หลงฮู้เช็ง

 

ตามข่าว..  ในวง  มีสมาชิกเป็นเด็กในโรงเรียน กำลังเรียนอยู่ปัจจุบันมีอยู่ 16 คน ครับ  

เป็นศิษย์เก่า ผู้ควบคุม และฯลฯ  มากกว่าจำนวนเด็กที่เรียนอยู่มากกว่าเท่าตัว 

 

ถ้ามีเด็กแค่ 16 คน  แล้วที่บอกว่าจำนวนคนในทีมที่จะไปมีถึง 76 คน เนี่ยยยยยย มันงอกออกมาจากไหน ???

 

แล้วถ้า  ตันให้ยืม .... โดยต้องจ่ายเงินคืน  ........ พอถึงเวลาไอ้พวกที่งอกจาก 16 คนนั่น จะชิ่งทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้เป็นภาระของโรงเรียนและรุ่นน้องหรือเปล่า ???

 

เป็น นร. สตรีวิทยาสอง  (คือกำลังศึกษาอยู่) 16 คน  นร. เทพศิรินทร์ 1 คน  อีก 34 คน เป็นศิษย์เก่าครับ
ศิษย์เก่านี้  คิดว่าเป็นการนำเอานักเรียนเก่าที่เคยอยู่ในวง มาเสริมให้ครบจำนวนผู้เล่นในวง 54 คน

คหสต.   วงโยธวาทิตย์ วงนี้  ไม่น่าจะนำชื่อ รร. ไปใช้ได้ด้วยซ้ำ เพราะจำนวนศิษย์เก่า มากกว่า นร. ปัจจุบัน

ถึงเท่าตัว   อีกทั้งมีบุคคลภายนอกที่เป็นส่วนประกอบของวง เกือบยี่สิบคน (คิดประสาชาวบ้าน คือผู้ติดตาม

ไปเฉยๆ ขอเที่ยวด้วย)  แต่ยังมีการตั้งขอเบิกงบกลางซึ่งเป็นของ รร.  ซึ่งแน่นอนว่าทาง สพฐ. ย่อมไม่อนุมัติ  

และหากอนุมัติก็จะได้เฉพาะนร. 16 คนเท่านั้น   ไม่ใช่จ่ายเกินไปให้อีก 60 คนที่จะร่วมวงไปด้วย  อยากทราบ

ว่าทีมงานผู้บริหารงบฯไม่ทราบมาก่อนเลยหรือ  ว่ากฎระเบียบ การขออนุมัติเบิกเงินของหน่วยงานราชการนั้น

เขามีกฎเกณฑ์ และขั้นตอนอย่างไร  และไม่มีแผนสำรองงบประมาณ บ้างเลยหรือ  ทั้งๆ ที่คณะเดินทางนั้น

เกือบร้อยชีวิตที่จะเดินทางไป ต่างประเทศ  มันต้องมีแผนงบประมาณการใช้จ่ายอย่างรอบคอบก่อนแล้ว

การแก้ปัญหา ด้วยการยกวง ไปกดดันคุณตัน  ขอยืมเงิน 3 ล้านบาท เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน และต้องได้ก่อน

เก้าโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ยิ่งดูก็ยิ่งสะท้อนความเละเทะของการบริหารจัดการวง (ในส่วนงบประมาณ) เข้าไปทุกที

หากคำนวณคร่าวๆ  เงินสามล้าน  กับ 76 คน ที่เดือดร้อนโดยตรง  เฉลี่ยแล้วคือคนละไม่ถึง สี่หมื่นบาท  

ปัญหาแค่นี้ แต่ละคนจะรับผิดชอบไม่ได้เลยหรือ ???   

หากเป็นปัญหาเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน  ทำไมไม่คุยกับสายการบินโดยตรง เพราะการเดินทางเป็นหมู่คณะ  ย่อมต้อง

พูดคุยได้อยู่แล้ว  กับเส้นตายที่ต้องจ่าย ???
 

