ธีรเดชน้อย

ดูจากการประกาศเจตนาที่ยึดอำนาจ ให้คดีความดำเนินต่อไป

การตั้งศูนย์ปรองดอง  น่าจะเพื่อ สลายสีเสื้อระดับประชาชนคนทั่วไป

ไม่น่าถึงขั้น "นิรโทษกรรม" ทักษิณและพวก

 

ถ้าทำอย่างนั้น คสช.รับศึกหลายด้านแน่ การปรองดองรวมเป็นหนึ่งในชาติสำคัญมากก็จริง

แต่การยกโทษให้คนทำผิดที่โกงชาติโกงแผ่นดิน จนประเทศชาติแทบล่มจม

การเผาบ้านเผาเมืองซ่องสุมกำลังมาเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าอีกฝ่าย แล้วยกโทษให้เลิกแล้วต่อกัน

คมช.จะพบกับการอารยะขัดขึน ไม่ร่วมมือด้วย สิ่งที่คิดทำก็จะไม่ประสพความสำเร็จ

 

ถ้าวันนั้นเกิดขึ้นจริง จะมีคนออกมาเป่านกหวีดให้สนั่นเมือง แสดงความไม่เห็นด้วย

จะขอร้องว่าอย่าทำ ถ้าไม่ฟังก็อาจเปลงเป็นขับไล่

 

คงจำกันได้น่ะ ช่วงนิรโทษล้างผิดคนโกง คนดีรักชาติออกมาเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ยอมให้นิรโทษคนโกง ใช่หรือไม่

 

 

ก็หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น ยังเอาใจช่วยกันต่อไปตราบที่ทำในสิ่งที่ถูกที่ควร

 

และส่วนตัวไม่เชื่อว่า ท่าน ประยุทธ์หรือคณะคมช. จะหลงผิด ไปนิรโทษกรรมให้ใครครับ

เผยเส้นทางเหล็ก "บูรพาพยัคฆ์" สามพี่น้องหลอมใจทำเพื่อชาติ

 

พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามในประกาศแต่งตั้ง คณะที่ปรึกษา คสช. จำนวน 10 ตำแหน่ง และมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบกและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) นั่งเป็นประธานที่ปรึกษาฯ ตามมาด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก เป็นรองประธาน

 

เชื่อว่าผู้ติดตามข่าวสารการเมืองมานานปี ย่อมนึกถึงคณะทหารกลุ่มหนึ่งที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดในรอบ 4-5 ปีมานี้ คือ กลุ่มพี่น้อง "บูรพาพยัคฆ์"

เริ่มจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เดิมทีทหารเบื้องบูรพาทิศ มีชื่อว่า "กองพลทหารราบที่ 2" ประกอบด้วย กรมทหารราบที่ 2 (ร.2) ค่ายจักรพงษ์ ปราจีนบุรี (ตอนหลังเปลี่ยนเป็น ร.2 รอ.),กรมทหารราบที่ 12 ค่ายไพรีระย่อเดช สระแก้ว (ตอนหลังเปลี่ยนเป็น ร.12 รอ.) และกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ (ร.21 รอ.) ค่ายนวมินทราชินี ชลบุรี

ก่อนปี 2524 กรมทหารราบที่ 2 (ร.2) ค่ายจักรพงษ์ มีชื่อเสียงโด่งดังจากปฏิบัติการตอบโต้เขมรแดงที่รุกล้ำแผ่นดินไทย ด้านบ้านน้อยป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี (เวลานั้นยังไม่ได้แยกเป็น จ.สระแก้ว) ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ส่งผลให้ พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร มีชื่อเสียงในฐานะ "วีรบุรุษตาพระยา"

วันที่ 1-4 เมษายน 2524 พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร ผบ.ร.2 ได้นำกำลังทหารจากค่ายจักรพงษ์ 3 กองพัน เข้าร่วมก่อการยึดอำนาจร่วมกับ พ.อ.มนูญ รูปขจร (ยศตำแหน่งขณะนั้น)

ขณะเดียวกัน ฝ่ายต้านปฏิวัติ นำโดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ส่งทหารเสือราชินี ภายใต้การนำของ พ.ท.ณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช ผบ.ร.21 รอ. นำกำลังทหารเสือเข้าปราบปรามยังเติร์ก จปร.7 ไว้ จนฝ่ายก่อการยึดอำนาจต้องยอมแพ้ในที่สุด

