สู้ๆครับคุณยาย
อย่าลืมไป follow เพจยัยมานี กับยัยนโมนะครับ ประเทืองปัญญาดี มีแต่ความจริงล้วนๆ
- Bookmarks, นิจนิรันดร์, อาวุโสโอเค and 8 others like this
haruehan hasn't added any friends yet.
โดย เสือยิ้มยาก
on 26 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:51
สู้ๆครับคุณยาย
อย่าลืมไป follow เพจยัยมานี กับยัยนโมนะครับ ประเทืองปัญญาดี มีแต่ความจริงล้วนๆ
โดย HiddenMan
on 28 เมษายน พ.ศ. 2557 - 23:09
โดย แสงดาวแห่งศรัทธา
on 28 เมษายน พ.ศ. 2557 - 23:03
โดย kokkai
on 28 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:57
คำตอบง่ายๆเลยนะ
เพราะที่นี่คุย"ภาษาคน"กันได้ทุกเรื่อง
โดย เช never die
on 8 เมษายน พ.ศ. 2557 - 06:55
เป็นดัฃนีชี้วัดที่ชัดเจนที่สุดว่า "ไอ้แม้ว แพ้แล้วอย่างราบคาบ"
ถ้าเป็นคนป่วย ก็เรียกได้ว่าขั้นตรีทูตแล้ว ญาติๆนิมนต์พระมาสวดข้างเตียงคนไข้ได้แล้ว
ส่วนลุงกำนัน ภาพรวมๆตอนนี้ ให้นึกถึงหนังแม่นาคยุคเก่าตอนท้ายๆเรื่อง ตอนที่พ่อหมอกำลังลงอาคมผ้ายัญต์ปิดปากหม้อ ร่ายคาถาไปด้วยแผ่เมตตาให้ผีอีดอกงิ้วไปด้วย
แต่ยังไงก็อย่าหยุดเป็นกำลังใจให้ลุงกำนันนะครับ ผีอีดอกงิ้วกับผีไอ้แม้วมันเฮี้ยนจริง ไม่ใช่เล่นๆ คงต้องชิงไหวชิงพริบกันอีกพักนึง กว่ามันจะหยุดชัก ก่อนจะหมดลมหายใจ เป็นอาการตามธรรมชาติ
และขอขอบพระคุณทุกๆกองกำลังที่ตั้งสงบอยู่ในที่ตั้งตามยุทธวิธีที่ผมเสนอ ไม่ยกออกมาสร้างความรุนแรง ซึ่งมันจะทำให้ไปเข้าทางไอ้แม้วได้มีโอกาศขยายพื้นที่ยืนออกไป สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองยืดเยื้อออกไปอีก ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
ส่วนไอ้คนห้าหมื่นคน(ถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้) ที่จ้างเป็นแรงงานเขมร-พม่ามาชุมนุมกันหน่ะ มันฟ้องว่าจบแล้วครับ เพราะอะไร ก็เพราะค่าใช้จ่ายในการจ้าง ค่าหัวคิว ขยับคูณสองทุกครั้งที่จัดชุมนุมใหม่ แต่จำนวนคนลดลงคูณสองสวนทางกัน
ผมฟันธงว่าถ้าไม่มีเหตุการอะไรรุนแรงสอดแทรกเข้ามาช่วงนี้ เสื้อแดงจะจัดชุมนุมแรงงานเขมรเสื้อแดง-แรงงานพม่าเสื้อแดงได้อีกไม่เกิน 2 ครั้ง หลังจากนี้ประเทศนี้จะไม่มีใครเห็นชุมนุมเสื้อแดงอีกเลย..
เอาเข้าจริง เผลอๆจะไม่มีใครรับซักคนว่าเคยเป็นเสื้อแดงครับ มาคอยดูกัน
โดย ทรงธรรม
on 7 เมษายน พ.ศ. 2557 - 20:18
คุณจาฤก ให้เหตุผล เกือบดีแล้ว
แต่ถ้ายึด หลักการนี้ ซึ่งหมายความว่า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งลักษณ์ ต้องเป็นนายก
จนกว่าจะเลือกตั้งใหม่ โดยไม่ต้องคำนึง
ว่า ยิ่งลักษณ์ จะทำผิดกฏหมาย อะไรมาบ้าง
ยิ่งลักษณ์ ยังสามารถ อยู่ในตำแหน่ง รักษาการ
ยังสามารถ สั่งการ ทหาร ข้าราชการ ตำรวจ
ได้เหมือนเดิม เช่นนี้แล้ว
ผมเป็นยิ่งลักษณ์ ผมคงสามารถ ทำผิด
กฏหมาย อะไรก็ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่า
จะหลุดจากตำแหน่ง เพราะอ้างว่า
รธน ให้รักษาการ จนกว่า จะได้ นายกคนใหม่
จากการเลือกตั้ง
เช่นนี้ แล้ว ไม่แน่เราอาจเห็น
ยิ่งลักษณ์ หรือ คนในครม ออกคำสั่ง
ที่ละเมิดกฏหมายบ้านเมืองได้
โดยยังสามารถ สั่งการ ข้าราชการทุกภาคส่วนได้
หรือแม้แต่ ไม่ต้องรับผิดชอบ ต่อความผิดย้อนหลัง
ใด ๆ เลย ประชาชนจำต้อง ยอมรับ
นายก รักษาการ ที่ถูกตัดสินแล้วว่าผิด
ประชาชนไทย จะต้องจำยอม ขนาดนั้นเลยหรือครับ คุณจาฤก
โดย ทรงธรรม
on 7 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:30
ผมไม่มีความรู้ ด้านกฏหมาย เท่าไหร่ นะครับ
แต่อยากแสดงความเห็น ตามความคิด ครับ
คือ เมื่อวานจากที่ฟัง คือ
ลุงบอกว่า เมื่อประเทศเกิดสูญญากาศ
จากการที่ศาลตัดสิน แล้ว ยิ่งลักษณ์
กับ ครม พ้นสภาพทั้งคณะแล้ว
อำนาจจะกลับมาสู่ ปวงชนชาวไทย
นั่นหมายความว่า ถ้า ประชาชนส่วนใหญ่
(นี่เป็นสาเหตุว่า ทำไม ลุงต้องรวม กปปส
ให้มากที่สุด ในวันที่ศาลตัดสินแล้ว )
จะสามารถ กลับมาใช้อำนาจนั้น
ปกครองประเทศได้ ตามหลักการที่ว่า
"อำนาจอธิปไตย เป็นของปวงชนชาวไทย"
