Jump to content


nualtal

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 4 มิถุนายน 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:18
-----

#830856 อ้าว วันนั้นยังด่าเค้าอยู่ แถมบอกว่าต้องจ้างเค้ามาไม่ใช่เหรอ

โดย nualtal on 2 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:03

ไอ้เต้นกำมะลอ..เองเอาไงแน่ไปว่าเค้าเป็นพลเมืองอังกฤษ..อ้าวแล้วยังงั้นเค้าจะไปหนีทหารได้ไง..ฮี่ธ่อโกหกตอแหลซะจนตนเองยังสับสนโง่งงงวยเลย..


#812084 อึ้ง!ดูคลิป..ธาริตยกอิปูเป็นประมุขของประเทศ!!! อีกอึ้งคือ รูป...

โดย nualtal on 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 21:38

***...เอี้ย....อิ้บอ๋าย..ไอ้เนี่ย..เมื่อไหร่ตายยย..ซะทีวะ


#787339 ดูความเห็นของผู้อ้างว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่... ไม่แปลกใจเลยขอรับ...

โดย nualtal on 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 10:29

เฮ้อ..สื่อเสื้อแดงฝากฝังชุดความคิดแบบนี้ได้ลึกซึ้งแบบนี้..แล้วสาวกยังกล้ามาโพสแบบนี้..ของเค้าแรงดีมีคุณภาพจริงๆ..ซึมกับเสียงส่วนใหญ่15ล้าน มอ มออออ...เอาเลยไงก็อย่าลืมจ่ายภาษีทำหน้าที่พลเมืองดีของรัดถะบานนี้หน่อยแล้วกัน..เงินที่รัดถะบานต้องใช้หนี้รับรองไม่เกี่ยวกับประชาชนอย่างพวกท่านจริงๆน๊า.


#786382 บิ๊กตู้ ทนไม่ไหว!! ขยับแล้ว!!! ด่ายับ “โง่แล้วดันภูมิใจ”...

โดย nualtal on 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:04

โดน..จริงๆ.


#774395 คอนเฟิร์มว่า "คลิปเสียงบันลือโลก" ว่าเป็นของจริงนะครับ ในฐานะคนคุ้นเค...

โดย nualtal on 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 22:18

เด็จพี่ว๊อกเอ้ย..ตัดต่อได้เมพกว่า 40 นาทียังงี้ก็น่าให้ผู้ตัดต่อเมพสร้างออกมาเป็นซีรีย์แข่งกะซีรีย์คุณชายเลยเอาให้ฮอตกว่าสุดๆไปเลยดิ..


#744337 เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง: กลับมาแล้ว

โดย nualtal on 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:25

ทำไมยังไม่สำเหนียกอยู่อีกนะป่านนี้แล้วนะด๊อก..ทั้งกวนทั้งเกรียนเลย ยังจะมาอ้างเมตตาคนอื่น..พร้อมพยายามยัดเยียดความคิดที่แถแบบดึงด้นที่สุด...เอางี้ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องในห้องนี้ตอนนี้ด๊อกก็น่ายอมรับความ คิดเห็นส่วนใหญ่ที่ไปแนวทางเดียวกันในนี้สิ..เพลียกับด๊อกนี่จริงๆ


#739711 เคยสงสัยกันมั๊ย..ข่าวจับยาเสพติดรายเล็กรายใหญ่ทั้งหลายตามที่แถลงข่าวจบแล้วมีก...

โดย nualtal on 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:44

[quote name="Alone" post="739685" timestamp="1370510427"]ถ้าเป็นในหนังฝรั่ง...ยาเสพย์ติดพวกนั้นก็จะถูกตะกวดฝรั่งเอาไปรีไซเคิลขายทอดตลาดอีกครั้ง
และพระเอกก็จะแนวๆ ตำหนวดน้ำดีต้องปราบปรามตะกวดชั่วที่คอรัปชั่นภายในองค์กรณ์
 
แต่ของประเทศไทย...ยาเสพย์ติดพวกนั้นยึดมาก็รีบเผาทำลายทิ้งหมดแล้ว เพราะตำหนวดไทยเป็นคนดี
ซื่อสัตย์ มีจริยธรรม ไม่โกงกิน ไม่มีเส้นสาย ไม่เล่นพรรคพวก ไม่มีต้องส่งส่วยนาย ไม่คอรัปชั่น
เป็นที่พึ่งพาของประชาชนไม่ใช่โจรในเครื่องแบบ และเป็นตำหนวดที่ดีสุดใน 3 โลกเบย
 
ไม่มีหรอกลักล่งลักลอบออกมาขาย ไม่มี้---
- -_-[/quote
งั้นลองเอาพล๊อตแบบนี้มั่งนะ..พรุ่งนี้มีแถลงจับรายใหญ่..เอาข่าวนี้ให้มันกลบกระแสที่พรรคพวกโดนโจมตีอยู่.
ว่าไงนะ..แค่นั้นไม่รายใหญ่พอเว้ย ไปเอาของที่เก็บอยู่มาเพิ่มให้ไว..พวกเอเยนต์ ลูกค้าบอกรอก่อนจบข่าวก่อนถึงแบ่งไปก็แล้วกันนะ..พวกนายทำพล๊อบจัดฉากให้เนียนด้วย..แล้วท่านก็เดินไปขึ้นรถเบนซ์คันหรูที่มีลูกน้องในเครื่องแบบเปิดรอท่านอยู่
..


