Jump to content


หนึ่งใน 60 ล้าน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2557 10:06
-----

Topics I've Started

สติสัมปชัญญะ

1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:26

สติสัมปชัญญะ

 

ธรรมใดเกิดแต่เหตุ ทรงมีปกติตรัสเหตุเกิดเหตุดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะทรงมีปกติตรัสสอนอย่างนี้

(พระอัสสชิ)

 

               ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของเหตุการณ์ที่เกิดดับอยู่ตลอดเวลาเป็นเหตุเป็นผลหนุนเนื่องกันตลอดสาย ซึ่งรวดเร็ว เร่งเร้าเป็นอย่างยิ่ง กินเวลาต่อเนื่องกันมาประมาณ 3 เดือนแล้ว มันยากที่จะมีใครจำแนกได้ว่า บัดนี้ตัวเองกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน มาจากไหน จะไปไหนต่อไป......  และทั้งหมดนี้มาจากเหตุคืออะไรกันแน่?

 

               การยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ของรัฐบาลนางยิ่งลักษณ์ฯ เป็นทั้งวิธีกลบเกลื่อนปัญหาและเป็นวิธีหนีปัญหาไปพร้อมกัน นี่เป็นเรื่องที่หลายคนคงลืมไปแล้ว

 

               ปัญหาการพยายามแก้กฎหมายช่วยให้คนที่ลักทรัพย์ (คอรัปชั่น) และคนที่เผาเมือง ฆ่าคน พ้นจากความผิด และปัญหาการพยายามแก้รัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจของรัฐไว้เป็นของส่วนตัว

 

               ยังมี ปัญหาการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้ชาวนาเดือดร้อนทั้งประเทศ ถึงกับมีการฆ่าตัวตายเพื่อหนีความเดือดร้อนไปหลายคนแล้ว

               หนีไปบนเส้นทางการทำความผิดเพิ่มเติมอีกมากมาย ทั้งการใช้สื่อของรัฐหลอกลวงผู้คน ทั้งการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือจับกุมคุมขังผู้คน ขณะเดียวกันก็มีกองกำลังติดอาวุธโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองกำลังทหารจากเขมรเที่ยวโยนระเบิด ยิง เข่นฆ่าผู้คนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่า ทั้งหมดนั้นอยู่ใต้คำบงการของเธอ

              

               เพื่อหนีปัญหาความชั่วที่ตัวเองก่อ เธอกลับใช้อุปกรณ์ทุกชนิดของรัฐเป็นเครื่องมือในการหลบหนี บนการก่อกรรมทำชั่วเพิ่มเติมมากมายเหลือเกิน และนี่ก็คือประเด็นปัญหา

 

               คนโดยทั่วไปไม่รู้เท่าทัน จึงถูกหลอกให้วิ่งตามไป กลายเป็นขบวนหนีปัญหาที่ยาวเฟื้อย แต่ผมไม่เชื่อว่าบุคคลากรระดับนำในองค์กรของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้โดยตรงจะไม่รู้เท่าทัน โดยผมเชื่อว่าพวกเขาแกล้งลืม แกล้งทำเป็นไม่รู้เสียมากกว่า

 

               ก็ กกต. ปปช. สตง. และ ตร. ไงครับที่แกล้งทำเป็นไม่รู้

 

               จะแกล้งไม่รู้เพราะมีมูลเหตุจูงใจพิเศษคือ เพื่อเห็นแก่บางสิ่งบางอย่างที่จะได้สนองความโลภ หรือเพื่อปกป้องบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่แล้วไม่ให้สูญเสียไป สนองความกลัวนั้น ผมยืนยันไม่ได้

 

               ทุกปัญหาต้องแก้ที่เหตุ นี่เท่านั้นที่ผมสามารถยืนยันได้

 

               ต้องหยุดกระบวนการใช้ทรัพยากรของรัฐเป็นเครื่องมือหนีปัญหาของนางยิ่งลักษณ์ฯ และกดดันให้เธอกลับไปรับผิดชอบต่อผลของสิ่งที่ตัวเองได้กระทำไว้ โดยให้ลาออกไปในทันที นี่คือการแก้ที่เหตุ

 

               การไปเลือกตั้ง นอกจากไม่แก้ปัญหาความชั่วที่เธอก่อไว้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เธอได้ทำความชั่วต่อไปชนิดไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย

 

               การไม่ไปร่วมกิจกรรมการเลือกตั้งที่เธอจัดขึ้นคือ อเสวนา จะ พาลานัง ครับ.