แน่นอนว่า รธน ไม่ได้กำหนดว่า ต้องเป็นใคร
ที่จะเสนอชื่อ นายก รวมถึง ครม ที่จะมา รักษาการ
จนกว่า จะมีการเลือกตั้งใหม่ (ไม่นับ พวก กเฬวราก
ที่ศาลเพิ่งตัดสิน ให้ไปนะครับ)
ดังนั้น ต้องมีสักคน ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชน
ส่วนใหญ่ครับ นั่นก็คือ ลุง เอง
เพราะลุงเป็นตัวแทนของ กปปส ซึ่งเป็น
ประชาชนส่วนใหญ่ แต่ลุง ก็ได้ย้ำแล้ว ย้ำอีก
ว่าลุง และ กปปส ทุกท่าน ไม่มาแสวงอำนาจ
ให้ตัวเอง เพียงแต่ ต้องมีคน เสนอชื่อ นายก
และ ครม เท่านั้น
ไม่เช่นนั้น ใครล่ะครับ จะเสนอชื่อได้
ในเมื่อ รธน ไม่ได้ระบุ ถึงขั้นนั้น
การใช้ มาตรา 7 ต้องมีการเสนอ รายชื่อ
เพื่อทูลเกล้า และรับสนองพระบรมราชโองการ
แต่งตั้ง ด้วยนะครับ อันนี้ ตามหลักกฏหมาย
แต่ในเมื่อ ไม่มีการกำหนด ด้วยกฏหมาย
จารีต ประเพณี จึงต้องนำมาปรับใช้
เพื่อความยืดหยุ่น และ เป็นทางออก
ยามที่กฏหมาย ไม่ได้ กำหนด อย่างเด่นชัด
ณ จุดนี้ ผมก็ยังไม่เห็นว่าใคร
จะเป็นตัวแทน ประชาชน เรือนล้าน
ซึ่งสามารถ เข้าใจได้ ว่าเป็น ประชาชนส่วนใหญ่
ได้เท่ากับ ลุง ซึ่งเป็น ตัวแทนของ กปปส เลย
ลุง จึงเหมาะสม ที่สุด ในสายตาผม
ส่วนถ้าภายหลัง จะมีการปรับเปลี่ยน
ตามสภาพการณ์ ผมก็ยอมรับได้
แต่เหนืออื่นใด ต้องไม่ขัดกับ เจตนารมณ์
ของ กปปส ด้วยครับ ไม่เช่นนั้น
ที่สู้มา จะเสียแรงเปล่า
โดย อาบังคนเหนือ
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:48
โดย ชายน้ำ
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:06
น่าจะเปลี่ยนหัวกระทู้เสียหน่อยเป็น
พญาไม้ ซัดประชาธิปัตย์ ในเฟสบุ๊คของโอ๊ค น่าจะถูกต้องกว่า
โดย ไทยไม่ทน
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:11
ดูมารึยังครับ ไอ้20ล้านเสียง ดูมารึยังครับ ดูมารึยังครับ ดูมารึยังครับ
20ล้านเสียงที่มี "อีโง่" บัตรเสียครับ "ไอ้เหี้ ย" บัตรเสียครับ เยอะแยะไปหมดเลยครับ
ดูมารึยังครับ
ล่าสุด 9000 เสียงครับ ไม่ทราบว่าดูไปรึยังครับ
โดย ทองดี
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:45
เอาจริงเหรอครับ
โกงแมร่งทุกอย่าง
ยังไม่พอ ชวนโครตเหง้าศักราช โกงด้วย
ยังไม่พอ ออกนโยบาย โกงด้วย
ที่สำคัญที่สุด โกงชีวิต และ อิสระภาพของเสื้อแดง ถ้าไม่มีทักษิณเสื้อแดงคงไม่ตายและติดคุก
รวมการโกง ของ ทักษิณ ชินวัตร เครดิต https://www.facebook...555214444559397
--เริ่มจากการอยากร่ำรวยทางลัด ยุคปฏิวัติ รสช สมัยสุนทร คงสมพงษ์....ทักษิณ ก็ให้เงินทหารที่ปฏิวัติ เพื่อแลก สัมปทานมือถือแบบง่ายๆ ... "ยัดเงิน ทหาร ไม่ต้องประมูลสัมปทานอย่างยุติธรรม ให้มันยุ่งยาก"
--หลังจากทักษิณได้สัมปทานรัฐฯ จากการยัดเงินใต้โต๊ะแล้ว ทักษิณก็เริ่มอยากปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง เพราะการมีอำนาจเอง ก็คงดีกว่าการคอยพึ่งบารมีผู้มีอำนาจ นักการเมือง ข้าราชการที่คอยแต่จะรีดไถ่
--ทักษิณก็เลยโดดมาเล่นการเมือง เพื่อการมีอำนาจซะเองเลย
--เริ่มที่พรรคพลังธรรม ทำหน้าที่เป็นนายทุนให้พรรค เติบโตมาพร้อมๆกับ เจ้หน่อย ซึ่งสมัยนั้น ยังไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก ถือเป็นนักธุรกิจไฟแรง ที่ผันตัวเองมาเล่นการเมือง
--เมื่อทักษิณเล่นการเมืองมีอำนาจรัฐฯ อยู่ในมือแล้ว เป็นรองนายก แม้ไม่ถึงขั้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็เห็นช่องทางแห่งความร่ำรวย
--เริ่มจากตัดลดงบประมาณต่างๆ ทำองค์กรโทรศัพท์ให้อ่อนแอ ขาดงบประมาณในการซ่อมแซมดูแล ใช้งานไม่ได้มากๆเข้า ก็เป็นการบีบประชาชน โดยทางอ้อมให้จำเป็น ต้องซื้อโทรศัพท์มือถือ เพราะยุคนั้นตู้โทรฯสาธารณะ แทบจะใช้ไม่ได้ซักตู้
--พอทักษิณเล่นการเมืองไปนานๆเข้า ก็เห็นว่าอำนาจรัฐมีประโยชน์ สร้างความร่ำรวยให้ได้มากมาย ความคิด... ก็เข้าครอบงำ จากนั้น..... ตามมาๆ
--ยุคนายก จิ๋ว ฟองสบู่แตก + ลดค่าเงินบาท ยุคนั้น ทักษิณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมเสนอให้ ชวลิตลดค่าเงินบาท ซึ่งถือเป็นผู้รู้ข้อมูลภายในล่วงหน้า (insider) ....
