joonkung

คืนนี้ผมอ่านข่าวของ Voice of America เข้าไปแบบช่วยไม่ได้ หัวข้อเรื่องคือ US ‘Reasonably Confident’ No Military Coup in Thailand อ่านจบผมถึงกับสตั๊นไปเกือบนาทีและเริ่มเข้าใจอะไรบางประการเกี่ยวกับสิ่งที่ผมไม่เข้าใจมาสามวัน ทุกอย่างเริ่มกระจ่างขึ้นเมื่อมีตัวละครไอ้โม่งออกมาหน้าเวทีอีกตัว มันคืออเมริกันอันตรายนี่เอง

**** ผมไม่ค่อยชอบใจคำพูดและการตัดสินใจของลุงกำนันสักเท่าไรในช่วงสองสามวันนี้ ดูลุงกำนันแกเหี่ยวๆและเริ่มเปิดเกมส์รุกที่แปลกๆจากเดิม ผมคิดว่าหลายๆคนคงรู้สึกได้ เอาแค่กำนันบอกว่าถ้าแพ้จะมอบตัวในวันที่ 27 นี้ผมก็รู้สึกถึงสัญญานที่ไม่ดีแล้วในน้ำเสียง ตามปกติแกจะไม่พูดเรื่องแพ้เลยสักนิดมาตลอดหกเดือน
**** ท่าทีของรักษาการประธานวุฒิสภาที่แสดงท่าทางลดเกียร์ต่ำพร้องกดเบรคเบาๆ เปิดทางให้รัฐบาลผีหัวขาดได้เจรจา จนถึงขนาดเขาไม่มาคุยด้วยในสภาก็จะบินเองตามไปถึงเชียงใหม่เพื่อขอคุยด้วยแบบไร้เกียรติและน้ำยาของรักษาการประมุขวุฒิสภา
**** ทหารใหญ่ยังคงแทงกั๊ก ปล่อยให้สถานะการณ์ไหลไปเรื่อยๆ บ้านเมืองจะฉิบหายย่อยยับก็ไม่สนใจ และยังคงใจหินกับทหารระดับล่างที่มีแต่ไม่กระบองกับไฟฉายดูแลบังเกอร์เหมือนหุ่นไล่กาโดยไร้อาวุธเท่านั้น เขายิงกันก็คงได้แต่มุดหัวหลังกระสอบทรายเอาชีวิตรอดไว้ก่อน เพราะนายพลแก่ๆระดับต้องกินทั่งเช่าเข้าไปเต็มท้องแท้ๆ

ทั้งสามข้อที่ผมไม่ค่อยจะชอบใจมาสามวันนั้นมันเห็นเบาะแสบางอย่างหลังจากที่ผมอ่านบทความนี้จบลง ในการประชุม Centre of Strategic and International in Washington (CSIS) ที่วอชิงตัน เมื่อวันอังคารนี้เอง ข่าวเรื่องนี้สดมาก ได้ให้ความเห็นเรื่องวิกฤติของไทยโดยผมจะแปลแบบสั้นง่ายเฉพาะให้ข้อสรุปดังนี้

//// พารากราฟแรก อเมริกายังเชื่อว่ากองทัพไทยยังไม่เข้าแทรกแซงการเมืองและอเมริกามีความชื่นชมกองทัพไทยที่มีความอดกลั้น และเราก็ติดตามดูอยู่อย่างไกลชิดและติดต่อฝ่ายไทยตลอดเวลา อเมริกาจะยืนเคียงข้างไทยในช่วงเวาอันลำบากนี้และมีการร่วมมือทางการทหารในระดับดีเยี่ยม ??????
**** ผมอ่านแล้วผมแปลไทยเป็นไทยว่าอเมริกามันเหรี้ยไม่เลิก สรุปว่าเรื่องที่ออกมาให้เห็นทุกวันนี้คือปฎิบัติการทางการเมืองของทหารไทยและอเมริกาใช่ไหม ประโยคสุดท้ายให้เด็กนักเรียน ม.3 แปลมันก็ต้องออกมาแนวนี้ ต่อให้กำนันสู้ให้ตายคาถนน ทหารไทยที่ได้รับการดูแลและติดต่ออย่างไกลชิดกับอเมริกาก็คงไม่เปลี่ยนจุดยืนของตัวเองตามที่อเมริกาเองก็อยากให้เป็นไปแบบนั้น