ถ้าใครยังจำได้ ใน พ.ศ. นั้น หนังสือพิมพ์หลายฉบับตีพิมพ์ภาพทหารเสือราชินี บุกจับกุมตัว พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร หนึ่งในผู้ก่อการ

เมื่อทหารปราจีนบุรี กลายเป็นกบฏผู้พ่าย ทางฝ่ายผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ส่งนายทหารจาก ร.21 รอ. ค่ายนวมินทราชินี ชลบุรี มาเป็นผู้บังคับบัญชา

หนึ่งในนั้นคือ พ.ต.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (ยศตำแหน่งขณะนั้น) เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 (ร.2 พัน 2) ปราจีนบุรี และย้ายไปคุมพื้นที่ที่สระแก้ว เป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 (ร.12)

เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เมื่อสิ้นสุดยุค "ผู้การประจักษ์" นายทหารระดับคุมกำลังของทหารปราจีนบุรี ก็จะมาจาก ร.21 รอ.(ทหารเสือราชินี) เป็นส่วนใหญ่

ปี 2530 กองพลทหารราบที่ 2 ได้รับพระราชทานเป็นหน่วยรักษาพระองค์ จึงมีชื่อเต็มๆ ว่า "กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ"

"พล.อ.ประวิตร" ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ (พล.ร.2 รอ.) ปี 2539 และได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ปี 2548

ว่ากันว่า พล.อ.ประวิตร นี่แหละที่เป็นต้นขั้ว "ทหารบูรพา" หรือ "บูรพาพยัคฆ์" เพราะผ่านการคุมกำลังทั้ง 3 กรม ก่อนขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นทหารเสือราชินี ที่เดินตามรอยพี่ชาย-พล.อ.ประวิตร คือจากตำแหน่งผบ.ร.21 รอ. ก็ขึ้นมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. (ปี 2545-2546)

ถัดจากนั้น จากหัวเมืองบูรพา พล.อ.ประวิตร ก็ขยับน้องรักเข้ากรุง จนได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และเป็นผู้กุมกำลังหลักในวันยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549

"พล.อ.อนุพงษ์" เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ปี 2550 นับว่าเป็น "บูรพาพยัคฆ์" คนที่สอง ที่ได้เป็นแม่ทัพบก

ถัดจาก พล.อ.อนุพงษ์ ก็เป็นน้องเล็ก- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เติบโตมาจาก ผบ.ร.21 รอ. และ ผบ.พล.2 รอ. (ปี 2546-2548) และเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ปี 2549

สมัย "พล.อ.ประยุทธ์" ยังมีตำแหน่ง ผบ.กองร้อยอาวุธเบา ประจำ ร.21 พัน 2 รอ. ได้นำกำลังเข้ากวาดล้างกองกำลังทหารเวียดนาม ที่สนับสนุนเขมรเฮงสัมริน ที่ได้รุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างกล้าหาญ และสร้างความสูญเสียให้ฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก จนได้รับพระราชทานเหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมรภูมิ

"พล.อ.ประยุทธ์" กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ถือเป็นทหารผู้พี่ที่มีความสนิทชิดเชื้อกันเป็นอันมาก ด้วยความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอดใน ร.21 รอ.(ทหารเสือราชินี) โดย พล.อ.ประยุทธ์ นับถือ พล.อ.อนุพงษ์ เสมือนพี่และอาจารย์คนหนึ่ง

2 กันยายน 2553 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ผงาดขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนที่ 37 โดยได้รับตำแหน่งต่อจากพี่ชายที่รัก "พล.อ.อนุพงษ์"

ปลายปี 2551 พล.อ.ประวิตร กับ พล.อ.อนุพงษ์ ใช้กองบัญชาการสำรอง ด้านหลังตึกบัญชาการของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นสถานที่จัดตั้ง "รัฐบาลพลิกขั้ว" ที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ในวันที่ไม่มีหัวโขนรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร ก็ยังใช้บ้านพัก และที่ตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ภายในค่ายทหาร ร.1 รอ. เป็นที่ทำงาน และนัดพบเพื่อนฝูงอยู่เป็นประจำ

วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เข้าควบคุมอำนาจตั้ง "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" (คสช.) ก็ใช้กองบัญชาการสำรอง ร.1 พัน 1 รอ. เป็นกองบัญชาการ เหมือนย้อนรอยวันตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว

มาถึงชั่วโมงนี้ "พี่น้องบูรพาพยัคฆ์" กลายเป็นคนสำคัญของประเทศ โดยพี่ใหญ่- พล.อ.ประวิตร เป็นประธานที่ปรึกษา ส่วนน้องเล็ก - พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. ทำหน้าที่เสมือนนายกรัฐมนตรี

จากเส้นทางเหล็กสู่เส้นทางอำนาจ ประชาชนชาวไทยกำลังเฝ้ามอง "พี่น้องบูรพาพยัคฆ์" ดำเนินการบริหารประเทศ ให้บรรลุเป้าหมาย "คืนความสุข" ให้แก่คนไทยทั้งชาติ

 

http://www.bangkokbi...ูรพาพยัคฆ์.html

 

**วงการทหาร โดยส่วนตัว เหมือนเมืองลับแล

หลังจากได้อ่านจากแหล่งข่าวหลายๆ ที่ เมื่อมีการรัฐประหาร

ร้องอ๋อ ไปหลายตลบ แหะๆ เพิ่งทราบว่าใครเป็นใคร

แต่คิดว่า ลึกๆลงไปมีอะไรที่เราท่านไม่ทราบอีกแยะ ว่ามั้ย !!!

Tee Terapong[/size] เพิ่ม 3 รูปภาพใหม่[/size]
7 ชม. · 





มติชนรายสัปดา์ห์ เชิดชู เดอะแก๊งค์ เป็นโฉมเอย โฉมงาม ที่ออกมาต้านรัฐประหาร แบบเชิดชู ดูเบื้องหลัง " ไม่มีจิตสำนึกของสื่อจริงๆ )
 

 
เล่มจริงหรือครับนี่ น่าโดนเรียกเหมือนกันนะ

 
ออกแนวประชดใช่ไม๊ 55555555555

โฉมงามของมติชน
คุณภาพต่ำกว่าที่คิดไว้

Noinoi Ratchasima
ปุกาศ....ปุกาศ...
ขอเรียนให้ทราบดังนี้
ขณะนี้ได้มีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร ไปยึดเอาอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร มีด พร้า เครื่องตัดหญ้า และปุ๋ย ในหลายหมู่บ้าน ในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดขอนแก่น เช่น อำเภอหนองนาคำ น้ำพอง
เพื่อให้เกิดความเกลียดชังต่อทหาร ขอให้ท่านอย่าได้หลงเชื่อ หากพบเห็นแจ้งตำรวจดำเนินการได้ทันที หรือโทรแจ้งมาที่ กองข่าว มทบ.23 โทร. 08-6460-2295
อนึ่ง กองทัพบก ไม่มีนโยบาย ที่จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สุจริต โดยเฉพาะชาวไร่ ชาวนา มีแต่เร่งสร้างความสุขให้บังเกิดขึ้นในชาติ ขอให้ท่านอย่าได้หลงเชื่อ คำแอบอ้างดังกล่าว
ขอบคุณครับ ...
(เพื่อนทหารฝากมา)

ข้อมูลตรงกันกับที่ผมได้แจ้งใว้ใน Rep 2094 Pg 42

copy มาอีกที

วันนี้ผมได้พูดคุยกับญาติทางการสมรสของน้องชาย(ไกลมากไปไหมนี่)

เธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อุดรธานี

ทหารเข้ามาตรวจค้น ยึดสิ่งต่างๆมากมาย ไม่เว้นกระทั่งเครื่องตัดหญ้า ขนกันไปเป็นคันรถ

จนคนในหมู่บ้านต้องเอาอุปกรณ์ยังชีพทั้งหลายแหล่ไปเก็บซ่อนในที่ห่างไกล

คุยกันไปเรื่อยๆ ผมสรุปว่าเป็นเรื่องปากต่อปาก ขอให้ส่งหลักฐานมาให้ แล้วผมจะเผยแพร่ให้

 

หากถือหลักไม่มีมูลหมาไม่ขี้  

ทหารคงต้องทำงานหนักขึ้นในการประชาสัมพันธ์กรณีเป็นแค่ข่าว

ทำแบบรถขายของในหมู่บ้านหรือใช้ประโยชน์จากวิทยุชุมชนที่ได้รับการคัดสรรค์แล้ว

 

จับให้ได้ กรณีเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าจะเกิดจากแตงโม มะเขือเทศ หรือมิจฉาชีพ แล้วเอามาแฉให้เอิกเกริก

