สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ว่านายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันพุธ ในประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในหลายประเทศบนโลก ที่เป็นผลมาจากแนวคิดแตกต่างทางการเมือง โดยแคร์รีกล่าวถึงกรณีของยูเครน ว่าคือตัวอย่างชัดเจน ที่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ "พลังประชาชน" ซึ่งรวมตัวกันประท้วงเพื่อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยอย่างชอบธรรม การเคลื่อนไหวครั้งนี้เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่และขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่องค์กรการเมืองจะตั้งรับได้ทัน
การโค่นอำนาจ อดีตประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน ที่เกิดขึ้นจากการรวมพลังของประชาชน และการรวมตัวของชาวอียิปต์เพื่อขับไล่ ประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ลงจากอำนาจเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ทั้งที่มอร์ซีเป็นผู้นำคนแรกของประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยไม่ได้หมายความว่าต้องมาจากการเลือกตั้งอย่างเดียว
แคร์รีกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทั้งสองประเทศคือกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า แม้รัฐบาลจะมาจากการเลือกตั้งตามกฎหมาย แต่ประเทศนั้นกลับขาดซึ่งแนวทางปฏิรูปอย่างเป็นระบบและโปร่งใส ที่จะสามารถมอบความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงให้กับประชาชน ผลที่ตามมาจึงเป็นการทุจริตอย่างแหลกลาญ และระบบอุปถัมภ์พวกพ้อง ที่ล้วนเป็นเครื่องทำลายเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่การทูตอันดับ 1 ของสหรัฐปิดท้ายด้วยการย้อนกลับไปกล่าวถึงยูเครนในยุคยานูโควิช ว่าเต็มไปด้วยระบอบ "ขโมยาธิปไตย" หรือการบริหารบ้านเมืองอย่างฉ้อฉล ไม่คำนึงถึงศีลธรรมและประชาชนที่เป็นผู้มอบอำนาจให้ ซึ่งนั่นไม่ใช่การปกครองประเทศตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
========
ตายล่ะ เกิดอะไรขึ้น แล้วแบบนี้พี่น้องเสื้อแดง มิเคืองทั่นแย่เหรอคะ
========
ที่มา.