#738770 เรากำลังล้าแรง ถอยหลังให้ประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้ากันไปแล้ว..

โดย nualtal on 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:05

วันนี้เจอเพื่อนร่วมงานต่างชาติผู้มีภรรยาเป็นคนฟิลิปปินส์คุยว่าตอนนี้เศรษฐกิจที่ห
ฟิลิปปินส์เบ่งบานมาก จีดีพีกำลังวิ่งแซงหน้าชาติอื่นๆในภูมิภาค..หันกลับมาบ้านเราดูแล้วมันเศร้าใจเป็นที่สุด ...ฝากความหวังไว้กับพวกที่ผิดฝาผิดกลุ่ มปล่อยให้ช่วยยำซ้าเละเทะกันเลยเถิด...เลยเปิดดูบทความจากเวปสนุกมาอ่านกันค่ะ

นอกจาก "เวียดนาม" แล้ว "ฟิลิปปินส์" ก็กำลังจะแซงไทย ?

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ประกาศด้วยความภูมิใจว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์คือ Texas Instruments (TI) ตัดสินใจจะลงทุนสร้างโรงงานประกอบ semi-conductor ที่ทันสมัยเพิ่มเติมจากโรงงานเดิม โดยการลงทุนจะมีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ ทั้งนี้ในรอบสุดท้ายที่ตัดสินใจเลือกฟิลิปปินส์นั้นประเทศคู่แข่งคือจีน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะปกติแล้ว ประเทศที่เป็นที่โปรดปรานที่สุดของนักลงทุนจะต้องเป็นประเทศจีนมาโดยตลอดเพราะต้นทุนในด้านแรงงานต่ำที่สุด แต่ระยะหลังนี้ ค่าจ้างแรงงานถูกปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ความ ได้เปรียบของจีนในด้านนี้ลดน้อยลงมาเรื่อยๆ ที่สำคัญคือฟิลิปปินส์มีแรงงานที่มีฝีมือเป็น จำนวนมากเพียงพอ (การลงทุนใหม่ของ TI นี้จะสร้างงานเพิ่มอีก 3,000 ตำแหน่ง) นอกจากนั้นฟิลิปปินส์ก็ยังได้เปรียบในด้านที่พนักงานฟิลิปปินส์มีความรู้ความสามารถในการพูด และเขียนภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี ทำให้อุตสาหกรรมอีกประเภทหนึ่ง คือการให้บริการตอบข้อสอบถาม 24 ช.ม. เป็นอุตสาหกรรมที่จ้างงานคนฟิลิปปินส์เป็นจำนวนมาก เพราะเวลาในสหรัฐกับเวลาในฟิลิปปินส์นั้นแตกต่างกัน 11-12 ช.ม. ซึ่งเหมาะสมยิ่งกับการให้บริการ ดังกล่าวจากประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงกลางคืนของที่อเมริกา TI นั้นเดิมมองว่าจะมาตั้งโรงงานในเอเชีย โดยจะต้องเลือกจากประเทศฟิลิปปินส์ จีน ไทยและเวียดนาม แต่ไทยและเวียดนามตกรอบไปก่อนแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะฟิลิปปินส์นั้นปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจด้อยกว่าไทยอยู่มาก อัตราเงินเฟ้อสูงกว่า (ประมาณ 5%) รัฐบาลมีปัญหาคอร์รัปชั่น ขาดประสิทธิภาพและมีหนี้สินถึง 87% ของจีดีพี (หนี้ภาครัฐของไทยเท่ากับ 40% ของจีดีพี) โครงสร้างพื้นฐานก็มีปัญหา เช่น ไฟฟ้าไม่พอใช้ต้องมีการดับไฟเป็นครั้งคราว จริงอยู่ฟิลิปปินส์รายได้ต่ำกว่าไทยมากคือมีประชาชน 91 ล้านคน และจีดีพีประมาณ 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (จีดีพีต่อหัวประมาณ 1,300 เหรียญต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับไทยซึ่งมีประชากร 65 ล้านคนและจีดีพีประมาณ 220,000 ล้านเหรียญ จีดีพีต่อหัว 3,400 เหรียญต่อคนต่อปี) จึงคงจะมีค่าแรงที่ราคาถูกกว่า แต่ในปัจจัยเศรษฐกิจของไทยดีกว่าฟิลิปปินส์มากและเป็นฐานการลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญอยู่แล้ว การที่เราพ่ายแพ้ฟิลิปปินส์จึงเป็นเรื่องที่ต้องถามตัวเองว่าทำไม เราจึงไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนที่สำคัญอย่าง TI ให้มาลงทุนในไทยได้ จากรายงานของหนังสือพิมพ์ Asian Wall Street Journal วันที่ 4-6 พฤษภาคม การลงทุนใหม่ของ TI นั้นจะตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานเดิมในเขตการลงทุนพิเศษที่ Clark Freeport Zone ซึ่งเดิมเคยเป็นฐานทัพของทหารสหรัฐ จะเห็นได้ว่าเป็นการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ ในขณะที่ประเทศไทยก็เคยดำริที่จะใช้อู่ตะเภาในเชิงพาณิชย์เมื่อ 10-15 ปีก่อน แต่ก็ทำไม่สำเร็จในที่สุด อู่ตะเภาซึ่งมีทั้งสนามบินและท่าเรือนั้นน่าจะมีความคล้ายคลึงกับ Clark Freeport Zone จึงน่าจะเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยเพื่อเปิดลู่ทางให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง แต่แนวนโยบายของเราในขณะนี้ค่อนข้างคิดกันอยู่ในกรอบแคบๆ ไม่ต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวมากนัก และรัฐบาลก็นึกอยู่เสมอว่าจะอยู่บริหารประเทศอีก 7-8 เดือนเท่านั้น ซึ่งการอยู่เฉยๆ นั้นต้องยอมรับว่ามีต้นทุนในเชิงของค่าเสียโอกาส (opportunity cost) อย่างมาก เช่นแม้ว่าจีนจะไม่ได้รับเงินลงทุนจาก TI แต่เมื่อเดือนมีนาคม บริษัท Intel ประกาศว่าจะตั้งโรงงานสร้าง chip-wafer