tabbar

ตอบคุณ Gop ค่ะ

ยิ่งลักคุมงานใหญ่ได้ สั่งการได้ และมีคนเชื่อฟังเพราะเธอมีอำนาจที่มาพร้อมกับตำแหน่งค่ะ

ผุ้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องฟังผู้บังคับบัญชาอยู่แล้วค่ะ

ไม่ใช่เชื่อเพราะเธอมีบารมี 

แต่ในระหว่างที่เธอมีอำนาจ ถ้าเธอเป็นคนดีของศรีสังคมใช้อำนาจในทางที่ถูกที่ควร

หมั่นสร้างสมคุณงามความดีไปเรื่อยๆบารมีก็อาจจะเกิดกับตัวเธอ

ในอนาคตก็ได้  บารมีเป็นสิ่งที่ต้องสร้างสะสม

สำหรับแม้วในอดีต มีอำนาจ (อำนาจตามหน้าที่ตอนเป็นนายก) ส่วนปัจจุบันก็มีอำนาจแต่เป็นอำนาจเงิน

ตอนมีอำนาจ แม้วไม่เคยคิดจะสร้างสมคุณงามความดีให้เกิดบารมีในตัวเอง

จึงไม่ต้องถามหาบารมีในตัวแม้ว  ถ้ามีบารมีคงไม่หนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ค่ะ

 

 

ส่วนเรื่องบารมี ผมมองง่ายๆ ว่าคุณยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็ต้องมีบารมีอยู่แล้วโดยอัตโนมัติไม่ใช่หรือครับ อำนาจการบริหารประเทศอยู่ในมือเค้านี่ แต่บารมีแบบนี้ผมไม่เห็นว่าจะน่ากลัวอะไรเลย ทำไม่ดีก็วิจารณ์ได้ ตรวจสอบได้ ผมไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเค้าโดยตรงซะหน่อย

 
ประเด็นนี้ขอเห็นแย้งค่ะ
 
ลองกลับไปดูประวัติศาสตร์ช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนต้น
พระยอดฟ้า เป็นโอรสของสมเด็จพระไชยราชาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์
เมื่อพระบิดาสวรรคต พระยอดฟ้าในฐานะโอรสองค์โต ถูกขุนนางอัญเชิญขึ้นเป็นกษัตริย์ ในวัย 11 ชันษา
ถ้าใช้ตรรกะเดียวกับที่คุณ Gop กล่าวข้างต้น พระยอดฟ้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของอาณาจักร ย่อมต้องเป็นผู้มีบารมี
 
 
แต่ทำไม ชั่วไม่ถึงปี  ผู้มีบารมีพระองค์นี้ จึงถูกท้าวศรีสุดาจันทร์ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการ และขุนวรวงศาธิราชชู้รัก ถอดออกจากตำแหน่ง
และถูกสั่งประหารโดยพระมารดาคนเองและชู้รัก ด้วยการทุบด้วยท่อนจันทน์ ในที่สุด
 
การขึ้นสู่ตำแหน่งนายกของยิ่งลักษณ์ได้ ไม่อาจเรียกว่า เป็นผู้มีบารมีหรอกค่ะ
เธอขึ้นสู่ตำแหน่งได้ เพราะอำนาจและบารมีของพี่ชาย
 
ผู้บริหารสูงสุดของประเทศ ส่วนใหญ่ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ด้วยความสามารถ ประสบการณ์ และบารมีที่สั่งสมมาในเรื่องการเมือง การบริหาร การปกครอง
 
ส่วนที่พระยอดฟ้า และยิ่งลักษณ์เป็นได้ คือเป็นแค่หุ่นเชิด
ที่ต้องเต้นตามจังหวะของผู้เชิด
และเวทีการแสดงคือ ประเทศไทย และโลกทั้งใบ

