สันขวาน

OH MY GOD !   This is a book .Malee has one book. Mana has two books.Malee and Mana have three books.

เห็นดราม่ากันแต่เรื่องล้อคซ้อน คงเป็นเรื่องเดียวที่โจมตีคนฝั่งตรงข้ามได้
วิธี ก็ไม่ยาก แค่ยัดคำใส่ปากคน และแบนไปที
คนไม่ยอม ก็ต้องเข้ามาใหม่ ก็เป็นข้ออ้าง ให้กำจัดกันในครั้งต่อไป
เล่นง่ายดี

ลองมีสมาชิกเก่าสักคน สมัครเข้ามาซ้ำซ้อนเพื่อโวยวายอะไรสักอย่างสิ
กลับได้ความเห็นใจมากมาย แทนที่จะโดนแบน ไม่มีโอกาสแก้ตัวบ้าง

เธ่อ
ทีฝั่งตัวเองทำไรก็ได้ ... ขนาดยัดคำใส่ปากตัวเอง ยังช่วยกันล้วงคอเอาออกมาใส่ปากคนอื่นอีกด้วย
ไม่อายชาวโลกกันเลย

โธ่... อ้ายขี้ครอก ไปดูประวัติการใช้งานเวบบอร์ดของกุก่อน กุโดนแบนมากี่วันกี่ครั้ง โดนวอร์นมากี่ครั้ง ไม่เห็นกุต้องสมัครใช้ล็อกอินใหม่เข้ามาตะแบงแถกแถเหมือนพวกควายแดงถ่อย สถุน มีพ่อเป็นอ้ายขี้ยาขี้ครอกครอก มีแม่เป็นอีกระหรี่ขี้ครอก เก็บกด ต่อต้านกติกาสังคม

กรรมการบอร์ดเค้าเคยตัดสินให้กุไปนั่งดูข้างสนามเฉยๆ 7 วัน 1 เดือน กุก็เคารพการตัดสินของกรรมการ ไม่เห็นต้องเดือดร้อนสมัครล็อกอินใหม่เข้ามาระบายความเก็บกดแบบควายแดงที่มีพ่อ-แม่อัปปรีย์ จัน ไร เลย

แต่***อัปปรีย์ จัน ไร แบบพวกควายแดง ไม่เคยเคารพกติกาของสังคม ไม่เ หี้ย ไม่ถ่อย เป็นควายแดงจัง ไร ไม่ได้ จริงๆ

เมื่อ สองพันห้าร้อยกว่าปี มาแล้ว มีกระทาชายนายหนึ่ง บ่นพึม-บ่นพำ ว่า

"ที่นี่ วุ่นวาย หนอ-ที่นี่ เดือดร้อน หนอ" เดินไป-บ่นไป จนผ่าน สถานที่สงบ แห่งหนึ่ง

ก็มีเสียงร้องตอบรับออกมาว่า "ที่นี่ไม่วุ่นวาย-ที่นี่ไม่เดือดร้อน" เสียงนั้นเป็นเสียงของ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

และเมื่อ กระทาชายนายนั้น ได้เข้าไปเฝ้า องค์พระผู้มีภาคเจ้า...ความวุ่นวาย-ความเดือดร้อน ก็มลายหายไปสิ้น

กาลเวลาได้ล่วงเลยมา สองพันห้าร้อยกว่าปี แล้ว องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ได้ นิพพาน ไปนานหนักหนาแล้ว

แต่คำสั่งสอน ของ พระองค์ ก็ยังคงอยู่...ใครที่ยัง "เดือดร้อน หนอ-วุ่นวาย หนอ" ก็ควรที่จะนำ

คำสั่งสอน ของ พระองค์ ลอง ไปใช้-ไปปฏิบัติ ดู ความเดือดร้อนวุ่นวายของแต่ละคนก็จะระงับลงได้

พูดแล้ว-คุยแล้ว ก็พาลให้นึกถึง พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ยิ่งนัก หากจำได้ไม่ผิดในวันที่ หลวงพ่อท่าน ละสังขาร

หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ลงข่าวมรณภาพ ของ ท่าน ไว้ ประมาณ ว่า ก่อนท่าน มรณภาพ นั้น

ท่านได้พูดสั้นสั้นกับนายแพทย์ผู้ดูอาการท่านอยู่ว่า "ปล่อยนะ"

เพียงเท่านั้น สังขาร ท่านก็แตกดับไปตาม ธรรมดาโลก

แต่คำพูดเพียงสองคำนั้น ถ้าคิดดูให้ดีแล้ว ก็เป็นสมบัติอันมหาศาลที่ท่านได้ทิ้งไว้แก่

บรรดาศิษยานุศิษย์ของท่าน และ แก่พุทธศาสนิกชน ทั่วไป...

