@klangjaimuang

กปปส โมเดลครับ ชอบตัดน้ำตัดไฟ

 

ปทุมธานี ตอนนี้ ผอ.รพ. หา่งจุกตูด โทรเรียกทหารไปคุ้มกันใหญ่เลย ตอนขึ้นป้ายละกร่าง 

 

ไอ้เวรตะไลนี่ ไม่เคยสั่งสอนให้รู้อะไรควร อะไรไม่ควรบ้างรึไง หรือว่าสิ้นคิดพอกัน

 

 

       นปช.ประกาศลั่นชุมนุมบ้าง อ้างศาลแพ่งเปิดช่องให้เคลื่อนไหวได้ เตรียมขนกองทัพกดดัน กปปส.พร้อมสร้างนักรบไซเบอร์ และประกาศชัตดาวน์องค์กรอิสระ หนุนตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นสู้                    

                                        แนวทางเคลื่อนไหว

 

          นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช. พาณิชย์ ได้เป็นตัวแทนแถลงแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.เป็นสองส่วนว่า ในส่วนแรก เป็นข้อเสนอต่อรัฐบาล อาทิ  ไม่ให้รัฐบาลลาออกอย่างเด็ดขาด ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าว และให้ทำการอารยะขัดขืนโดยไม่ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.แจ้งมา เพราะนายกรัฐมนตรีถูกปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน เรียกร้องให้ตำรวจติดอาวุธเพื่อใช้ปราบปรามกองกำลังติดอาวุธ ไม่ใช่ปราบปรามประชาชน และหากสถานการณ์ร้ายแรงบานปลาย ให้จัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อต่อสู้ในระบอบประชาธิปไตย

 

 

             ส่วนอีกส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวของ นปช. คือ

 

1.หากมีการนัดหมายให้เข้ามาชุมนุมใหญ่ที่กทม. ให้นปช.เคลื่อนได้อย่างเสรีเหมือนที่ กปปส.ทำ เพราะแนวทางนี้ได้รับการคุ้มครองจากคำพิพากษาของศาลแพ่ง อยากล้อมบ้านใครก็ล้อม อยากปิดหน่วยงานไหนก็ปิด อยากประกาศกองกำลังไล่ล่าใครก็ล่า อยากปิดถนนก็ทำ

2.ให้เตรียมระดมพลคัดสรรชายฉกรรจ์เอาไว้ และติดต่อผู้เชี่ยวชาญให้มาช่วยอบรมเพื่อเตรียมทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย

3 ให้ประสานงานกับกลุ่มนักวิชาการที่เคลื่อนไหวเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย 

4 ให้จัดเวทีชุมนุมรอบปริมณฑล เพื่อไม่ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

5.ให้ออกให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อจะได้เข้าไปเป็นนักรบไซเบอร์

6 ประกาศชัตดาวน์องค์กรอิสระทุกองค์กร 

7 จัดตั้งองค์กรเงา เช่น กรรมการสิทธิมนุษยชนเงา ศาลรัฐธรรมนูญเงา ที่ประชุมอธิการบดีเงา 

8 แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมประชาชนและต่อต้านเผด็จการ เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ประกาศต่อต้านดาราเผด็จการ

9 รณรงค์ต่อต้านรัฐประหารเต็มรูปแบบ

10 ถ้ามีนัดชุมนุมใหญ่ในกทม. ต้องมีกำลังนปช. ในพื้นที่อยู่เฝ้าระวังค่ายทหาร

11 ถ้าสถานการณ์เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ให้เตรียมช่องทางล่าถอยและแหล่งหลบภัย

 

http://www.dailynews...าวน์องค์กรอิสระ

 

 

         ลำพังแค่พูดออกมาแต่ละคนก็ฟังแทบไม่ได้อยู่แล้ว นี่ยังคิดจะปั้นมือโพสหน้าใหม่อีก สงสัยยังขายขี้หน้ากันไม่พอ

 

