duradura

 

ของมันก็ต้องแพงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้วนี่ครับ 

จะเอาราคาปีนี้ ไปเทียบกับปีกลาย ปีก่อน ห้าปีที่แล้ว สิบปีที่แล้ว

แล้วก็มาด่าว่าของมันแพงขึ้น  อย่างนี้มันมันก็ไม่ยุติธรรมสิครับ 

 

 

ถ้าไร้เดียงสา โง่เรื่องเศรษฐศาสตร์นัก  ก็อ่านอย่างเดียวดีกว่ามั๊ย  คนอื่นจะไม่ได้รู้ว่า ....โง่

 

ตามปกติสามัญ ในระบบการจ้างงาน  รายได้จะเพิ่มขึ้นทุกปี  ในขณะที่รายจ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน

 

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะคำนวณ  "อัตราเงินเฟ้อ" (ถ้า โด่ร่า ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรก็อ่านให้เยอะ ๆ นะ) ไว้ด้วยแล้ว

 

เพราะฉะนั้นรายได้ที่เพิ่มขึ้น  จะสอดคล้องกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น .....นี่ว่ากันจาก สถานการณ์ปกติ นะ

 

แต่ปัจจุบัน รายได้ที่เพิ่มมันไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่พุ่งพรวด .....อีกต่อไปแล้ว

 

เราจึงได้ยิน ได้ฟัง เสียงบ่นจากทั่วสารทิศว่า .......ของแพงทั้งแผ่นดิน  (ไม่ได้คิดกันไปเองนะไอ้หอก)

 

ย้ำว่า ถ้านาย โด่รา  โง่เรื่องเศรษฐศาสตร์  แล้วต่อมรับรู้สำนึกมันไม่ทำงาน  แนะนำให้อ่านเยอะ ๆ ฟังเยอะ ๆ จะได้ไม่ปล่อยโง่ แล้วแถตะแบงซ้ำซาก

 

เดี๋ยวคนเค้ารู้หมดว่าได้รับการศึกษา+สั่งสอนเลี้ยงดูมาไม่ดีพอ 

 

คุณผู้ฉลาดล้ำทางเศรษฐศาสตร์ และได้รับการศึกษา + สั่งสอนเลี้ยงดูมาดีพอ

คุณลองอธิบายหลักเศรษฐศาสตร์เปรียบเทียบคร่าว ๆ เป็นวิทยาทานกับผมหน่อยครับ

ว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่รายได้ที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น.....ซึ่งเป็นสถานการณ์ปกติ

กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่รายได้ที่เพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่พุ่งพรวดอีกต่อไปแล้ว......ซึ่งเป็นสถานการณ์ของแพงทั้งแผ่นดิน 

อะไรคือความแตกต่าง ?

กรุณาอธิบายด้วยตัวเลขและหลักทางเศรษฐศาสตร์ของคุณ .... เพราะผมจะเข้าใจได้ง่ายกว่า

อาทิ สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ รายได้ขั้นต่ำเท่าไหร่ ป.ตรีสตาร์ทที่เท่าไหร่ หมูโลละ.. ไข่ฟองละ.. แล้วตกมาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีอะไรที่แตกต่างออกไป ? จนมันทำให้คุณคิดว่า รายได้กับค่าครองชีพไม่สอดคล้องกัน       

“โต้ง” รับเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 2 หมื่นล้าน เล็งขึ้นภาษีแวตจาก 7 เป็น 10%

http://www.manager.c...D=9570000045193

 

“กิตติรัตน์” รับจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า 2 หมื่นล้านบาท เล็งขึ้นภาษีแวตจาก 7 เป็น 10% เชื่อหากการเมืองนิ่ง จีดีพอขยายตัว 3% มั่นใจคืนเงินงบฯ กลางจำนำข้าวภายใน พ.ค.นี้ 
       
       นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2557 ช่วง 6 เดือนแรก (ต.ค. 56 - มี.ค. 57) ได้ 1.1 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 2 หมื่นล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ 2.25 ล้านล้านบาท พร้อมยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ทั้งปีมีโอกาสน้อยมากที่จะจัดเก็บได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอตัว
       
       ส่วนที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยลง หาก อัตราการขยายตัวทางเศรษฐ หรือจีดีพี ปีนี้ต่ำกว่าร้อยละ 3 นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะคลี่คลาย และสามารถจัดการเลือกตั้งได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2557 ทำให้สามารถจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ได้ทัน และทำให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ร้อยละ 3 และจะไม่เจอเหตุการณ์ชัตดาวน์ประเทศเหมือนกับสหรัฐฯ อย่างแน่นอน เพราะสามารถเบิกจ่ายงบคลัง และงบกลางได้ ทำให้ส่วนงานราชการต่างๆ สามารถดำเนินงานต่อไปได้ไม่ติดขัด
       
       นายกิตติรัตน์กล่าวชี้แจงว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากเดิมร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 หลังพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่จะสิ้นสุดในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งต้องหารือกับทางคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาเป็นมติ ครม. ก่อนเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาอีกครั้ง
       
       นายกิตติรัตน์มั่นใจว่าจะสามารถคืนเงินงบกลางที่เบิกจ่ายมาเพื่อให้แก่เกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ได้ทันภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 อย่างแน่นอน และการที่สมาคมชาวนา และเกษตรกรไทยขอให้เบิกงบกลางเพิ่ม 4 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโครงการรับจำนำข้าวนั้น คาดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วงเงินสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท แต่จะเป็นเท่าใดนั้นต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง

 

***************************************************

 

55555555555555555

555555555555555555555

555555555555555555555555

 

 

 

ปล. ค่าไฟบ้านผมเดือนนี้ขึ้นแล้วง่ะครับ  มีของใครขึ้นเหมือนผมบ้างครับ?

 

แปลกเหมือนกัน

เขาออกมาปฏิเสธแล้ว ชี้แจงแล้ว ว่าข่าวมันคลาดเคลื่อน

แต่คนในนี้ก็ยังพากันหลับหูหลับตาด่าอยู่นั่น

เหมือนด่าเอามันส์ไว้ก่อน เรื่องจริงเป็นยังงัยเอาไว้ค่อยว่ากันที่หลัง

ปล. ค่าไฟฟ้าช่วงเมษา พฤษภา มันมากขึ้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

และข่าวนี้กับค่าไฟฟ้ามันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

แต่ก็เอามาโยงใส่กันเพื่อหาเรื่องด่าจนได้ 

 

 

 

 

 

....

 

 

 

 

 

ให้น้อยมาก เลยต้องเบิ้ล แถมเบิ้ลก็ยังไม่ค่อยอิ่มอีก.....

 

 

 

เมื่อคุณรู้ว่าเงินรายได้คุณน้อย แต่คุณดันกินข้าวมื้อละหนึ่งร้อยบาท วันหนึ่งอย่างต่ำสามร้อย 

 

คุณไม่รู้จักประมาณการตัวเอง มันก็สมควรแล้วนิ  จะไปโทษคนอื่นทำไม

 

 

อ่าน และทำความเข้าใจ กะข้อความบ้างมั้ยนั่น....เสล่อ

 

 

 

ถ้ารู้ว่าตัวเองกินเยอะ ซื้อข้าวซื้อกับมาทำกินที่บ้านก็สิ้นเรื่อง

 

ข้าวถุงละสองร้อย กินเยอะแค่ไหนหนึ่งอาทิตย์ก็เอาไหว

หมูโลหนึ่งประมาณร้อยห้าสิบ ผักบ้างไรบ้าง อีกร้อยหนึ่ง

แค่นี้ก็พออยู่พอกินไปหลายวัน 

 

ทำไมต้องไปกินวันละสามสี่ร้อยที่ร้านทุกวัน ? 