มูลค่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าการยืนอยู่เฉยๆ ของไทยนั้นจะส่งผลให้ไทยล้าหลังได้อย่างรวดเร็ว จีดีพีของไทยในปีนี้ลุ้นกันอยู่ว่าจะโตได้ถึง 4% หรือไม่จากการขยายตัว 5% ในปีที่แล้ว ในขณะที่เศรษฐกิจโลกขยายตัว 4.9% ทั้งในปีที่แล้วและคงจะขยายตัวเท่ากันในปีนี้ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยตกต่ำลงไปมากเมื่อเทียบกับ 20-30 ปีก่อนเพราะโดยเฉลี่ยนั้นจีดีพีไทยเคยขยายตัวปีละ 6-7% ในขณะที่เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.0-3.5% กล่าวคือเราเคยขยายตัวมากกว่าเศรษฐกิจโลกประมาณเท่าตัว แต่ขณะนี้กำลังขยายตัวต่ำกว่าเกณฑ์ของโลก จะไปโทษประเทศข้างเคียงในเอเชียก็ไม่ได้เพราะเอเชียโดยรวม (ยกเว้นญี่ปุ่น) นั้นขยายตัวเกือบ 9% ในปีที่แล้ว และน่าจะขยายตัวได้ 8.5% ในปีนี้ จริงอยู่การขยายตัวอย่างก้าวกระโดดนี้มาจากจีน ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวเกินกว่า 10% ติดต่อกันมา 2-3 ปีแล้ว แต่การขยายตัวดังกล่าวน่าจะเป็นโอกาสให้กับไทย ประเทศที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าเรามากเช่นฟิลิปปินส์ ก็จะยังขยายตัวได้ 6-7% ในปีนี้ ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะถึง 4% เช่นเดียวกับไทย บางคนอาจติงผมว่าทำไมจึงมาให้ความ สำคัญกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือเกิน คำตอบ (ที่กำลังมีการพูดถึงกันมากขึ้น) ก็คือ หากจีดีพีไม่โต 5-6% เด็กไทยที่จบการศึกษา ออกมาปีละ 700,000 คนจะหางานทำได้ยากลำบากขึ้น คุยกับใครก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจฝืดเคืองและผิดหวังกับการบริหารประเทศของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็ยอมรับว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่ให้ความหวังว่าจะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 เป็นต้นไป ซึ่งก็ยังไม่ได้มีใครแสดงความมั่นใจมากนักว่าการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นได้จริงดังคาด เพราะในไตรมาส 3 นั้นรัฐธรรมนูญก็น่าจะยังไม่เรียบร้อยและต้องรออีกหลายเดือนจากนั้นก่อนที่จะได้รัฐบาลที่มาจากคะแนนเสียงของประชาชน แต่หากมองในอีกแง่หนึ่งนั้นก็ต้องบอกว่าเศรษฐกิจไทยควรจะฟื้นตัวได้บ้าง เพราะหากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจแล้ว เศรษฐกิจไม่ควรจะชะลอตัวลง แต่ควรเป็นขาขึ้นอย่างยิ่ง สังเกตได้จากเศรษฐกิจในเอเชียทุกประเทศไม่มีประเทศไหนที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างประเทศไทยเลย ตรงกันข้ามเศรษฐกิจยุโรป เศรษฐกิจจีน หรือแม้กระทั่งเศรษฐกิจญี่ปุ่น ร้อนแรงจนต้องปรับดอกเบี้ยขึ้น สำหรับไทยนั้นการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดแปลว่ามีกำลังซื้อส่วนเกิน รัฐบาลเองก็ยังมีหนี้สินต่อจีดีพีไม่ถึง 40% จึงอยู่ในสถานะที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ใน ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับต่ำมากจนเป็นที่ทราบกันดีว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องลดดอกเบี้ยลงอีก ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือการใช้กำลังการผลิตที่สูงถึง 80% แล้ว แปลว่าธุรกิจต่างๆ จำต้องลงทุนเพิ่ม สรุปคือหากไม่มีอะไรร้ายๆ เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นด้านนโยบายเศรษฐกิจ หรือด้านการเมือง เศรษฐกิจก็น่าจะฟื้นตัวได้เพราะลักษณะของเศรษฐกิจไทยนั้นควรเป็นขาขึ้นแทบจะไม่น่าเชื่อว่ากลับกลายมาเป็นขาลงได้อย่างไร ดังนั้นหากมองในแง่นี้ก็ยังพอจะมีความหวัง แต่จะต้องเข้าใจว่าการฟื้นตัวที่ว่านี้จะเป็นการ ฟื้นตัวตามครรลอง มิได้เป็นการแก้ไขปัญหา โครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยแต่อย่างใด และก็จะเห็นได้ว่ารัฐบาลนี้คงจะมีเวลาเฉพาะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เราจึงต้องรอคอยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้เสนอแนวนโยบายเศรษฐกิจระยะยาว ซึ่งตรงนี้ก็ยังมืดมัวอยู่เพราะพรรคการเมืองถูกห้ามทำกิจกรรมใดๆ และเราอาจต้องเผชิญกับภาวะที่พรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดและพรรคการเมืองที่ประชาชนนิยมมากที่สุดจะต้องถูกยุบพรรค ด้วยเหตุนี้เองการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยจึงคงจะเป็นไปแบบลุ่มๆ ดอนๆ ทำให้มีบางคนกลัวว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่เป็นตัว "V" หรือเป็น ตัว "U" แต่อาจเป็นตัว "L" เพราะคนไทยกำลังถูกตีกรอบมิให้มีทางเลือก จึงทำให้เกิดความกังวลว่าทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ใกล้จะแซงหน้าไทยแล้วครับ