คำพูดเพียงสองคำนี้ฟังดูง่ายเหลือเกิน เป็นสมบัติทางปัญญา ซึ่งอาจเก็บไว้คุ้มกันตัวได้ตลอดชีวิตของแต่ละคน

เป็น ประกาย ของ แสงสว่าง แห่ง ปัญญา อัน เจิดจรัส ท่ามกลาง ความมืดมน อนธกาล

ตะนิ่นตาญี เขียนมาเสียเยอะแยะ แต่อย่าเพิ่งนึกอะไรให้มากไป อย่าไปนึกว่า "ปล่อยนะ" เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์

ท่องบ่นซ้ำซ้ำกันครบ ๑๐๘ คาบ แล้ว จะสำเร็จเป็น อรหันต์ มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ หรือ อยู่ยงคงกระพัน

มีเส่นห์ เมตตา มหานิยม สาวรัก-สาวหลง ผู้ใหญ่สนับสนุน หรือ ระลึกชาติ มองเห็นอนาคต มองเห็นว่าหวยออกเลขอะไร

ร่ำรวย เป็น เศรษฐี-มหาเศรษฐี ขึ้นมาได้โดยไม่ต้อง ออกเรี่ยว-ออกแรง ทำงาน ไม่ใช่หรอกครับ

เพราะคำว่า "ปล่อยนะ" ของ ท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นสิ่งตรงกันข้ามกลับที่กล่าวมาแล้วทั้งสิ้น

คำว่า "ปล่อยนะ" สองคำนั้น แปลว่า คนเราทุกคนนั้นที่แท้แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่างเดียว

ไม่มีอิทธิฤทธิ์-ไม่มีอิทธิเดช ไม่มีอำนาจวาสนา ไม่มีทรัพย์ ไม่มีรัก ไม่มีเกลียด ไม่มีโง่ ไม่มีฉลาด

ที่นึกว่าตัวเป็นคนคนหนึ่ง มีโน่น-มีนี่ เป็นของตน หรือ ยังขาดอะไรอยู่แล้วอยากได้สิ่งนั้น

นั่นเป็นเพราะการยึดแต่อย่างเดียวเท่านั้น ชีวิตทั้งชีวิตก็กลายเป็นการยึดไปเสียหมด

ไม่ยอม "ปล่อยนะ" อย่างที่ หลวงปู่ฝั้น ท่านว่าไว้ และเมื่อไม่รู้จักที่จะ "ปล่อยนะ" ก็เป็นทุกข์

ทุกข์ที่จะยึดเอา ไอ้นู่น-ไอ้นี่ มาเป็นของตน ชีวิตทั้งอันก็เป็นชีวิตของกู คนอื่นไม่เกี่ยว

บ้านนี้-เมืองนี้ ก็ ของ กู คนอื่นไม่เกี่ยว แผ่นดินนี้เป็นของกู โลกนี้เป็นของกู

จนในที่สุดแล้ว พระอาทิตย์-พระจันทร์-จักรวาลพิภพ ก็เป็นของกูหมด

มีไว้เพื่อประโยชน์ของกู และความสุขของกูเท่านั้น คนอื่นห้ามยุ่ง

จะรัก-จะหลง อะไรก็ไม่เท่า รักตัวกู-หลงตัวกู จริงอยู่ กู รักคนอื่นด้วย

แต่ มีเงื่อนไข คนไหนที่ กู จะรักนั้น คนนั้นต้องรักตัวกูก่อน ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไข กูก็ไม่รัก

สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็พังครืนลงมา เพราะว่าไม่มีใครที่จะบังคับโลกนี้ให้หมุนไปตามใจชอบของตัวเองได้

ทุกอย่างมันอาจซื้อได้ แต่ก็ไม่อาจที่จะบังคับมันได้หรอกกระมังครับ...

ชีวิต ของ คนเราก็เหมือนกับ การเดินทาง นั่นแหละครับ เดินทางไปไกลขึ้นไกลมากขึ้น

เจออะไร ก็หยิบ-ก็ฉวย ติดขึ้นมาพะรุงพะรัง ยิ่งหยิบ-ยิ่งฉวย มากขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาก็ยิ่งมีมากขึ้น

หนักแรงที่ จะแบก-จะหาม จะเดินต่อก็เดินไม่ไหว ยิ่งหยิบ-ยิ่งฉวย ก็ ยิ่งยึดไว้

สุดท้ายแล้วก็ไปไม่ได้ถูกสิ่งที่ยึดไว้ทับตายไปในที่สุด...

ชีวิตคนเราก็เท่านี้

เขียนมาตั้งเยอะไม่ได้ แปลว่า ไม่ให้ยึด-ไม่ให้ถือ อะไรอะไรหรอกนะครับ

หากแต่หมายความถึงให้รู้จักที่จะปล่อยทิ้งไปเสียบ้าง ให้ถูกกาละ-ให้ถูกสมัย

ปล่อยในสิ่งที่ควรปล่อยยึดไว้แต่สิ่งที่จำเป็น แล้วเดินเชิดหน้าไปบนวิถีแห่งผู้ไม่ประมาท

นั่นกระมังครับเป็นเหตุให้ ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ได้บอกไว้กับหมอ ก่อนที่ท่านจะละสังขาร

ในขณะสุดท้ายแห่งชีวิตของท่าน "ปล่อยนะ"

คุณทักษิณ ชินวัตร ครับ หากคุณเผลอไผลมาอ่าน ข้อเขียนชิ้นนี้เข้า หรือ มีใครสักคนเมตตานำไปให้อ่าน