 

 

เอ่อ...ขอโทษนะครับ กรุณาอ่านข้อความของน้องเค้าให้ละเอียด แล้วใช้ "ความคิด" ของคุณ เพิ่มขึ้นมาอีกซักนิด ได้มั้ยครับ....

 

 

....

 

WTF วะ  ไหนบอกว่ากระชากค่าครองชีพ  ชีพเฮี้ยไร กรูจะตายอยู่แล้ว.....นี่ก็ไม่ได้แดรกหรูห่านไรเลย วันนึง ใช้เงิน 400++ ต่อวัน กับปัจจัย 4 ล้วนๆ....

 

 

 

400*30 = 12,000  ยังไม่รวมค่ามือถือ ค่าเช่าบ้าน ค่ากาแฟ ค่ายาต่างๆนาๆ  ....

 

 

กรูทำไรผิดวะ ทำงานก็ตั้งใจทำงาน เหล้าบุหรี่ก็ไม่แตะ แต่ต้องมาจนลงเพราะคนส่วนใหญ่มันควาย เลือกเมิงมากระชากค่าครองชีพแบบนี้

 

 

 

 

คุณมรึงเคยไปตลาดไหม  นี่คุณมรึงโง่ หรือ ยังขอตังพ่อแม่อยู่ เลยไม่รู้ว่า ของในตลาดแมร่งก็ขึ้น.....กูเลยต้องมาแดกของแพงขึ้น

 

หรือ 

 

คุณมรึงเคยอยู่บ้านเช่าไหม รู้ไหมว่าเขาไม่ให้ทำกับข้าว เพราะแมร่งกลิ่นมันไปกวนห้องอื่น .............

 

 

คุณมรึง เดินไปทำงานเหรอ?? ถึงไม่รู้ว่า ปรกติค่าใช้จ่ายประจำวันมันมีเฮี้ยไรบ้าง?  

 

 

 

 

 

กรูไม่ซื้อรถ เพราะกูจน กูเลยซื้อมอไตด์ ขับวันละ 45 โล ค่าน้ำมันกู ประมาณวันละ 100 กว่าๆ...  

 

 

 

ของแพงแบบไม่จินตนาการ อ่านเน้นๆนะครับ

 

 

 

 

ขออนุญาตมาลงให้ duradura อ่านอีกรอบ  เผื่อจะเข้าหัวบ้าง

 

ประเทศนี้เป็นประเทศด้อยพัฒนา

ใคร ๆ ก็ปากกัดตีนถีบกันทั้งนั้นแหล่ะครับ

รายได้น้อย ค่าครองชีพสูง ก็อยู่แบบพอเพียงสิครับ

การจะด่าใครจะโทษอะไร มันก็ต้องดูตัวเองก่อนนะ

พื้นฐานการศึกษาต่ำ งานมันก็หนักรายได้ก็น้อย

ทำงัยได้ ... มันก็ต้องก้มหน้ารับสภาพไป ... หรือไม่ก็ต้องดิ้นรนขยันขันแข็งมากกว่าที่เป็นอยู่  

ด่าไปก็เท่านั้น 

 

 

 

 

....

 

 

 

 

 

ให้น้อยมาก เลยต้องเบิ้ล แถมเบิ้ลก็ยังไม่ค่อยอิ่มอีก.....

 

 

 

เมื่อคุณรู้ว่าเงินรายได้คุณน้อย แต่คุณดันกินข้าวมื้อละหนึ่งร้อยบาท วันหนึ่งอย่างต่ำสามร้อย 

 

คุณไม่รู้จักประมาณการตัวเอง มันก็สมควรแล้วนิ  จะไปโทษคนอื่นทำไม

 

 

อ่าน และทำความเข้าใจ กะข้อความบ้างมั้ยนั่น....เสล่อ

 

 

 

ถ้ารู้ว่าตัวเองกินเยอะ ซื้อข้าวซื้อกับมาทำกินที่บ้านก็สิ้นเรื่อง

 

ข้าวถุงละสองร้อย กินเยอะแค่ไหนหนึ่งอาทิตย์ก็เอาไหว

หมูโลหนึ่งประมาณร้อยห้าสิบ ผักบ้างไรบ้าง อีกร้อยหนึ่ง

แค่นี้ก็พออยู่พอกินไปหลายวัน 

 

ทำไมต้องไปกินวันละสามสี่ร้อยที่ร้านทุกวัน ? 

