ctpk05

 BokZLCPCQAMaVAz.jpg   98.91K   199 downloads

พอดีได้ยินเสียงข้างบ้านฮือฮากันครับ เลยออกไปดู เขาบอกว่าพระอาทิตย์ทรงกลดครับ หันไปแหงนดู สวยมากๆครับ เลยนำภาพมาให้ดูครับ     

ปล.อยากให้มองเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่นานๆครั้งจะเห็นที และสวยงามมากกว่าครับ ไม่อยากให้นำมาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์บ้านเมือง

 IMG_2510.JPG   65.92K   49 downloads

 IMG_2511.JPG   63.52K   56 downloads

 10354345_1405516253063643_321501151_n.jpg   92.43K   51 downloads

 

เวลา 13.51 น.วันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน นครนายก ที่ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา ซึ่งอยู่ในสังกัดมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อตั้งบนที่ดินขนาด 5 ไร่เศษ ซึ่งนางรจนา รื่นสุข และนายสุกิจ เพชรสุวรรณ ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา สำหรับสร้างบ้านเพื่อคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน โดยให้บริการด้านที่พักอาศัย อบรมเลี้ยงดูฝึกฝนทักษะชีวิต ฟื้นฟูสมรรถภาพและศักยภาพ เพื่อพัฒนาคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนให้มีการพัฒนาด้านอารมณ์ สังคม การศึกษา และทักษะด้านอาชีพ ให้สอดคล้องกับความสามารถที่เหลืออยู่ของคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2552

 

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ห้องนิทรรศการถาวร "ดินแดนแห่งโอกาส" แสดงประวัติความเป็นมาของมูลนิธิฯ สื่อการเรียนการสอน และผลิตภัณฑ์งานฝีมือของคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน ได้แก่ ผ้ามัดย้อม กล่องกระดาษชำระทำจากลูกปัด พวงกุญแจลูกปัด กล่องไม้จิ้มฟัน, "กิจกรรมอาชีวะบำบัดทำผ้ามัดย้อม" เพื่อสร้างเสริมทักษะด้านอาชีพตามความถนัดและความสามารถ เพื่อลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ โดยโครงการสรัสปทุม โรงเรียนวัดปทุมวนาราม ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับซื้อไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มัดย้อมในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า, "กิจกรรมทำกายภาพบำบัด" มีผู้ที่ต้องทำกายภาพบำบัดเป็นประจำ รวม 9 คน เพื่อฝึกความเคลื่อนไหว ให้สามารถทำกิจวัตรประจำวัน และช่วยเหลือตนเองได้รวมถึงฝึกความเคลื่อนไหวให้มากที่สุด เพื่อลดและป้องกันความพิการซ้ำซ้อนเพิ่มเติม 

 

ปัจจุบันศูนย์ฯ แห่งนี้ มีคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนเข้ามาฝึกอาชีพและพักอาศัยตลอดชีพ รวม 75 คน อายุระหว่าง 18-45 ปี โดยเป็นศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนแห่งแรกของมูลนิธิฯ และเป็นศูนย์ต้นแบบ ในอนาคตจะขยายไปยังจังหวัดเพชรบุรี และลำปาง

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 1544549_845597415454642_2008522866365717109_n.jpg   52.49K   52 downloads

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้านั่งใกล้พระองค์ท่าน จนได้ยินการสนทนา และทราบว่า หญิงชาวบ้านผู้มาเข้าเฝ้านั้นมีความทุกข์เรื่องหนี้สิน สามีจากเธอไป และทิ้งเธอให้เผชิญหนี้สินตามลำพัง พร้อมด้วยลูกเล็กๆอีก 2 คน ข้าพเจ้ามองเห็นว่า ความทุกข์ยากแห่งชีวิตได้ฝากริ้วรอยไว้บนใบหน้าของเธอมากเพียงใด ในแววตามีแต่ความสิ้นหวัง และลูกๆปราศจากความเบิกบานอย่างที่เด็กๆ ควรจะมี

เมื่อรับสั่งถามว่า เป็นหนี้เท่าไร เธอผู้นั้นไม่ยอมตอบเพียงแต่ทูลว่า หนี้นั้นมากมายเหลือเกิน และข้าพเจ้าได้ยินสมเด็จพระราชินี รับสั่งว่า

"ไปบอกเจ้าหนี้นะคะ ว่าพระราชินีจะใช้หนี้ให้"