ท.แจ้งความสน.พญาไทเอาผิดผู้ชุมนุมที่รวมตัวอนุสาวรีย์ชัยฯก่อนทำร้ายทหารเจ็บหลายนายทรัพย์สินเสียหายเมื่อ28พค. pic.twitter.com/baRl9WVWov

 

 

นวย นิ่ม จัดให้งานแรก ครับ รอดูผลงาน ฮ่า ๆ

คือสงสัยครับว่า พวกคนชั่วพวกนี้ทำร้ายบ้านเมืองมาหลายปี
แล้วถูกจับไม่กี่วันมันทำให้สำนึกได้เพียงขนาดนี้จริงๆหรือครับ
ผมไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังนะครับว่าในภาพข่าวว่าได้นอนห้องแอร์

มีที่นอนเพรียบพร้อม  ก็ดูไม่ออกว่าอะไรคือทำให้พวกนี้สำนึกและเปลี่ยนใจได้

คิดเช่นเดียวกันครับ  คนพวกนี้ทำร้ายบ้านเมืองมามากมายจริงๆ  สุดท้ายเมื่อมานบอกว่าจะวางมือ  เราก็จะปล่อยให้แล้วก็แล้วกันไป หรือควรให้ศาลลงโทษไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างดีครับ

ที่อยากเห็นจริงๆคือ ให้บังคับใช้กฏหมายแก่ทุกคนด้วยความยุติธรรมครับ และบทลงโทษก็ควรให้สมเหตุสมผลด้วย  ที่ผ่านมาก็ยังงงงง นะ

โกงชาติเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ถูกลงโทษพอๆกับ แม่ลูกอ่อนที่ขโมยนมในห้างไปเลี้ยงลูก

 

Noinoi Ratchasima
ปุกาศ....ปุกาศ...
ขอเรียนให้ทราบดังนี้
ขณะนี้ได้มีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร ไปยึดเอาอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร มีด พร้า เครื่องตัดหญ้า และปุ๋ย ในหลายหมู่บ้าน ในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดขอนแก่น เช่น อำเภอหนองนาคำ น้ำพอง
เพื่อให้เกิดความเกลียดชังต่อทหาร ขอให้ท่านอย่าได้หลงเชื่อ หากพบเห็นแจ้งตำรวจดำเนินการได้ทันที หรือโทรแจ้งมาที่ กองข่าว มทบ.23 โทร. 08-6460-2295
อนึ่ง กองทัพบก ไม่มีนโยบาย ที่จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สุจริต โดยเฉพาะชาวไร่ ชาวนา มีแต่เร่งสร้างความสุขให้บังเกิดขึ้นในชาติ ขอให้ท่านอย่าได้หลงเชื่อ คำแอบอ้างดังกล่าว
ขอบคุณครับ ...
(เพื่อนทหารฝากมา)

มะกี๋ พี่เป๊ปซี่ให้สัมภาษณ์ 101

 

บ่องว่า มะวานไปในวงโต๊ะกินข่าวบรรดานายทหารระดับบิ๊ก ๆ มา เช่น เสธ.อ้าย แระ พล.ร.ท.วินัย กล่อมอินทร์

 

เขาวิแคะกันว่า ชุดดำที่เอามายิงตูม ๆ ผู้ชุมนุมนั้น มะใช่ใคร น่าจะเป็นตำกวด     

 

แต่การที่ปลด ผบ.ตร.ออก แต่ยังให้มีที่อยู่ใน คสช. นั่นก็เพราะสายสัมพันธ์กันห่ะตอนที่ยังเป็น นร.ตท.รุ่นเดรียวกัน

 

แระก็หลังจากที่ศาลมีคำสั่งมาแร้ว อดุลย์ ก็ยังมีแต่แก่ใจ คือ ชัดเจนขึ้น มะยอมทำตามคำสั่ง ศอรส.

 

 

แร้วก้อพูดไปถึงตำแหน่งทหาร

 

ก้อถ้าเป็นไปได้ บิ๊กตู่ ถ้าขึ้นนายกฯ อาจควบ รมต.กลาโหมเอง

 

ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ก็ต้องว่างลง ก็มี 2 ตัวเลือก คือ บิ๊กโด่ง อุดมเดช (ตท.14 เกษียณปีหน้า) กะ บิ๊กต๊อก ไพบูลย์  (ตท.15 เกษียณปีหน้าเหมียนกัน)

 

ก็น่าจะเป็นบิ๊กโด่งนั่งรักษาการไปก่อน แร้วพอ ต.ค.ค่อยเป็นตัวจิง ไรงี้

 

   

 

 

 

ระหว่าง hero มือเปล่า กับ hero ที่มาพร้อมอาวุธประจำกาย แบบไหนทำลายล้างคนชั่วได้มากกว่ากัน?