//// ในพารากราฟต่อไปได้พูดถึงว่าวอชิงตันไม่ได้บังคับไทยในการแก้ปัญหา ประเทศไทยเป็นมิตรและหุ้นส่วนสำคัญของการค้าที่ทีกับสหรัฐ???? และสิ่งนี้สำคัญมากอย่างยิ่ง อเมริกาไม่ได้บอกว่าจะต้องแต่ปัญหาอย่างไร แต่อยากให้เป็นไปบนหลักการประชาธิปไตยและโดยสันติ
**** ผมอ่านแล้วก็ปรี๊ดอีกรอบ อเมริกาไม่ได้บอกว่าแก้อย่างไรแต่หวังว่าจะแก้ด้วยวิธีที่ข้อถูกใจนะเฟ้ย และคำว่ามิตรและหุ้นส่วนการค้ามันแสดงอะไรออกมาหลายอย่าง ผมนึกไปไกลถึงสนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือทางการทหารอย่างสัตหีบ และบ่อแก๊สธรรมชาติที่บริษัทอเมริกเข้าครองไปทั้งอ่าวในเวลานี้ มันบอกได้เลยว่าเกมส์ที่เล่นกันอยู่ตอนนี้ทั้งบนถนนและในสภา ทหารไทยอย่ายุ่งปล่อยให้ วิถีทางประชาธิปไตยแบบเหรี้ยๆมันดำเนินต่อไปซึ่งแน่นอนว่าระบอบทักษิณมันก็ยังอยู่รอดปลอดภัยดีทุกประการภายใต้การหลับตาของทหารตามที่อเมริกาอยากให้เป็น

//// อีกย่อหน้าหนึ่งอเมริกาได้พูดถึงสถาบันเบื้องสูงได้แบบระยำหมามาก อเมริกาพูดว่าความขัดแย้งของไทยจะคงมีต่อไป เพาะว่าสิ่งนี้เป็นความพยายมที่จะรักษาอำนาจที่มีมาต่อเนื่องมา 100ปีแล้ว สำคัญอยู่ตรงที่ใครจะได้สืบสันตติวงค์เมื่อทรงผ่านพ้นไปจากสิ่งที่ทรงเป็นอยู่ ไม่ว่าจะไล่นายกรัฐมนตรีออกไป ความพยายามที่จะรักษาอำนาจดังกล่าวก็ยังไม่จบสิ้นจนกว่าการสืบสันตติวงค์จะเสร็จสิ้น และเมื่อถึงเวลานั้นประเทศไทยจำเป็นต้องมีเพื่อน และเราก็คืออเมริกาที่ต้องการที่จะเป็นเพื่อนที่อยู่กับไทยในเวลานั้นด้วย
**** ผมอ่านแล้วปรี๊ดแตกสามเท่า กรวย กรวย กรวย ไอ้อเมริการะยำหัวกรวย มรึงไม่ต้องมายุ่งกับประเทศของกรู การสืบสันตติวงค์ของเรามีกฎมณเทียรบาลที่แน่นอนและไม่เคยมีปัญหามาตั้งแต่ตั้งราชวงค์ และปัญหาวุ่นวายของบ้านเมืองที่มีในเวลานี้ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับพระราชอำนาจและการสืบสันตติวงค์ กรวย กรวย กรวย อักลี่อเมริกา

//// ในวรรคต่อมาได้กล่าวว่าอเมริกามีอำนาจการต่อรองที่ดีในประเทศไทยและความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกองทัพไทย มีการติดต่อกับทุกภาคส่วน ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มั่นคง สำคัญมากกับอเมริกาในทางเศรษฐกิจและสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับกรุงวอชิงตัน
**** ผมอ่านแล้วแปลได้อย่างเดียวว่า อเมริกาเครมว่าที่กองทัพยังคงนิ่งในเหตุการณ์น่าจะมีผลว่าจากอเมริกาด้วย คำว่าในทางเศรษฐกิจและสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับกรุงวอชิงตันผมมองไปไกลถึงอเมริกาหมายถึงทักษิณแต่เพียงผู้เดียว