--ทักษิณ ได้ใช้ข้อมูลนั้น ในการดำเนินการ ประกันค่าเงินของ ทรัพย์สินและบริษัท ในตระกูลของตนเองและพวกพ้องทั้งหมดไว้ แค่นั้นยังไม่พอ..
--ทักษิณและพวกพ้องกลุ่มนายทุนใหญ่ ระดับชาติ ใช้กลยุทธการ "ไซฟ่อนเงิน" เพื่อความร่ำรวย และซ้ำเติมความหายนะของชาติ ให้มากขึ้นไปอีก เพรายิ่งไทยหายนะเท่าไหร่ ค่าเงินบาทไทยก็ยิ่งลดลงไปมากเท่านั้น ซึ่งก็คือ...
--ทักษิณและพวกพ้อง ใช้วิธี กู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ในประเทศให้ได้มากที่สุด แล้วนำไปแลกดอลล่าร์ไว้ เพราะรู้ข้อมูลล่วงหน้าว่า จะมีการประกาศลดค่าเงินบาท และเมื่อ ชวลิตลดค่าเงินบาทตามคำแนะนำของกลุ่มทักษิณ..
--ค่าเงิน จาก 25 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์ ก็ดิ่งลงสู่หายนะ ในเวลาอันรวดเร็ว โดยต่ำสุดอยู่ที่ 58 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์ ....... ทักษิณ และพวกพ้อง ก็เอาดอลล่าร์กลับมาแลกคือเ
ป็นเงินบาทไทย "กำไรทันทีเกิน เท่าตัว!!!!"
--ทฤษฏีของ สสาร ง่ายๆ คือ สสารไม่มีวันหายไปจากโลก เหมือนเม็ดทรายในท้องทะเล แค่ ย้ายจากที่หนึ่ง ไปสู่อีกที่หนึ่งเท่านั้นเอง ความร่ำรวย และยากจนก็ไม่ต่างกัน...
--เมื่อทักษิณ และพวกพ้องมีกำไรจากการประกันค่าเงิน และ ไซฟ่อนเงินเป็นมูลค่ามหาศาลเกิน 100% คนที่ขาดทุนก็คือประชาชนคนไทย และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจริงๆก็เหมือนมีเงินในกระเป๋าเท่าเดิม แต่ค่าของเงินหายไปเกินครึ่ง!!!
--ทักษิณและพวก ร่ำรวยขึ้นเป็นเท่าตัว บนความยากจนลงๆ ของประชาชนทั้งประเทศ จากการลดค่าเงินบาทในครั้งนี้
--คราวนี้ทักษิณก็มีทุน กระสุนดินดำ ไว้ใช้ในการเล่นการเมืองเต็มตัวแล้วสิ.....
--ทักษิณก็เริ่มใช้เงินที่ได้มา ซื้อพรรคการเมืองต่างๆ กวาด สส.พรรคต่างๆเข้าพรรคของตัวเอง เพราะเวลาทักษิณจะออกกฏหมาย
หรือเปลี่ยนแปลงกฏหมายอะไร จะได้มี สส.ลูกน้อง คอยยกมือโหวดผ่านร่างในสภา ให้กฏหมายผ่านง่ายๆ ตามแต่ใจที่ต้องการ
--หลังจากทักษิณกวาดต้อน ใช้เงินซื้อ สส.ที่ขายตัว มาเป็นลูกน้องคอยยกมือให้ในสภาแล้ว ก็เริ่มจัดการแก้กฏหมายต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ เพื่อสร้างความร่ำรวยให้ตัวเองก่อนเลย โดย...
--ทักษิณแก้กฏหมาย วิธีการจ่ายภาษีสัมปทานมือถือให้รัฐฯ โดยให้ บ.ตัวเองจ่ายน้อยลง ทำให้รัฐสูญเสียเงินรายได้ จากการจัดเก็บภาษีสัมปทานมือถือในทุกๆปี เป็นจำนวนเงินหลักหมื่นล้าน/ต่อปี...