 

 

ทหารอเมริกาสุดฉาว! รับสารภาพคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงอิรักระหว่างประจำการในกรุงแบกแดด

 

Thu, 2007-02-22 19:47

 

ประชาไท - 23 ก.พ. 2550 รายงานผลการไต่สวนคดีที่ทหารอเมริกา 5 นาย ซึ่งเคยประจำการที่มาห์มูดิยา กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ในปี 2549 ระบุว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 กระทำความผิดจริง และจะถูกลงโทษในฐานะที่เป็นผู้ฆ่า ข่มขืน และเผาทำลายบ้านเรือนของประชาชนชาวอิรัก

 

คดีฆ่าข่มขืน "อาเบียร์ คาซิม ฮัมซา อัล-จานาบี" เด็กหญิงชาวอิรักวัย 14 ปี และครอบครัว เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2549โดยชาวบ้านที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่าทหารอเมริกาที่ประจำการบริเวณจุดตรวจที่ใกล้เคียงเข้าควบคุมบริเวณบ้านของครอบครัวอัล-จานาบีซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ และเมื่อเข้าไปดูภายในบ้านก็พบศพของอาเบียร์ รวมถึงพ่อ แม่ และน้องสาวของเธอ แต่ทหารที่เข้าควบคุมที่เกิดเหตุบอกว่า การฆาตกรรมครอบครัวดังกล่าว เกิดขึ้นจากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งเป็นชาวมุสลิมต่างนิกาย

 

มูลเหตุจูงใจในการฆ่าข่มขืนครอบครัวเด็กหญิงชาวอิรักดังกล่าว เกิดจากการท้าทายกันในวงไพ่ ซึ่งผู้ที่เป็นคนต้นคิดก็คือ สตีเฟน กรีน

 

ทางด้าน สิบตรี เจสซี สปีลมัน และ สิบตรี ไบรอัน ฮาวเวิร์ด ไม่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาฆ่าข่มขืน แต่จะถูกลงโทษในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด เนื่องจากทหารทั้งสองนายเป็นผู้คอยดูต้นทางและมีส่วนร่วมในการเผาบ้านของครอบครัวอัล-จาบานีเพื่อทำลายหลักฐาน

 

เมิงกลับไปบอกประเทศเมิงด้วยว่าระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง   คือการ   อนุญาตให้ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงและปล้นน้ำมัน  

 