ผมไม่แปลกใจเลยว่าทักษิณไปทำธุระอะไรที่อเมริกาทำไมเมื่อสองสัปดาห์ก่อน บทความของ Voice of America ชิ้นนี้ที่ออกเมื่อสามวันก่อน ผมอ่านแล้วทะลุเลยว่า ล็อบบี้ยิสต์ของทักษิณทำงานล็อบบี้รัฐบาลอเมริกาได้ดีมาก การสนับสนุนระบอบทักษิณให้คงอยู่ในเมืองไทยของอเมริกาคือคำสัญญาว่าไทยจะเป็นลูกไก่ในกำมือของอเมริกาทั้งทางเศรษฐกิจและทางการทหารได้ตราบนานเท่านาน ระดับที่สามารถเข้ามาก้าวก่ายแม้กระทั้งสืบสันตติวงค์ในอนาคต

อ่านตัวเต็มได้ที่ VOA ลิ้งค์นี้ครับ เพิ่งออกมาให้อ่านกันคืนวันที่ 14 นี้เอง อ่านจบแล้วสงบจิตใจกันหน่อยนะครับ อย่าถึงขนาดต้องถอดรองเท้าปาจอกันเลย
http://www.voanews.c...ew/1914202.html

เพื่อน วปอ.ส่งมาให้ครับ/เสธ.อู๊ด

 

 

เครดิตร ของ กองทัพนิรนาม

https://www.facebook...561218070656356

 

 

ตัวผมคิดว่าถ้าจริงที่น่าผิดหวังสุดคือกองทัพไทย

 

 

 

http://www.manager.c...D=9570000019368

มติบอร์ด “ธ.ออมสิน” ยกเลิกปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ “ธ.ก.ส.” กู้วิกฤตศรัทธาลูกค้าแห่ถอนเงิน พร้อมให้คืนเงิน 5 พันล้าน และเร่งชี้แจงพนักงาน ยอมรับเปรียบเสมือนเลือดไหลออก สถานการณ์การถอนเงินรุนแรงมากกว่าเมื่อวานนี้ จนผู้จัดการสาขาร้องไห้

นางชูจิรา กองแก้ว ประธานคณะกรรมการธนาคารออมสิน ซึ่งเดินทางมายังโรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด ที่ชั้น 3 เพื่อประชุมหาแนวทางลดผลกระทบจากการแห่ถอนเงินของประชาชน โดยมีตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน หรือ สร.อส.มารอพบ เพื่อเชิญกลับไปประชุมที่ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ จากนั้น ประธานคณะกรรมการธนาคารออมสินเปิดโอกาสให้เข้าพบพร้อมสื่อมวลชน

ตัวแทน สร.อส. แจ้งต่อ นางชูจิรา ว่า สร.อส. ขอเชิญให้คณะกรรมการธนาคารกลับไปประชุมที่สำนักงานใหญ่ เพื่อชี้แจงพนักงานจำนวนมากที่รอคำตอบ และแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ปล่อยเงินกู้ยืมระหว่างธนาคาร (อินเตอร์แบงก์) ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จนเกิดการแห่ถอนเงินของประชาชนเปรียบเสมือนเลือดไหลออก ซึ่งวันนี้สถานการณ์การถอนเงินรุนแรงมากกว่าเมื่อวานนี้ จนผู้จัดการสาขาร้องไห้ ดังนั้น จึงต้องการคณะกรรมการระงับการให้เงินกู้ ธ.ก.ส.ดังกล่าว และขอให้ขอโทษที่อนุญาตให้ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานบอร์ดบริหารที่ให้สินเชื่อแก่ ธ.ก.ส.ไปที่จะต้องรับผิดชอบด้วย