สู้อย่างผู้ชนะ

23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:45

    สู้อย่างผู้ชนะ

 

 

    มองโกลโดยเจงกีสข่านพิชิต จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรปทั้งหมด ยกเว้นอังกฤษ (เพราะเป็นเกาะ) ซึ่งมีประชากรรวมกันหลายร้อยล้านคน ด้วยทหารเพียงประมาณ 2 แสนคนเท่านั้น

    ยุทธวิธีเอาน้อยชนะมากของมองโกลนี้คือ ส่งกลุ่มทหารเล็ก ๆ ไปสู้กับกองทัพมหึมาของข้าศึก แล้วแกล้งแพ้ให้ไล่ตามทำให้ทหารเหล่านั้นไล่ตามด้วยความหึกเหิม ย่ามใจ พร้อม ๆ กับกำลังที่ค่อยหมดไป แล้วทันใดนั้นทหารกองใหญ่ของมองโกลก็ปรากฎตัวขึ้น ฆ่ากองทัพศัตรูทั้งหมดในคราวเดียว

    ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รัสเซียที่เคยถูกมองโลกพิชิตนำวิธีเดียวกันนั้นมาใช้กับทหารนาซี ผลคือ นาซีแพ้ยับเยิน

    คุณทักษิณฯ โดยนางยิ่งลักษณ์ฯ ก็ใช้วิธีเดียวกันกับมองโกล โดยใช้ข้าราชการระดับสูงซึ่งมีไม่เกิน 100 คนเท่านั้น สู้กับคนจำนวนหลายล้านคนที่นำโดยคุณสุเทพฯ แล้วผลก็เป็นอย่างที่เห็นกันอยู่

    แม่ทัพใหญ่มีกำลังมหึมาเช่นคุณสุเทพฯ กลายเป็นแม่ค้าปากตลาด และนักรับจ้างร้องไห้หน้างานศพ โดยเชื่อว่านั่นคือวิธีเดียวที่จะพิชิตศึกครั้งนี้ได้ ไปเรียบร้อยแล้ว นับเป็นเรื่องที่เสียหายและเสียศักดิ์ศรีของกองทัพมหึมานี้เป็นอย่างยิ่ง

    ก่อนคุณสุเทพฯ จะนำคณะไปพบนายทหาร ผมเคยเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงคณะ กปปส. ว่า มันคืนเกมล่อวัวกระทิงให้ไล่ขวิดผ้าสีแดงจนหมดแรงแล้วค่อยฆ่าทิ้งในภายหลัง จึงแนะนำให้ไม่ไป แต่คุณสุเทพฯ ก็ไป และวันนี้ก็พามวลชนไปหา กกต. อีก

    คุณสุเทพฯ ไม่รู้ว่า ฉันทานุมัติจากคนหลายล้านคนที่ปรากฎตัวขึ้น และมอบให้ไปนั้น คล้ายดาบอาญาสิทธิ์จากเฮกเซียนฮ่องเต้ที่มอบหมายให้ไปปราบ 3 โลก ผดุงความดีงาม มันไม่ควรถูกใช้แบบสะเปะสะปะเช่นนี้อีกต่อไป

    แค่ฉันทะ วิริยะ และจิตตะ หรือการให้ใจไม่พอหรอก มันต้องมีวิมังสา หรือการทบทวนบ่อย ๆ ด้วย องค์แห่งความสำเร็จ หรือ อิทธิบาท จึงจะถึงพร้อมได้