ไม่ว่าจะเป็นหุ่นเชิดของใครหรือไม่ก็ตาม คนที่ครองตำแหน่งสูงสุดย่อมมีอำนาจอยู่ในมือเสมอ ไม่มาก ก็น้อย

พระยอดฟ้าอายุ 11 ปี รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับบ้านเมืองบ้างหรือเปล่าล่ะครับ และต่อให้ไม่รู้เรื่องอะไรขนาดไหน ถ้าบ่าวไพร่คนไหนทำให้ไม่พอใจ ก็หัวหลุดออกจากบ่าได้ง่ายๆนะครับ ถ้าเปรียบเทียบกับทุกวันนี้ ยิ่งลักษณ์มีอำนาจของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ในมือ พร้อมมีพี่ชายสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ใช่ครับ เค้าไม่มีบารมีแบบพี่ชาย หรือ นักการเมืองใหญ่คนอื่นๆ แต่คุณคิดว่ามันเป็นศูนย์หรือครับ?

อย่าลืมว่าเค้าอยู่ในอำนาจมาเกือบสองปีแล้ว มือไม้ก็มีพอสมควร ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าคนทำงานขนาดนี้ได้ จะไม่ได้รับความเคารพยำเกรงจากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา จะมากจะน้อยอีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นศูนย์

 

เห็นแย้งคุณ Gop

อำนาจ กับ บารมี คนละความหมายกันนะคะ อย่างสับสน

อำนาจได้มาทั้งโดยชอบธรรมเเละไม่ชอบธรรม  เหมือนดาบสอคม  (มอบหมายได้)

ส่วนบารมี เกิดจากคุณงามความดี (มอบหมายให้ใครไม่ได้)

และในมู้นี้กำลังพูดถึงเรื่องบารมี 

ยิ่งลักไม่ใช่ผู้มีบารมี

ยิ่งลักเป็นได้เพียงผู้มีอำนาจ (ตามสถานะผู้นำสูงสุดฝ่ายบริหาร) ค่ะ

อำนาจ น. คือ  สิทธิ เช่น มอบอํานาจ; อิทธิพลที่จะบังคับให้ผู้อื่นต้อง

ยอมทําตามไม่ว่าจะด้วยความสมัครใจหรือไม่ หรือความ
ที่สามารถบันดาลให้เป็นไปตามความประสงค์ เช่น อํานาจ
บังคับของกฎหมาย อํานาจบังคับบัญชา

บารมี  คือ คุณความดีที่ควรบําเพ็ญมี ๑๐ อย่าง คือ ทาน ศีล
เนกขัมมะ (การออกจากกาม คือ บวช) ปัญญา วิริยะ ขันติ
สัจจะ อธิฏฐาน เมตตา อุเบกขา เรียกว่า ทศบารมี;  เป็นคุณความดี
ที่ได้บําเพ็ญสะสมมา ที่ทําให้ยิ่งใหญ่, เช่นว่า ชมพระบารมี
พระบารมีปกเกล้าฯ พ่ายแพ้แก่บารมี. (ป. ปารมี).

ที่มา กูรู

แผนแรก จม.ฉบับนี้น่าจะถูกแต่งขึ้นมาให้นายสันติภาพเขียนตาม

เพื่อให้คนเข้าใจว่า นอกจากเอกยุทธจะหนีไปแล้ว ไอ้บอลยังหนีไปด้วย

ไอ้บอลเด็กโง่คงตีความหมายที่เขาให้เขียนไม่ออก 

จะกลับมาเมื่อนายกลับมา = นายไม่กลับไอ้บอลก็ไม่ได้กลับมา 

นั่นคือไอ้บอลจะถูกฆ่าปิดปากอีกคน

ไม่แน่ใจว่านางจะมีบุญบารมีหรือมีเวรมีกรรมนะ

เป็นใหญ่เป็นโตได้ระดับนี้ยังมีคนสาบแช่งกร่นด่าไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ถ้าบอกว่ามีบุญวาสนาจับพลัดจับถูได้เป็นนางยกละว่าไปอย่าง