ยิ่งไปกว่านั้น  ยังมีสมาชิกบางคนในวง  รับ พรี-ออเดอร์  สินค้าต่างประเทศ จำพวกกระเป๋าหลุยส์  ฯลฯ มาเป็นเดือน

แล้วด้วยซ้ำ บวกกับในคืนที่ไปกดดันคุณตัน  ภาพที่ออกมาทางสื่อ  จะเห็น "ผู้เดือดร้อน" ที่ไปกดดันยืมเงิน  ฆ่าเวลานั่งรอ

ด้วยการกดเล่นมือถือ เครื่องละหลายหมื่น  แค่นี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าศักยภาพในการบรรเทาความเดือดร้อน "สามล้านบาท"
ไม่น่าจะเกินความสามารถของบุคลากรในวงเลย   แต่การเลือกวิธีการง่ายๆ ด้วยการ "ขอยืม"  คุณตัน  ด้วยตรรกะเดียวกับ

โกตี๋ที่จะขอยืมเงินธนาคาร และเซเว่น ตลอดจนการการออกมาปกป้องตัวเอง ด้วยการด่ากราด กับผู้ที่ไม่เห็นด้วย  จน

เป็นประเด็นร้อนในเว็บ ดราม่าฯ   ยิ่งพลอยฉุดให้ภาพลักษณ์ของ รร. สตรีวิทยา2 เละตุ้มเป๊ะ ไปเรียบร้อยแล้ว
 

สังคมไทยปัจจุบันไปให้ราคามากเกินไปแล้วครับกับเยาวชนที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม  

อย่าลืมว่าทุกยุคทุกสมัยย่อมจะมีเยาวชนที่มีความคิดแปลกแยก อัตตาสุดโต่ง  แต่

ระบอบสังคมสมัยก่อนนั้นแข็งแรง ฐานันดรที่สี่ก็เข้มแข็งมีจรรยาบรรณ  คนจำพวกนี้
จึงได้เห่าหอนอยู่ในรูหลืบแคบๆ จำกัดวง พอเติบโตขึ้นความรู้ประสบการณ์มากเข้า

ก็แยกแยะได้ว่าอะไรคือถูกผิด  มันก็เปลี่ยนไปเอง แต่ปัจจุบัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เลย

เนติวิทย์  อั้ม เนโกะ  สองคนนี้  ไม่ว่ามีความคิดเพี้ยนๆ อะไรขึ้นมา  ก็มีคนเอาไมค์

ไปจ่อปาก  เอามาเป็นข่าวหน้าหนึ่ง  คือสังคมไปให้ความสนใจกับคนบ้า  คนบ้ามันก็

ย่อมจะบ้ามากขึ้นด้วยแรงเหลิง เป็นอนิจจัง

สะกดคำว่า "สงสัย" เป็น สงใส  ผิดถึงสองครั้ง...  บ่งบอกอะไรๆ ของ จขกท. ได้หลายๆ อย่าง  จึงไม่น่าแปลกใจในความคิดแบบถือโพยท่องตะพึดตะพือมาโต้สลิ่ม 

" ที่สังคมไทยชื่นชอบเรื่องรามเกียรติ์มากเป็นพิเศษ จนหลงลืมเรื่องมหาภารตะไปโดยสิ้นเชิงนั้น เกิดจากการที่สังคมไทยเป็นสังคมที่นิยมเรื่องเล่าแบบดำ-ขาว

แสดงถึงความดีความชั่วที่ตัดกันอย่างสุดขั้ว โดยมีพระรามเป็นเครื่องหมายถึงความดีสูงสุด และทศกัณฑ์เป็นเครื่องหมายของความเลวทรามต่ำช้าอย่างไม่อาจหาใดเปรียบ " 

หากใครอ่านรามเกียรติ์ แล้ววิเคราะห์ได้แค่นี้  คงต้องกลับไปเรียนวิชาภาษาไทย หมวดวรรณคดีใหม่ ตั้งแต่ระดับมัธยม เสียแล้วละ พระรามเอง ไม่ได้มีความดีงามสูงสุด

