Jump to content


ผีน้อย ชลบุรี

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 30 เมษายน 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2556 12:59
-----

Topics I've Started

อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ เลย กทม. ได้รางวัลอีกแล้ว

5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:18

976522_539272466109504_701019287_o.png

942638_152338964961425_1900294354_n.jpg

ได้รางวัลบ่อยๆไม่เบื่อหรือไงเนีย 

ที่มาข่าว : https://www.facebook.com/Bangkok.Eyes


กทม.แย่จัง ผู้ว่าอยู่ไหนนิ

5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 08:39

อยู่ในงานรับรางวัลเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกรางวัลแล้วเทพไหมละ

946847_539196952783722_1156622249_n.jpg

 

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานงานเลี้ยงฉลองรางวัล Travellers’ Choice Destinations Awards 2013 ซึ่งกรุงเทพมหานครได้รับการคัดเลือกจากเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor) เว็บไซต์ท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดในโลก ให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับที่ 1 จาก 25 จุดหมายปลายทาง ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกในทวีปเอเซีย

โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร มร. มาร์ค ชาร์รอน กรรมการผู้จัดการ ทริปแอดไวเซอร์ประจำภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก พร้อมคณะผู้บริหารทริปแอดไวเซอร์ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ สมาคมโรงแรมไทย ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เครือข่ายด้านการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมยินดีกับความสำเร็จของกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ โดยปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพมหานครได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในภาคพื้นเอเชีย อันดับสอง ได้แก่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และอันดับสาม ได้แก่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

รางวัลจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว Travellers’ Choice Destinations Awards เป็นรางวัลที่มอบให้กับสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก จากบทวิจารณ์และการแสดงความคิดเห็นของนักเดินทางผ่านทางเว็บไซต์ www.tripadvisor.com โดยการประกาศรายชื่อรางวัลในปีนี้นับเป็นปีที่ 5 ซึ่งมอบให้กับจุดหมายปลายทาง 412 แห่งที่โดดเด่นใน 38 ประเทศทั่วโลกทั้งในทวีปแอฟริกา เอเซีย ออสเตรเลีย แคริบเบียน อเมริกากลาง จีน ยุโรป อินเดีย เม็กซิโก ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ แปซิฟิกใต้ และสหรัฐอเมริกา

สำหรับเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์www.tripadvisor.com จัดตั้งมาแล้ว 12 ปี และได้รับการยอมรับว่าเป็นเว็บไซต์ด้าน การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในโลกจากผลการวิเคราะห์ของ Google Analytic โดยปัจจุบันมีสำนักงาน 30 แห่งทั่วโลก และมีสำนักงานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิกตั้งอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์ การคัดเลือกเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกของแต่ละภูมิภาคได้จัดมาแล้วเป็นเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ ขั้นตอนการตัดสินพิจารณาจากคะแนนที่นักเดินทางทั่วโลกจัดอันดับให้กับโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และภัตตาคารในจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ รวมถึงการทำเครื่องหมาย “ชื่นชอบ” (Favorite) บนแอพพลิเคชั่น ทริปแอดไวเซอร์ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต โดยสามารถติดตามรายละเอียดและรายชื่อของจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ได้รับรางวัล Travellers’ Choice Destinations ได้ทาง http://th.tripadviso...ce-Destinations

มร. มาร์ค ชาร์รอน กรรมการผู้จัดการ ทริปแอดไวเซอร์ประจำภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก กล่าวว่า ในฐานะที่กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในมหานครสำคัญของโลก จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่กรุงเทพฯ ได้รับการโหวตให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเซียของรางวัล Travellers’ Choice Destination ประจำปีนี้ ด้วยอาหารรสเลิศ สถานที่อันโดดเด่นทางประวัติศาสตร์ อันงดงาม แหล่งช้อปปิ้งหลากหลาย การต้อนรับที่เป็นมิตรและอบอุ่นของคนไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยือนประเทศไทย และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่กรุงเทพมหานคร ได้รับการยกย่องในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นและเป็นที่ประทับใจ เป็นที่ชื่นชอบของนักเดินทางในภูมิภาคเอเซียในปีนี้

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน และประชาชนทุกคน ที่ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ความเป็นมิตร ความปลอดภัย แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร และอยากให้ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมให้กรุงเทพมหานครได้รับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งในเวลาที่ผ่านมากรุงเทพฯ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นำมาซึ่งความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่เราต้องรักษามาตรฐานที่ดีเอาไว้ให้ได้ โดยในอนาคตกทม.จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เช่น แหล่งท่องเที่ยวฝั่งธนบุรี เพิ่มเส้นทางการเดินเรือ รวมทั้งจะมีการเปิดอบรมภาษาอังกฤษ ให้แก่ผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ เช่น แท๊กซี่ สามล้อเครื่อง (ตุ๊ก ตุ๊ก) และมอเตอร์ไซต์รับจ้าง รวมทั้งพัฒนาในเรื่องของการจัดทำเมนู รายการอาหารให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการสั่งอาหารของนักท่องเที่ยว