ถึงเวลาแล้วครับ คุณทักษิณฯ ครับ ปล่อย-เถอะ-นะ-ครับ

ตะนิ่นตาญี

วันเสาร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

เวลา ๑๒.๑๓ นาฬิกา

หมายเหตุ แก้ไขคำผิด และ เพิ่มสีให้อ่านได้ง่ายขึ้น ขอบพระคุณ มากครับ

เพลงอินเทรนด์ยามนี้..."รักต้องเปิด(แน่นอก)" ของวง "3 2 1 กามิกาเซ่" กำลังเป็นที่ฮือฮา...โดยเฉพาะ "เอ็มวี" ที่ถูกโหลดดูทางยูทูป...แล้ว 11 ล้านอัพ... แถมล่าสุดยังมีการปล่อยของให้ "จุกโผล่" บนเวทีคอนเสิร์ต...ของ "หนูแซ่บเว่อร์...สั้นเสมอหู" (คนเคยรู้ใจของนักโทษเหลี่ยมจัด) ก็ยิ่งทำให้ "เรตติ้งกระฉูด" ขึ้นไปอีก แต่ก็มีความพยายามจะเอาใจเชลียร์ของ "สื่อทาสเงิน" โดยเฉพาะ "มติชิน-ข่าวบูด" ที่ออกเยินยอ "นักโทษเหลี่ยมจัด" ที่โยนเศษเงินจากภาษีของประชาชน...ผ่านหน่วยงานต่างๆ ไปให้เป็น "ค่าโฆษณา"ก็เลยทำให้ "อุดมการณ์...เปลี๋ยนไป" จากที่เคยอ้าง "คุณภาพ"...คับประเทศ...ตอนนี้จึงเป็นได้แค่ "คุณภาพคับตระกูลขี้โกงแห่งชาติ"...ก็เท่านั้น

ความพยายามในการเชลียร์แบบลิ้นมันแผล่บๆ จาก "อาการปากเสีย" ในคืนวันครบรอบ 3 ปีแห่งการเผาบ้านเผาเมือง(หลวง) เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา...ที่หากมองด้วยใจเป็นธรรมก็ต้องยอมรับว่า...คำพูดที่เที่ยวด่ากราด "คนเห็นต่าง" นั้น...สามารถ "เรียกแขก" ให้ตื่นตัวและพร้อมจะกลับมา "ทวงความยุติธรรม" ให้สังคม...

1)ไม่ว่าจะเป็นการ "โยนขี้" ให้ "พรรคเก่าแก่" เรื่องการสลายการชุมนุม พร้อมหยิบยื่นเงิน 10 ล้านบาทจอมปลอม...ให้กับคนที่ชี้เบาะแสว่า "ใครสั่งเผาห้างดัง"ทั้งๆ ที่ "คนมีสติปัญญา" ต่างรู้กันดีว่า "ใครกันหว่า...ที่ยุยงปลุกระดมให้คนเผาบ้านเผาเมือง" เพราะมีคลิปเด็ดมัดตัว-มัดคำพูด...เฉไฉกันไม่ได้...แต่เป็นเพราะ "นักโทษเหลี่ยมจัด" เชื่อว่า "เสื้อแดง" สามารถจูงจมูกให้ซ้ายหัน-ขวาหันได้...จึงต้องการ "หลอกต่อไป" เพื่อรอ "งานใหญ่" ในการป่วนบ้าน-ยึดเมือง...ในอนาคตอันใกล้นี้

2)ไม่ว่าจะเป็นการพาดพิง "หน่วยงานปราบโกง" ที่เป็น "หอกข้างแคร่" และ "ไม่สยบยอม" จึงต้องปูดเรื่อง "นายแอ๊บ(แบ๊ว)" มาเรียกเงิน 600 ล้าน เพื่อแลกกับการเป่าคดีซุกหุ้นภาค 1...แต่หารู้ไม่ว่า "ความจริง" คือ "บอร์ดหน่วยงานปราบโกง" เค้าลงมติด้วยเสียงข้างมาก 8:1 ว่า "ผิดจริงๆ-ซุกหุ้นจริงๆ" ขณะที่ "ศาลรัดทำมะนวย...ยุคนั้น" ต่างหากที่ลงมติ 8:7 ว่า "ไม่ผิด" เพราะ "บกพร่องโดยสุจริต" แถมข้ออ้างที่พิลึกกึกกือคือ "เสียงข้างมาก...เลือกเข้ามา" จึงทำให้ "นักโทษเหลี่ยมจัด" หลุดคดี..ด้วยหลักรัฐศาสตร์อยู่เหนือหลักนิติศาสตร์

3)ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี "อดีตบิ๊กสีเขียว(เพื่อนร่วมรุ่น)" ว่าหักหลังเพื่อน แถมยังพาดพิง "หน่วยงานเฉพาะกิจตรวจโกง" ที่ถูกตั้งหลังปฏิวัติ...ว่ามีการเรียกรับเงินจาก "ลูกน้องเก่า 2 ราย" ที่เคยเป็น "เสนาบดี" เพื่อแลกกับการหลุดคดี...โดยอ้างหน้าตายว่า "มีถ่ายวีดิโอ" ด้วย