ตรงกันข้าม หลายๆ ฉาก หลายๆ ตอนเลยทีเดียว  ที่พระราม แทบๆ จะกลายเป็นผู้ร้ายด้วยซ้ำ  ในขณะที่ทศกัณฑ์ ไม่ได้เลวทรามต่ำช้าอย่างไม่อาจหาใดเปรียบ

แม้ว่าจะเป็นตัวแทนฝ่ายอสูร แต่ก็เป็นอสูรขั้นเทพ เพียบครบไปด้วยเกียรติและศักดิ์แห่งวงศ์ยักษา  รามเกียรติ์ เป็นวรรณคดีที่มีตัวละครหลากหลาย แต่ละตัวละคร
ล้วนมีบุคลิก พฤติกรรม และความเชื่อแตกต่างกันออกไป ไม่ได้แบ่งแยกความดีความชั่วตัดกันสุดขั้วเลย  ตรงกันข้าม  กลับมีความเป็นสีเทาคลุมเครือเต็มไปหมด
สงสัยเหลือเกิน ว่าพวกลิเบอรัลเนี่ย  มันรู้หรือเปล่าว่า  ชีโฉด หญิงโหด มารยา ช้างงารี ชายทรชน นี่ ...  หมายถึงอะไร นี่แหละคือคีย์เวิร์ด

ที่แสดงให้เห็นเด่นชัดว่า รามเกียรติ์ ไม่ใช่วรรณกรรมที่แบ่งแยกความดีความชั่วตัดกันสุดขั้วเป็นอันขาด

ปล. ทักษิณในปัจจุบัน นั่นแหละคือเครื่องหมายของความเลวทรามต่ำช้าอย่างไม่อาจหาใดเปรียบแล้ว !

ก่อนที่ทั้งสองท่าน  (เพราะมีกันอยู่แค่สามคนในกระทู้นี้ ไม่นับคุณ บาบูน) จะเข้าใจผิด ต้องขอแสดงเจตนารมย์  

ว่าผมไม่ได้มีเจตนาป่วนกระทู้หรือรวนหาเรื่อง จขกท. แต่ประการใด   หากมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น

เพราะคำพูดของผมในกระทู้  ทำให้มึนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก ก็จะ edit เสียใหม่

เพื่อเป็นการอธิบายให้กระจ่างในความคิดของผม  ดังนี้ครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มันไม่ได้อยู่ที่คำพูดเพียงอย่างเดียว..  แต่มันขึ้นอยู่กับ
1.  ใครเป็นคนพูด 
2. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟังกับผู้พูด
3. กาลเทศะในการพูด
4. ผลกระทบของคำพูด
 

ฯลฯ  บลา บลา บลา
 

อยากจะฝากบอก  พวกลิเบอรัลว่า
 

มีดน่ะ  มันคม แต่อยู่เฉยๆ  มันจะแทงคนตายมั้ย
หยิบเอามาปอกผลไม้  มันมีประโยชน์มั้ย
เอาไปกระซวกไส้ชาวบ้าน  ผิดป่าว

คิดสิ..คิด!!! 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมเอง ใช้คำพูดห้วนๆ  สั้นๆ  ด้วยความทึกทัก  ว่าผมเห็นด้วยกับ จขกท. ว่าลิเบอรัลมากรีดกราด รับไม่ได้กับ คำพูด กปปส. 
เรื่องคำกล่าวของ ปู  แฝงไปด้วย hate speech ซึ่งเต็มไปด้วยการแบ่งแยกข้าง  ชี้นำให้จงเกลียดจงชัง  แต่อาจจะด้วยความ

รีบร้อน  ไม่ได้เขียนให้ละเอียดละออคือมันไม่ใช่เรื่องที่จะถกเถียงกันต่อไปให้ยืดยาว ทั้งที่ความคิดไปในแนวเดียวกัน  เพียง

แต่ผมเองสื่อสารไม่ถูกต้องให้คนอื่นเข้าใจผิดแท้ๆ   จึงขอเคลียร์ให้เป็นที่เข้าใจ  และเก็บแรงไว้ฉะกับอีกฝ่ายดีกว่าครับ  