ข้าพเจ้าถึงกับน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ผู้สูงศักดิ์ที่สุดของแผ่นดิน ประทับอยู่ท่ามกลางชาวบ้านยากไร้ ทรงมอบความรัก ความช่วยเหลือให้…เด็กๆจะได้รับขนมแจก, ผู้ป่วยจะมีแพทย์ดูแล, ผู้สูงอายุจะได้รับแว่นสายตา, ผู้ยากไร้จะได้รับพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องทุนรอน …ไม่มีผู้ใด ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ

ข้าพเจ้าเคยสงสัยว่า ต้องใช้พระราชทรัพย์มากเพียงใด เพราะทุกครั้งที่ราษฎรนำผลผลิตของตนมา ก็ได้รับคำตอบว่า ‘พระราชินีรับซื้อทั้งหมดค่ะ’ ข้าพเจ้าพบว่า พระองค์ต้องใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินที่มีผู้ทูลเกล้าฯถวายเข้ามูลนิธิศิลปาชีพ หลายล้านบาทต่อวัน ช่วยเหลือผู้คนที่สังคมส่วนใหญ่พากันลืมเลือน ผู้คนที่ไม่มีโอกาส

สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็น คือ สมเด็จพระราชินีได้คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้แก่คนยากไร้ ที่มิได้รับความใส่ใจจากผู้ใด ข้าพเจ้าเชื่อว่า ในสายพระเนตรของพระองค์ ผู้ที่ยากไร้ก็เป็นคนไทยที่พระองค์ทรงรัก ข้าพเจ้าเสียดายที่หลายครั้ง โทรทัศน์ไม่อาจถ่ายทอดความรัก ความเอื้ออาทรของพระองค์ได้

Cr : ผศ.นพ.ภากร จันทนมัฎฐะ

https://www.facebook...31738902&type=1

ขอพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 557000005404301.JPEG   81.76K   54 downloads

 

 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู มุขนายกกิตติคุณ แห่งเขตปกครองกรุงเทพมหานคร นำคณะสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย เฝ้าฯ เพื่อเชิญพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ที่ได้รับการสถาปนาใหม่ คือ นักบุญจอห์น ที่ 23 พระสันตะปาปา และนักบุญจอห์น พอล ที่ 2 พระสันตะปาปา ซึ่งได้รับมอบจากนครรัฐวาติกัน มาอธิษฐานภาวนาขอพระพรจากพระผู้เป็นเจ้า ขอให้มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

       

       วันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 18.40 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู มุขนายกกิตติคุณ แห่งเขตปกครองกรุงเทพมหานคร นำ คณะสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย เฝ้า และเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อเชิญพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ที่ได้รับการสถาปนาใหม่ คือ นักบุญจอห์น ที่ 23 พระสันตะปาปา และนักบุญจอห์น พอล ที่ 2 พระสันตะปาปา ซึ่งได้รับมอบจากนครรัฐวาติกัน มาอธิษฐานภาวนาขอพระพรจากพระเจ้า ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

       

       พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อของพระศาสนจักรคาทอลิก หมายถึง ชิ้นส่วนของร่างกาย เช่น กระดูก โลหิต ผิวหนัง หรือสิ่งของประจำกาย เช่น ไม้กางเขน ประคำของนักบุญ หรือบุคคลอันเป็นที่เคารพของชาวคาทอลิก ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว และได้รับการเก็บรักษาไว้ ที่เชิญมาในโอกาสนี้ คือ พระฉวี หรือผิวหนังของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23 และพระโลหิตของสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2557

       

       สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23 (His Holiness Pope John XXIII) ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ระหว่างวันที่ 2501-2506 พระองค์ทรงได้รับการยกย่องในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูพระศาสนจักรให้ทันสมัย และเสริมสร้างเอกภาพในหมู่คริสตชน ทั้งนี้ ในช่วงเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ ในยุโรป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ที่ 23 ณ นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2503

       

       สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 (His Holiness John Paul ll) ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ระหว่างปี 2521-2548 พระองค์ได้ทรงอุทิศพระวรกาย เสด็จไปทรงเยี่ยมคริสตชน และเผยแผ่พระธรรมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก อย่างต่อเนื่องตลอดวาระสมัย รวมทั้งการเสด็จเยือนประเทศไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทรงรับ สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2527

       

       ในโอกาสนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสกับสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 ถึงความผูกพันระหว่างพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกกับราชอาณาจักรไทยที่มีมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนความเจริญงอกงามของคริสตศาสนาในประเทศไทย รวมทั้งทรงยกย่อง สมเด็จพระสันตะปาปา ในฐานะผู้แผ่ความสงบร่มเย็นและความสว่างแจ่มใสแก่ชาวโลกด้วย

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