ยิ่งไม่ใช่เรื่องยากที่รัฐบาลจะขายข้าว แล้วนำเงินจำนวน 1.3 แสนล้านบาทมาจ่ายหนี้เกษตรกรชาวนา

เพราะมูลค่าสินค้าที่มีอยู่ในโกดังในเวลานี้ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 1.3 แสนล้านบาท ตามที่มีการยืนยันหนักหนาแน่นอน

ไฉน ... ท่านทั้งหลายจึงไม่ขวนขวายเปิดการค้าข้าวอย่างเป็นจริงจัง เป็นล่ำเป็นสัน นำเงินจากการขายมาแก้ไขปัญหามากกว่าการส่งเสียงเห่าหอน และโยนบาป โทษคนนั้นคนนี้ โยงปัญหาให้เป็นเกมการเมือง และถ้าเป็นเกมการเมือง เชื่อว่า การตลาดจะสามารถสกัดกั้นเกมการเมืองนี้ได้อย่างชะงัดนัก

ผู้ที่ไม่รู้จักใช้สติปัญญาให้เหมาะสมกับโอกาส คือ ... คนดื้อรั้น

ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือ ... คนโง่

ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือ ... ทาส”

นึกว่าเออ!! ผู้นำด้อยปัญญา คนรอบข้างทีมงานอาจช่วยได้ กลับกัน สมองและแนวคิดไม่ได้แตกต่างกันไปเลย มีเรื่องเดียวที่ต้องชื่นชมคือ เรื่องโง่ ... ฉลาดนัก นั่นแหละ

ก็นึกดูกันเองแล้วกัน โอ๊ค-พานทองแท้ ที่ถูกกล่าวหาว่า “ขี้ยา” ยื่นอกเชิดหน้า ออกมาพล่ามกันเป็นหน้ากระดาษบนเฟซบุ๊ค บอกว่า “ต้องช่วยกันช่วยเหลือชาวนา ชาวนาเป็นผู้มีพระคุณ ใครที่อยากตอบแทนบุญคุณชาวนา ขอเชิญร่วมฝากเงินกับธนาคารออมสิน ผมขอประเดิม ด้วยการรวบรวมเงินจากแบงก์อื่นๆ ที่ไม่สนับสนุนชาวนา มาเปิดบัญชีที่แบงก์ออมสินครับ ได้มา 11,300,000 บาท”

พิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่าความเอื้ออาทรของคนไทย ไม่เคยหดหายไปไหน กินข้าวไทยมาตั้งแต่เด็กจนโต วันนี้ชาวนาไทยโดนกลั่นแกล้ง พี่น้องไทยจะนิ่งเฉยกันได้อย่างไร ไม่ช่วยชาวนาไทยเวลานี้แล้ว อีกหน่อยใครจะปลูกข้าวให้เรากิน..ครับ..!!

เนี่ยยยย...ใช้สมองส่วนไหนคิด

และนี่...ตอกย้ำเรื่อง...โกงการสอบ...มากขึ้นไปอีก

อา-หลาน เหมือนกันตรงนี้แหละ

ฉลาดน้อย – ชอบแก้ตัว

ไม่ต่างไปจาก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ – จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ – ปลอดประสพ สุรัสวดี – วิรุฬ เตชะไพบูลย์ – วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล – โภคิน พลกุล หรือแม้กระทั่ง ยี่เก พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่กระดี๊กระด๊าสร้างภาพเอาเงินไปฝากธนาคารออมสิน รวมกันได้ 3 ล้านบาท แนวคิดก็ไม่ได้แตกต่างจากโคตรเหง้าคนในตระกูล หรือเหล่าสมุนขี้ข้าเท่าใดนัก

ถ้าเป็นอย่าง คางคก-จตุพร คงไม่มีใครประณามเกี่ยวกับสมอง เกี่ยวกับแนวคิด ที่โผล่หัวเสนอหน้าออกมาประกาศก้องผ่านสื่อโทรทัศน์คนเสื้อแดงว่า ผู้จัดการ ผู้บริหารและพนักงานธนาคารออมสินไม่ต้องประหวั่นพรั่นพรึง มีคนแห่มาถอนเงินเท่าไหร่ ขอให้สรุปยอดรวมประจำสัปดาห์ จะพาคนเสื้อแดงเอาเงินไปฝากเท่าที่มีการถอนออกในแต่ละสัปดาห์ แล้ว...เป็นไงล่ะ เหม็นขี้หน้าอย่างเดียวไม่พอแล้ว โคตรเหม็นขี้ปากขี้ฟันเลย

ผมไม่รวมนักธุรกิจ ไฮโซไฮซ้อ ทั้งหลายแหล่ที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ทั้งๆ ที่ทำธุรกิจกันมานาน น่าจะมีความคิดความอ่านสูงกว่าที่เป็นอยู่ น่าจะทราบดีกว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่การเอาชนะคะคานกัน หากสมองยังมีหยุดคิด ตริตรองสักนิด สิ่งที่ปฏิบัติไป

สั้นๆ ง่ายๆ นะครับ

ทำเพื่อ !?!?!