ทะเลาะกับคนอุดมการณ์เดียวกันผมไม่รู้สึกสนุกตรงไหน และที่สำคัญ  ผมผิดผมก็ยอมรับว่าผิด ก็ขออภัยมาอีกครั้ง ณ ที่นี้ด้วยก็แล้วกัน 

รู้จักอ่านความคิดคนอื่นบ้างสิครับ  การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบอร์ด ไม่ใช่ครูถามเด็กอนุบาลหนึ่ง
หากอยากทราบความรู้สึกคนอื่นตามที่คุณตีกรอบไว้  ก็ให้ตัวเลือกมาก็ได้ เป็นต้นว่า

ก. เฉยๆ  ไม่รู้สึกอะไร
ข. รู้สึกทุรนทุรายเล็กน้อยถึงปานกลาง 
ค. รู้สึกแทบจะดิ้นพราดๆ เพราะรับไม่ได้
ง. หน้าซีด มือสั่น ความดันลด หัวใจเต้นถี่เร็ว อาการใกล้โคม่า
จ. หัวใจวายตายในทันทีที่ได้ฟัง
 

มันไม่ได้อยู่ที่คำพูดเพียงอย่างเดียว..  แต่มันขึ้นอยู่กับ
1.  ใครเป็นคนพูด 
2. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟังกับผู้พูด
3. กาลเทศะในการพูด
4. ผลกระทบของคำพูด
 

ฯลฯ  บลา บลา บลา
 

มีดน่ะ  มันคม แต่อยู่เฉยๆ  มันจะแทงคนตายมั้ย
หยิบเอามาปอกผลไม้  มันมีประโยชน์มั้ย
เอาไปกระซวกไส้ชาวบ้าน  ผิดป่าว

คิดสิ..คิด!!! 

Laila Longsuwan ‏@Reporter_Js1 38m

15.19น.ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันห้ามบุกรุกสถานที่ราชการ ฝ่าฝืนจับทันที พร้อมท้า'สุเทพ'ให้เขัามาคนเดียว

 

มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ ‏@dr_mana 31m

น่าจะวัดใจแลกกัน เหลิมเดินมาหาม็อบคนเดียว แลกกับสุเทพเข้าศรส.คนเดียว เอาหรือเปล่า

 

เห็นชอบครับ ดร มานะ แต่ไอ้เหลิม มันจะไม่ราดก่อนเหรอ

เหลิมประกาศกร้าวมาตลอด  ว่าจะจับกำนัน ด้วยข้อหานานัปการ 
ขณะนี้  คนที่มันพยายามจะจับ  ไปยืนเย้วๆ ให้จับ หน้าป้อมค่ายแล้ว
เหลิมยังเห่า  .. ให้ผู้ต้องหา (ของมัน) เดินเข้าไปมอบตัวคนเดียวอีกแน๊ะ..

เห็นรึยัง  ว่าเหลิมน่ะ  ลูกหมาจริงๆ 

 

คนไท รักในหลวง
รายงานสดหน้าเวทีย่อย ...
อิสสระ สมชัย ถนอม อ่อนเกตุพล สุทิน วรรณบวร ... แจงทุกสถานการณ์
"ตำรวจต้องเพียงต้องการ เอาก้อนดินเพียง 2 ก้อนจากพม่ามาวางในห้องทำงานของยิ่งลักษณ์ โดยจะเข้าทางประตู 5 ของทำเนียบ"

เอาก้อนดินมาวางไว้ 2 ก้อน แล้วต้องฆ่าประชาชน ระยัมมากครับ 

 

คิดว่าคงต้องการมากกว่านั้นครับ  เพราะแค่ดินสองก้อน  ไม่ต้องอาศัยกำลังตำรวจมากมายยกพลกันมาจะตีให้แตกหักกันอย่างนั้น
จารกรรมมือดีๆ สักชุด  ก็สามารถเล็ดลอดเข้ามาวางดินสองก้อนในห้องทำงานยิ่งลักษณ์ได้แล้ว  หากปฏิบัติจริง อาจจะจัดสักสองชุด
พระพม่า คงไม่ขี้เหนียวดิน ให้มาแค่สองก้อนหรอก  จะเอารถดั๊มไปบรรทุกยังไหวน่า

