พุทธศาสนา คือ ศาสนาหนึ่งที่มีเป้าหมายสูงสุด คือนิพพาน มีผู้เป็นศาสดาคือ พระพุทธเจ้า มีผู้สืบทอดคือพุทธบริษัท 4
พุทธศาสนา มีครบทั้ง เป้าหมายสูงสุด คำสอนเกี่ยวกับสิ่งนั้น และ วิธีปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดนั้น
พุทธศาสนา มีหลายระดับคำสอน ตั้งแต่พื้นฐานสำหรับชาวบ้าน จนถึงขั้นสูงสำหรับอธิบายธรรมอันละเอียด
พุทธศาสนาในประเทศไทย มีอิทธิพลของประเพณีและพิธีกรรมของศาสนาพราหมณ์ปนอยู่อย่างลึกซึ้ง
เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนเองที่จะแยกแยะ ความปนนั้นและไม่นำเป้าหมายสูงสุดของทั้งสองมารวมกัน
พุทธศาสนาก็เหมือนศาสนาอื่นโดยทั่วไป ที่มีองค์ประกอบอื่นเพื่อการดำรงอยู่ของศาสนานั้นๆ อันไม่ใช่แก่น ไม่ใช่ส่วนแท้ ไม่ใช่ส่วนจริง
แต่การมีอยู่ก็เพื่อ การดำรงอยู่ของศาสนา เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนเอง ที่จะแยกแยะ ว่าอันนี้เป็นเปลือก อันนี้เป็นแก่น
สิ่งนี้เพื่อประเพณี สิ่งนี้เพื่อความรวมกัน สิ่งนี้เพื่อดึงดูดบุคคลให้เข้ามาร่วมในศาสนา ฯลฯ
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีวิธีการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นธรรมขั้นสูงสุด ที่เห็นได้จับต้องได้จริงในเวลาปัจจุบัน โดยไม่ต้องรอชีวิตหน้า
หลักธรรมสำคัญที่อธิบายโลก คือสามัญลักษณะ 3 อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
หลักธรรรมสำคัญที่อธิบายการเกิดทุกข์และการดับทุกข์คือ อริยสัจ 4 (ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ) ซึ่งคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
หลักธรรมที่อธิบายความเป็นไปของชีวิต คือ ปฎิจจสมุปบาท (หลักแห่งการเกิดโดย เนื่องกัน มีผลแก่กันและกัน)
หลักธรรมที่ใช้ในการปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น ขั้นพื้นฐาน คืออินทรีย์ 5 พละ 5 ขั้นสูงคือโพชฌงค์ 7
หลักธรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวันคือ สติ (ซึ่งเป็นหนึ่งในอินทรีย์ 5 พละ 5)
พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีคำสอนแยกย่อย มากมายหลายแขนง บ้างอธิบายธรรม บ้างอธิบายโลก บ้างอธิบายสิ่งที่เหนือธรรมเหนือโลก
เป็นศาสนาที่มี ความลึก ความกว้าง ความละเอียดยิบย่อยมากมาย
หัวใจสำคัญของพุทธศาสนิกชนที่ต้องขวนขวายทำความเข้าใจ มีทั้ง 3 ด้านคือ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ
จากที่ทั้งศึกษาเองจากตำรา ทั้งปฏิบัติเอง งูๆปลาๆ พบว่า
หลักการปฏิบัติของพุทธศาสนานั้น ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ละเอียดอ่อน ตรง เข้มงวด ไม่ผ่อนปรน ไม่ต่อรอง
เปรียบเทียบคล้ายการการถักลูกไม้ที่ละเอียด ซับซ้อน หลักการมีแค่ แทง ตะวัด รัด เกี่ยว แต่สามารถทอเป็นลูกไม้ที่มีความวิจิตรบรรจงอย่างยิ่งได้
ไม่ต่อรอง ไม่ผ่อนปรน ถ้ามัดผิด เกี่ยวผิดลูกไม้นั้นก็เกิดตำหนิ เกิดปม เกิดข้อพลาด ซึ่งโดยรวมแล้วอาจมองไม่เห็น แต่มันก็ยังมีอยู่
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของคนจริง พูดจริง ทำจริง ตั้งใจจริง ไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่ยอมต่อรอง
เพื่อความจริงแท้ของชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อธรรมลวงๆ ความสุขหลอกๆ
การศึกษาพุทธศาสนาแต่ทางคัมภีร์โดยไม่ปฏิบัติเลย ถือว่าผิดพลาดมาก เสียโอกาสมาก
การปฏิบัติเพียงเปลือกๆเล็กน้อยๆ แล้วไม่ใส่ใจนำมาใช้ในชีวิตประจำวันถือว่าประมาทมาก เสียโอกาสมาก
การปฏิบัติแล้วได้ผลแล้ว ไม่เข้าใจในผลของการปฏิบัติ ไม่นำผลนั้นไปใช้เพื่อศึกษาและปฏิบัติในขั้นสูงขึ้นไป ยิ่งเรียกว่าน่าเสียดายที่สุด
ไม่ต้องพูดถึงคนที่แค่เห็นเปลือกของพุทธศาสนา หรือเห็นแค่เหลือบไรของพุทธศาสนาแล้วก็เสื่อมศรัทธา หมดศรัทธา
โดยที่ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเลย (เรื่องนี้เป็นกับน้าชายตัวเองเลยครับ)
เขาเหล่านั้น ต้องขอเรียกว่าประมาทที่สุด น่าเสียดายที่สุดครับ
ขอบคุณครับ
* หมายเหตุ
ตัวผมเองก็ยังพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำสิ่งน่าเสียดายเหล่านั้น และไม่ได้หมายความว่าได้บรรลุแล้วซึ่งธรรมวิเศษใดๆนะครับ
ยังคงขวนขวายยังหาทางดับทุกข์ต่อไป โดยใช้พุทธศาสนานำทางครับ