--ผลจากการแก้กฏหมายดังกล่าว ......."รัฐฯจะสูญเสียรายได้ส่วนนี้ไปอีก นานแสนนาน"
--เป็นไงละ...ก็ เพราะทักษิณคุมอำนาจรัฐฯไว้ในมือ แต่ในขณะเดียวกัน ครอบครัวของทักษิณ ก็ดันทำธุรกิจกับภาครัฐฯ ไปด้วย... แล้วคิดว่า ทักษิณจะอยากให้รัฐฯได้ประโยชน์มากกว่า หรือ อยากให้ครอบครัวตัวเองได้ประโยชน์ มากกว่าหละ
--แน่นอนเมื่อสัญญาถูกแก้ ให้ครอบครัวทักษิณจ่ายภาษีมือถือน้อยลง รัฐก็จะมีเงินรายได้เข้าคลังน้อยลง เงินที่จะนำไปใช้ในการบริหารประเทศ ช่วยเหลือคนจนก็จะน้อยลง ยิ่งช่วงนั้น ไทยประสบปัญหา ฟองสบู่แตก ด้วย เงินในคลังก็ยิ่งน้อยลง
--ที่นี้ ทักษิณอยากได้เงินเข้าคลังเยอะๆ เพราะทักษิณเป็นรัฐบาล จะได้เอาเงินไปใช้จ่ายโครงการต่างๆ เพื่อให้พวกพ้องโกงกิน แต่ไทยยังติดหนี้ IMF และยังมีเงินในคลังน้อยอยู่ แล้วทักษิณจะทำไงดีละ.... ตามมาๆๆ
--ก็ขายสมบัติชาติไง เพราะพอขายแล้ว ชาติจะได้มีเงินเข้าคลังเยอะๆ ทักษิณและพวกพ้อง สส.จะได้เอาไปถลุง + โกงกินทุกโครงการให้สบายใจ
--โดยเริ่มจากขาย ปตท. ซึ่งเดิมที ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือเรียกง่ายๆว่า ธุรกิจของรัฐฯ 100%
--ซึ่งหมายความว่า.."กำไร" จากการขายน้ำมัน /ปิโตรเคมี /อะโรเมติค /พาราไซรีน ฯลฯ ทุกอย่างทุกชนิด ทุกบาท ทุกสตางค์ ของ ปตท จะกลับเข้าคลัง ไปเป็นงบประมาณของรัฐฯ เพื่อนำเงินนั้น กลับมาบำรุงชาติ/ประชาชน แต่ทักษิณก็ขาย...
--ซึ่งนั้นหมายความว่า กำไรจาก ปตท ที่ รัฐฯเคยเก็บได้ทุกปี 100% เต็ม "ตลอดอายุประเทศไทย".... จะไม่ได้เท่าเดิมอีกแล้ว เพราะต้องเอากำไรของชาติ ไปแบ่งให้ผู้ถือหุ้นด้วย ประเทศไทยจะสูญเสียรายได้ในส่วนนี้ตลอดไป
--แถมทักษิณยังขาย ปตท. แบบโกงราคา สัดส่วนหุ้น ต่อหน่วยลงทุนด้วย!! งง มั้ย คืองี้....
--ปตท คือรัฐวิสาหกิจของประเทศ ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของ เราเลือก สส + นายก มาเป็น ผู้บริหารประเทศ หรือเรียกง่ายๆว่า ตัวแทน "ผู้จัดการมรดก"
--ทีนี้ เมื่อทักษิณเป็นรัฐบาล เป็นนายก เป็นผู้จัดการมรดกของชาติ ก็มีความคิดเอาทรัพย์สินของชาติ ไปขาย เพื่อให้มีเงินเข้าคลังเยอะๆ
--แทนที่ทักษิณจะขายให้ได้กำไร หรือ อย่างน้อยเท่าทุน เพื่อให้ชาติได้เงินตามสมควร... แต่ทักษิณเอาสมบัติชาติไป..
"ขายขาดทุน โดยให้ พวกพ้อง ญาติเป็นคนซื้อ"
--ทักษิณให้ญาติ และ พวกพ้อง สส.ของพรรค ซื้อสมบัติชาติ จนหมด และ ในราคา ต่ำกว่าต้นทุนหลายๆเท่า ดังตัวอย่างเช่น ประชาชน"คนแรก"ที่ไปรอต่อแถ
วซื้อหุ้น ปตท ตั้งแต่ตี 4 แค่กรอกใบสมัคร 1.14 นาที หุ้นก็หมดไปแล้ว...
--แต่ผู้ที่ได้มีสิทธซื้อหุ้น เป็นจำนวนหลายล้านหุ้นต่อคน กลับเป็น คนในนามสกุล ที่เรารู้จักกันดีทั้งนั้น ทั้งๆที่ กฏหมาย ห้ามซื้อเกินคนละ 1 แสนหุ้น???
--แถม...ราคาหุ้น ที่พวกทักษิณได้มีสิทธิซื้อนั้น ต่ำกว่าราคาของความเป็นจริง หรือเรียกง่ายๆว่า ให้ญาติซื้อสมบัติชาติ ในราคาต่ำกว่าต้นทุนนั้นเอง
--ผลที่ได้คือ พวกพ้อง ญาติร่ำรวย +ประชาชนไม่รับรู้ + ประเทศชาติ(พูดไม่ได้)ขาดทุน .......และยังมีเงินจากการขาย ปตท ครั้งนี้ เข้าคลังไปถลุง ซึ่ง..."น้อยกว่าที่ควรจะเป็น" อีกต่างหาก....เฮ้อ.