ผมมองที่สถานการณ์รบ.รักษาการหากยังไม่ลงมือในวันนี้มากกว่า  พรุ่งนี้ อาจจะโดนยก พรก. ฉุกเฉิน ทัพชาวนา อาจจะเข้ามากระหนาบ
ออมสินก็อาจจะพังพาบ ฯลฯ  ศรส. จึงต้องเสี่ยง ปฏิบัติการสลายชุมนุมในวันนี้  อย่างไม่อะไรเลยคือดิสเครดิต กปปส. ก็ยังดี ว่าเป็นการ

ชุมนุมอย่างมีอาวุธ  ไม่ได้สันติ อหิงสา อย่างที่แสดงจุดยืน  ..ลองนึกถึงความรู้สึก ของตัวเรา ตอนได้ทราบข่าวว่าโดนสลายหน้า ปตท.

สิครับ  ตอนนั้นขวัญและกำลังใจของเรา ถดถอยไปมาก  ยิ่งได้ข่าวคุณสมเกียรติโดนควบคุมตัวอีก  ยิ่งจะรวนเรเข้าไปกว่าเดิม  ฝ่าย

ศรส. เอง  คิดว่าน่าจะฮึกเหิม และย่ามใจเห็นชัยชนะอยู่รำไร  แต่หลังจากนั้นไม่นาน ภาพของชายชุดดำถืออาวุธสงครามวิ่งแตกพล่าน

กระเจิดกระเจิง ก็เข้ามาทำให้ความรู้สึกของเรากลับคืนมา

ขอออกความเห็น ว่าแกนนำควรเพิ่มการระมัดระวัง เมื่ออยู่นอกพื้นที่ชุมนุม ควรงดเข้าเฟซ ทวิต ตลอดจนโซเชียลต่างๆ  

ใช้มือถือโลว์คีย์  ในการติดต่อเท่านั้น ทั้งนี้ป้องกัน การล็อคเป้า  จากอีกฝ่ายครับ 

ประโยคที่คุณตั๊นกล่าว   หากคนฟัง คุ้นชินกับภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ  อ่าน journal articles บ่อยๆ ย่อมเข้าใจได้ทันที

ใครที่เขียนวิทยานิพนธ์ด้วยตนเอง  ย่อมจะเข้าใจได้ทั้งนั้น   ตั้งแต่ต้น เธอกล่าวถึงปัญหาคือความขาดความเข้าใจในประชาธิปไตย  

มีการคอรัปชั่น  และซื้อเสียง  ทั้งนี้เพราะคนไทยขาดความเข้าใจในประชาธิปไตยที่แท้จริง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท  คือ

พูดกันมาถึงปัญหาในระดับ global/macro level  แล้วก็อธิบายต่อถึงความรุนแรงของปัญหาในระดับ meso level ชนบทที่กล่าวก็

ย่อมหมายถึงสถานที่ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์  ไม่ได้พูดถึงระดับ individual level  เลยแม้แต่น้อย เรื่องของเรื่อง ก็คือคนแปล ขาด

ความลุ่มลึกเชิงภาษา Key word ของคนพูด ไม่ได้อยู่ที่ Thai  หรือคนไทย   แต่คนแปล กลับแปลภาษาอังกฤษออกมาทื่อๆ

ไม่ได้มีพื้นฐานความรู้ที่ลุ่มลึกถึงระดับตกผลึก แต่เป็นได้แค่การแปลอย่าง google translation คือเปิดดิกชันนารีแปลเอา 

หรือไม่ก็มีธงอยู่ในใจแล้ว การแปลออกมาก็เปี่ยมไปด้วยอคติ แตกต่างไปจากเจตนารมณ์ของต้นฉบับเช่นนี้แล

 

อ เสรี ขอให้คนที่จะออกมาชุมนุมพรุ่งนี้ ช่วยนำกระดาษแผ่นเล็กๆ
เขียนตัวเลขลงไปด้วยว่า ท่านเป็นตัวแทนของคนที่บ้าน ที่สนับสนุน กปปส แต่ติดภารกิจ กี่คน



วิธีเขียนให้เคลียร์ น่าจะเป็น

ผู้มาร่วมชุมนุม 1 คน มีผู้ร่วมสนับสนุน กปปส อยู่ที่บ้านอีก 5 คน

ถ้ามากัน สามี ภรรยา ก็เป็นว่า

ผู้มาร่วมชุมนุม 2 คน มีผู้ร่วมสนับสนุน กปปส อยู่ที่บ้านอีก 5 คน

อะไรของดร.เสรีเนี่ย ?

