ถ้าจะพูดง่าย ๆ นะว่า จะแยกแยะระหว่าง คน และ ควาย ยังไงดี?
- istyle likes this
มีการศึกษา hasn't added any friends yet.
โดย มีการศึกษา on 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:29
โดย มีการศึกษา on 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 09:17
การที่คุณสุเทพ บุกยึดสถานที่ราชการนั้น จะเรียกว่าคนดีนั้นคงไม่ใช่นะ แต่การต่อสู้กับทรราช รัฐบาลควายหน้าหนานั้น
ใช้คำว่า "จำเป็น" จะเหมาะสมกว่า การยึดสถานที่ราชการนั้นเท่าที่ฟังการวิเคราะห์จากหลายๆสื่อ(สื่อตรงข้ามกับรัฐบาล)
มีคนในสถานที่ราชการนั้นสนับสนุนพอสมควร ซึ่งดูได้จากสื่อที่เป็นกลางต่างๆ
การจะต่อสู้กับรัฐบาลทรราชนั้น ต้องไตร่ตรองกันให้รอบคอบครับ พยายามให้ประชาชนกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
เช่นที่พวก***แดงทำกัน ไปยืดราชประสงค์ ทำให้ธุระกิจหลักภายในกรุงเทพเป็นอัมพาต การให้ผู้ร้ายยิงระเบิดใส่วัดพระแก้ว
การเผาสถานที่ต่างๆมากกว่า 40 สถานที่ทั่วประเทศ การกระทำการก่อการร้าย ฯลฯ
บุกยึดสถานที่ราชการนั้น แกนนำทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าต้องการให้รัฐบาลยอมรับผลกรรมเลวที่คนในรัฐบาลก่อขึ้น คือ
ให้รัฐบาลบริหารงานได้ยากขึ้น หรือบริหารงานไม่ได้ โดยดึงมวลชนเจ้าพนักงานที่ทำงานในกระทรวงมาเป็นแนวร่วม
แน่นอนว่าการเข้าไปในสถานที่ราชการนั้นส่วนหนึ่งได้ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน เช่นการเดินทางทำให้รถติด
ห้างร้าน หรือบริษัทที่จะเข้ามาติดต่อราชการต้องหยุดชงัก ฯลฯ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นนี้ผมเห็นใจประชาชนนะครับ แต่ผมคิดว่า
เราไม่มีทางเลือกแล้ว
ถ้าเราไม่ปลดปล่อยประเทศของเรา เราจะอยู่ภายในรัฐบาลทรราชตลอดไปเช่นนี้คงไม่ได้เหมือนกัน จขกท ลองทบทวน
ตั้งแต่รัฐบาลทรราชเข้ามาบริหารประเทศดูครับ ว่ามีสิ่งเลวๆ สะสมมากมายเพียงไร
รบกวน จขกท ลองหาข้อมูลข่าวจะสื่อต่างๆ ดูครับ ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และท่านจะรู้ว่ารัฐบาลทรราชนี้ชั่วช้าสามานย์เช่นไร
โดย มีการศึกษา on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:47
เรื่องนี้เกิดมานานหลายปีมากๆครับ มีลูกน้องผมคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซด์ถึงหน้าประตูโรงงาน ด้วยความขี้เกียจของตน
ขี้เกียจจอดรถ และลงมาตอกบัตรเวลา จึงตะโกนให้เพื่อนพนักงานอีกคนช่วยตอกบัตรให้
ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็น และได้เขียนบันทึกประจำวันลง ส่งเรื่องถึง ผจก.ฝ่ายบุคคล ผจก.ฝ่ายบุคคล
เรียกทั้งผู้ขอ และผู้ตอกแทนเข้ามาสอบถามเหตุการณ์ ทั้งคู่ยอมรับตามคำบันทึกของ รปภ.
หลังจากนั้นอีกไม่เกินชั่วโมง ทั้งคู่ได้รับซองขาว(ไล่ออก) พร้อมเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน นี่คือผลของการกระทำผิด
แบบไม่สามารถให้อภัยได้ เป็นกฎเหล็กของบริษัท และกรณีนี้เกิดมาไม่ใช่ครั้งแรกครับ เคยมีตัวอย่างและทางบริษัทก็ได้ประกาศ
ให้พนักงานทุกท่านได้ทราบ และอย่าได้กระทำอีกเด็ดขาด
เพราะฉะนั้น สส.ที่เสียบบัตรแทนกัน ตามกฎเหล็กแล้ว ต้องไล่ออกสถานเดียวครับ
โดย มีการศึกษา on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:23
มีอยู่วันหนึ่งครับ ผมนั่งกินข้าว และอ่านหนังสือพิมพ์ Bangkok Post หัวข้อการเมืองอยู่ (ขออนุญาตครับ อย่าพึ่งหมั่นไส้
ที่อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ) ลูกน้อง(เสื้อแดง)ผมเข้ามานั่งทานข้าวที่ข้างๆ ก็มองดูหนังสือพิมพ์ที่ผมอ่าน คือดูแบบ
อยากรู้อยากเห็น และถามผมว่า "พี่ เค้าเขียนว่าอะไร? พี่อ่านออกหรือ?"