4)ไม่ว่าจะเป็นการให้ร้าย "กลุ่มไทยสปริง" ที่อารยะขัดขืนสู้ในเชิงสัญลักษณ์และปัญญา...ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์...ที่เป็น "จุดตาย" ของ "นักโทษเหลี่ยมจัด" เพราะไม่สามารถ "หลอก" ได้เหมือน "หลอกวัว-หลอกควาย" ให้หลงเชื่อได้ง่าย จึงหยิบคำพ้อง...มาเปรียบและเหน็บแนมจาก "ไทยสปริง" มาเป็น "ไทยปลิง" แถมยังใส่ไคล้ "อดีตสีกากีแก่" ที่เป็น "โต้โผ" คู่กับ "แก้วหน้าม้า" ว่า...ถูกเฉดหัวออกจากวัง...ซึ่งเรื่องนี้...ทางที่ดี "นักโทษเหลี่ยมจัด" ก่อนพูดอะไรไป...ควรโทร.ถาม "ช้างหัวเหม่งเมืองสุพรรณ" น่าจะดีกว่า...ว่าอะไรเป็นอะไร..อิๆๆๆ

5)ไม่ว่าจะเป็นการหลอกต้ม "ควายแดง" เรื่องผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับ "เห็บหมา" โดยกล้าพูดหน้าตายว่า "ให้ช่วยพี่น้องก่อน ผมไม่กลับไม่เป็นไร" ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เป็นคนออกมาเสนอหน้าพูดผ่านสไกป์ให้ "สมุนทาส" ฟังเองว่า...ฉบับเห็บหมามันไปไม่สุดซอย ต้องใช้ฉบับเป็ดเมาไวน์เท่านั้น...ถึงจะพากลับบ้านได้ เพราะตอนนี้นอนลอยคอในทะเลมานานแล้ว

ตัวอย่างข้างต้นที่ว่ามานี้ "สื่อทาสเงินคนโกงชาติ" กล้าพูดหน้าตาเฉยว่า..."นักโทษเหลี่ยมจัด" พูดออกมาจากใจ ที่ "แน่นอก"...มานาน...จึงจำเป็นต้อง "ยกออกจากอก" แต่งานนี้ "คลุกวงใน She หน้าโง่" แอบมากระซิบ "ไต่กอ" แบบเล่าเป็นซีรีส์ คล้ายละครเรื่อง "สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" ที่กำลังฮ็อตฮิตว่า คนที่จุกอกและเสียดอก...กลับกลายเป็น "น้องหน้าโง่" นั่นเอง...

ฉากจาก "วังโยธินพัฒนา"...กับ "เสียงรำพึง" จาก "น้องหน้าโง่" ถึง "พี่ชายจอมโกงชาติ"

ที่ "พี่" ส่งแฟ็กซ์..อยากให้พูด "ปาฐกถาเรียกแขก" ที่ "มองโกเลีย" ก็ยอมทำตามให้แล้ว ทั้งๆ ที่ "หนู" วางตัว "ติ๊ดชิ่ง...หนีปัญหา" มาตลอด...แต่เพราะ "พี่ขอ(แบบบังคับ)-หนูจึง(ยอม)จัดให้" แต่กลายเป็นว่า..."หนูเสีย...มากกว่า...ได้" เพราะคู่อริ...ที่เคย "ไร้เงื่อนไข" ในการออกมาเสนอหน้า...กลับมี "เหตุผล" และ "เงื่อนไข" ในการดาหน้ากันออกมา "รุมกินโต๊ะ" ลำพังตัวพี่เอง-ลูกๆ ของพี่-สารพัดเมียของพี่...คงไม่เป็นไรหรอก...เพราะ "โตจนหมาเลียตูดไม่ถึง" กันแล้ว แถมที่ "โกงกินไปมหาศาล" เผ่นไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เดือดร้อนหรอก...แต่ "ลูกชายหนูสิคะ"...ยังละอ่อน-ยังเด็กอยู่เลย...ยังมีชีวิตอีกยาวไกล..."คุณลุง" ไม่เห็นใจ "หลาน" บ้างเลยหรือ???

ว่านับจากนี้ไป...จะมีชีวิตอยู่บนโลกแห่งความจริงได้อย่างไร??? ที่สำคัญ...สารพันปัญหาก็ประดังเข้ามา...โดยเฉพาะเรื่อง "ปากท้องชาวบ้าน" ที่ "หนูไม่รู้...จะแก้ปัญหายังไง" ทั้งเรื่อง "ไข่หนู" ที่แพงมาก...แค่เดือนเศษๆ ขึ้นราคามาแล้ว 5 ครั้งแล้ว แถม "อำมาตย์ไพร่"...ลูกน้องของพี่...ก็ดันทำงานเก่งจริงๆ ราคาเมื่อวันก่อนยังอยู่ที่ 3.20 บาท...(ซึ่งแค่นี้...หนูก็แย่อยู่แล้ว) แต่ He ยัง "โชว์โง่" เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ปัญหาแบบสุดดดดด....ยอดดดดดด เพราะสั่งควบคุมราคาจาก 3.20 บาท...ให้เป็น 3.30 บาท...ซึ่งได้ผลทันตา...เพราะราคาขยับขึ้นตามปาก..."เผาไปเลยพี่น้อง"...ทันที