 

 

ประเด็นคือ แต่ก่อนกินแบบนี้ได้ไม่เดือดร้อน แต่ทำไมเดี๋ยวนี้มันแพงขึ้นมาผิดปกติจนรับไม่ได้ ย้ำว่าผิดปกติ การที่อยู่ๆ เราก็ไม่สามารถไปกินของที่เราเคยกินทุกวันได้แม้แต่ก๋วยเตี๋ยว มันเป็นความผิดเราหรือครับ การที่อาหารตามสั่งขึ้นราคามาทีละสิบบาทก็คงเป็นความผิดคนกิน ที่ไม่กินของถูกๆ อย่างนั้นใช่ไหม ถามหน่อยเถอะว่าถ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวแล้วต้องซื้อของมาทำกินเอง มันถูกกว่าออกไปซื้อกินตรงไหน กระดูกหมูต้มน้ำซุปขอซื้อสิบบาทแผงหมูขายให้มั้ย เส้นก๋วยเตี๋ยวก็ขายเป็นกิโล ลูกชิ้นที่ไหนขายครั้งละห้าลูกบ้างก็ขายเป็นกิโลทั้งนั้น ต้นหอมผักชีขายเป็นกำ ไม่ได้ขายเป็นต้น ค่าแก๊สต้มน้ำซุปหนึ่งชั่วโมงอีกกี่บาท อย่าพูดสักแต่พูด  

 

ของแพงขึ้นก็เรื่องนึง การเอาตัวรอดในภาวะของแพงก็อีกเรื่องนึง ถ้าจะแก้ปัญหาของแพงด้วยการบอกให้คนประหยัดลง ก็ปล่อยราคาลอยตัวทุกอย่างดีมั้ย เพราะยังไงคนก็ต้องหาทางเอาตัวรอดกันเอาเองอยู่แล้ว กินข้าวคลุกน้ำปลา มันก็อิ่มเหมือนกัน

 

ของมันก็ต้องแพงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้วนี่ครับ 

จะเอาราคาปีนี้ ไปเทียบกับปีกลาย ปีก่อน ห้าปีที่แล้ว สิบปีที่แล้ว

แล้วก็มาด่าว่าของมันแพงขึ้น  อย่างนี้มันมันก็ไม่ยุติธรรมสิครับ 

 

 

....

 

 

 

 

 

ให้น้อยมาก เลยต้องเบิ้ล แถมเบิ้ลก็ยังไม่ค่อยอิ่มอีก.....

 

 

 

เมื่อคุณรู้ว่าเงินรายได้คุณน้อย แต่คุณดันกินข้าวมื้อละหนึ่งร้อยบาท วันหนึ่งอย่างต่ำสามร้อย 

 

คุณไม่รู้จักประมาณการตัวเอง มันก็สมควรแล้วนิ  จะไปโทษคนอื่นทำไม

 

 

อ่าน และทำความเข้าใจ กะข้อความบ้างมั้ยนั่น....เสล่อ

 

ถ้ารู้ว่าตัวเองกินเยอะ ซื้อข้าวซื้อกับมาทำกินที่บ้านก็สิ้นเรื่อง

ข้าวถุงละสองร้อย กินเยอะแค่ไหนหนึ่งอาทิตย์ก็เอาไหว

หมูโลหนึ่งประมาณร้อยห้าสิบ ผักบ้างไรบ้าง อีกร้อยหนึ่ง

แค่นี้ก็พออยู่พอกินไปหลายวัน 

ทำไมต้องไปกินวันละสามสี่ร้อยที่ร้านทุกวัน ?