--นั้นคือ สาเหตุ ที่ราคาหุ้น PTT ณ.วันเปิดเข้าตลาดหลักทรัพย์ กับ วันนี้ ราคาสูงขึ้น เป็น 10 เท่าตัว.... กำไร 1000%
--สรุป ทักษิณบริหารสมบัติชาติ -- ชาติ (ประชาชน )ขาดทุนย่อยยับ -- ญาติ พวกพ้องมัน ร่ำรวย เพราะซื้อสมบัติของชาติต่ำกว่าทุน ...
--หน้าทีอีกอย่างของ ปตท คือ คอยถ่วงดุล + กดดัน + ควบคุมระดับราคาน้ำมันภายใน
ประเทศ ไม่ให้แพงเกินจริง ซึ่ง...
--ว่าง่ายๆก็คือ ถ้า ปตท ไม่ขึ้นราคาน้ำมันซะอย่าง แล้ว บ.น้ำมันข้ามชาติ เช่น เชล เอสโซ่ คาร์เทค จะขึ้นราคาน้ำมันมากแค่ไหนก็ตามใจ เพราะไม่มีใคร อยากไปเติมของแพง
--เมื่อ เป็นเช่นนั้น ถ้า ปตท พยายามกดดันราคาน้ำมันไว้ พวก บ.น้ำมันข้ามชาติทั้งหลาย ก็ไม่กล้าจะขึ้นราคาน้ำมันใ
ห้แพงเวอร์นัก เพราะ ประชาชนก็จะมีทางเลือกเติม ปตท ที่คิดราคาน้ำมันถูกกว่า
--ทีนี้ลองคิดตามนะ......
--ถ้า พวกทักษิณ เป็นรัฐบาล ควบคุมกลไกรัฐ ควบคุม ปตท.มีหน้าที่ คอยถ่วงดุล+กดดัน+ควบคุมระดับ ราคาน้ำมันภายในประเทศ ไม่ให้แพงเกินจริง.."แต่ขณะ
เดียวกัน พวกทักษิณ ก็ดันถือหุ้น ปตท ไปด้วย" ???
--นั้นหมายความว่า..."ถ้า ปตท กำไรมาก พวกทักษิณก็จะกำไรมากๆด้วย !!!"
--แล้วทักษิณ และพวกพ้อง ซึ่งเป็นผู้ควบคุมกลไกรัฐฯ จะอยากทำให้น้ำมันแพงหรือถู
กดีหละ....???
--เพราะถ้าทักษิณ ทำตามหน้าที่ โดยกดดันให้น้ำมันถูก ประชาชนก็จะได้ประโยชน์ ..แต่พวกทักษิณ ซึ่งถือหุ้น ปตท อยู่ ....."ก็จะกำไรน้อย"
--แต่ถ้าทักษิณปล่อย ให้น้ำมันขึ้นๆแพงๆๆ ให้ประชาชนจ่ายค่าน้ำมันแพงๆเข้าไว้ โดยไม่คอยควบคุมกดดัน พวกทักษิณที่ถือหุ้น ปตท ก็จะได้กำไรเยอะตามไปด้วย!!
--จากการขาย ปตท พวกทักษิณ กำไร 3 เด้ง ...คือ
1 กำไรจากการได้ซื้อสมบัติชาติในราคาถูก
2 ปล่อยราคาน้ำมันขึ้นให้ประชาชน เติมน้ำมันแพง พวกทักษิณถือหุ้น ปตท ก็รวยไปด้วย
3 คลังมีเงินจากการขายสมบัติชาติ มาให้ถลุงเล่น
--นั้นคือเหตุผลที่ว่า น้ำมันทุกค่ายจับมือกันแพง จับมือกันขึ้นราคาไง จากยุคเชาวลิต 12-13 บาทต่อลิตร จน 45-48 บาทต่อลิตร และ... บ. ปตท กำไร ปีละเป็น แสนๆล้าน เยี่ยมมั้ย ไอ้ทักษิณ!!
--จากนั้น...รัฐบาลทักษิณ ก็ได้เงิน เข้ามาจากการขาย+โกง สมบัติชาติ เข้าคลัง... และ คลังก็มีเงินให้พวกทักษิณเอาไป ถลุงเล่นแล้ว... มาดูกันว่าทักษิณจะทำอะไรได้บ้าง ...
--ไทยมีเงินให้ถลุงแล้ว แต่ไทยก็ยังมีหนี้ IMF และเสียดอกเบี้ยอยู่ ทำไงดี ให้เอาเงินในคลังไปถลุงง่ายๆ โดยไม่โดน ฝ่ายค้านโจมตี และ ประชาชนด่า
--ทักษิณก็ปลดหนี้ IMF ไง จะได้ดูดี ไม่มีหนี้แล้ว เก่งด้วย
--กองทุน IMF เค้าให้ค่อยๆผ่อน ค่อยๆเสียดอก แต่ ทักษิณ ดันจ่ายทั้งต้น ทั้งดอก ทั้งหมดเลยทีเดียว คนจะได้ว่าข้าเก่ง และเอาเงินไปทำอย่างอื่นได้
โดยไม่โดนประชาชนด่า แล้วมันไม่ดีตรงไหนช่ายมะ ..ดูนะ
--ต้น+ดอกเบี้ย ทุกปีอะ เค้าให้เราทะยอยจ่าย โดยคำนวนไว้แล้ว เหมือนคุณผ่อนบ้านอะ สมมุติผ่อนบ้านเดือนละ 5 หมื่น ผ่อน 20 ปี .. คำถามก็คือว่า
--"ค่าของเงิน" 5หมื่นในวันนี้ กับ "ค่าของเงิน" 5หมื่นใน อีก 20 ปีข้างหน้ามีค่าเท่ากันมั้ย...คำตอบคือ...ไม่เท่าแน่ๆ
--ถ้าให้จ่ายแบบปิดเงินต้น แล้ว ดอกมาคิดกันใหม่ก็ว่าไปอย่าง เหมือนเราจะ เทบ้าน เทต้น อะไรแบบนี้ แต่ถ้าต้องรวบยอด ทั้งต้นทั้งดอก ทั้งหมดจ่ายเลยวันนี้ "ค่อยๆผ่อนไปไม่ดีกว่าเหรอ" อีก 20 ปีข้างหน้า ถึงเราจะต้องจ่ายเท่าเดิม แต่ ค่าของเงินก็เปลี่ยนไป
--ก็เหมือนเราจ่ายจำนวนเงินเท่าเดิม แต่ค่าของเงินนั้นน้อยลง แต่รู้มั้ย ทักษิณทำเพื่ออะไร???