นี่แหละวีรบุรุษต้นแบบประชาธิปไตยของเสื้อแดง

ลุงเปลวคงได้ข่าววงในมา
________
นักข่าวถาม "พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง" รองโฆษก ทบ. เมื่อวาน (๒๙ พ.ค.๕๗) ว่า....
"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะจัดการอย่างไรกับทักษิณ?"
ประเด็นนี้ ฟังดูง่าย แต่สำหรับคนตอบ ดูจะยาก ลองเดาดูซิครับว่า พ.อ.หญิงศิริจันทร์ จะตอบว่าไง
เธอตอบว่า....
"ท่านต้องการทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องอดีต และงานทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๒ พ.ค.ที่ผ่านมา ท่านเคยพูดต่อวงประชุมต่างๆ ว่า...เมื่อผมผูกเชือกรองเท้า ผมเดินทันที ไม่หันไปมองข้างหลัง"
ทำเอาผมนึกถึงทนายนกเขา "คุณนิติธร ล้ำเหลือ" เจ้าของวลีมาดแมน "รองเท้าผ้าใบ กับใจถึงถึง" ขึ้นมาติดหมัด!
และนี่ก็...กระแทกใจผมนะ....!
"เมื่อผมผูกเชือกรองเท้า ผมเดินทันที ไม่หันไปมองข้างหลัง" เพียงสามวลีเท่านี้ อธิบายตัวตน อธิบายเป้าหมายของผู้ชายที่ชื่อ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา-พลเอก" ได้หมดจด
สั้นๆ แต่จบจักรวาล พอๆ กับวลี "ผมขอโทษ...ผมจำเป็นต้องยึดอำนาจ" นั่นแหละ!
ท่านสังเกตมั้ย ตอนพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน รัฐประหาร ๑๙ กันยา ๔๙ พุ่งเป้าที่ตัวทักษิณโดยตรง หนึ่งในหลายความผิดของทักษิณคือ "การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ"
บิ๊กบังได้ประกาศ แต่บิ๊กบังไม่ได้ทำ!
แล้วครั้งนี้ ๒๒ พ.ค. พลเอกประยุทธ์ทำรัฐประหาร ประกาศด้วยเหตุผลเฉพาะหน้า เพราะมีการฆ่ากัน และเหตุผลหลัก ตามแถลงการณ์มีว่า....
"..........เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคีเช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกันทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ"
จะเห็นว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ยกเอารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้งพฤติกรรมบริหารมาเป็นเงื่อนไข รวมถึงเรื่องทุจริตคอร์รัปชันที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตา
เพราะอะไร...?
เพราะช่วงรัฐประหารนั้น พลเอกประยุทธ์ถือว่า "ไม่มีรัฐบาลแล้ว" มีแต่ผลจากอดีตสร้างเหตุการณ์ปัจจุบันที่ต้องแก้ไข คือประชาชนแตกสามัคคี งานปฏิรูปโครงสร้างการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม เป็นภาระที่จำเป็นต้องเข้ามาแก้ไข
ถามว่า...แบบนี้ หมายความว่า "คณะ คสช." ตีค่าทุจริต-คอร์รัปชันในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็น "อดีตที่ คสช.จะไม่ย้อนกลับไปสะสาง" งั้นหรือ?
ผมตอบแทน คสช.ไม่ได้ แต่เท่าที่สังเกต ก่อนลงมือรัฐประหาร กองทัพ "สะสมข้อมูล" ทุกด้านไว้พร้อมหมดแล้ว
และสังเกตในรอบ ๗ วัน ผ่านงานที่ออกมา ก็บอกได้ว่า การออกหมัดของ คสช.คนละสไตล์กับกำนันสุเทพ!
กำนันสุเทพ เวลาจะนำมวลมหาประชาชนออกปฏิบัติการ จะแถลงถึงเป้าหมาย สถานที่ ตัวบุคคล วัน-เวลา ให้ทราบล่วงหน้าหมด
แต่ คสช.แต่ละปฏิบัติการ จะรู้เมื่อเป็นคำสั่งออกมาฉบับที่เท่านั้น-เท่านี้ เท่านั้น!
ดังนั้น...เรื่องตัวทักษิณก็ดี เรื่องทุจริต-คอรัปชันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าวที่ฉาวออกมา คอร์รัปชันไปกว่า ๕ แสนล้านบาท
ผมว่า โปรดรอซักครู่....!
"สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ไม่พูด ใช่ว่าเป็นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ไม่ทำ"
ยิ่งเมื่อวาน "องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน" โดยคุณประมนต์ สุธีวงศ์ และคุณสมพล เกียรติไพบูลย์ ผู้เป็นหลักสู้ให้สังคมยึด ออกมากระตุกเร้า คสช.ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องคอร์รัปชัน ๕ แสนล้าน
ยิ่งเป็นสัญญาณตอกย้ำให้รู้ว่า ในแผนที่ "คสช.ไม่พูด" เรื่องทุจริต-คอร์รัปชันนั้น วันไหน เป็นวันลงดาบ จากฝ่ายไหนก็เถอะ วันนั้น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะตัวยิ่งลักษณ์
"แผลแบะแฉะ" แน่!
ประเด็นที่น่าจับตากันเป็นพิเศษภายใต้เงื่อนไขรัฐประหาร อยากจะบอกว่า เรื่องที่พูด ว่าด้วยทักษิณ ว่าด้วยปัญหาภายในนั้น นั่นแค่...ฉากพรางตา!
เมื่อวาน มีโอกาสคุยกับ "คุณทนง ขันทอง" ผู้สันทัดวิเทศ ค่ายเนชั่น ท่านตั้งข้อสังเกตน่าคิดว่า....
"ม็อบมดกัดไข่ ชูป้ายต้านรัฐประหาร แถวๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีแค่ ๒-๓ ร้อยคน แต่ทำไมจึงมีนักข่าวต่างประเทศแห่มาทำข่าวตั้ง ๔๐-๕๐ คน ต่างกับตอนมวลมหาประชาชนชุมนุมออกมาเป็นล้าน สื่อต่างชาติไม่ให้ความสนใจเท่านี้?"