นี่ยังไม่นับรวมถึง "แท็กซี่รากหญ้า" ฐานเสียงของพวกเรานะ...คุณพี่ขา...ด้วยนโยบายของพี่เรื่อง "รถคันแรก" นะ...ทำดีมาก เพราะยอดขายของ "ลูกน้องพี่" เข้าเป้า...หลักล้านคัน แต่ทำให้ "ท้องถนนเมืองหลวง" ย่ำแย่...หนูต้องถูก "แท็กซี่รากหญ้า" ด่ารายวัน ที่ทำให้ "รถติด" และทำให้พวกเขา "หาเช้ากินค่ำ...ยากขึ้น" ยิ่งตอนนี้จะมาขอ "อัพราคาค่าโดยสาร" ขึ้นอีก

อย่างนี้ "หนู" ไม่แย่ตายหรือคะ...พี่ขา (555)

และพี่ต้องไม่ลืมด้วยนะว่า...ไฟดับทั่วภาคใต้ 14 จังหวัด...หนูก็โดนจนจุกอก-จุกเสียด...เหมือนกันนะ เพราะเวลาพี่คิดจะทำ-สั่งอะไรให้ลูกน้องทำ...ก็ควรกระซิบบอกหนูบ้าง...นี่เล่นไม่บอก ทำให้หนูเอ๋อเหรอ...ไปไม่เป็นเลย เพราะวันนั้น...หนูไปงานพระราชทานเพลิงศพของ "เสธ.หูกาง"...พอเสร็จงานก็กลับบ้านไปจัดกระเป๋า...เตรียมชุดแต่งสวยไปอวดโฉมที่แดนซากุระ แต่พอเจอเรื่อง "ดับไฟใต้" ในไม่กี่ชั่วโมง...หนูก็ทำอะไรไม่ถูกเลย แถม "ขี้ข้าพี่" ที่อาสามาทำมาหากินกับเรื่อง "พลังงาน" แทนที่จะมาออกหน้า-มาออกทีวี...ชี้แจงกับประชาชนถึง "แผนบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน"...แต่กลายเป็นว่า ดันนิ่งเฉย...ทั้งยังปากเสีย...ดอดไปพูดเรื่อง "ไฟฟ้าดับทั้งภาคใต้" ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน...ก็เล่นเอาหนูมึนเหมือนกันนะ...คุณพี่ขา พี่ลองคิดดูสิคะ...เหตุการณ์ไฟฟ้าดับ (Blackout) ทั่วประเทศไทย เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2521 หรือเมื่อ 35 ปีมาแล้ว...แต่ดันมาเกิดอีกครั้งในยุคที่หนูนั่งเป็น "ผู้นำหน้าโง่" แล้วอย่างนี้...หนูจะเอาหน้าไปไว้ไหน...เพราะ "ลูกชายหนู" ก็โดนเพื่อนล้อ...อยู่ทุกวัน

นี่ถ้า "ขี้ข้าพี่" ยอมแสดงสปิริต...ลาออกไปซะ...หนูก็คง "ลอยตัวเหนือปัญหา" ได้อีกครั้ง...แต่นี่ He เล่นดื้อด้าน...เหมือนใครก็ไม่รู้...หรือว่า "กำลังรอเขมือบ...คำใหญ่"...ในเรื่อง "พลังงาน" ที่ดีลอะไรกัน...หนูก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง...แต่ "เพื่อนชายที่สนิทม๊ากมาก" ของหนู เค้าถามว่า..."ดีลพิสดารเค้าไม่แบ่งให้เธอบ้างหรือ????"

ปล.-หนูขอร้องพี่ด้วยละกันว่า...เลิกเรียก "เพื่อนชายที่สนิทม๊ากมาก" ของหนูคนนี้...ว่า "ผัวของหมอ" เพราะมันแสลงใจหนู...แค่หนูโดน "คำเปรียบเปรย" จาก "พี่ชัย ราชวัตร" หนูก็ไปไม่เป็นแล้วค่ะ...คุณพี่ขา...555

ตัดกลับมาที่ฉากจาก "วังจุฑาเทพ"...กับบทบาทของ "คุณชายรัชชานนท์" ที่กำลังเริ่มออนแอร์อย่างน่าติดตามยิ่ง