#738679 ดร. ดร.โสภณ พรโชคชัย เป็นคนโกหก

โดย nualtal on 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:03

เห็นเขา BYE คนอื่นไปทั่วแล้วนี่่ครับ
 
อีกสักพักคงต้อง Bye ไปจากบอร์ดนี้แล้วล่ะ

.....ขอให้เป็นจริงตามนั้นด้วยเถิดเจ้าประคู้ณ...


#738318 ขอแนะนำตัว ดร.โสภณ พรโชคชัย (ผมเองครับ)

โดย nualtal on 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 15:56

ดูเหมือนจะมีความรู้ท่วมหัวท่วมหางไปซะหมด..แถมมาออกอาการโวต่อมาซะใหญ่โตว่าตัวเองฮอตที่สุดในชั่วโมงนี้..ไงก็ย้อนกลับดูตัวเองนิดส์นะ..ด๊อก..ความเห็นส่วนใหญ่เสียงข้างมากใน สรท ไปในทิศทางไหนกันล่ะ..สู้ไปอยู่ที่อื่นที่แสดงเดชตามสรรพคุณต่างๆ แล้วผู้คนรับรู้สรรเสริญด๊อกน่าจะ หลายที่อยู่นะ..ไปเหอะนะ.เฮ้อ.น่าเบือเหลือเกินเยียวยาแล้วจริงๆ.


#736093 ขอประนามนายโสภณ พรโชคชัย

โดย nualtal on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:37

ประนามด้วย..หวังว่าด๊อกน่าจะรู้สำเหนียกได้แล้วนะ