ผมมองหน้าเค้า ยิ้ม และตอบกลับไปว่า เวลาผมหาข้อมูลอะไรเกี่ยวกับการเมืองนั้นเพื่อความยุติธรรม และได้ข้อมูลที่
ไม่เอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมจะอ่่านข่าวหลายๆสำนัก จะไม่อ่านแต่เพียง ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด มติชน คมชัดลึก ฯลฯ
เพราะต้องการรู้ข้อมูลเชิงลึกจริงๆว่า ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร
ข่าวที่ผมอ่านอยู่นั้น Bangkok Post ได้บรรยายถึงความขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำอยู่ขณะนั้น
ผมก็ได้อธิบายไปตามที่หนังสือพิมพ์เขียนมา ใจหนึ่งก็อยากให้ลูกน้องเสื้อแดงคนนี้รู้ด้วยว่า รัฐบาลทำโครงการนี้ขาดทุน
เท่าไร และเงินส่วนต่างหายไปไหน
ผลที่ได้กลับตรงกันข้ามคือ ลูกน้องเสื้อแดงผมคนนี้อารมณ์เสียครับ พูดในทำนองว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เขียนข่าวโกหก
โวยวาย ด่าลั่นโรงอาหาร โดยที่ตานั้นเพ่งมองไปที่หนังสือพิมพ์ ณ.เวลานั้นผมตกใจนะ คิดในใจว่าเค้าเป็นอะไรไป
ทำไมต้องโมโหแบบนี้
ตกรระตรงนี้เองที่ฉุดคิดได้ทันทีขึ้นมาว่า "คน ยังสามารถเปลี่ยนในทางที่ดีได้" แต่ถ้า "เป็นควายแล้ว ยังไงก็ควายวันยังค่ำ"
เพราะฉะนั้นหัวข้อที่ จขกท คุณโนบิตะเขียนเริ่มต้นมานี้ คนอย่างพวกเรา อย่าไปโกรธเลยครับ อย่าไปเขียนตอบอะไรกับกระทู้
แบบนี้ ปล่อยให้กระทู้นี้ค่อยๆตกลงไปเรื่อยๆ ตกขอบ จนหายวับไปกับตา ขอให้คนอย่างพวกเราคิดเพียงอย่างเดียวว่าไม่ว่ายังไง
"ควาย ก็คือควายวันยังค่ำ"
โดย มีการศึกษา on 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:49
โดย มีการศึกษา on 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 17:29
มีเรื่องเล่าของคนเสื้อแดงให้ฟังครับ
ผมเป็นผู้จัดการอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อต้นๆปีที่ผ่านมานี้ ลูกน้องผมคนนึง(พวกคนเสื้อแดง) เค้าเดินมาหาผมและพูดกับผมอย่างดีๆว่า พี่ครับ
ผมขอทำOver timeทุกวันได้ไหมครับ ผมตอบไปว่าได้นะ ถ้าคุณทำไหว ว่าแต่คุณจะทำทุกวันเลยหรือ ไม่เหนื่อยหรือไง? แล้วไม่ต้องกลับไป
อยู่กับครอบครัวคุณหรือ?
ลูกน้องผมตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรครับ ผมทำได้ส่วนลูกผมผมให้อยู่ักับห้องเช่าข้างๆ ผมถามต่อว่า ลูกคุณเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือ ห้องเช่า
ข้างๆ ไว้ใจได้นะ? เค้าตอบว่าได้ครับ พี่ไม่ต้องห่วง "ลูกผมเอาตัวรอดได้"
ผมงงกับคำพูดว่า "ลูกเอาตัวรอดได้" เป็นเด็กผู้หญิง เรียนป.๖ หลังจากนั้นผมก็เซ็นใบทำงาน Over time ให้เค้า ซึ่งผมก็ไม่ได้ถามเหตุผลนะ
ลูกน้องผมว่าทำไมต้องทำ Over time ทุกวันด้วย
ซึ่งในขณะที่ลูกน้องผมเข้ามาขอทำงานล่วงเวลากับผมอยู่นั้น เป็นเวลาที่ผมมีคนนำงานมาส่ง(ซึ่งสนิทกับผมมาก) คนนำงานมาส่งถามผมว่า
ทำไมลูกน้องพี่ถึงต้องมาขอทำงานล่วงเวลาทุกวันด้วยละ? ผมตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน และคนนำงานมาส่งพูดว่า เค้าเป็นคน หรือ "ควาย"
จะทำงานล่วงเวลาอะไรได้ทุกวัน
ผมก็ไม่ได้ิคิดอะไรมากนะ (บอกตามจริง) เพราะคิดว่าเค้าคงจำเป็นต้องใช้เงินในขณะนี้ จึงมาขอทำงานล่วงเวลา ซึ่งผมก็อนุญาตครับ
เห็นใจเหมือนกัน
หลังจากนั้นประมาณ ๓ วัน ผมไปถามลูกน้องอีกคนนี้ ว่าทำไมเจ้าหมอนี่ต้องทำงานล่วงเวลาแบบเอาเป็นเอาตายแบบนี้ด้วยละ?
คำตอบที่ได้รับฟังแล้วอึ้งมากๆนะ ลูกน้องผมคนนี้พูดว่า ไอ้ชัยมันไปซื้อรถปิคอัพโครงการรถคันแรกครับพี่ มันต้องส่งเดือนละหมื่นนิดๆครับ
ฟังแล้วผมส่ายหัว และเดินออก ไอ้ชัยลูกน้องผมคนนี้เงินเดือนเค้าอยู่ที่ 12,000 บ. ต้องผ่อนรถเดือนละหมื่นนิดๆ แล้วมันจะเอา
เงินที่ไหนกิน ผม งง กับความคิดมันจริงๆ ทำให้ผมหวนกลับมาคิดคำพูดคนส่งของว่า คน หรือ ควาย
ปัจจุบันนี้ ลูกน้องผมคนนี้ รถถูกยึดแล้วครับ สมเพศจริงๆ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net