--คำตอบก็คือ ทักษิณต้องการให้ธนาคาร เอ็กซิมแบ้งค์ของรัฐ ปล่อยกู้พม่า ค่อนหมื่นล้าน โดยทักษิณตกลงกับพม่า ให้นำเงินก้อนนี้ "กลับมาซื้อสัมปทาน เครือค่ายโทรศัพท์ของตระกลูชินวัตร ไง" ....รัฐบาลมีเงินในคลังแล้วนิ รวยแล้ว..
--วิธีการก็ง่ายๆ ก็โอน 10% ให้นายพลเผด็จการพม่าใต้โต๊ะ อีก 90% เข้าบัญชีพจมานเลย เพราะกลัวพม่าโกง..แถมปล่อยกู้พม่า โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ถูกแสนถูก ถูกกว่าที่ไทยกู้จาก IMF มากนัก
--สรุป ปลดหนี้ จ่ายรวบ ดอกเบี้ย IMF ที่แแพงกว่า มาปล่อยกู้พม่า ในดอกเบี้ยที่ถูกกว่า...เพื่อให้พม่า เอาเงินมาซื้อสัมปทาน มือถือ ของตระกูลตัวเอง
--หลังจากนั้นก็เริ่ม อภิมหาโครงการโกง ต่างๆ เช่น โคล้านตัว กล้ายาง กองทุนหมู่บ้าน สนุกสนานกันเข้าไป ยกตัวอย่างเด่นๆ ดังต่อไปนี้....
--ดาวเทียมไทยคม เคยรู้กันมั้ย??
--ประเทศแต่ละประเทศ ตามสนธิสัญญาสากล ทุกประเทศ มีสิทธิในการใช้วงจรดาวเทียม ซึ่งแต่ละประเทศได้จำนวนวงโคจร มากน้อยนั้นไม่เท่ากัน... ขึ้นกับสัดส่วนพื้นที่ของแต่ละประเทศ และปัจจัยต่างๆมากมาย
--ดาวเทียม 1 ดวง สามารถหารายได้ จำนวนมหาศาล จากมัน เพราะขีดความสามารถทางด้านก
ารสือสาร ทุกชนิด แล้วมีโครงข่ายสูง.... ทักษิณ เลยจัดการประมูลให้เอกชน เป็นผู้ได้สัมปทาน???
--เงื่อนไข ผู้มีสิทธิเข้าประมูล คุณสมบัติ แต่ละข้อนั้น ทักษิณกำหนดเอง ตั้งข้อจำกัดในเงื่อนไข จนให้ บ. ของตัวเองได้ในที่สุด และกำกับท้ายว่า ผู้ชนะการประมูล ให้ยกเว้น+ลด ค่าสัมประทานให้กับรัฐฯ ให้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นอีก
ด้วย !!!
--รัฐ สูญเสียรายได้ ที่ควรจะจัดเก็บเข้าคลังได้อีกปีละเป็น หมื่นล้าน...รายได้เข้าคลังจะน้อยลง กว่าที่ควรจะเป็นไปอีกหลายสิบปี...
--ผลจากการประมูลสัมปทานดาวเทียม ซึ่งมีได้เพียงดวงเดียวในประเทศไทย ดังกล่าว ......."รัฐฯจะสูญเสียรายได้ส่วนนี้ ไปอีกนานแสนนาน" อีกแล้ว...
FTA
--เกษตรกร ทั้งหลาย คงไม่เข้าใจ ว่าทำไมทุกวันนี้ พืชผลทางการเกษตรถึงตกต่ำ ราคาถูกแสนถูก ถ้าอยากรู้ คุณต้องเข้าใจ คำว่า FTA ก่อนนะ มาดูกัน....
--เริ่มที่....
--"ยุคอดีต" ประเทศแต่ละประเทศ ไม่ได้มีการติดต่อการค้าสัมพันธ์กัน คนในประเทศ มีการเพราะปลูก พืชผล การผลิต ก็มักจะขายกันแต่ภายในประเทศ แน่นอนมันจะเกิดภาวะที่ว่า สินค้าบางอย่างมีปริมาณมากเ
กินไป แต่สินค้าบางอย่างก็ขาดแคลน
--"ยุคอดีต" สินค้าล้น มีปริมาณมากไปราคาก็จะถูก เพราะเกินความจำเป็น ส่วนสินค้าที่ขาดแคลน ราคาก็จะแพงโดด เพราะมีปริมาณความต้องการสูง เกิดความยากลำบากในการดำรงค์ชีวิต ของประชาชน
--ต่อมา.....
