faraway

เห็นด้วยว่าปี 57 ต้องรุนแรงแน่ ( เหลืออีก 2- 3 วัน ปูคงไม่ก่อนแน่ๆ )

คิดแค่เรื่องเดียวครับ....

การต่อสู้ก่อนนี้ มันไม่ถึงขั้นล้างบาง แค่สู้เพื่อเข้ามาในระบบเลือกตั้งซึ่งเขาเป็นต่อ

แต่คราวนี้ถ้าเขาแพ้ หมดทั้งระบบ ทั้งโคตร ทั้งเครือข่าย บริวาร

เดิมพันมันสูงมากจนน่ากลัวครับ

เขาไม่ใช่เล่นแต่ คปท น่ะครับ

นี่มันกปท หรือกองทัพธรรม มีทั้งพระทั้งโยม

โยมส่วนหนึ่ง เป็นสันติอโศก ยุงตัวนึงยังไม่ตบ จะไปสู้รบตบมือกับใครได้

เหตุการ์ณมันไปตามธรรมชาติของมันเอง

จะปล่อยให้ฆ่าเท่าไหร่จึงจะพอใจ

หรือจนคนทั้งประเทศทนไม่ได้

หรือคนที่มีกำลังทนไม่ได้

หรือฝ่ายที่โดนฆ่าจะทนไม่ได้

ไม่รู้อะไรจะเกิดก่อนเกิดหลังล่ะครับ

วันนี้ไป คปท แล้วเดินต่อไปกองทัพธรรม 

ตอนกลับเดินออกจากกองทัพธรรม บริเวณนั้นแหล่ะ

น่าจะใกล้เคียงกับเวลาที่มันโยนระเบิด

คาดว่าคล้อยหลังแป๊ปเดียว

พอกลับบ้านมาดูข่าวถึงรู้

สมัยพันธมิตร ก่อนเอ็ม79 จะระบาด

ช่วงต้นก็หยั่งงี้แหล่ะ เอาคนมาลอบยิงบ้าง โยนระเบิดบ้าง

การ์ดตายไปบ้าง

มีอยู่หนนึง พวกมันบุกเข้ามา มียิงปะทะกัน

พอสงบ ฝั่งเขาตายไปคนนึง พอไปดูหลักฐาน กลายเป็นตำรวจจากอุดร

ไม่แน่ใจว่าพันธมิตรจัดการอย่างไร เพราะหลังไม่ค่อยมีการมาลอบยิง หรือโดยระเบิด

หรือว่ามันทำไม่ได้ผล จึงหันไปยิงเอ็ม 79 ซึ่งอันนี้แหล่ะที่พันธมิตรแก้เกมไม่ได้

จนต้องย้ายไปสนามบินสุวรรณภูมิ

มันมีวิธีพิสูจน์ง่ายๆ ว่า คำรณวิทย์ ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำ

คือ ให้ไปสาบานกับพระแก้วมรกตครับ

เพราะเท่าที่ทราบ นักการเมืองที่ชอบโกหก ทุกราย พอมีคนท้าให้ไปสาบานกับพระแก้วมรกต

กลับแกล้งเฉไฉไปเสียทุกราย

ไม่เว้นแต่เป็ดเหลิม

เพราะต่อให้เป็นคนชั่วเพียงใด ก็ไม่กล้าลองดีกับพระแก้วมรกต

ที่ผ่านมา เคยเห็นกรณีเดียว ที่โกหก แต่กล้าไปสาบานกับพระแก้วมรกต

คือคดีแท็กซี่ สมพงษ์ เลือดทหาร ที่สุดท้ายต้องติดคุกน่ะครับ

ขอเสนอแนะนิดนึงครับ เวลาไว้อาลัย ทำจิตสงบนิ่งเป็นสมาธิ เป็นกุศลอย่างนึง

ถ้าเป็นไปได้ อยากให้อุทิศผลบุญจากการทำจิตสงบ

และผลบุญจากอดีตที่ทำมาทั้งหมดในอดีตจนถึงปัจจุบันให้น้องเขาด้วย

ตะกี้ ตอนเวที่ราชดำเนินยืนไว้อาลัย ผมก็ทำเช่นนี้ล่ะครับ

เพื่อนๆ อยากช่วยน้องเขาก็ทำได้เลยนะครับ

เวที คปท.มีกล่าวไว้อาลัยน้องการ์ด น้องยุทธนา  องอาจ

น้องอุทัยขึ้นกล่าวทั้งน้ำตา บรรยากาศเศร้ามาก

อยากให้เวที ราชดำเนินกล่าวถึงเขาบ้าง

มีประโยชน์ไร พอเข้า วุฒิสภา พวกมันก็ยกมือให้ไม่มีความผิด เสียเวลาเปล่าๆ

มีประโยชน์ครับ เพราะไม่ใช่กรณีถอดถอนออกจากตำแหน่ง ที่ต้องใช้เสียงวุฒิสภา ตามมาตรา 272 279 แห่งรัฐธรรมนุญ

แต่กรณีนี้ เป็นความผิดคดีอาญา ซึ่งต้องการทำความเห็น และยื่นต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผูดํารงตําแหนงทางการเมืองตามมาตรา 275

ถ้าผิดก็ติดคุกล่ะครับ....