         จริงๆ มันจะไปขึ้นช้างลงม้าที่ไหนก็ไปเถอะ ถ้าไม่มาปั่นป่วนฝ่ายตรงข้าม แต่ดูจากที่แกนนำมันแต่ละตัวสำรอกกันบนเวทีที่โคราช หาความไว้วางใจไม่ได้เลยว่ามันจะเคลื่อนไหวอย่างสงบ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อสักครู่..ช่วงที่บลูสกายมีโฆษณา ผมเลยลองเข้าไปดูช่อง 4 Channel

 

พิธีกรสัมภาษณ์สด นปช.ชุมนุมกันที่โคราช

 

 

รู้สึกยังไงบ้างครับ กับการปิดประเทศของ กปปส. ???

 

"หนูอยากฆ่ามันค่ะ ขนาดนายกเป็นเพศแม่มัน มันยังไม่เว้นเลยค่ะ" (เสื้อแดงหญิงวัยกลางคนกล่าว)

 

แกนนำมันไม่เคยสั่งสอนให้รู้จักคิดบ้างรึไง

ที่แพ้คดีแล้วด่าศาล เพราะศาลดันตรงไปตรงมา รู้ทันพวกที่ชอบเบิกความเท็จ ทำพยานเท็จแก้ตัว ไม่เชื่อถือคำพยานและหลักฐานเท็จ

 

ที่แพ้คดีแล้วด่าศาล เพราะศาลดันไม่ยอมรับสินบน เพื่อตัดสินคดีให้เป็นคุณแก่ฝ่ายผู้ให้สินบน

 

ที่แพ้คดีแล้วด่าศาล เพราะศาลดันตัดสินคดีไปตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐานและหลักกฎหมาย

 

พวกที่"ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม"จึงไม่มีช่องทางดิ้นให้พ้นผิดไปได้

 

 

 

 

หนทางสุดท้ายที่เหลืออยู่ ก็เลยต้องใช้วิชามารตอบโต้ ด่า โจมตี บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ หวังสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตนเอง หลอกลวงสังคม

ถ้ามีความผิดพลาด เสียหาย อะไรก็ตาม

 

คนเขียนสคริปและฝ่ายปฏิบัติเท่านั้นเป็นฝ่ายผิดคร่า

 

 

แต่ถ้าเรื่องไหนก็ตาม...ดำเนินการได้ลุล่วง เป็นผลสำเร็จ

 

เป็นเพราะวิสัยทัศน์และความสามารถของดิชั้นล้วนๆนะคร้า

 

 

ก็ประชาธิปไตยของเราเป็นแบบนี้คร่ะ

 

ขอความเป็นธรรมด้วยคร่ะ...ขอบคุณคร่ะ..

 

ไม่ต้องบรรยายใดๆครับ ดูรูปกันเอาเองเรยยยย

 

มีคนซื้อจริงหรือครับ

 

ค้อนตีตะปูแถวบ้าน อันละ ประมาณ 200 นี่หละมั้งอย่างดีเลยนะ

 

ซื้อค้อนช่างไปถวายวัดป่า ซัก 4-5 ด้าม ได้บุญ ได้ประโยชน์แน่นอน เพราะวัดเอาไปทำประโยชน์ในวัดได้

 

เจอด้ามละสามแสนห้านี่เข้าไป.......ตอกตะปูไม่ได้อีกตะหาก  

แหม่ ไปโมเมว่าเขาหนีทหาร

 

 

ทีแม้วหนีคุกเห็นๆ ไม่ว่าอะไรซักคำ    

 

 

        ป.วิอาญา มาตรา 94  ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่ทำการค้นในที่รโหฐาน สั่งเจ้าของหรือคนอยู่ในนั้น  หรือผู้รักษาสถานที่ซึ่งจะค้น ให้ยอมให้เข้าไปโดยมิหวงห้าม อีกทั้งให้ความสะดวกตามสมควรทุกประการในอันที่จะจัดการตามหมาย  ทั้งนี้ให้พนักงานผู้นั้นแสดงหมาย หรือถ้าค้นโดยไม่ต้องมีหมายก็ให้แสดงนามและตำแหน่ง