ผู้ว่าไม่ทำงาน คนกรุงให้คะแนนการทำงานผู้ว่าสุดๆ

2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 09:59

วันนี้ (1 ก.ค. 56) นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 8/2556 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินการโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบึงมักกะสัน

1372733741-15-o.jpg

 

กทม.โว ผลสำรวจความพึงพอใจต่อการบริหารงานตามนโยบาย กทม.ใน 50 เขต พบส่วนใหญ่พอใจการทำงานของ กทม.ระดับพึงพอใจมาก โดยนโยบายเร่งด่วนเรื่องการสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย ปชช.พึงพอใจมากที่สุด ขณะที่นโยบายติดกล้องซีซีทีวี เพิ่มอีก 2 พันจุด เห็นผลเป็นรูปธรรม
       
       วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ศาลาว่าการ กทม.นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครครั้งที่ 8/2556 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม โดยในวันนี้สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม.ได้รายงานผลการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนชาวกรุงเทพมหานครที่มีต่อการบริหารงานตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2556 ซึ่ง กทม.ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นที่ปรึกษาโครงการ ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนชาวกรุงเทพฯรวมถึงการรับรู้ของประชาชนต่อการบริหารงานตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-30 เม.ย.56 จำนวน 10,036 คน ในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร โดยเป็นผู้มีชื่อตามทะเบียนบ้านร้อยละ 99.83 และเป็นผู้ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านต่างจังหวัดร้อยละ 0.17 โดยผลสำรวจภาพรวมการบริหารงานพบว่า อยู่ในระดับพึงพอใจมาก คิดเป็นร้อยละ 82.25
       
       5 อันดับนโยบายสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชน
       
       โฆษก กทม.เปิดเผยผลการสำรวจพบว่า ประชาชนชาวกรุงเทพฯ พอใจนโยบายการบริหารงานเร่งด่วนของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตามที่ได้หาเสียงไว้  โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การสร้างโรงบำบัดน้ำเสียเพิ่มอีก 5 แห่ง เพื่อบำบัดน้ำเสียให้สะอาด ก่อนปล่อยลงสู่คูคลองและแม่น้ำเจ้าพระยา 2.การจัดตั้งสภามหานครอาเซียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกรุงเทพมหานคร และองค์กรในอาเซียน 3.การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ ประชาชน คนขับแท็กซี่ และคนขับรถสาธารณะให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ 4.การเพิ่มประสิทธิภาพการดับเพลิงอาคารสูง พร้อมชุดปฏิบัติการดับเพลิงขนาดเล็กสำหรับชุมชน 5.นักเรียนโรงเรียน กทม.มีภาษาอังกฤษแข็งแรงเพื่อพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
       
       5 อันดับผลงานเป็นรูปธรรมมากที่สุด
       
       ในส่วนโครงการที่ชาวกรุงเทพฯ รับรู้และเคยเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การเพิ่มความปลอดภัยโดยเร่งติตั้งกล้อง CCTV ทุกถนน ทุกซอย อีก 20,000 ตัว 2.การขยายเครือข่ายกล้อง CCTV 50,000 ตัว โดยเชื่อมโยงกับเครือข่ายเอกชน 200,000 ตัว 3.นักเรียนโรงเรียน กทม.เรียนฟรี อิ่มท้อง สมองดี มีวินัย โตไปไม่โกง 4.การติดตั้งไฟส่องสว่างในพื้นที่เสี่ยงอีก 20,000 ดวง เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม และ 5.การป้องกันน้ำท่วมด้วยการสร้าง อุโมงค์ระบายน้ำยักษ์เพิ่ม 6 แห่ง พร้อมทั้งมีระบบตรวจสอบสภาพเตือนภัยน้ำท่วม
       
       5 ปัญหาต้องแก้เพื่อคนกรุง
       
       โฆษก กทม.กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาที่ชาวกรุงเทพฯ ต้องการให้เร่งแก้ไขมากที่สุด ได้แก่ ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาขยะ อาทิ ส่งกลิ่นเหม็น เก็บล่าช้า และจำนวนถังขยะไม่เพียงพอ ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น อาชญากรรม ขโมย ปัญหาน้ำเน่าเสีย น้ำท่วม น้ำขัง ซึ่ง กทม.ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลแก้ไขเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว รวมถึงจะเพิ่มประสิทธิภาพประชาสัมพันธ์นโยบายกรุงเทพมหานครเชิงรุก เพื่อให้ประชาชนรับรู้และเข้าถึงข่าวสารและนโยบายของกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ในส่วนของปัญหาการจราจรนั้น กทม.จะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากภารกิจดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านการป้องกันน้ำท่วม กทม.มีแผนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว รวมถึงแผนการระบายน้ำของอุโมงค์ยักษ์ ซึ่งหากประชาชนสนใจเยี่ยมชมการทำงานของอุโมงค์ยักษ์บึงมักกะสัน สามารถติดต่อสำนักการระบายน้ำ โทร.0 2249 4761-2 กด 0
       
