Jump to content


คนไทยเสรี

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 14 มกราคม 2557
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2557 06:40
-----

Topics I've Started

การเลือกตั้ง กับ ประชาธิปไตยของผม ที่ถูกบิดเบือน

30 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:04

ทุกวันนี้ดูเหมือนประชาธิปไตยที่ผมเคยเรียนมาถูกบิดเบือน จึงอยากเตือนความจำกันหน่อยครับ
 
1. จริงๆ แล้วการเลือกตั้งเป็นแค่กลไกหนึ่งในระบอบประธิปไตย และไม่มีกลุ่มไหนที่ปฏิเสธการเลือกตั้ง  คนไทยทุกคนชอบการเลือกตั้ง เพราะอิสระเสรีอยู่ในสายเลือดของคนไทยทุกคนครับ อย่าให้ใครใช้การเลือกตั้งมายุงยงแบ่งแยกพวกเรา
 
2. จริงๆ แล้วอำนาจอธิปไตยของพวกเรามี 3 อำนาจ คือ อำนาจบริหาร, อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจตุลาการ
 
3. จริงๆ แล้วเรามอบอำนาจอธิปไตยผ่านการเลือกตั้งแค่ 2 อำนาจ คือ อำนาจบริหาร และอำนาจนิติบัญญัติเท่านั้น แต่อำนาจตุลาการเรามอบให้ศาลเป็นผู้ดูแล
 
4. อำนาจตุลาการไม่สามารถใช้ผ่านการเลือกตั้งได้ เพราะอำนาจนี้ต้องใช้ความรู้ด้านข้อกฏหมาย, การไต่สวนที่ถูกต้อง และพยานหลักฐานที่จัดแจ้ง จึงจะตัดสินความถูกผิดโดยไม่ม่ข้อโตแย้งได้ ดังนั้นผู้จะเป็นศาลได้ต้องผ่านการเรียนด้านกฏหมายตามหลักสูตรสากล และผ่านการสอบคัดเลือกตามกระบวนการ ครับ 
 
5. ความถูกผิดตัดสินโดยเสียงข้างมากไม่ได้ เช่น สมมุติในห้องเรียนมีของหายและนาย ก. โดนกล่าวหา  ครูจะให้นักเรียนทั้งห้องโหวตไม่ได้ว่า นาย ก. เป็นขโมยหรือไม่ ถึงแม้ ถ้า นาย ก. ชนะโหวตเพราะเพื่อนรักและเชื่อถือ แต่ถ้ามีใครคนหนึ่ง พบหลักฐานในกล้องวงจรปิดมาแสดง นั้นหมายถึง นาย ก. ก็ต้องถูกครูตัดสินว่าผิด
 
6. ผมเห็นนักวิชาการบางคนประดิษฐ์คำ “ระบบศาล”, “ระบอบศาล” บ้าง “ตุลาการภิวัติ” บ้าง ว่าจะล้มล้างประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง จริงๆ แล้วไม่มีหรอกครับคำนี้ ผู้ไม่หวังดีประดิษฐ์คำขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนอำนาจตุลาการของพวกเราเท่านั้น มีแต่ศาลคือผู้ใช้อำนาจตุลาการของปวงชนชาวไทย
 
7.  อย่าลืมครับศาลจะตัดสินตามพยานหลักฐานและข้อกฏหมายตามหลักสากล ซึ่งพิสูจน์และโตแย้งกันได้ระหว่งการไต่สวน  ดังนั้นศาลตัดสินแล้วต้องถือว่าสิ้นสุดผู้ใดจะโต้แย้งไม่ได้
 
8. ผู้ใดที่ปฏิเสธอำนาจศาล ผู้นั้นคือผู้ที่ท้าทายอำนาจอธิปไตยของพวกเรา แล้วใครกันคือผู้ที่คิดล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่มี 3 อำนาจในปัจจุบัน
 
สรุปคือ เราให้อำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติโดยผ่านการเลือกตั้ง และให้อำนาจตุลาการผ่านทางศาลเพื่อตรวจสอบและถ่วงดุล เพื่อความสงบเรียบร้อยโดยรวม
 
 
 