ถ้าคิดว่า บลัฟ !! มันก็ บัฟ อยู่หรอก

แต่มัน “บัฟฟาโล่” มากกว่า

ไม่ใช่ตัวเลขที่นำมาฝาก อย่างที่บอกแหละว่า เป็นแนวคิดและการกระทำมากกว่า เพียงเพราะมีกระแสการถอนเงินออกจากธนาคารออมสินจำนวนมหาศาล ก็เลยเร่งระดมเงินฝาก เพราะเชื่อว่าถ้ามีเงินฝากเยอะ จะสามารถปล่อยกู้เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือเกษตรกรชาวนากระนั้นหรือ

สมมุติว่า วันนี้ธนาคารออมสินยังเดินหน้าปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ให้ ธ.ก.ส.นำเงินไปให้เกษตรกรชาวนา มีประชาชนจำนวนมหาศาลมาถอนเงินออกบ้าง ปิดบัญชีบ้าง ไม่ได้หมายความสภาพคล่องของธนาคารออมสินหมดไป แน่นอนอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีใครหวังว่าจะให้ธนาคารเจ๊งหรือต้องการล้มธนาคารแห่งนี้

สะกิด ... สามัญสำนึกและมันสมอง สิ่งที่ประชาชนปฏิบัตินั้น เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านคัดค้าน ไม่ใช่การทำลาย อย่าซื้อรองเท้ามาใส่ศีรษะแทนหมวกเลย

!?!?!

อย่างที่นำเสนอมาแต่ต้น ฉุกคิดฉุกอ่านสักนิดเถอะ “คุณหลอกคนทุกคนได้ในบางเวลา และหลอกบางคนได้ตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถหลอกทุกคนได้ตลอดเวลา” จึงอย่าประเมินคนที่เขาเจ็บปวด เขาเดือดร้อน เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นศัตรู เป็นตัวปลอมในแบบของท่าน ฟังสิ่งที่เขาพูด รับรู้ในสิ่งที่เขาโดนกระทำ

11 ศพที่ผูกคอตาย เป็นชาวนาจริงๆ คนไทยทั้งประเทศเขารู้กันทั่ว หรือผู้บริหารประเทศแบบพวกท่านทั้งหลายคิดว่าไม่ใช่ อย่างที่ “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” สำรากด้วยความไร้วุฒิภาวะ ไร้จิตสำนึก ไร้มันสมอง ใครว่ะ !?! ผูกคอตายสร้างกระแส หรือ บรรพบุรุษตระกูล “บุญทรง” มีใครเคยกระทำ

ถ้าไม่หลอกตัวเอง ควรรับฟังความเดือดร้อนอย่างถ่องแท้ ใช้วิจารณญาณในการพิจารณา ตัดสินใจ อย่างที่ “นวลจันทร์ ญาติประทุง” ชาวนาจากจังหวัดพิจิตรประกาศบนเวที “คุณยิ่งลักษณ์ คุณมีลูก ฉันก็มีลูก คุณตื่นมาลูกคุณจะกินอะไรมีพร้อมหมด ลูกฉันไม่มีอะไรจะกินเลย”

หรืออย่างที่ชาวนาจากฉะเชิงเทรา ที่ประกาศเต็มปากเต็มคำว่าเป็นคนนิยมเสื้อแดง ชอบ “ยิ่งลักษณ์” ที่ระบุว่า “มันแค้นในใจ รถจะถูกยึด ลูกจะไปโรงเรียนก็ไม่มีสตางค์จะไปแล้ว จะทำยังไงท่านนายกฯ จะเอายังไง ทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย”

คุณปู ไม่ต้องมีสมองคิดก็ได้

แค่มีจิตสำนึกของความเป็นแม่สักนิด ลูกหิว คุณจะแก้ไขอย่างไร

หรือว่า...คุณปูไม่มีสมอง...ไม่มีสำนึกความเป็นแม่ด้วย

มันคงเป็นเวรกรรมของคนรอบข้าง แล้วกระมัง

คอลัมน์...ไม้หน้าสาม โดย...วรพจน์ แสนประเสริฐ

http://www.naewna.co...umnonline/11140

 

20 ก.พ. 57 ที่สภากาชาดไทย ถ.อังรีดูนังต์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยอดีต ส.ส.ของพรรค ทยอยกันเดินทางไปบริจาคเลือด หลังทราบว่าคลังเลือดของสภากาชาดมีเลือดน้อยลงและอาจไม่พอต่อการให้บริการกับผู้ป่วย

