พิฆาตอสูร, on 26 May 2014 - 15:28, said:
ไม่รู้เขาสีอะไรเหมือนกัน แต่เขาเป็นนักธุรกิจ ผมคิดว่าที่ทำก็เพื่อเอาใจไม่อยากมีปัญหากับรัฐบาล
^
^
^
http://www.komchadlu...่อสัญญาBTS.html
'DSI'ส่งฟ้อง!'สุขุมพันธุ์'ต่อสัญญา'BTS'
อัยการคดีพิเศษนัดสั่งคดี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เเละคณะ ต่อสัญญาบีทีเอส ส่วนต่อขยาย 13 ปี โดยไม่มีอำนาจ 28 มิ.ย.นี้
1 มิ.ย. 56 เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้าคณะทำงานคดีต่อสัญญาเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายออกไปอีก 13 ปี ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคณะพนักงานสอบสวน ได้นำสำนวนการสอบสวนเอกสารหลักฐาน จำนวน 5,874 แผ่น 17 แฟ้ม 3 ลัง พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กับพวกรวม 9 คน และนิติบุคคลอีก 1 ราย ในความผิดฐานร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค (กิจการรางรถไฟ) โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อันเป็นความผิดตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ. 2515 ข้อ 4 และข้อ 16 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 84 และมาตรา 86 มาส่งมอบให้นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งคดี
โดยหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอคดีดังกล่าว ระบุว่า เรื่องนี้นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ร้องเรียนให้ดีเอสไอ ดำเนินคดี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับพวกรวม 11 คน และนิติบุคคลอีก 2 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอ พิจารณาหลักฐานแล้วสรุปสำนวนมีความเห็นสมควรให้ฟ้องผู้ต้องหารวม 9 คน และนิติบุคคล 1 ราย ประกอบด้วย นายธนา วิชัยสาร ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ผู้ต้องหาที่ 1 , นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ อดีตปลัด กทม.ผู้ต้องหาที่ 2 , นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้ต้องหาที่ 3 , นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม.ผู้ต้องหาที่ 4 , ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ต้องหาที่ 5 , นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ประธานคณะกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้ต้องหาที่ 6 , นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัดผู้ต้องหาที่ 7 , บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้ต้องหาที่ 10 , นายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ อดีต ผอ.กองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ผู้ต้องหาที่ 12 และนายจุมพล สำเภาพล อดีต ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ผู้ต้องหาที่ 13
ขณะที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรไม่ฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายคีรี กาญจนพาสน์ กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 8 , นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัทระบบขนส่งมวลชน ฯ ผู้ต้องหาที่ 9 และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 11 เนื่องจากการสอบสวน พบว่า เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการรถรางมาก่อน ตามสัญญาสัมปทานเดิม และยังมีผลบังคับอยู่จนถึง พ.ศ.2572 แต่กทม.ได้มีหนังสือเชิญชวนให้ผู้ต้องหาที่ 11 เข้ามาเป็นคู่สัญญาอย่างเปิดเผย โปร่งใส ไม่ได้กระทำโดยลำพัง หรือ พละการแต่อย่างใด โดยปกติวิสัยจึงไม่อาจทราบได้ว่ากทม.จะมีอำนาจดำเนินการในเรื่องนี้ตามกฎหมายหรือไม่ กรณีจึงฟังได้ว่าการเข้ามาเป็นคู่สัญญา เกิดจากความสำคัญผิดในข้อเท็จจริง หรือเข้าใจโดยสุจริตว่า การที่กทม.ได้ดำเนินการทุกประการอย่างถูกต้องแล้ว เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของราชการหรือที่กำหนดไว้ในขอบเขตของงาน หรือ ที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ ที่อ้างว่าได้กระทำโดยชอบแล้ว แม้จะเป็นความผิดในส่วนเอกชน ก็ไม่อาจทราบหรือรู้ได้อย่างแน่แท้ อีก ทั้งไม่มีข้อเท็จจริงว่า กระทำโดยทุจริตประการอื่น เห็นว่าขาดเจตนาในการร่วมกระทำผิด จึงเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามแม้ว่าคดีนี้อัตราโทษไม่สูง แต่ผู้ต้องหากระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ หลายครั้ง เพราะมีการสัมปทานก่อสร้างส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าบีทีเอส อีกหลายเส้นทาง เช่น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตามสำนวนกระทำผิดรวม 3 กรรม