Find content
ไม่ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 11 มกราคม นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว"พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล"ว่า จากที่ กกต.มีมติเอกฉันท์ส่งเรื่องให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาเลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 4 พฤษภาคม เท่ากับเลื่อนไปประมาณ 3 เดือน ซึ่งคาดการณ์ไว้แต่ต้นแล้วว่า หากรัฐบาลจะต้องเลื่อนจริง ก็คงเลื่อนสัก 2-3 เดือน ไม่ใช่เลื่อนไปเป็นปีๆ การเลื่อน 3 เดือนเช่นนี้ เป็นเรื่องลูกบอลมาเข้าเท้าตรงหน้าประตูตรงๆ อาจอ้างว่าเป็นการเลื่อนตามที่ กปปส.เรียกร้องแล้ว จะเอาอะไรอีก แต่ในเวลา 3 เดือนไม่ใช่วิสัยที่จะปฎิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งตามเงื่อนไขของ กปปส.ได้ ซึ่งแน่นอนว่า กปปส.ต้องไม่ยอมรับและต้องเสียความชอบธรรมในสายตาของประชาชนและต่างประเทศ จะถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวหา โดยชาวเสื้อแดงในคราบเสื้อขาว ที่ก่อตั้งขึ้นมาแล้วและกำลังขยายกลุ่มอย่างรวดเร็ว ความวุ่นวายจะยังไม่ยุติ
การออกพระราชกฤษฎีกาเลื่อนการเลือกตั้งออกไป น่าจะเป็นปัญหาแก่พรรคประชาธิปัตย์โดยตรงว่าจะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ หากไม่ลง จะเข้ากรณีไม่ลงเลือกตั้งเป็นครั้งที่สองติดต่อกันหรือไม่ หากถือว่าเป็นการไม่ลงเลือกตั้งเป็นครั้งที่สอง ผลตามกฎหมายจะเป็นอย่างไร ว่ากันว่าอาจต้องถึงกับถูกยุบพรรค พรรคประชาธิปัตย์ต้องลงเลือกตั้ง เพราะความจำเป็น หรือยอมรับกรรมพบจุดจบตามกฎหมาย หรือหากจำเป็นต้องลงรับเลือกตั้ง จะเหลือสมาชิกเดิมเพียงกี่คน ที่สำคัญคือแนวร่วมฐานเสียงจำนวนมหาศาลของพรรคประชาธิปัตย์จากภาคใต้ และ กทม.ไปอยู่ในราชดำเนินเสียแล้ว ซึ่งเมื่อม็อบจุดติดแล้วก็ดับยากจริงๆ หากพรคประชาธิปัตย์ทั้งใน กทม.และภาคใต้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ปฎิกริยาต่อต้านจากฐานเสียงเดิมจะรุนแรงแค่ไหน และจะต้องศูนย์เสียไปสักกี่ล้านเสียง กกต.มีแนวทางว่า จะเรียกพรรคการเมืองทั้งหมดมาหารืออีกที แต่คำตอบจากพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกได้ตั้งแต่บัดนี้ว่า"ไม่สำเร็จ" พรรคประชาธิปัตย์หลังชนฝาแล้วจริงๆ ด้วยกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก เพราะไปยกพรรคลาออกจนเป็นเหตุให้เขามีความชอบธรรมที่จะยุบสภา อนิจจา พระแม่ธรณี