นอกจากนี้ ควรจะแถลงข่าว หรือดำเนินการเพื่อเรียกความเชื่อของลูกค้าให้กลับคืนมา เพราะล่าสุด สร.อส.ทราบมาว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ธ.ก.ส.ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการเงินกู้ดังกล่าวเลย แต่ธนาคารออมสินยัดเยียดให้ ซึ่ง สร.อส.ต้องการทราบเรื่องนี้ และต้องการแนวทางแก้ไขในวันนี้ ซึ่งขณะนี้กรรมการธนาคารออมสินอยู่ระหว่างหารือร่วมกันถึงแนวทางแก้ไขปัญหาการถูกแห่ถอนเงิน

นางชูจิรา ยังได้แจ้งให้ตัวแทน สร.อส. ทราบว่า ภายใน 1 สัปดาห์นี้จะมีเงินฝากไหลเข้าฝากธนาคารออมสินประมาณ 100,000 ล้านบาท ส่วนการที่จะให้คณะกรรมการลาออกเพื่อรับผิดชอบนั้น คณะกรรมการไม่ได้ทำอะไรผิด หากจะให้ลาออก พร้อมกับนายวรวิทย์ ในช่วงรัฐบาลรักษาการจะทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ และคัดสรรผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทนได้

นางชูจิรา กล่าวว่า ตนทราบเรื่องการไม่ต้องการเงินของ ธ.ก.ส.เมื่อวานนี้ และเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว วันนี้คณะกรรมการธนาคารออมสิน จึงนัดกันเป็นการเร่งด่วน เพื่อพิจารณาว่าเพราะสาเหตุใด ธ.ก.ส.จึงไม่ต้องการเงิน แต่กลับนำตัวแลกเงิน หรือ P/N มาแลกเงินออกไปจากธนาคารออมสิน แต่เพิ่งแจ้งเมื่อวานนี้ว่าไม่ต้องการ ดังนั้น ต้องรีบคืนเงิน ซึ่งคณะกรรมการจะประชุมพิจารณากันในบ่ายวันนี้

นางชูจิรา กล่าวว่า วันนี้การประชุมคณะกรรมการไม่ครบองค์ประชุม เพราะกรรมการ 2-3 คนติดประชุมที่อื่นได้แจ้งไปว่าวันนี้การหารือเรื่องวิกฤตธนาคาร และที่จะให้รับผิดชอบอะไร เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร เพราะคณะกรรมการอนุมัติให้อินเตอร์แบงก์ปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ตามที่ ธ.ก.ส.ขอวงเงิน และช่วงนั้น ธ.ก.ส.ยังนำเงินมาคืนหนี้ก่อนกำหนด และแจ้งว่าจะเปลี่ยนเป็นอินเตอร์แบงก์ และเมื่อ ธ.ก.ส.ต้องการให้กำหนดวงเงินครั้งละไม่เกิน 5,000 ล้านบาท จึงประชุมเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2557 ซึ่งขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์แห่ถอนเงิน ซึ่งคณะกรรมการมีหน้าที่เพียงอนุมัติวงเงิน จึงพิจารณาไปว่าธนาคารออมสินมีขีดความสามารถอนุมัติเงินกู้ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งได้สอบถามธนาคารออมสินแล้ว ทราบว่า มีสภาพคล่องถึง 140,000 ล้านบาท การที่ ธ.ก.ส.ขอวงเงิน 20,000 ล้านบาท ก็ยังได้ปรับลดเหลือ 17,000 ล้านบาท

นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ กรรมการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลังหารือร่วมกัน สร.อส.มีมติต่อปัญหาการแห่ถอนเงินของประชาชน ดังนี้ คณะกรรมการธนาคารออมสินจะมีหนังสือเพื่อยกเลิกอินเตอร์แบงก์ที่ให้แก่ ธ.ก.ส.จำนวน 20,000 ล้านบาท และธนาคารออมสินจะดำเนินการเรียกให้ ธ.ก.ส.คืนเงินที่กู้ไปโดยรวดเร็วในทันที