บารมีคงไม่ใช่ 

คุณเลือกสลดใจกับเพื่อนสมาชิกในนี้มากกว่าจะสลดใจที่เห็นรัดถะบานสีแดงกัดกล่อนประเทศเลยเหรอ

เมื่อสี่ห้าเดือนก่อนยังเห็นคุณสั่งสอนเคนอิจิถึงความไม่ชอบมาพากลของรัดถะบานชินฯอยู่เลย ใจไวจังเห็นกันอยู่หลัดๆ   

ผมไม่ได้จะมาตำหนิใครครับ .*ผมแค่มาเตือน ถ้าคุณคิดว่าคุณทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องก็ขอให้ทำต่อไป ผมไม่ได้บอกว่าให้เพิกเฉยหรือห้ามวิจารณื แต่ต้องระมัดระวังอย่าล้ำเส้นไปในทางมุ่งทำลายล้าง หรือสร้างความเกลียดชังด้วยการใส่ร้ายป้ายสี ถ้าคุณไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ 

(ผมเองเคยล้ำเส้น คิดแค่ว่าทำไงก็ได้ให้รัฐบาลนี้ไปพ้นๆ เพราะถ้าอยู่ต่อไปประเทศชาติจะต้องล่มจมแน่ๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ประเทศไทยไม่สิ้นคนดีหรอกครับ ขนาดที่ผ่านมาเคยบริหารผิดพลาด หรือโกงกินกันมาเราก็ผ่านกันมาได้ วันนี้ท่านเตือนผมมา ผมจึงได้มาเตือนผู้อื่นต่อ)

ผมขอยกตัวอย่างเรื่องกู้ 2 ล้านล้านละกัน

บางคนอาจมองว่าเป็นเงินที่มากและคงจะเป็นภาระของชาติไปอีกนาน ศาลเองก็ปล่อยให้กู้ได้ ถ้าเราไม่อยากมีหนี้ก็มีทางเดียวคือล้มรัฐบาล แต่เราอาจลืมมองไปว่าเหตุผลที่ต้องกู้นั้นคืออะไร มันมีความจำเป็นของมันอยู่ **ผมไม่เถียงว่าอาจมีคนหวังจะโกงกิน แต่นั่นเป็นสิ่งที่ต้องตรวจสอบกัน

***ถ้าเราเข้าใจเหตุและผลก็จะสบายใจว่าไม่ได้มีแต่เรื่องเลวร้ายเท่านั้น แต่ถ้าไม่เข้าใจก็จะมองแต่ล้มรัฐบาลซึ่งเท่ากับกำลังทำให้ชาติเสียประโยชน์ แล้วกลายเป้นผลกรรมจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แม้จะเจตนาดีก็ตาม เป็นต้น  

เตือนซะยาว  

*ที่จริงคุณบอกแค่ให้ระวังในการสื่อสารก็พอนะ

ไม่จำเป็นต้องมาเขียนเหมือนคนสำนึกผิดกับรัดถะบานปูแดงให้เป็นประเด็น

 แต่เอาเถอะคุณจะคิดยังไงจะนอนรอบุญวาสนาก็เป็นสิทธิ์ของคุณ

และใครจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขา คิดว่าสมาชิกที่นี่ส่วนใหญ่มีวุฒิภาวะ

มีหลักการและเหตุผล 

** แล้วคุณคิดว่าใครจะให้ใครตรวจสอบล่ะ 

***ที่ปชช.ลุกฮือออกมาก็เพราะมันมีทั้งเหตุและผล มีหลักฐานไม่มีใครไปกล่าวหาใครลอยๆ

ไม่มีใครออกมาเพราะความเชื่อทางไสยศาสตร์หรอกนะ

ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจจริง และบอกว่าไม่ได้อ่านบอร์ดนาน