มันลักไก่เกินไปนะครับ จะเกิดข้อครหาได้ วิธีการก็ค่อนข้างเห็นแก่ตัว จะออกมาชุมนุมก็ไม่ออกแต่ฝากคนอื่นออกมาแทน ถ้าคิดอย่างนี้กันหมดคนจะน้อยลงกว่าคราวที่แล้ว (วันที่ 9)

1. จะเขียนว่ามีคนสนับสนุนกี่คนก็ได้ จะเขียนเกินความจริงก็ได้
2. บ้านหลังนึงคนในครอบครัวไม่จำเป็นว่าต้องคิดเหมือนกัน
3. เขียนไปเพื่ออะไร ?

 

ใช้วิธีการเดียวกันกับการที่เขาอ้าง 15 ล้านเสียง เลือกพวกเขาเข้ามา และ ตร. นับจำนวนคนมาชุมนุมไงครับ
ผมเอง ไม่สนับสนุนให้ใช้วิธีลักไก่  ให้เกิดข้อครหา   แต่มันก็จำเป็นต้องมีบ้าง ไม่ใช่จะเอาเป็นมาตรการหลัก

ในการต่อสู้คัดง้าง  แต่มีไว้เพื่อปฏิบัติการเกลือจิ้มเกลือ  จะรบกับกเฬวราก มันก็ต้องติดอาวุธหลายรูปแบบ

ไปมัวสุภาพบุรุษสุดตำบลอยู่มันก็ไม่ชนะเร็ว  ต้องร่วมด้วยช่วยกัน อนึ่ง คงไม่มีใครหรอกที่จะคิดว่าไม่ชุมนุม

เพราะไม่ต้องไปก็ได้ฝากรายชื่อกับคนอื่นไว้แล้ว  รอบตัวผม มีแต่บ่นว่าทำยังไงจึงจะได้ไปร่วมเหมือนกับ

สมาชิกในครอบครัวคนอื่นที่เขาอยู่ใกล้ออกไปสะดวกได้บ้างนะ 

เนติวิทย์  ห่วยแตกครับ ไม่มีสาระสลักสำคัญอันใดทั้งสิ้น  สำหรับผม  เน วัดดาว  ยังน่าสนใจกว่าเยอะ

 

 

ใช้กล่องยี่ห้อ Pelican  ของแพงซะด้วย 

 

ตกลงมันคือ "ระเบิด" รึเปล่าครับ

 

ขอทราบเป็น วิทยาทาน ด้วย...

 

ผมไม่รู้หรอกครับว่าอะไรในกล่อง รู้แต่ว่ากล่องยี่ห้อ Pelican เป็นกล่องที่ขายตามร้านอุปกรณ์แต่งปืนแพงๆ  

 

รุ่น 1010 เป็น micro case ครับ  ส่วนใหญ่เอาไว้ใส่กล้องถ่ายรูปแบบ digital compact  กันน้ำ กันฝุ่น ได้พอสมควร แต่ไม่ถึงกับกันน้ำ 100 %
กล่องนึงราวๆ 5-600 บาท  น่าจะเป็นสินค้าเฉพาะ ไม่ได้แพร่หลายตามท้องตลาด  ทางตำรวจจะสืบหาก็น่าจะตีวงได้แคบขึ้น (หากจะทำอ่ะนะ)

ฟังกำนันอยู่ขณะนี้.. ได้ใจสุดๆ  จะเดินไปเอง  ไม่ต้องการมวลชนตามไป