 

        มาตรา 102  การค้นในที่รโหฐานนั้น ก่อนลงมือค้นให้เจ้าพนักงานผู้ค้นแสดงความบริสุทธิ์เสียก่อน และเท่าที่สามารถจะทำได้  ให้ค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน

 

                                  การค้นที่อยู่หรือสำนักงานของผู้ต้องหา หรือจำเลยซึ่งถูกควบคุม หรือขังอยู่ให้ทำต่อหน้าผู้นั้น ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหรือไม่ติดใจมากำกับ จะตั้งผู้แทนหรือให้พยาน มากำกับก็ได้ ถ้าผู้แทนหรือพยานไม่มี ให้ค้นต่อหน้าบุคคลในครอบครัวหรือต่อหน้าพยานดั่งกล่าวในวรรคก่อน

 

                                  สิ่งของใดที่ยึดได้ ต้องให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว ผู้ต้องหา จำเลย ผู้แทนหรือพยานดูเพื่อให้รับรองว่าถูกต้อง ถ้าบุคคล เช่นกล่าวนั้น รับรองหรือไม่ยอมรับรองก็ให้บันทึกไว้  

 

 

   สรุป

 

- ต้องมีการสั่งคนในบ้าน ให้ยอมให้ตำรวจเข้าไป

 

- ต้องมีการแสดงหมายหรือนามและตำแหน่ง (แล้วแต่กรณี)   

 

- เจ้าพนักงานผู้ค้นต้องแสดงความบริสุทธิ์ก่อน

 

-ให้ค้นต่อหน้าผู้ครองสถานที่ หรือบุคคลในครอบครัว หรือพยาน (แล้วแต่กรณี)   

 

ไม่ใช่นึกจะปีน ก็ปีนรั้วเข้าไปหยั่งกะโจร แบบตำรวจระบอบทักษิณ แบบนี้ไม่ไหว

 

ขออภัยครับ ไม่ได้จะรบกวนแต่เห็นคุณพี่รู้กฏหมายกระผมเลยอยากจะทราบว่า

รถยนต์เป็นที่สาธารณสถาน หรือที่รโหฐานครับ

ผมจะได้เอาแนวนี้ไปอ้างกับตำรวจเวลาจะขอค้นรถผมครับ

ขอบคุณครับ

 

 

รถยนต์ที่อยู่ตามท้องถนน (ในที่สาธารณสถาน) เป็นยานพาหนะครับ ไม่ใช่ “สถาน” จึงไม่ใช่ที่รโหฐาน

 

การขอค้น จึงไม่ต่างจากการขอค้นสิ่งของ เครื่องใช้ของบุคคล

 

จึงค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น เมื่อมีความสงสัยตามสมควร ( ป.วิ.อาญา มาตรา 93)

 

โดยถือเป็นการค้นบุคคลที่ครอบครองรถยนต์ในที่สาธารณะสถาน

 

มิฉะนั้นกว่าจะไปขอหมายค้น ผู้ต้องสงสัยจะชิ่งหนีไปเสียได้

 

 

        ป.วิอาญา มาตรา 94  ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่ทำการค้นในที่รโหฐาน สั่งเจ้าของหรือคนอยู่ในนั้น  หรือผู้รักษาสถานที่ซึ่งจะค้น ให้ยอมให้เข้าไปโดยมิหวงห้าม อีกทั้งให้ความสะดวกตามสมควรทุกประการในอันที่จะจัดการตามหมาย  ทั้งนี้ให้พนักงานผู้นั้นแสดงหมาย หรือถ้าค้นโดยไม่ต้องมีหมายก็ให้แสดงนามและตำแหน่ง

 