ก็จงกลับไปตามไล่อ่านสักหน่อยนะ อย่าอ่านแต่หน้าที่คุณอยากอ่าน

 

ผมได้ยินมาแค่นั้น แต่ถ้าให้พิจารณา น่าจะหมายถึงมีอันเป็นไป

เหมือนในหลวง มีคนคิดไม่ดีกับท่าน ใส่ร้ายป้ายสี จ้องจะทำลาย แต่ท่านไม่ทรงคิดจะตอบโต้มีแต่เมตตา สุดท้ายฝ่ายตรงข้ามก็ต้องพ่ายแพ้

 

ยิ่งลักษณ์เองก็มีแต่คนด่าว่า แต่เธอก็มีความอดทน (เมื่อก่อนผมก็คิดว่านั่นคือความหน้าด้าน แต่ถ้ามองทางธรรมนั่นคือขันติ) ถ้าเธอดำรงตนไปในทางที่ถูกต้องไม่ทำผิดแบบพี่ชาย แม้เธอจะไม่มีสมองนักแต่ได้ที่ปรึกษาดี แล้วเธอยอมทำตามโดยดี ทำให้ประเทศเจริญได้ ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีนะครับ

ปัญหาคือทั้งตัวนายกและที่ปรึกษาขาดไร้ซึ่งคุณธรรมค่ะ

ดูได้ตั้งแต่เรื่องโกหกบนศาลเรื่องซุกหุ้นของพี่ชาย

ผ่านมาจนถึงสารพัดผลงานห่วยแตกในรัฐบาลของมัน

สถานการณ์ตอนนี้ยังมองหาทางออกแทบไม่เจอเลยนะคะ

 

แบะ แบะ หนูไม่รู้ เดี๋ยวก็ดีเอง   

อาเมน

ไม่รู้จะอยู่ในประเด็นกระทู้รึเปล่า

เรื่องเท่งเขาจะชอบฝ่ายไหนก็เป็นสิทธิ์ของเขา เขาจะทำการลบหลู่หรือไม่ตัวเขาเองจะรู้อยู่แก่ใจ ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้น

 

ในหลวงทรงมีศีลธรรม มีบารมีมาก ใครล่วงเกินย่อมมีอันเป็นไป

 

แม้แต่ยิ่งลักษณ์เองก็เป็นคนที่มีบารมีมาก มีผู้เตือนว่าคนที่คิดจะโค่นล้มยิ่งลักษณ์ ระวังจะเหลือแต่เกงใน

 

ปล. ไม่ได้บอกว่าเธอมีบารมีแบบในหลวง แค่จะบอกว่าเธอเป็นผู้มีบารมีคนหนึ่ง มีคนเตือนผมมาผมก็เลยมาเตือนชาวเสรีไทยอีกที หลายคนอาจจะรู้สึกเหลือเชื่อเหมือนที่ผมเองก็เป็น เอาเป็นว่าการจ้องล้มล้างทำลายใครก็ตามย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี การวิพากษ์วิจารณ์ หรือการตรวจสอบการทำงานเป็นสิ่งที่สมควรแต่ต้องอยู่ในขอบเขตและความพอดี ตราบใดที่เรายังมีกิเลสย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงอคติที่เกิดขึ้น มีรัก มีเกลียดชัง แต่ขอให้รู้เท่าทันจิตใจของตนเองละกัน

ปล.2 ผมไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่นัก ส่วนหนึ่งเพราะปล่อยวางได้มากขึ้น และรู้ว่าประเทศมีแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆจึงไม่ได้กังวลมากแบบแต่ก่อน ยังไงก็ลองหาเส้นแบ่งดูละกันว่าความกังวลที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน แบบไหนคือความไม่ประมาท แบบไหนคือกังวลมากเกินไปทำให้มองแต่อนาคตในด้านลบ (ผมเองก็แยกยาก แต่เจอผู้รู้ท่านชี้แนะจึงคลายลงได้บ้าง)

อะไรทำให้คุณเชื่อง่าย

คุณรู้ได้ไงว่าประเทศมีแต่จะดีขึ้น ช่วยเล่าเอาบุญสักหน่อย

เผื่อเพื่อนๆ จะได้ปลงกันได้ 

 

ถ้าว่างก็หาร้านเนตที่นั่น เข้ามาเล่นนะครับ 

 

ตอนหนูอ้อยไป มีเน็ตฟรีที่โรงแรมให้ด้วยแต่ช้านรก

ปีนี้คงปรับปรุงแล้วหละ หวังว่านะ 

 

น่าจะปรับปรุงแล้ว

เพื่อนประจำที่ฮานอย  

fb กันแทบทุกวันก็เห็นใช้ได้ดีไม่มีบ่นนะคะ 

Thirachai Phuvanatnaranubala 

คณะกรรมการปิดบัญชีที่สังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเดิมคุณสุภา รองปลัดที่มีฉายาว่าตงฉินที่สุดในประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นประธาน คณะนี้ได้มีการประชุมกับหน่วยงานภาคทางการกว่า 10 หน่วยงาน

มีประชุมกันหลายครั้ง ทำตารางวิธีคำนวณ แล้วเอาข้อมูลจากทุกหน่วยงานกรอกเข้าไป เป็นการทำงาน ตามขั้นตอนที่ปิดบัญชีโครงการอื่นๆที่ผ่านมาทุกโครงการ การประชุมครั้งสุดท้าย มีข้อสรุปว่า รัฐบาลมีภาระจากโครงการต่างเป็นเงินมหาศาล 

ข่าวในสื่อบอกว่าคณะดังกล่าวประเมินผลขาดทุนกว่า 2.6 แสนล้าน ผมได้ข้อมูลจากคนวงใน ว่าตัวเลขขาดทุนจริงมากกว่านี้เสียอีก

คณะนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ทำงานแบบมืออาชีพ ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาต้องรับผิดชอบตัวเลขในการบริหารฐานะการคลังของประเทศ และเขาเป็นผู้ที่มีความรู้สูง วิธีปิดบัญชีก็ทำกันมาหลายครั้งแล้ว เป็นการทำงานตามระเบียบราชการด้านการคลัง

ผลปรากฏว่า ภายหลังที่มีข้อสรุปดังกล่าว รัฐมนตรีคลังสั่งย้ายคุณสุภา แบบสายฟ้าแลบ

แทนที่จะย้ายข้าราชการ รัฐมนตรีคลังควรจะเอาข้อมูลผลการประชุมของคณะกรรมการปิดบัญชี เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อให้นักวิชาการช่วยกันดู ว่าคณะกรรมการเขาคำนวณอย่างไร เข้าท่าเข้าทางหรือไม่ หรือมีข้อผิดพลาดที่บุคคลภายนอกจะช่วยเสนอแนะได้หรือไม่

การถกเถียงตัวเลขกันอย่างโปร่งใส จะช่วยทำให้ตัวเลขภาระของรัฐมีความน่าเชื่อถือ 

ไม่แน่นะครับ เมื่อเปิดเผยเต็มที่แล้ว อาจจะฟลุ๊คมีนักวิชาการ ที่สามารถมองเห็น ว่าวิธีคิดของคณะกรรมการนี้เพี้ยน หรือไม่ถูกต้อง ก็อาจจะเป็นได้

แต่ถ้าปิดบังไม่ให้ตัวเลขที่ชัดเจน ตัวเลข 2.6 แสนล้าน ก็จะไม่หายไปจากสมองของ มูดีส์ อย่างแน่นอน แล้วต่อไป ก็จะลามไปยังบริษัทจัดอันดับเครดิตอื่นๆ อีกด้วย

ที่มา FB Thirachai Phuvanatnaranubala 
http://on.fb.me/15FLxux