       ขณะเดียวกันด้านปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหายาเสพติด ซึ่ง กทม.ถือเป็นปัญหาสำคัญยิ่ง ได้เร่งรัดดำเนินการในทุกด้านทั้งด้านการบำบัดรักษา ดูแลและเยียวยาผู้ป่วย โดยวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ผู้ว่าฯ กทม. จะมอบนโยบายให้แก่ 50 สำนักงานเขต และ 88 สถานีตำรวจนครบาล เพื่อติดตามปัญหาและขอความร่วมมือในการประสานการทำงานต่อไป 
       
       แจ้งชุมชนกำหนดจุดตั้งวางขยะ เพื่อง่ายต่อการจัดเก็บ ไม่มีตกค้าง
       
       นายบรรจง สุขดี รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดการและแก้ไขปัญหาขยะของกรุงเทพมหานคร ว่า ปัจจุบัน กทม.ยังไม่สามารถจัดเก็บขยะในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ครบ 100% โดยเฉพาะในชุมชนต่างๆ เนื่องจากรถเก็บขนมีขนาดใหญ่ ชุมชนเป็นซอยแคบ อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่จอดรถหน้าบ้าน ทำให้การเข้าไปจัดเก็บในชุมชนทำได้ลำบาก อย่างไรก็ตามสำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานสำนักงานเขตหารือกับชุมชนในการกำหนดจุดตั้งวางขยะหรือจุดพักขยะ 1-2 จุด เพื่อให้รถเก็บขนเข้าไปจัดเก็บได้ทั้งหมด ไม่มีตกค้าง
       
       ซอยสุขุมวิท 50 บทเรียนแก้ปัญหาจุดอ่อนน้ำท่วมริมเจ้าพระยา
       
       นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม.มีแผนเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและจุดอ่อนต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ทั้งนี้ กรณีน้ำท่วมบริเวณซอยสุขุมวิท 50 นั้น เกิดจากมีการซ่อมแซมแนวกระสอบทรายซึ่งเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวริมแม่น้ำเจ้าพระยากระทันหัน เนื่องจากกระสอบทรายชุดเดิมผุกร่อนจึงมีการเปลี่ยนกระสอบทรายใหม่แต่วางเรียงไม่ครบเท่าเดิม ประจวบกับในวันดังกล่าวเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงผิดปกติเกินกว่า 90 เซนติเมตร อีกทั้งมีพายุฝน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าแนวกระสอบทราย และมีน้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เร่งแก้ไขโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนแก่กทม.ในการดำเนินงานบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงการตรวจสอบผลกระทบโดยรวมก่อนดำเนินการในจุดอื่นๆ ต่อไป เช่น บริเวณถนนทรงวาด ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ และในพื้นที่เขตบางพลัด เป็นต้น

ที่มา : 
https://www.facebook.com/Bangkok.Eyes


บะหมี่จอมพลังโดนจัดการแล้ว

29 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:38

ทางเขตได้เข้าไปจัดการและเปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้ว และถ้ามีท่านใดยังพบเห็นว่ายังทำอีกก็สามารถถ่ายภาพแล้วส่งไปร้องเรียนที่

https://www.facebook.com/Bangkok.Eyes

เฟสรับเรื่องร้องเรียนของเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ถ้ามีรูปพร้อมข้อมูลยืนยัน เค้าจะส่งคนไปจัดการเขตและเขตจะถูกจับตามองจากส่วนกลาง
ถ้าเขตไม่จัดการเขตก็ซวยเองลดปัญหาเส้นใหญ่ได้เยอะแน่ๆ

1372469538-015-o.jpg


บ่นว่า BTS ขึ้นราคา 2 บาท แล้วแพง งั้นมาใช้ บัตร์ rabit ดีกว่ามั้ง

30 เมษายน พ.ศ. 2556 - 07:57

https://www.facebook...144389152401434


ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บและโปรโมชันเที่ยวเดินทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2556 ซึ่งการปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บดังกล่าวสามารถทำได้ตามข้อกำหนดใน สัญญาสัมปทาน ส่วนผู้ใช้บัตรแรบบิท หรือบัตรบีทีเอส สมาร์ทพาส ประเภทเติมเงิน เดินทางในระบบจะยังคงชำระค่าโดยสารในอัตราที่เรียกเก็บเดิม 15-40 บาท ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556

ทำไมไม่ใช้กันถ้ามีคนบอกแพง