"ม็อบมดกัดไข่" ผมเรียกเอง คุณทนงไม่ได้เรียก ตอนนี้เห็นเร่รังไปกัดไข่ยั่วทหารขยี้ที่โน่น-ที่นี่ เมื่อวานโผล่แถวๆ ท่าพระจันทร์
"นักข่าวต่างประเทศ" ที่ว่านั้น จะมาจากสำนักข่าวตะวันตกเป็นหลัก ก็สอดคล้องกับข้อความที่ "ขบวนการชักใย" เขียนให้ชู ด้วยศัพท์แสงสื่อให้ฝรั่งถ่ายภาพ-ทำข่าวไปเผยแพร่ในประเทศของเขา
เพราะอะไร...เพราะทักษิณจ้างมางั้นหรือ?
ตื้นๆ ก็มองอย่างนั้น แต่ถ้าหรี่ตายอนลงไปตามซอกหลืบมะลำ-มะเลือง เราจะเห็นว่า "มือที่มองไม่เห็น" มันซ้อนรูป-ซ้อนรอยเข้ามาเล่นงานประเทศเราแล้ว!
"มือที่มองไม่เห็น" นั้น คือ...
"จักรวรรดิอำนาจทุนนิยมตะวันตก" มันสอดแทรกเข้ามาบ่อนทำลาย ตราบเท่าที่ "อำนาจประเทศไทย" หลุดไปจากมือรัฐบาล-บุคคลที่มันกดปุ่มได้
"แหล่งน้ำมัน-ฐานทัพอู่ตะเภา" จักรวรรดิอำนาจทุนนิยมตะวันตก มันยอมให้หลุดมือไปไม่ได้
ขืนยอมให้ประเทศไทยหลุดไปจาก "อำนาจคอนโทรล" ตะวันตก นั่นเท่ากับยุโรป-สหรัฐ
สูญเสีย "อุษาคเนย์" ให้กับจีน!
ผมจะยกตัวอย่างให้ใคร่ครวญว่า "อำนาจตะวันตก" เนียนมาในรูปแบบ "สำนักข่าว" เพื่อสอดแทรก-ชักใยเป็นแนวร่วมกลุ่มต้านรัฐประหาร คสช.หรือไม่-อย่างไร
ผู้ใช้นามว่า "เจ้าหญิง ราพันเซล" นำข้อความหนึ่งมาโพสต์ใน fb ของเขาเมื่อวาน ว่า
"ตอกหน้านักข่าวฝรั่งหงายเงิบเลย 555555555555..."
ลืมเล่าให้ฟัง วันก่อนเอาน้ำดื่มไปแจกทหารแถวๆ ราชดำเนินแล้วเจอนักข่าวฝรั่งของรอยเตอร์เข้ามาขอสัมภาษณ์ เราก็บอกว่า...ได้ คุณเธอก็ยิงคำถามเข้ามา
นักข่าว : ทำไมคุณถึงออกมามอบอาหารและน้ำดื่มให้ทหาร?
แชมป์ : เพราะเราต้องการที่จะให้กำลังใจ และแสดงความสนับสนุนแก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อบ้านเมืองของเรา (เน้นเสียงที่คำว่า my country)
นักข่าว : แสดงว่าคุณสนับสนุนรัฐประหารครั้งนี้สิ?
แชมป์ : ใช่ ผมและเพื่อนๆ คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่รักประเทศไทยสนับสนุนการรัฐประหารครั้งนี้
นักข่าว : คุณไม่คิดเหรอว่า การรัฐประหารครั้งนี้เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคุณ
แชมป์ : อะไรคือลิดรอนสิทธิเสรีภาพในความหมายของคุณ ทุกวันนี้จะไปไหนก็ไม่มีใครห้าม อยากกินอะไรก็ได้
นักข่าว : แต่ทหารปิดข่าวสาร จำกัดเวลาออกจากบ้าน ค้นบ้านคนหลายๆ คน ถือเป็นการคุกคามมิใช่หรือ?
แชมป์ : ผมไม่ได้ทำผิดอะไร จะกลัวทำไมเรื่องค้นบ้าน ส่วนเรื่องปิดสื่อ ก็ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร ทุกวันนี้ก็ไม่คิดดูทีวีอยู่แล้ว เพราะมีแต่เรื่องบิดเบือน มีแต่เรื่องไร้สาระ แบบว่าหมีแพนด้ามีเซ็กซ์ หรือว่าบูชาจิ้งจกสองหัวอะไรแบบนี้ ผมว่าปิดก็ดีเหมือนกัน เผื่อพวกรายการจะสำนึกบ้าง
นักข่าว : คุณคิดมั้ยว่ามันแรงเกินไปที่ทหารออกมาควบคุมทุกอย่างในประเทศ?
แชมป์ : มันถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องล้างให้สะอาด ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาคุณไม่สบาย คุณหมอให้คุณกินยา แต่ยามันขม คุณจะกินมั้ยล่ะ?
นักข่าว : แต่ทุกอย่างไม่เป็นประชาธิปไตยเลยนะตอนนี้?
แชมป์ : แล้วไงล่ะ ประชาธิปไตยคืออะไร? คือให้คนมาฆ่ากันตามถนน หรือว่าคือให้โอกาสนักการเมืองคอร์รัปชันโดยอ้างว่ามาจากประชาชน คุณไม่รู้หรือไง หรือแกล้งไม่รู้ว่า คำว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยนั้น มันมาจากการซื้อเสียง นักการเมืองโกงกินภาษีของประชาชน นักการเมืองสร้างความแตกแยกให้ประชาชน แม้กระทั่งยกดินแดนให้ต่างชาติ นี่หรือคำว่าประชาธิปไตยของคุณ เราไม่แคร์หรอกนะว่า จะประชาธิปไตยหรือไม่ ขอเพียงประเทศของเราเดินหน้าไปได้ก็พอ อ้อ...ฝากไปบอกพวกคุณในประเทศของคุณด้วยนะ คนอเมริกันเองก็ใช้คำว่าประชาธิปไตยบังหน้าเพื่อเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในประเทศอื่นๆ มันแย่มากๆ เลวยิ่งกว่ารัฐประหารอีก แถมยังฆ่าคนในประเทศ.....
นักข่าว : โอเค...โอเค ขอบคุณมากๆ ฉันต้องไปแล้ว
แชมป์ : อ้าปากค้าง...กูยังสรรเสริญไอ้กันไม่จบเลย รีบหนีซะแล้ว!
อ่านแล้วท่านเห็นอะไรในคำถามนักข่าวรอยเตอร์มั้ย สอดคล้องกับที่ "คุณกรณ์ จาติกวณิช" โพสต์วันก่อนว่า....
"ทาง CNN ขอสัมภาษณ์ผมเรื่องปฏิวัติในมุมเศรษฐกิจ เขาถามว่าสถานการณ์เป็นไงบ้าง
ผมตอบว่านักธุรกิจก็ดูเหมือนแฮปปี้ดี เพราะต้องทนอยู่กับความวุ่นวายมานาน ผู้สัมภาษณ์ดูเหมือนมีธงจึงสวนผมว่า 'ก็พวกนักธุรกิจเขาเป็นอำมาตย์ (elite) กันหมดไม่ใช่หรือ....."
แหม...จะเอาแถลงการณ์สหภาพยุโรปวานซืน กับแถลงการณ์นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมาประกอบ ก็หมดเนื้อที่ซะก่อน
วันนี้อย่าเพิ่งคัน จะยกมาให้เกากันวันหลัง!.