        มาตรา 102  การค้นในที่รโหฐานนั้น ก่อนลงมือค้นให้เจ้าพนักงานผู้ค้นแสดงความบริสุทธิ์เสียก่อน และเท่าที่สามารถจะทำได้  ให้ค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน

 

                                  การค้นที่อยู่หรือสำนักงานของผู้ต้องหา หรือจำเลยซึ่งถูกควบคุม หรือขังอยู่ให้ทำต่อหน้าผู้นั้น ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหรือไม่ติดใจมากำกับ จะตั้งผู้แทนหรือให้พยาน มากำกับก็ได้ ถ้าผู้แทนหรือพยานไม่มี ให้ค้นต่อหน้าบุคคลในครอบครัวหรือต่อหน้าพยานดั่งกล่าวในวรรคก่อน

 

                                  สิ่งของใดที่ยึดได้ ต้องให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว ผู้ต้องหา จำเลย ผู้แทนหรือพยานดูเพื่อให้รับรองว่าถูกต้อง ถ้าบุคคล เช่นกล่าวนั้น รับรองหรือไม่ยอมรับรองก็ให้บันทึกไว้  

 

 

   สรุป

 

- ต้องมีการสั่งคนในบ้าน ให้ยอมให้ตำรวจเข้าไป

 

- ต้องมีการแสดงหมายหรือนามและตำแหน่ง (แล้วแต่กรณี)   

 

- เจ้าพนักงานผู้ค้นต้องแสดงความบริสุทธิ์ก่อน

 

-ให้ค้นต่อหน้าผู้ครองสถานที่ หรือบุคคลในครอบครัว หรือพยาน (แล้วแต่กรณี)   

 

ไม่ใช่นึกจะปีน ก็ปีนรั้วเข้าไปหยั่งกะโจร แบบตำรวจระบอบทักษิณ แบบนี้ไม่ไหว

 

ตำรวจทำอย่างละมุนละม่อน กับโดนด่า สงสัยอยากให้ทหารมาแทนกะมัง

 

 

 

ปากมีน่ะ ทำให้มันถูกต้อง บอกกล่าวคนในบ้านเขาหน่อย แสดงความบริสุทธิ์ใจหน่อย ไม่ใช่เกิดเขาแก้ผ้ากันอยู่ แม่มโผล่ไปจ๊ะเอ๋กับเขาพอดี ตกใจตายห่าน

 

ว่าแต่ฉายายุทธตู้เย็นนี่ได้มาเพราะอะไรเอ่ย....

 

 

 

 

        ป.วิอาญา มาตรา 94  ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่ทำการค้นในที่รโหฐาน สั่งเจ้าของหรือคนอยู่ในนั้น  หรือผู้รักษาสถานที่ซึ่งจะค้น ให้ยอมให้เข้าไปโดยมิหวงห้าม อีกทั้งให้ความสะดวกตามสมควรทุกประการในอันที่จะจัดการตามหมาย  ทั้งนี้ให้พนักงานผู้นั้นแสดงหมาย หรือถ้าค้นโดยไม่ต้องมีหมายก็ให้แสดงนามและตำแหน่ง

 

        มาตรา 102  การค้นในที่รโหฐานนั้น ก่อนลงมือค้นให้เจ้าพนักงานผู้ค้นแสดงความบริสุทธิ์เสียก่อน และเท่าที่สามารถจะทำได้  ให้ค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น หรือถ้าหาบุคคลเช่นกล่าวนั้นไม่ได้ ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน

 

                                  การค้นที่อยู่หรือสำนักงานของผู้ต้องหา หรือจำเลยซึ่งถูกควบคุม หรือขังอยู่ให้ทำต่อหน้าผู้นั้น ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหรือไม่ติดใจมากำกับ จะตั้งผู้แทนหรือให้พยาน มากำกับก็ได้ ถ้าผู้แทนหรือพยานไม่มี ให้ค้นต่อหน้าบุคคลในครอบครัวหรือต่อหน้าพยานดั่งกล่าวในวรรคก่อน

 