 

โดยภายหลังการบริจาคเลือด นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเชิญชวนประชาชนให้ช่วยกันมาบริจาคเลือดเนื่องจากมีความต้องการใช้เลือดทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงนี้สถานการณ์ไม่ปกติ ระยะหลังการใช้เลือดจึงมีความจำเป็นมากขึ้น และมากกว่าจำนวนผู้บริจาค หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้คลังเลือดที่มีอยู่จะลดลงเรื่อย ๆ เพราะขณะนี้มีเหตุที่ทั้งประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจต้องการเลือด อยากให้คนไทยได้ช่วยเหลือกัน เช่นกรณีที่มีการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บต้องการเลือดกรุ๊ปเอนั้น ส่วนตัวคิดว่าทุกคนมีเลือดอยู่แล้ว หากคนไทยช่วยกันโดยไม่มีการแบ่งแยก จะเป็นการรวมเลือดคนไทยกลับเข้ามาเป็นหนึ่งเดียว ให้คนไทยได้สมัครสมานสามัคคีกัน ได้สังคมที่เกื้อกูลกันกลับมา

 

 

 

 

 

http://www.naewna.com/politic/91435

 1507609_524027621043181_265662321_n1.jpg   55.33K   52 downloads

 91671.jpg   75.29K   51 downloads

หลังจากธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้กับ ธ.ก.ส. พัวพันกับจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าวที่เต็มไปด้วยปัญหาการทุจริตโกงกิน ปรากฏว่า ประชาชนแห่ไปถอนเงินและปิดบัญชีธนาคารออมสินอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

วันจันทร์ มีการถอนเงินออกจากธนาคารออมสิน 3 หมื่นล้านบาท และฝาก 1 หมื่นล้านบาท

วันอังคาร มีการถอนออกอีกกว่า 4 หมื่นล้านบาท และฝาก 2 หมื่นล้านบาท

รวมสองวัน ถอนเงินออกจากธนาคารแล้ว 7 หมื่นล้านบาท! ฝากเข้า 3 หมื่นล้านบาท

ยอดเงินถูกถอนออกสุทธิ ภายในเวลาสองวัน 4 หมื่นล้านบาท!

1) คนแห่ไปถอนเงินจำนวนมาก เพราะ

ประการแรก ไม่ไว้ใจการบริหารเงินของผู้บริหารธนาคารออมสิน สะท้อนว่าอยู่ใต้อาณัตินักการเมือง ขาดธรรมาภิบาล ไม่คำนึงว่าจะเป็นการกู้ไปอุดโกงในโครงการจำนำข้าว

ประการที่สอง ต้องการแสดงออกว่านี่คือเงินของประชาชน ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของตระกูลชินฯ ที่รัฐบาลจะนำไปปล่อยกู้หรือผ่องถ่ายอย่างไรก็ได้ โดยไม่รับฟังเสียงสะท้อนและความรู้สึกของประชาชน

ประการที่สาม ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับธนาคารที่ปล่อยกู้ในลักษณะที่อาจจะมีปัญหาทางกฎหมายต่อไป ไม่อยากเสียเวลา เสียทรัพย์ ไม่อยากร่วมเสี่ยงอะไรกับออมสินอีกต่อไป

การถอนเงินไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการให้ชาวนาได้รับเงินค่าข้าว

เป็นคนละเรื่องกันเลย

2) ขณะเดียวกัน ปรากฏว่า คนเสื้อแดง นักการเมืองพรรคเพื่อไทย นักธุรกิจแนวร่วมฝ่ายรัฐบาล ประกาศระดมกันไปฝากเงินเข้าธนาคารออมสิน

นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้เปิดบัญชีธนาคารออมสิน 11 ล้านบาท

ประกาศว่า “ใครที่อยากตอบแทนบุญคุณชาวนา ขอเชิญร่วมฝากเงินกับธนาคารออมสิน”

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง ประกาศเชิญชวนคนเสื้อแดงนำเงินไปฝากเข้าธนาคารออมสินให้มากกว่าที่ถอนออก

3) ในความเป็นจริง ชาวนาไม่มีหนี้บุญคุณอะไรกับคนที่ไปฝากเงินที่ธนาคารออมสินเลย

ใครไปฝากเงินกับออมสินแล้วเที่ยวมาทวงบุญคุณชาวนา

หรือเที่ยวมาประกาศว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณชาวนา

ไอ้พวกนี้ ค้ากำไรเกินควร!