--"ยุคกลาง" มีการติดต่อ การค้าระหว่างประเทศ และเริ่มมีการนำสินค้า ที่มีปริมาณมากเกินไป "เหลือใช้" จากประเทศหนึ่ง ส่งไปค้าขายอีกประเทศหนึ่ง ที่มีความต้องการ หรือขาดแคลนสินค้านั้นๆ
--"ยุคกลาง" แน่นอนว่า...ถึงจะเป็นสินค้าขาดแคลน แต่สินค้าที่ขาดแคลนชนิดนั้นๆ ก็ยังมีประชาชนในประเทศ"บางส่วน" เป็นผู้ผลิตอยู่บ้าง ซึ่งอาจเป็นคนส่วนน้อยของปร
ะเทศ
--"ยุคกลาง" ดังนั้น การนำเข้ามาสินค้าที่ขาดแคลน เข้ามาขาย ก็จะกระทบคนกลุ่มน้อยในส่วนนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้ รัฐจึงต้องใช้มาตราการ การตั้งกำแพงภาษี เพื่อช่วยเหลือคนกลุ่มน้อย ไม่ให้ถูกตัดราคาสินค้าจากประเทศอื่นๆ ที่ส่งสินค้าเหลือใช้เข้ามา
ขาย
--"ยุคกลาง" เพราะเมื่อภาษีสูง คนที่นำสินค้าที่มีปริมาณเกินความจำเป็น ของประเทศเค้า เข้ามาขายในประเทศเราก็จะมี ต้นทุนในการนำเข้าสูงตามไปด้วย จึงไม่สามารถขายตัดราคาสินค้า ของคนที่เพาะปลูกในประเทศได
้
--สุดท้าย....
--"ยุคปัจจุบัน" เจตนารมณ์ของ FTA ก็คือ ลดกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าที่มีปริมาณมาก เกินความจำเป็นของแต่ละประเทศ เพื่อชดเชยความต้องการของประเทศ ที่ขาดแคลน และต้องการสินค้านั้นๆเหมือ
นกัน เพื่อให้เกิด "ดุลลภาพทางด้านการค้า"
--"ยุคปัจจุบัน" เมื่อเปิดเสรีการค้ามากขึ้น รัฐก็จะมีรายได้จากภาษี ของผู้ที่นำเข้าสินค้านั้นๆ มาขายภายในประเทศ ในสัดส่วนที่มากขึ้นตามไปด้วย และรัฐฯก็จะนำเงินภาษีที่ได้ไปอุดหนุ่น ไปช่วย เกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจาก สินค้าที่ถูกตัดราคาจากสินค้าที่นำเข้ามา " นี่คือเจตนารมณ์ ของ FTA "
--แต่ ยุคทักษิณทำไงรู้มั้ยย ย ย ย
--คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยเรา เพาะปลูก ทำไร่ ทำสวน สินค้า พวกนี้จึงน่าเป็นสินค้าส่งออก เพราะเป็นสินค้าที่มีปริมาณมากในประเทศ แต่...
--ทักษิณตกลง FTA กับจีน โดยยอมให้จีน นำพืชผลทางการเกษตรเข้ามาตีชาวไร่ ชาวสวนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ใน
บ้านเรา เพื่อ...แลกกับการนำเข้า อะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็น บ.ของ พวกทักษิณ เอง ไปจีน
--ผลก็คือ บ.พวกทักษิณร่ำรวย ส่งสินค้าเข้าจีน ขายได้ถล่มทลาย แต่ เกษตรกร ชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา ในประเทศ ตาย..เพราะถูก ผลไม้จีนตีตลาด ถูกจนเหลือเชื่อ เช่น มะม่วงเหลือ โลละ 10 บาท ฯลฯ
สายการบิน
--ต่อมาก็เรื่องสายการบิน ทุกๆประเทศมีสายการบินประจำชาติ ประเทศไทยชื่อ การบินไทย และ เส้นทางการบินของสายการบินนั้นๆ บ้างก็มีขาดทุน บ้างก็มีกำไร เช่น
--กรุงเทพไป นิวยอร์ก กำไรทุกปี แต่ กรุงเทพไป.. อาจขาดทุน แต่สายการบินเป็นของรัฐ ยังไงก็ต้อง รองรับระบบพื้นฐานโลจิสติกของไทย ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน ก็ต้องบิน โดยหากเกิดการขาดทุน รัฐจะเป็นผู้ให้เงินสนับสนุ
น ชดเชยให้
--เมื่อทักษิณกุมอำนาจ การบริหารประเทศ ทักษิณก็ถือหุ้นใหญ่ สายการบิน แอร์เอเชีย จากนั้น ก็ง่ายนิดเดียว ยกเลิกเส้นทางการบินของรัฐที่มีกำไร ไปให้แอร์เอเชียบิน ...ส่วนอันไหนขาดทุน ให้ การบินไทยบินต่อไป .ให้รัฐจ่าย..
--แอร์เอเชียก็กำไรมโหฬาร ส่วนการบินไทย ก็ ... ตามมีตามเกิดไป .......นั้นหละ การโกงในเชิงนโยบาย
+++เมื่อทักษิณจัดการธุรกิจทุกอย่าง จนได้สัญญาสัมปทาน ผูกขาดกับรัฐ ไปอีกหลายนานแสนนาน แถมสัญญาที่ทำกับรัฐในทุกสัญญานั้น ทั้งได้เปรียบ เอาเปรียบ ลดภาษี ลดค่าสัมปทาน "จนเหมือนแทบจะเหมือนได้เปล่า.."
+++จากนั้นทักษิณก็จัดการแก้กฏหมาย เพื่อให้สามารถขาย บริษัททั้งหมดให้กับต่างชาติ โดยบวกกำไรส่วนเพิ่ม ที่ทักษิณได้ทำสัญญาการเอาเ
ปรียบรัฐ ต่างๆไว้ นั้นก็คือ...