                                  สิ่งของใดที่ยึดได้ ต้องให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว ผู้ต้องหา จำเลย ผู้แทนหรือพยานดูเพื่อให้รับรองว่าถูกต้อง ถ้าบุคคล เช่นกล่าวนั้น รับรองหรือไม่ยอมรับรองก็ให้บันทึกไว้  

 

 

   สรุป

 

- ต้องมีการสั่งคนในบ้าน ให้ยอมให้ตำรวจเข้าไป

 

- ต้องมีการแสดงหมายหรือนามและตำแหน่ง (แล้วแต่กรณี)   

 

- เจ้าพนักงานผู้ค้นต้องแสดงความบริสุทธิ์ก่อน

 

-ให้ค้นต่อหน้าผู้ครองสถานที่ หรือบุคคลในครอบครัว หรือพยาน (แล้วแต่กรณี)   

 

ไม่ใช่นึกจะปีน ก็ปีนรั้วเข้าไปหยั่งกะโจร แบบตำรวจระบอบทักษิณ แบบนี้ไม่ไหว

ผลพวงจากการเป็นขี้ข้าระบอบแม้ว

 

หน้าด้านขากถุยอะไรออกมาก็ได้ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องพิจารณาอะไร

 

ไม่ต้องสนฟีตแบคด้วย ว่าสังคมจะประณามยังไง

 

ลองใครไปถามมันดูสิว่าตัดต่ออย่างไร จุดไหน  มันตอบไม่ได้หรอก แต่สำรอกออกมาก่อนแล้ว

 

 

 

เมื่อวานผมดูรายการข่าวทางบลูสกายกับเพื่อน รวม 5 คน

 

พอผู้ประกาศรายงานว่า ธาริตบอกว่าคลิบนี้ตัดต่อ

 

3 ใน 5 คนพูดอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่ต้องนัดหมายเลยว่า "ตัดต่อพ่องดิ"

 

สมแล้วที่บางคนเขาเรียกมันว่า"ไอ้นักกฎหมายซ่นตีณ"

นิสัยเหมือนพวกเสื้อแดงนี่มันน่ารันทดอยู่อีกอย่างนะ

 

จากที่ชอบเลอะเทอะ โจมตีศาลต่างๆนาๆ

 

แต่เฉพาะเรื่องไหนที่ตัดสินถูกใจ ก็ไม่รีรอที่จะกระโดดงับมาอ้างอิง ได้ทุกเรื่อง

 

แล้วต้องมาคอยโดนคนอื่นเขาถากถางว่าเป็นพฤติกรรมที่ "หน้าด้าน"

 

มันน่ารันทดตรงนี้แหละ

สงสัย ศรส.จะอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศกับญี่ปุ่นในการแสวงหาข้อเท็จจริง  

 

 

วัตถุระเบิดนะครับ ไม่ใช่ลูกมะนาว

แล้วอีกอย่างน่ะ เรื่องเจตนา แม้ไม่ได้ประสงค์จะกระทำโดยตรง

แต่ถ้าเล็งเห็นได้ว่าผลร้ายจะต้องเกิดขึ้นได้จากการกระทำ ก็เป็นการกระทำโดย"เจตนา"ตามกฎหมายล่ะครับ (ป.อาญา มาตรา 59 วรรคสอง)

อย่างไรเสียการตั้งข้อหา ควรตั้งให้คลอบคลุมความผิดบทหนักไว้ มิฉะนั้น ต่อให้นำสืบชั้นศาลได้ว่าเป็นความผิดบทหนัก ก็ไม่สามารถลงโทษได้ เพราะศาลจะตัดสินนอกเหนือจากฟ้องไม่ได้

ซึ่งเวลาสำนวนจากพนักงานสอบสวนถูกส่งไปยังอัยการ อัยการต้องพิจารณาอีกชั้นอย่างเคร่งครัด วินิจฉัยสั่งคดีบนรากฐานของความสมเหตุสมผล