    คุณสุเทพฯ ต้องวิมังสา หรือ สรุปบทเรียน แล้วเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เป็นการใช้ดาบอาญาสิทธิ์ให้ถูกต้อง เล็งไปที่จุดตายของเหล่าคนชั่ว แล้วแทงให้มิดด้ามเลย

    กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 ระบุว่า สภาผู้แทนประกอบด้วยสมาชิก จำนวน 500 คน แต่หากเลือกแล้วได้ไม่ครบ 500 จะต้องได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของ 500 คือ ไม่ต่ำกว่า 475 คน ถึงจะประกอบกันเป็นสภาได้

    กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 8 ระบุว่า บุคคลจะเป็น สส.ได้ จะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของคะแนนเสียงทั้งหมดที่มีในเขตการเลือกตั้งนั้น

    จากข้อกำหนดของกฎหมายข้างต้น เมื่อคำนึงถึงความจริงที่ 14 จังหวัดภาคใต้ มี สส. เขต 53 คน หาก สส.เขตเหล่านั้น ไม่ได้รับเลือกตั้งเลย หรือได้รับเลือกตั้งไม่ถึงครึ่งของ 53 คน เพราะได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ดังกล่าวข้างต้น สภาจะเกิดไม่ได้ เพราะมี สส. ไม่ถึงร้อยละ 95 และเมื่อสภาเกิดไม่ได้ รัฐบาลก็มีไม่ได้

ยิ่งหากจังหวัดอื่น ๆ สามารถทำได้แบบเดียวกับทางภาคใต้ ผลก็จะยิ่งบานปลายไปกันใหญ่

    ที่ ปชป. ซึ่งคุมเสียงภาคใต้อยู่ ลงมติไม่ลงสมัครเลือกตั้งในคราวนี้ คือคุณูปการแก่ประเทศชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ซึ่งนอกจากต้องขอบคุณเขาแล้ว เราเองยังต้องนำมาขยายผลให้สัมฤทธิ์ต่อไปด้วย

    อำนาจอยู่ในมือเราเอง ไม่ต้องพึ่งพาใครเลย ใช้ทันที ได้ผลทันที

    อย่าไปขอร้องพวกโจรให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป แต่จงไปขอร้องให้พวกมันเขยิบวันเลือกตั้งให้เข้ามาเร็ว ๆ หน่อยถึงจะถูก

    เมื่อวันนั้นมาถึง อย่าว่าแต่นางยิ่งลักษณ์ฯ จะอยู่ไม่ได้เลย แม้แต่ กกต. ผู้จัดการเลือกตั้ง แม้แต่ทหาร ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบความมั่นคง ก็อยู่ไม่ได้

    อย่าเล่นเกมที่คนอื่นกำหนด แต่จงกำหนดเกมให้คนอื่นเล่น นี่คือที่อยากบอกคณะ กปปส.

    แล้วกว่าจะถึงวันนั้น มวลชนจะทำอะไรหรือ ก็ชุมนุมไปเรื่อย ๆ ใครไม่ว่างต้องทำธุระก็ไปทำ ใครว่างก็มา โดยทางเวทีต้องจัดหาพิธีกรที่มีคุณภาพ ไม่ต้องไปด่าใครให้สกปรกปาก มาพูดเรื่องดี ๆ ให้ความรู้แก่กันและกันในเรื่องต่าง ๆ สลับกับความบันเทิง เป็นการวมกลุ่มกันไว้ให้เหนียวแน่นเพื่อภารกิจใหญ่ที่จะมีในวันหน้า

    จงโยนนรกให้แก่เหล่าสัตว์นรก นั่งดูพวกมันดิ้นเร่าอยู่ในกองไฟ แล้วชี้ให้ดู เป็นการแยกแยะให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร เป็นความรู้แก่ประชาชน ประเสริฐกว่าตั้งเยอะ


 

ทนายคนหนึ่ง
23 ธันวาคม 2556