กรณีโครงการจำนำข้าว ผมในฐานะผู้เสียภาษีมีสิทธิบ่นไหม๊ครับ

23 มกราคม พ.ศ. 2557 - 10:50

1. รัฐบาลกู้เงินและใช้จ่ายในโครงการไปแล้วจนถึง 1 ม.ค. 2557 เป็นจำนวนเงิน  7.19 แสนล้านบาท 
2. ธ.ก.ส. ได้เงินคืนจากการขายข้าว เมื่อถึงสิ้นปี 2556 เป็นจำนวนเงิน  1.64 แสนล้านบาท
3. เงินจำนวน  7.19-1.64 = 5.55 แสนล้านบาท อยู่ที่ไหนครับ?
4. รัฐบาลครับ เงิน  5.55 แสนล้านบาท อยู่ที่ไหนครับ? เป็นสต๊อกข้าวที่ยังไม่ได้ขายทั้งหมดเลยหรือครับ?
ถ้าเป็นสต๊อก แล้วทำไมไม่รีบขายเพื่อเอาเงินมาให้ชาวนาเค้า?
5. พี่น้องชาวนาครับ เงิน  5.55 แสนล้านบาท มันเยอะไหม๊ครับ? มากกว่าเงินกู้โครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน อีกนะครับ
6. พี่น้องชาวนาครับ เงิน  5.55 แสนล้านบาท ของชาติหายไป ท่านมีความสุขกับการขายข้าวได้ตันละ 15,000 บาทไหม๊ครับ? ผลกระทบจากเงินหายจากระบบส่วนหนึ่งทำให้มีผลถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้น ข้าวจานละ 45 ถึง 50 บาท แล้วใช่ไหม๊ครับ? 
7. พี่น้องชาวนาครับ เมื่อก่อนท่านขายข้าวได้ตันละ 8,000 ถึง 9,000 บาท ข้าวจานแค่ 25 ถึง 30 บาท ตอนนี้ถึงท่านจะได้ตันละ 15,000 บาท แต่ต้องจ่ายในการกินข้าวจานละ 45 ถึง 50 บาท ท่านมีความเป็นอยู่ดีขึ้นตรงไหนครับ? พาให้ประชาชนผู้เสียภาษีอย่างผมต้องกินข้าวแพงขึ้นด้วย แล้วมีความเป็นธรรมกับผมไหม๊ครับ?
8. เห็นว่าราคาข้าวในตลาดโลกตกตันละ 10,000 บาท ที่จริงถ้าขายข้าวได้หมดแบบตรงไปตรงมาจะต้องมีเงินคืน ธ.ก.ส. ( 7.19*10)/15 = 4.79 แสนล้านบาท แต่นี่ได้แค่ 1.64 แสนล้านบาท มันอะไรกันครับ? มีข้าวค้างในสต็อคมากมายใช่ไหม๊ครับ? 
9. พี่น้องชาวนาครับ เห็นว่ารัฐบาลจะกู้เงินมาให้ท่านอีก 1.3 แสนล้าน ถ้าท่านเห็นใจพวกเรา และไม่อยากที่จะต้องซื้อข้าวกินกันจานละ 60 บาท ช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลขายข้าวในสต๊อคมาจ่ายให้พวกท่านด้วยครับ… ห้ามกู้เพิ่มอีกเด็ดขาด
 

ทำไมนายกไม่เลือกที่จะเป็นวีรสตรี ทั้งที่มีท่านเท่านั้นที่จะทำได้ในตอนนี้

15 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:44

ผมเชื่อว่าขณะนี้ผู้ที่สามารถจะหยุดสงครามกลางเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นได้มีเพียงผู้เดียวคือ ท่านนายกยิ่งลักษณ์

เพราะผมเห็นว่าท่านมีโอกาสรวบรวมคนไทยทั้งประเทศมีใจเป็นหนึ่งได้ เราลองมองดูครับ ไม่ว่า กปปส, รัฐบาล, ทหาร, นปช, กลุ่มพอกันที, หรือ กลุ่ม 2 เอา 2 ไม่เอา  ล้วนทำให้เกิดการแบ่งแยกประชาชนทั้งนั้น มีแต่จะเร่งเร้าให้เกิดการทะเลาะมากขึ้น

 

1. ท่านต้องหว่านล้อมกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลทุกกลุ่มให้ยอมรับการตัดสินใจที่ท่านจะลาออก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยครับ เผลอๆ อาจจะยากกว่าข้อ (2) 
2. ท่านควรจะเสนอข้อแม้ให้กับทาง กปปส ในเรื่องปฏิรูปเกี่ยวกับสภาประชาชนเมื่อท่านลาออก เพื่อให้เป็นกลางและยุติธรรมกับทุกฝ่าย เช่น
2.1 ต้องไม่มีบุคคลของ กปปส, รัฐบาล, แกนนำคู่ขัดแย้งทั้งหลาย ในสภาประชาชน
2.2 ต้องมีประชาชนทุกฝ่ายรวมทั้งกลุ่มเสื้อแดงในสภาประชาชน
ผมเชื่อว่าการลาออกพร้อมข้อแม้ที่มีเหตุผล ประชาชนส่วนใหญ่จะสนับสนุน
 
การลาออกของท่านดูเหมือนจะเป็นโอกาสเดียวที่จะสามารถรวมกลุ่มทุกกลุ่มให้ตั้งสภาประชาชน เพื่อกำหนดรัฐธรรมนูญของประชาชนที่แท้จริงได้ โดยไม่มีสงครามกลางเมือง 
 
การเสียสละและการดำเนินการสลายความขัดแย้งได้ ถือเป็นวีรกรรมที่น่ายกย่องและยิ่งใหญ่สมตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีของปวงชนชาวไทยครับ