Jump to content


otf

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 11 เมษายน 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
-----

Topics I've Started

'มาร์ค'อวยพร'ปู' ขอให้มีความสุข อยู่ครบ4ปี

21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:29

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

 

 

"อภิสิทธิ์" หัวหน้าพรรค ปชป. อวยพรวันคล้ายวันเกิด "นายกฯ ปู" ขอให้มีความสุข อยู่บริหารประเทศครบ 4 ปี ย้ำไม่ค้านช่วยชาวนา เพียงแต่มีปัญหาจำนำข้าวเพียบ จึงต้องขอให้ทบทวนโครงการ...

 

โกหกตอแหลไปวันๆ ปากบอกให้อยู่ครบ4ปีแต่ใจอยากจะให้พ้นจากนายก :lol:


ใกล้เข้ามาแล้ว """DSI สรุปสำนวนสั่งฟ้อง มาร์ค-เทือก คดี89ศพ จ่อนำตัวส่งอัยก...

15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:23

ดีเอสไอ สรุปสำนวนสั่งฟ้อง มาร์ค-เทือก คดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล นัดนำตัวส่งอัยการ 26 มิ.ย.

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 14 มิ.ย.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิต 89 ศพ ในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง เมื่อ เม.ย.-พ.ค.2553 โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ(ระดับ 9 ) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนจาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมพิจารณาพยานหลักฐานเพื่อลงมติสรุปสำนวนสั่งฟ้องคดีต่ออัยการในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง อดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ซึ่งใช้เวลา 45 นาที ในการประชุม

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงมติ 3 ประการคือ 1.เห็นพ้องว่าการสอบสวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว 2.เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎแล้วว่าการตายของนายพัน คำกอง ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ และการบาดเจ็บของนายสมร ไหมทอง เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานทหาร ภายใต้คำสั่งของ ศอฉ.ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายสุเทพ เทือกสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้กำหนดนโยบายและตัดสินใจในการออกคำสั่ง พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นการก่อให้เจ้าพนักงานทหารภายใต้การบังคับบัญชาของตนไปปฎิบัติหน้าที่ในลักษณะที่ผู้ต้องหาและบุคคลทั่วไปย่อมคาดหมายหรือเล็งเห็นได้อยู่แม้ว่าจะเกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บของผู้ชุมนุม เมื่อมีการตายเกิดขึ้น การกระทำของผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 จึงเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59, 80 83, 84, และ มาตรา 288

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า พยานหลักฐานที่ได้รวบรวมมามีพอฟ้อง เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 ตามข้อกล่าวหาและตัวบทกฎหมาย ดังกล่าวข้างต้น และ 3.ส่วนเจ้าพนักงานทหารผู้ลงมือกระทำแม้ข้อเท็จจริงจะมีว่าสาเหตุการตายเกิดจากทหารขณะปฎิบัติหน้าที่ แต่การสอบสวนขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำของเจ้าพนักงานทหาร รายใด ด้วยเหตุที่สภาพพื้นที่และข้อจำกัดขณะเกิดเหตุเกิดความไม่เรียบร้อยของบ้านเมืองในขณะประกาศสถานะการฉุกเฉิน มีความร้ายแรง ทหารกำหนดพื้นที่ห้ามเข้า พนักงานสอบสวน ตำรวจไม่อาจเข้าไปเก็บหลักฐาน ยึดอาวุธปืนของกลาง ตรวจพยานวัตถุ หรือที่เกิดเหตุในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เหมือนกรณีทั่วไป ทั้งพฤติการณ์ของเจ้าพนักงานทหารเป็นการปฎิบัติตามคำสั่งของ ศอฉ.อาเข้าลักษณะเป็นการปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นคำสั่งโดยชอบและตนมีหน้าที่ต้องปฎิบัติตาม ซึ่งจะได้รับการยกเว้นโทษตาม มาตรา 70 ประกอบ มาตรา 62 ประมวลกฎหมายอาญา

ในชั้นนี้จึงไม่เห็นควรดำเนินคดีในส่วนของเจ้าพนักงานทหาร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้กำหนดวันเรียกผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งตัวพร้อมสำนวนแก่พนักงานอัยการ ในวันพุธที่ 26 มิ.ย.เวลา 10.00 น.