ฝากเงินเข้าธนาคาร เงินก็ยังเป็นของตัวเอง ดอกเบี้ยก็ยังได้รับ แถมรัฐบาลเป็นหลักประกัน

ยังจะมาโมเมอ้างบุญคุณเอากับชาวนา หรืออ้างว่าตอบแทนบุญคุณชาวนา

ช่างหน้าไม่อาย

4) ขณะนี้ เหตุที่รัฐบาลไม่สามารถนำเงินของ ธ.ก.ส.มาจ่ายเงินค่าข้าวให้แก่ชาวนา มิใช่เพราะ ธ.ก.ส.ขาดเงิน แต่เพราะจะผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่สามารถจะก่อหนี้เพิ่มเติมได้ เนื่องจากจ่ายเงินเกินกรอบมติคณะรัฐมนตรี 500,000 ล้านบาทไปนานแล้ว

ธ.ก.ส.ไม่ได้มีปัญหาขาดเงิน

ธนาคารออมสินก็ไม่ได้มีปัญหาขาดเงิน

แม้ออมสินจะปล่อยกู้ให้ธ.ก.ส. ธ.ก.ส.ก็ไม่สามารถจะนำเงินกู้นั้นไปจ่ายค่าข้าวแก่ชาวนาได้

เงินค่าข้าวจะต้องมาจากรัฐบาล ถ้าจะมาจากการกู้เงิน รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้ แต่รัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์ค้ำประกันไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น การไปเติมเงินฝากให้ธนาคารออมสิน จึงไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการที่ชาวนาจะได้รับเงินค่าข้าว

4) ชาวนาไม่ได้รับเงินค่าข้าว เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้มีการโกงกินในโครงการจำนำข้าวอย่างอำมหิต ระบายข้าวไม่ได้เงินกลับมาหมุนเวียนจ่ายเป็นค่าข้าวให้แก่ชาวนาตามมติคณะรัฐมนตรี จนต้องตาลีตาเหลือกหาแหล่งเงินอื่นที่ไม่ได้มาจากการระบายข้าว และเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการก็ไม่สามารถจะกู้เงินสร้างภาระผูกพันต่อไปยังรัฐบาลชุดต่อไปได้

5) ส.ว.รสนา โตสิตระกูล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แนะนำวิธีช่วยให้ชาวนาได้เงิน บางตอนว่า

“...หากท่านนายกรักษาการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอดีตประธานรัฐสภา นายโภคิน พลกุล รวมทั้งสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีความต้องการช่วยเหลือชาวนาอย่างน้ำใสใจจริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพ และเล่นเล่ห์เพทุบายเพื่อล้วงเงินจากทุกองคาพยพของประเทศ มีวิธีที่น่าจะทำได้ คือ ใช้บริษัทในตระกูลชินวัตรตั้งกองทุนเฉพาะกิจระดมทุนจากสมาชิกพรรค และญาติมิตรคนในตระกูลชินวัตร แทนที่จะเอาเงินไปฝากธนาคารออมสินเพื่อไปปล่อยกู้ช่วยชาวนา เอามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อรับจำนำใบประทวนของชาวนา จะเป็นไปได้มากกว่า ซึ่งแต่ละบริษัทมักมีการจดวัตถุประสงค์ไว้อย่างกว้างขวางเพื่อให้บริษัทสามารถทำกิจการอื่นๆ เช่น การให้กู้ หรือรับจำนำ จำนอง ด้วยวิธีนี้ก็จะเป็นแสดงความรับผิดชอบของนางสาวยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยที่ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของชาวนาเป็นโครงการที่ดี ไม่มีข้อผิดพลาด จะได้ใช้เงินของตัวเองมาช่วยชาวนาด้วยการรับจำนำใบประทวนจากชาวนา และวิธีนี้จะไม่ไปทำลายระบบขององคาพยพอื่นๆ ต่อเมื่อรัฐบาลรักษาการสามารถขายข้าวในสต๊อคได้เงินมา ก็จะได้มานำเงินที่ขายข้าวได้มาแลกกับใบประทวนที่บริษัทของตระกูลชินวัตรรับจำนำไว้ วิธีการนี้จะได้เป็นการกระตุ้นประสิทธิภาพในการขายข้าวในสต็อกของรัฐเสียที”

ถ้าแบบนี้ ยังพอจะอ้างได้ว่า ตอบแทนบุญคุณชาวนา หรือช่วยให้ชาวนาได้เงิน

ไม่ใช่แค่สร้างภาพ ค้ากำไรเกินควร ตังค์อยู่ครบ ไม่มีความเสี่ยง อ้างบุญคุณเอากับชาวนา

สารส้ม http://www.naewna.co...columnist/11121

*******************************************************

 1966940_625878004145287_1268321074_n1.jpg   120.01K   50 downloads

Credit คุณ SPDZ