อ้อ ก่อนผิดจนถึงติดคุกนี่ ผู้ดำรงตำแหน่งอยู่ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

 

 

แล้วถ้าคนไปเลือกตั้งไม่ครบ 20% ละครับ ยังมีผลอยู่มั้ย

 

ถ้ามีผู้สมัครพรรคเดียว ต้องได้คะแนน 20 เปอร์เซนตขึ้นไป์

 

ถ้ามี 2 พรรคขึ้นไป คะแนนเท่าไหร่ก็ใช่ได้หมด

 

คราวที่แล้ว ทักาิพลาดตรงที่จับได้เรื่องการจ้างพรรคเล็กให้สมัครเป็นหน้าม้า

 

คราวนี้คงไม่พลาดอีก

 

คะแนน โนโหวต โหวตโน ไม่มีผลทางกฎหมายอะไร ถ้ามีสมัครหลายพรรคในทุกเขต

 

มีเพื่อนสมาชิกเอามาลงไว้   ถ้าผมจำไม่ผิดนี่   ต้องชนะโนโหวตนะครับ    หากคะแนนน้อยกว่าโนโหวต   เลือกใหม่     

 

ส่วนตัวยังไม่คิดว่าต้องไปถึงต้องใช้ประเด็นนี้

แต่เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย เพราะยังสับสนขอชี้แจงดังนี้ครับ

ต้องไปดู พระราชบัญญัต ประกอบรัฐธรรมนูญวาดวยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผูแทนราษฎรและการไดมาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐

มาตรา 88 มีหลายวรรค คัดเฉพาะที่ีเป็นประเด็นคือวรรคแรก

ซึ่งหมายถึงผู้สมัครน้อยกว่า หรือเท่ากับจำนวน สส ซึ่งก็คือสมัครพรรคเดียว

มาตรา ๘๘ ในเขตเลือกตั้งใด ถาในวันเลือกตั้งมีผูสมัครแบบแบงเขตเลือกตั้งเทากับหรือ
นอยกวาจํานวนสมาชิกสภาผูแทนราษฎรที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น ผูสมัครจะไดรับเลือกตั้งตอเมื่อ
ไดรับคะแนนเลือกตั้งไมนอยกวารอยละยี่สิบของจํานวนผูมีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นและมากกวา
จํานวนบัตรเลือกตั้งที่ไมประสงคจะลงคะแนนเลือกตั้ง ในกรณีที่ผูสมัครผูใดไดรับ คะแนนเลือกตั้ง
นอยกวารอยละยี่สิบของจํานวนผูมีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นหรือไมมากกวาจํานวนบัตรเลือกตั้ง
ที่ไมประสงคจะลงคะแนน ใหคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศใหมีการเลือกตั้งใหม โดยใหรับสมัคร
รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งใหมเฉพาะตําแหนงที่ไดรับคะแนนนอยกวา

..มีวรรคอื่นอีก

ที่ตีความกันว่า ถ้าโนโหวตเยอะมีผลให้ล้างผลการลงคะแนนคือ มาตรานี้ครับ มี 2วรรค เอาแค่วรรคแรก

มาตรา ๘๙ ภายใตบังคับมาตรา ๘๘ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎรใหผูสมัคร
ซึ่งไดคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดเปนผูไดรับเลือกตั้ง แตในเขตเลือกตั้งที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผูแทนราษฎร
แบบแบงเขตเลือกตั้งไดมากกวาหนึ่งคน ใหผูสมัครซึ่งไดคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดเรียงตามลําดับลงมา
ในเขตเลือกตั้งนั้นเปนผูไดรับเลือกตั้งตามจํานวนสมาชิกสภาผูแทนราษฎรที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น
รอยละยี่สิบของจํานวนผูมีสิทธิเลือกตั้งหรือไมมากกวาจํานวนบัตรเลือกตั้งที่ไมประสงคลงคะแนนเลือกตั้ง
และใหนําความในมาตรา ๙ มาใชบังคับ

สรุป คือไปตีความว่า ภายใต้บังคับ มาตรา 88 หมายความว่า ยังไงก็ตาม ต้องได้คะแนน เกินยี่สิบเปอร์เซนต์ บวก มากกว่าโนโหวต

ต้องบอกว้่า ตีความคลาดเคลื่อนครับ

ตามความหมายคือ หมายความว่า

กรณีมีผู้สมัครเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนสส บังคับตามมาตรา 88 กรณีนี้คือมีผู้สมัครพรรคเดียวนั่นแหล่ะ

แต่ถ้า มีผู้สมัคร มากกว่า จำนวนสส ไม่เข้ามาตรา 88 ครับ

จึงต้องวิ่งมา มาตรา 89

กลายเป็นว่า มีผู้สมัครหลายพรรค ก็เอาคนได้คะแนนสูงที่สุดได้เลย จะน้อยกว่าดนโหวตก็ได้ครับ

( ทางกฎหมาย คำว่าภายใต้บังคับ  หมายภึง ยกเว้นตามกรณี...กรณีนี้ หมายความว่า ยกเว้่นตามกรณีมาตรา 88 ก็ให้ใช้มาตรา 89 นั่นแหล่ะ )

แล้วถ้าคนไปเลือกตั้งไม่ครบ 20% ละครับ ยังมีผลอยู่มั้ย

ถ้ามีผู้สมัครพรรคเดียว ต้องได้คะแนน 20 เปอร์เซนตขึ้นไป์

ถ้ามี 2 พรรคขึ้นไป คะแนนเท่าไหร่ก็ใช่ได้หมด

คราวที่แล้ว ทักาิพลาดตรงที่จับได้เรื่องการจ้างพรรคเล็กให้สมัครเป็นหน้าม้า

คราวนี้คงไม่พลาดอีก

คะแนน โนโหวต โหวตโน ไม่มีผลทางกฎหมายอะไร ถ้ามีสมัครหลายพรรคในทุกเขต