 

จะหนีก็รีบหนี ก่อน จะโดนขังลืม อิอิ


ปอท.เผยรู้ตัวแฮกเกอร์เว็บไซต์สำนักนายกฯ เตรียมออกหมายจับ

14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:00

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เปิดเผยความคืบหน้าคดีแฮกข้อมูลเว็บไซต์ของสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรีว่า หลังจากสอบสวนผู้อยู่ในเครือข่ายกลุ่มแฮกเกอร์ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอันลิมิเต็ดแฮกเกอร์ และกลุ่มสเต็ปแฮก โดยแนวทางสอบสวนและพยานหลักฐานเชิงลึก ทราบตัวผู้กระทำความผิดที่เป็นตัวจริงแล้ว โดยบอกได้เพียงว่า เกี่ยวพันกับกลุ่มแฮกเกอร์ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับคนร้ายตัวจริงต่อไป

ส่วนนายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร หนุ่มนครศรีธรรมราช วัย 29 ปี ที่ตำรวจเชิญมาสอบปากคำ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และคงไม่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิด จึงอาจกันตัวไว้เป็นพยานไว้ก่อน

สำหรับกลุ่มอันลิมิเต็ดแฮกเกอร์ที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมนั้น ล่าสุดได้รับทราบว่า ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนในคดีนี้แล้ว โดยจะชัดเจนวันเวลานัดหมายใน 1 - 2 วันนี้

ผู้สื่อข่าว : อำพร แววบุตร0cf95dcba07ad91c8f4779c31b8.jpg

 

news.springnewstv.tv/28900/ปอท-เผยรู้ตัวแฮกเกอร์เว็บไซต์สำนักนายกฯ-เตรียมออกหมายจับ


3ปี 19พฤษภา53 ทุ่งสังหารราชประสงค์

14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 09:41

www.youtube.com/watch?v=YmeinvvOgIc

 

รายงานพิเศษ ทาง voice tv เข้าไปดู แล้วคุณจะเข้าใจ


เรื่องรายการ ตอบโจทย์ ไปถึงไหนแล้ว

4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:17

ผบ.ตร.เซ็นตั้ง “ชัชวาลย์” เป็นประธานสอบเอาผิดรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เชื่อเข้าข่ายผิด กม. สั่งการทุกโรงพักเปิดรับแจ้งความหากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ

วันนี้(21 มี.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเทปและบทสนทนารายการ "ตอบโจทย์ประเทศไทย" ของสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส ว่า เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบเทปรายการดังกล่าวซึ่งมีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรม เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเฉพาะในตอนที่ 4 และ 5 ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นผู้ร่วมรายการ พบว่า มีถ้อยคำบางช่วงบางตอนของผู้ร่วมรายการน่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร รวมถึงอยู่ในความสนใจของประชาชน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จึงได้มีคำสั่งตร.ที่192/2556 ลงวันที่ 21 มี.ค.2556 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ที่ปรึกษา(สบ10) ฝ่ายกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวน โดยมีคณะทำงานชุดสืบสวนจำนวน 50 นาย ประกอบด้วย ชุดสืบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล โดยให้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยเร็วที่สุด ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอย่างไรหรือไม่ และหากการสืบสวนสอบสวนมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้รายงานความคืบหน้าทุก 30 วัน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากรายการดังกล่าวมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีการนำถ้อยคำมาขยายความต่อในสื่อออนไลน์ ผบ.ตร.จึงได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความ หากมีผู้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษก็ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวน สอบปากคำบุคคลนั้นไว้เบื้องต้นก่อนส่งบันทึกคำให้การส่งมายัง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ เพื่อดำเนินการ เนื่องจากเป็นคดีประเภทเดียวกัน งานจะได้ไม่ซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนที่นำข้อความหมิ่นเหม่ไปเผยแพร่ต่อผ่านทางสื่อออนไลน์ก็อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดว่ากรณีนี้เข้าข่ายความผิดกฎหมายฐานใด เพียงแต่ฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอที่ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยอาจจะผิดกฎหมายเพียงมาตราเดียวหรือหลายมาตราก็ได้ ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดนี้จะดูทั้งความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ซึ่งมาตรา 112 ก็อยู่ในข่ายนี้ และความผิดส่วนตัว โดยหากถ้อยคำที่พูดในรายการไปพาดพิง ตัวบุคคลและพรรคการเมือง หากผู้ที่ได้รับความเสียหายร้องทุกข์ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนก็ดำเนินการได้เช่นกัน

 

ผจก.ออนไล

 

เงียบหายไปแล้ว ใคร รู้บ้างว่าเรื่องมัน จบแล้วหรออย่างไร