http://www.matichon....wsid=1401368648

ช่วยแปะรูปค่ะ

 

มาร์คมีสิทธิ์จะท้วงติงคสช.เพราะแกไม่ใช่คนลู่ตามลม และสิ่งที่แกท้วงติงก็ยึดโยงอยู่กับผลประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่ตัวบุคคล

 

ปี53พวกเหลืองฮาร์ดคอร์ว่ามาร์คว่าไม่เด็ดขาด แกก็ทำตามหลักการที่แกเชื่อมั่นและผลที่ออกมาไม่ได้ทำให้ชาติบอบช้ำเกินไป

 

ถึงกระนั้นแกก็ยังถูกดำเนินคดีซึ่งแกก็ยอมเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยไม่บิดพลิ้ว

 

เราชื่นชมและเชื่อมั่นในสิ่งที่คสช.ทำ แต่ไม่ใช่ถึงกับออกมาประนามคนที่ออกมาทักท้วงโดยสุจริตครับ

ไม่แปลกนี่ครับ
คุณอภิสิทธิ์ แกทัก แกถาม และสะกิด ในแต่ละประเด็นๆ ก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ครับ
ผมว่ากลับดีซะอีก งานใหญ่งานส่วนรวม ต้องมีคนทัก คนถาม และสนับสนุนรึเห็นต่าง งานที่ใครๆตั้งใจให้ดีผลออกมาจะได้บกพร่องน้อยที่สุด
ครับ