พร้อมทั้งขอให้ ธ.ก.ส.ชี้แจงว่าเหตุใด ก่อนหน้านี้ได้มาขอกู้เงินกับธนาคารออมสินโดยมีหนังสือมาขอกู้เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นการขอกู้เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่อง แต่ล่าสุด ธ.ก.ส.กลับให้ข่าวว่ามีสภาพคล่องพอไม่จำเป็นต้องขอกู้เงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ คณะกรรมการธนาคารออมสินจะหารือถึงแนวทางในการสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็วต่อไป

 image.jpg   109.67K   44 downloads

ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

"บิ๊กตู่" หยันพวกกุปฏิวัติอย่ากลัวสิ่งที่มองไม่เห็น ลั่นถ้าจลาจลรัฐต้องรับผิด ยันชาติแค่เป็นไข้อย่าใช้ยาแรง

http://www.manager.c...D=9570000002082

 

ผบ.ทบ.โวยปฏิวัติข่าวลือไม่ต้องเชื่อ อย่ากลัวสิ่งที่ยังมาไม่ถึง รับสถานการณ์ต่างปี 53 หวังไม่เกิดความรุนแรง ลั่นในหลักการถ้ามีจลาจลรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ย้อนสื่อไปถาม "ยิ่งลักษณ์" ลาออกแล้วจบมั้ย เล่าเหตุก่อนใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยุคเผาเมือง จี้ตำรวจสอบใครป่วนม็อบ ระบุขณะนี้เหมือนคนทำข้อสอบงงไม่รู้จะตอบยังไง ย้ำอย่าเอาตนมาตัดสินปัญหา จวกหุ้นตกอย่ามาโทษทหาร โบ้ยสื่อวาดภาพเอง ขำพท.กุแผนลับ กปปส. ยันบ้านเมืองแค่เป็นไข้แต่อย่าใช้ยาแรง ตอก "ธาริต" อย่าลืมเรื่องปี 53
       
       

       
       วันนี้ (7 ม.ค.) ที่กรมแพทย์ทหารบก เมื่อเวลา 09.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันสถาปนากรมแพทย์ทหารบกครบรอบ 114 ปีถึงกระแสข่าวทหารเคลื่อนย้ายกำลังในช่วงนี้เพื่อทำการปฏิวัติว่า ข่าวลือก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ดังนั้นไม่ต้องเชื่อ เพราะเรามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลทุกปี และนโยบายในปี 2557ของกองทัพบกเป็นการนำพากองทัพไปสู่ความทันสมัยในอนาคต ในปีนี้เป็นวาระพิเศษที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เราจะนำยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ที่ได้จัดซื้อจัดหามาให้ประชาชนในกรุงเทพได้เห็นว่า สิ่งที่เราได้จัดซื้อมามีสมรรถนะเพียงใด แสดงให้เห็นว่าเราได้ใช้จ่ายงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ได้อย่างโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ อย่ามองคนละประเด็น
       
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีคนระแวงว่า ทหารจะใช้การปฏิวัติเป็นทางออกสุดท้ายนั้น คนไปกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เมื่อมองไม่เห็นก็อย่าไปกลัว คิดว่าทุกอย่างมีสาเหตุหมด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเรื่องเดียว ทุกเรื่องต้องมีสาเหตุ ต้องมีเงื่อนไข ดังนั้นต้องไปหาให้เจอว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่มีเหตุอะไรก็ไม่มีเรื่อง เหมือนเรื่องอีกากับวัว ถ้าวัวมีแผล อีกาก็จะมาจิกหลังทุกวัน ถ้าไม่มีแผลก็ไม่มีอีกา ประเทศชาติอยู่ด้วยกระบวนการ ศาลยุติธรรม องค์กรอิสระ ถ้าเราอยู่ด้วยการแก้ปัญหาที่ผิดวิธีจะสร้างปัญหาไปเรื่อยๆ
       
       เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่า การที่กลุ่ม กปปส.จะปิดกรุงเทพจะส่งผลให้เกิดการปะทะกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปะทะเกิดมาแล้วหลายครั้ง ลองย้อนกลับไปดูปี 53 ว่า เกิดอะไรขึ้น ในปี 53 มีสองฝ่าย คือรัฐบาล กับ กลุ่มต่อต้าน ส่วนปีนี้มีรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านคือ กปปส. และยังมีอีกกลุ่มที่เตรียมออกมาอีกสรุป คือ มี 3 กลุ่ม ซึ่งต่างจากปี 53 ตนขออย่างเดียวอย่าให้เกิดความรุนแรง ซึ่งทหารต้องดูแลประชาชนทุกพวกทุกฝ่ายไม่ให้บาดเจ็บล้มตาย ไม่ได้ดูแลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนต้องดูแลคนทั้งประเทศ ส่วนการปิดกรุงเทพของกปปส.ต้องคอยดูว่า จะเกิดอะไร ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่า จะเกิดอะไร เพราะไม่ใช่ กปปส. หวังเพียงอย่างเดียวว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายมีทางออกร่วมกัน หรือใครจะหวังให้ฆ่ากันตายหมด ใครก็ตามที่ทำให้เกิดความรุนแรงคนนั้นจะต้องรับผิดชอบจำไว้ ไม่ว่าพวกไหนก็แล้วแต่ ถ้าออกมาเมื่อไร ประชาชนตีกัน มีการบาดเจ็บล้มตาย จลาจล รัฐบาลต้องรับผิดชอบในหลักการ
       
       เมื่อถามว่า หากนายกฯ ลาออกจะจบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถาม “แล้วเขาออกไหมหละ ..ต้องไปถามนายกเอง “
       
       เมื่อถามว่า มีความต้องการให้ใช้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเข้าใจ ซึ่งตนอธิบายในที่ประชุม กอ.รมน.ที่ผ่านมา และชี้แจงว่า เราเคยใช้อย่างไร เพราะทหารถูกนำไปเกี่ยวโยงทุกครั้งไป ซึ่งตนชี้แจงถึงเหตุผล และความจำเป็นในการตั้งศอฉ. ขอย้อนกลับไปเมื่อปี 53 ก่อนประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง มีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง 6 ครั้ง มีการใช้อาวุธสงครามยิง โดยไม่รู้ว่า ใครทำ จึงมีการประกาศ พร.บ.ความมั่นคง จากนั้นมีการพัฒนาสถานการณ์ตามลำดับ โดยมีเหตุการณ์ใช้อาวุธสงคราม 24 - 26 ครั้งจึงมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจากนั้นยังมีการเหตุการณ์ความรุนแรงอีก 60 กว่าครั้ง
       
       “ทั้งหมดในปี 53 มีเหตุการณ์ความรุนแรง ใช้อาวุธสงคราม กระสุน และวัตถุระเบิดทั้งหมด 96 ครั้ง แต่วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งต้องไปพิสูจน์ทราบให้ได้ว่า เกิดจากใคร ซึ่งตนได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีและศอ.รส.ไปแล้วว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้ชัดเจนว่า เกิดอะไรขึ้นในขณะนี้ ใครเป็นคนทำ เรื่องนี้ต้องชัดเจน จะได้ไม่พัฒนาไปสู่ปี 53 ซึ่งในปีนั้นมีการประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงตั้งแต่เดือนก.พ.จนไปจบสิ้นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเวลา 9 เดือนเต็ม แต่ขณะนี้เพิ่งผ่านไปแค่ 2เดือน ผมพยายามหยุดไม่ให้ยืดยาวไปสุ่จุดนั้นจนทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทุกคนต้องกลับมาแก้ปัญหากันให้เจอ ผมไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่และประชาชนไม่ควรใช้ความรุนแรง ไม่ว่า ผมพูดอะไรก็เสียหายหมดทุกพวกทุกฝ่าย แต่จำเป็นต้องชี้แจง เพราะทหารทุกคนฟังคำสั่งผมอยู่ ไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นทหารต้องดูแลประชาชนทุกฝ่าย ทุกพวก ทุกสี ถ้าไม่เลิกสี ผมก็ต้องดูทุกสี ถ้ามี 10 สี ผมก็ดูคน 10 สี ขอให้ประชาชนเข้าใจ ใครก็ตามที่มีปัญหากัน ต้องไปหาทางกันให้เจอ อย่าเอาผมมาตัดสิน วันนี้เหมือนทำข้อสอบอยู่ ต่างคนต่างงงว่า ข้อสอบถามว่า อย่างไร ส่วนคนตอบก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร สรุปไม่เข้าใจทั้งคนออกข้อสอบ หรือนักเรียน จึงจะหากรรมการกลางมาตัดสิน ผมว่า มันไม่ใช่”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
       