...เพราะ "ผู้กำกับ" ดันเป็น "คุณชายอ๊อฟ" ที่เคยสร้างวีรกรรมฮือฮา..."แผ่นดินของพ่อ" แล้วไล่คนที่ด่าว่าพ่อ...ออกจาก “บ้านพ่อ” มาแล้ว เพราะเพียงแค่ละครเริ่มต้น...ก็มีการโพสต์ถ้อยคำเด็ดดวงเรียกน้ำย่อย...ว่า "ถ้าแผ่นดินของเฮา บ่มีเจ้าหลวงสุริยวงศ์ ชาวเวียงพูคำ...กะบ่มีวันได้มีชีวิตที่เป็นสุขดอก มีแต่ข่าวก่อจลาจลทุกวัน ผู้คนอดอยากล้มตายไปเท่าใด๋ คนดีๆ บ่มีที่ยืน แต่คนเลวทรามกลับได้ดี เป็นจังซี้บ้านเฮือนเฮาาถึงได้ล่มจม" หรือคำแสบทรวงที่ว่า..."พวกเผด็จการก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น แก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ ก็ปล่อยข่าวหลอกลวงประชาชนไปวันๆ" งานนี้จะดราม่าหรือไม่...หลายคนกำลังลุ้นกันอยู่...แต่จู่ๆ  "เพ็ญศรีแห่งสหประชาชายบึกบึน" ก็ถึงกับอดรนทนไม่ได้...ออกมา "วี๊ดวิ๊ว" จีบปากจีบคอ...ซัดดักคอกันตรงๆ แบบไม่มีเหนียมอาย โดยพุ่งเป้าตรงไปที่ "คุณชายอ๊อฟ" ว่ากำลังนำเสนอละคร...เพียงเพื่อทำภารกิจ "ทาสีบ้านพ่อ" ที่สีจางลงเท่านั้น พร้อมกับตั้งคำถามแบบเหมือนช่วยปกป้องไปว่า "ช่องวิกน้อยสี" ไปเลือกคนแบบนี้มาทำละครแบบนี้ได้อย่างไร หรือเพียงต้องการนักระบายสีรุ่นใกล้ชรา มาทดแทนนักระบายสีรุ่นเก่า ที่ชราภาพหมดแรงไปแล้ว งานนี้บอกได้คำเดียวว่า...พล่านกันแล้ว เพราะเจอจี้จุดชั่วช้า...เต็มๆ!!!...

ตัดกลับมาสู่โลกแห่งความจริง...เมื่อมีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน" อันประกอบด้วย กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย, สมัชชาเกษตรกรไทยแห่งชาติ, แนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน และกลุ่มภาคีอื่นๆ รวมตัวปักหลักชุมนุมกันแบบสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ที่ท้องสนามหลวง เพื่อเป็น "หัวเชื้อ" รอ "The Voice...ตัวจริง-เสียงจริง" มาจุดติด...เพื่อให้ไฟกอบกู้ชาติ...ต่อต้านทรราชย์-ขับไล่ทุนสามานย์...กระทำภารกิจให้สำเร็จ ขณะที่ "หัวโจกเหลือง" ซึ่งอุบไต๋-รอจังหวะมานาน...ก็เริ่มเปิดไพ่...เรียกราคา...นัดประชุมหารือกันในวันจันทร์ 27 พ.ค.นี้ เพื่อ "ประเมินสถานการณ์" และ"กำหนดมาตรการเป่านกหวีด" ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่-อย่างไร...กันแล้ว นับจากนี้ไป...ให้รอดู "แกนปิด" จะเริ่มทยอยออกตัว-ออกหน้ามาเป็น "แกนเปิด" กันแบบ..."ขั้วอำนาจเหลี่ยมจัด" มึนงง

ล่าสุด "ปิศาจคาบไปป์" ออกมาจุดประเด็นเรื่อง "ออกกฎหมายปรองดอง ฉบับปิดซอย" เพื่อตีแสกหน้า “ฉบับครึ่งซอย” ของ "เห็บหมา" และ “ฉบับสุดซอย” ของ "เป็ดเมาไวน์"...ก็ทำให้ "ขั้วอำนาจเหลี่ยมจัด" ถึงกับ "จุกอก"...แต่ยังไม่แตกตาย...555 เพราะข้อเสนอ...ที่ให้ลงโทษ "นักการเมืองทุรชน-ข้าราชการขี้ฉ้อ" รวมไปถึง "ครอบครัวตัวโกงทั้งหมด" แบบ "จัดเต็ม" ไม่มีรอมชอม ชนิดไม่ให้ผุดให้เกิดอีกนั้น...ถือว่า เป็นการจงใจจี้ใจดำ...และส่งสัญญาณชัดแจ้งว่า "เกมแตกหัก...รออยู่เบื้องหน้า" หากจับสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่า ที่ผ่านมา "ขั้วต่อต้านอำนาจเหลี่ยมจัด" ปล่อยไหลให้ "ขั้วอำนาจเหลี่ยมจัด" ใช้อำนาจอย่างหลงระเริงและเต็มที่...เพราะมันคือ "จุดตาย" ที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

เมื่อถึงเวลาที่ "ประชาชน" ได้รับผลกระทบตรงๆ ล้วนๆ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องและการกดขี่ทางสังคม...ที่พื้นฐานและนิสัยของคน(ส่วนใหญ่) หากตัวเองยังไม่เดือดร้อนและไม่เจอปัญหากับตัวเอง...ก็จะเป็น "ไทยเฉย" แต่หากเมื่อใด...ตัวเองมีผลกระทบแบบไม่มีทางออก...ถึงเวลานั้น..."อยู่เฉยไม่ได้"...และพร้อมจะออกมาเป็น "พลังขับไล่" ขออภัยในความไม่สะดวก...รอบหน้า...จะมีจุดเริ่มต้นจากพวก "ไทยไม่เฉย(แล้ว)"...อีกไม่นาน สำหรับพวกทรราชย์ทั้งหลาย...อีกไม่นานคงจะรู้ว่า "นรก..ไปทางไหน"

แต่เอ๊ะ...สำหรับ “หนูหน้าโง่” ยังไงๆ ก็คิดถึง “ลูกชายตัวน้อย” บ้างนะ...ว่า “ในอนาคต” จะมีชีวิตอยู่อย่างไรกับสิ่งที่ “ลุง-ป้า-น้า-อา-พี่ๆ-พ่อ-แม่” ทำเอาไว้...กับแผ่นดินเกิด...เพราะการไปใช้ชีวิตในต่างแดนมันเปล่าเปลี่ยวอย่างไร...ถาม “ลุงหน้าเหลี่ยม” ก็ได้นะ...จะบอกให้...555...

คอลัมน์ "ซุบซิบไทยอินไซเดอร์"

โดย "ไต่กอ"

 

 

 

http://thaiinsider.i...-05-25-02-07-29

ก๊อปมาให้อ่านอะครับ
 

เคยอ่านสัมภาษณ์ค่ะ เขาให้สัมภาษณ์ว่า บทที่เขาเล่นนั้นนักแสดงมืออาชีพเล่นไม่ได้ หรือถ้าจะเล่นต้องเสียเวลาในการซ้อมนาน ซึ่งเวลาในการซ้อมมีไม่มากนัก ตัวเขาเองคล่องทุกบทที่เป็น "พญามังราย" สามารถสวมบทบาทได้เลย

ฝรั่งมันก็ชอบดูคนบ้าเหมือนกันแฮ่ะ...

.

ผู้นำต่างชาติที่มาร่วมประชุมเขาคงเห็นแปลกดี ทำไมคนที่เป็นถึงรองนายกฯจะมีเวลาถึงขนาดนี้ งานว่างมากนักซีนะ ที่จริงเรื่องการแสดงต้องยกให้เป็นหน้าที่นักแสดง ไม่ใช่คนขนาดรองนายกฯต้องมาเสียเวลาในเรื่องนี้ ผิดงานหรือเปล่า อย่างนี้เองที่ทำให้น้ำท่วมใหญ่คราวที่แล้ว เพราะไม่รู้จักหน้าที่แต่มั่วไปหมด จนกระชาติเจ๊งไปอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นครับ

ขอขอบคุณ...http://www.oknation....3/05/24/entry-2

แต่ก็ยัง

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == น้อยกว่านางนี้นะ    

V

ตกลงขายไรแว้ ระหว่าง ขายชาด กับ ขาย He

หากจำไม่ผิด ทักษิณถือหุ้นเหมืองถ่านหินที่ อูกันด้า

หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่เกิดขึ้น คุณว่าใครจะได้สัญญาส่งถ่านหินผลิตไฟฟ้า

 ที่กังวลและสับสนอีกอย่างคือมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ

 ทางสภาอุตฯ ประเมินว่าถึง หมื่นล้าน แต่นักเศษสาดเจ้าประจำ

 แห่งมอหอการค้า... คำนวนออกมาไม่มากไม่มายแค่ห้าร้อยล้าน

 จะน้อยหรือจะมากเค้าก็เสียหาย จะถามหาความรับผิดชอบจากหมาตัวไหน

ดูคลิปแล้วก็ เอ่อ

คล้ายกะพูดผิดไปนิดคือ

ครั้งต่อไป ขอให้ช้าเพิ่มขึ้นอีก ห้าชั่วโมง

หน่วยอะไรของมันไม่รู้ครับ

เบี่ยงประเด็นตรงไหน???????

ส่วนตัวผม  คิดว่า การปลอมอัตลักษณ์ของผู้อื่นในเว็บบอร์ด ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นครับ

เพราะหากผู้ปลอมตัวตนได้โพสต์รูปลามกอนาจาร หมิ่นประมาท หรือหมิ่นสถาบันขึ้นมา

เจ้าของอัตลักษณ์ซวยไปด้วยครับ

แม้ไอพีจะคนละไอพี แต่ถ้าเรื่องถึงตำรวจ เจ้าของอัตลักษณ์ยังไงก็โดนสอบปากคำ

เสียความรู้สึก เสียเวลา เสียชื่อสุดๆ

ผมถึงคิดว่าการที่ผู้ปลอมล็อกอินและรูปถ่ายท่านโทนี่

ไม่พึงจะมาลอยหน้าลอยตา "เค้าขอโทษนะตัว เค้าไม่ได้ตั้งใจ" แล้วสังคมจะยกโทษให้

คห.ส่วนตัวผม ต้องแบนไอพีถาวรเท่านั้น  ไม่ใช่แค่แบนล็อกอิน

แต่นี่ เจ้าคนล่วงละเมิด โดนแบนไปแล้ว กลับเข้าสมัครใหม่ได้อีก

เพื่อจะมาตั้่งกระทู้ "ตัวจ๋า เค้าขอโต้ด"

ผมไม่ขำนะครับ

ถ้าผมทำเว็บไซต์  

กรณีปลอมอัตลักษณ์ หรือสวมรอยอัตลักษณ์ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงอันดับหนึ่งเลยครับ

ขอบคุณครับ คุณโจโฉ

กระทู้นี้ เป็นความพยายามให้เจ้าของกระทู้แสดงสปิริต

ในการรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป โดยเฉพาะเมื่อการกระทำนั้น

อยู่ในขอบข่ายของความผิดทางกฏหมาย ซึ่งสามารถทำให้ผมนำไปดำเนินคดีกับเจ้าของกระทู้ได้ไม่ยากนัก