       เมื่อถามว่า บอกให้คนประเทศมั่นใจได้หรือไม่ว่า กองทัพจะไม่ทำรัฐประหาร เพราะขณะนี้ข่าวการปฏิวัติทำให้ตลาดหุ้นตก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “มันไม่เกี่ยวกับทหาร อยู่ที่พวกคุณกันเอง หุ้นจะตกหรือไม่อย่ามาโทษทหาร อย่ามาหาว่า ทหารจะทำโน่น ทำนี่ เมื่อสื่อเป็นคนสร้าง วาดเรื่องขึ้นมาเอง แล้วให้ผมมายืนยัน ผมไม่ตอบ ผมไม่ยืนยัน”
       
       เมื่อถามถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ทางกปปส.มีแผนลับ 10 ประการเพื่อให้ทหารปฏิวัติ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องตรวจดูว่า จริงหรือไม่ ใช่หรือไม่ วันนี้ใครจะเขียนแผนอะไรก็ได้ ซึ่งตนอ่านแล้วตนก็ขำ วันนี้โลกไม่ได้มีแค่มืดกับสว่าง เพราะถ้าตรงไหนมืดก็เปิดไฟ ถ้าตรงไหนสว่างเกินไปก็ปิดไฟ ถ้าทุกคนมาช่วยกันสุมไฟให้สว่างมันจะร้อนเกินไป ต้องเอาธรรมะเข้าข่ม ต้องมีสติ รู้คิด รู้ทำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งไว้แล้ว
       
       “ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่ผมคนเดียว ถ้าให้ผมกับองค์กรของผมมาแก้ปัญหา คงไม่ใช่ ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา เราต้องสร้างความเข้มแข็ง และรวมพลังกันแก้ปัญหาให้ได้ อย่าให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนแก้ปัญหา องค์กรใดก็แก้ไม่ได้ เพราะปัญหาวันนี้มีความสลับซับซ้อน วันนี้ทหารทำดีที่สุดแล้ว คือ การทำให้สถานการณ์หยุดนิ่งอยู่กับที่อาจรำคาญบ้างเล็กน้อย แต่อย่าใช้ยาแรง วันนี้เป็นไข้เล็กน้อย อาจจะเติมยาไปสักหน่อย ถ้าใช้ยาแรงมันอันตราย ใครก็ไม่อยากทำให้ประชาชนบาดเจ็บเสียหาย ทั้งนี้กำลังทหารที่ออกไปช่วยศอ.รส.ไปดูแลประชาชนให้ปลอดภัย ไม่ใช่ไปปราบปรามประชาชน ซึ่งการประชุม กอ.รมน.ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ติดตามคดี เพราะตอนนี้มีคดีมากขึ้น ความผิดเหมือนเดิม อธิบดีก็คนเดียวกัน ซึ่งถ้าจะเคลียร์ปีนี้ เคลียร์ 53 ให้ผมด้วย เคลียร์ให้จบทั้งสองอัน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่เลิกกันสักที” ผบ.ทบ.กล่าว

 

 

เป็นสัญญาณเตือน รัฐบาลรึเปล่าอะครับ พี่ๆคิดว่าไง

http://m.youtube.com...eature=youtu.be
ดูกันเอาเองครับแปะ youtube ไม่เป็นอะ
ตอแหลจริงๆอีด้าน
ขอขอคุณเสรีไทยเฟสบุ๊ค