สิ่งหนึ่ง ที่ผมพยายามแสดงให้เห็น โดยเลียนแบบมาจากคุณ TFEX อีกที

คือการแสดงความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อสังคมเล็กๆ แห่งนี้ (รวมถึงที่พันทิป ซึ่งผมใช้ชื่อลอคอินเดียวกัน อวตารเดียวกันกับที่นี่)

(ขออภัยที่อ้างชื่อคุณ TFEX ครับ)

ผมก็เป็นมนุษย์ปุถุชนคนนึง ที่มีโอกาสทำผิดพลาดได้ง่าย

การลงหน้าตัวเองเอาไว้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการเตือนสติตัวเอง

เพื่อให้ระมัดระวังต่อความเสี่ยงใดๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง

(แต่เหตุผลที่ต้องเอาแว่นดำมาใส่ ก็เพื่อปกปิดความไม่หล่อไว้บ้าง)

แน่นอนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นเรื่องใหม่ วิธีการใหม่

ที่ยังไม่เคยมีใครถูกกระทำเช่นนี้มาก่อน

ผมจึงคิดว่า มันไม่ควรเป้นเยี่ยงอย่าง แก่สมาชิกท่านอื่น

หากเพราะตัวตนเสมือนในโลกออนไลน์ของผมนี้

ผมก็ใช้กับมันไปทุกที่ และใช้มาเป้นเวลานาน

แม้แต่ในค่า EXIF file ของรูปถ่าย ซึ่งเป็นข้อความแสดงลิขสิทธิ์ภาพถ่ายใดๆ

ผมยังใช้ชื่อนี้เลยครับ

มันจึงสำคัญ และบอกความเป็นตัวผมได้ในระดับนึง

ดังที่หลายท่าน ก็น่าจะพอนึกออก ว่าหากเอ่ยชื่อนี้ จะนึกถึงใคร

ดังนั้น มันจึงเป้นความสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชื่อจริง ตัวจริงแต่อย่างใด

การตั้งกระทู้ก่อนนี้ขึ้นมา เพื่อเรียกหาความรับผิดชอบจากเจ้าของกระทู้

โดยพร้อมดำเนินคดีทางกฏหมาย หากไม่ได้รับความกระจ่าง

จนมาถึงการตั้งกระทู้นี้ของเจ้าของกระทู้

จริงอยู่ ด้วยตัวของผมเองคนเดียว

ผมคงไม่สามารถตรวจเช็ค สืบทราบได้ ว่าเจ้าของกระทู้เป็นใคร

มีอดีตเป็นใคร ลอคอินไหน เว้นแต่การดำเนินการทางกฏหมาย

แต่เมื่อเจ้าของกระทู้ ยอมรับสารภาพในระดับหนึ่ง

ถึงแม้ว่าจะยังไม่เป้นที่พอใจของผมมากนัก

และยังไม่สามารถสืบทราบได้ ว่าเป็นใคร 

ผ่านการไตร่ตรองมาระยะเวลาหนึ่ง

ผมจึงเห็นควรที่จะไม่เอาเรื่อง สำหรับการกระทำในครั้งนี้

ดังที่ผมได้รับปากเจ้าของกระทู้เอาไว้แล้ว

ถือว่า เราต่างยึดเป็นคำมั่นสัญญาแบบลูกผู้ชายกันนะครับ

ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

เพราะอย่างที่ผมบอกไว้ข้างต้น ว่าเป็นการไม่เอาเรื่องเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นไปแล้วครั้งนี้ครั้งเดียว

หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จากการกระทำของเจ้าของกระทู้อีก

สัญญาว่า แม้เจ้าของกระทู้จะทำกับคนอื่น ผมก็ยินดีจะช่วยเพื่อนสมาชิกท่านอื่นนั้น อย่างเต็มกำลัง

เพราะถือว่า คุณกำลังละเมิดในความเป็นส่วนตัว ละเมิดกฏหมาย

และเป็นเจตนาอย่างแท้จริง

หวังว่า ผมยังจะสามารถพูดคำว่าลูกผู้ชายกับคุณได้อย่างเต็มปากตลอดไปนะครับ

สำหรับคำแนะนำของเพื่อนสมาชิก

แม้ว่าวันนึง อาจเกิดกรณีใดๆ ที่ทำให้พวกท่าน ต้องพูดคำว่า

“ผมเตือนคุณแล้ว”

ซึ่ง ผมเองก็ไม่ได้วางใจว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกครับ

แต่คิดว่า ผมจะยกโอกาสให้เป็นกรณีพิเศษไป อย่างน้อยเขาก็มารับสารภาพ

ทั้งในแมสเสสส่วนตัวและยอมตั้งกระทู้ตามความต้องการของผม

ผมจึงต้องขอฝ่าฝืนคำแนะนำด้วยความหวังดีของเพื่อนสมาชิกไปก่อน

และต้องขอขอบคุณเพื่อนสามชิกทุกท่านครับ

ที่กรุณาแนะนำ และร่วมแสดงความคิดเห็น

อย่างน้อย มันจะเป็นมาตรฐานของเสรีไทยต่อไป

ผมพูดกับเจ้ของกระทู้ไป ว่าเราต่างความคิดความเชื่อกันได้

โดนจริงๆ ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด...HA HA HA สม!