+++กฎหมายขยายเพดานการถือหุ้น ของชาวต่างชาติ ในบริษัทโทรคมนาคมของประเทศ
มีผลบังคับใช้วันที่ 21 มกราคม 2549
+++และ สองวันต่อมา ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ก็ขายหุ้นชินคอร์ป ให้กับบริษัทเทมาเส็ก แห่งประเทศสิงคโปร์ เป็นจำนวนเงิน 73,300 ล้านบาท
+++รวยขึ้นทันตาเห็น เดิมจาก 2หมื่นกว่าล้าน ขายทีเดียวได้เกิน 3 เท่า หรือกว่า 300%
+++".......จริงๆทุกอย่างแทบจะผ่านพ้น ไปได้ด้วยดี เพราะถึงจะโกงยังไง สส.ตัวแทนประชาชนทุกคน ที่ทักษิณใช้เงินฟาดหัวซื้อไว้ ก็ยกมือโหวดกฏหมายต่างๆ ให้ผ่านร่าง พรบ. ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ใครก็เอาผิดทักษิณไม่ได้!!!!!!"
+++แต่ความโลภ และ หลงอำนาจ ของทักษิณ เลยทำให้ทักษิณชะล่าใจ ใช้อำนาจเอื้อหนุน ในการซื้อที่ดินรัชดา
+++เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนวงเงินมัดจำ การประมูลจาก 10 ล้าน เป็นเงินสด 100ล้าน ภายในวันเดียวเพื่อให้ ผู้ร่วมเข้าประมูลเตรียมเงินสดไม่ทัน
+++จากนั้นการประมูล ทางอินเตอร์เน็ต ก็ไม่พบผู้ร่วมประมูล ทั้งๆที่ บ. แลนด์แอนเฮ้า LPN ฯลฯ กว่า 7 ราย ก็เข้าร่วมประมูล แต่ทักษิณบอกเป็นการผิดพลาดทางด้านเทคนิค
+++แถมทักษิณยัง ประกาศแก้ไขวันหยุดสิ้นปีของปีนั้นๆ เป็นวันทำการ เพื่อให้สามารถซื้อขายที่ดินแปลงนั้นได้ ก่อนสิ้นปี ก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฏห
มายการใหม่ ในปีถัดไปอีกด้วย
+++สรุปราคาการซื้อขาย จากเดิมที่ กองทุนฟื้นฟูซื้อมาที่ต้นทุนราคา 4889ล้านบาท .....แต่ทักษิณ ให้พจมาน ซื้อไปได้ในราคา 772 ล้านบาท .... ก็คิดเอาเองละกานนะ
+++เฮ้อ คนไทยบางคน ยังภูมิใจกับเศษเงินที่เขาให้มา แลกกับการโกงชาติไปมากมาย สัญญาต่างๆที่เขาทำไว้ เป็นสัญญาที่ผูกพันกับรัฐไปอีกนานแสนนาน
+++รัฐจะสูญเสียเงิน ที่ควรจะเก็บภาษีต่างๆ ที่ควรได้ในทุกๆปี หายไปอีกปีละกว่าหลายหมื่นล้าน ทั้งยังเสียประโยชน์จากการดำเนินนโยบาย ที่มุ่มเน้นแต่การเอื้อประโยชน์ ให้พวกพ้อง ตลอดจนถึงการทุจริตเชิงนโยบ
าย รวมทั้งสิ้น ปีละเป็นแสนล้าน
+++เงินในคลังก็จะน้อยลง ไทยก็จะยากจน การพัฒนาก็จะน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น ไปอีกหลายสิบปี คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือคนยากจน ที่รักทักษิณ ตามต่างจังหวัด ที่ต้องพึ่งพาสวัสดิ์การ จากรัฐตั้งแต่เกิดนั้นแหละ
-+-ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทักษิณ กุมอำนาจเสร็จเด็ดขาดทุกอย่าง ตั้งแต่ สส.ในสภา การแต่งตั้ง ผบ.ทหาร /ตำรวจ ข้าราชการประจำ จนถึงแก้ไขระบบผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เป็นแบบ ผู้ว่า CEO ก็เป็นพวกของทักษิณทั้งนั้น
-+-ถ้าทักษิณครองเมืองได้ ถึงมีผู้รู้ทันมากสักแค่ไหน ก็ขวางทักษิณไม่ได้ การที่ยุคสมัยนึงคนไทยรักเลือกทักษิณ เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจในการทุจริต ในเชิงนโยบายของเขา
--------------" แล้วใครละ จะคอยขวางทางทักษิณ "......ไม่ให้ทักษิณแต่งตั้งเอา ญาติและพวกพ้อง คนชั่วมามีอำนาจ...เพื่อยึดอำนาจ ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดสมใจเขา-------------------
คนอะไรโกงจนทำหนังสือได้เป็นเล่ม
โดย Super@2
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:41
หาอ่านกระทู้เก่าเอาซิ
หรือไม่ก็ลองใช้ Google ซิ รับรองอ่านวันเดียวไม่จบแน่ๆ
โดย 55555
on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:05
รมว.คมนาคม คุณชัชชาติถูกแฉกลางสภาฯว่า ′โกหก′ ที่ระบุในเอกสารประกอบการพิจารณาว่ารถไฟฟ้าจะวิ่งไปถึงหนองคาย และทางใต้ไปถึงปาดังเบซาร์
ก็อาจจะว่ากันแรงไปหน่อย แต่ท่านพยายามแก้ตัวในสภาฯ แต่ก็ไปไม่รอด สุดท้ายทางกระทรวงจึงออกมายอมรับว่ามีงบเงินกู้จัดไว้ให้ไปแค่โคราชและหัวหิน ลึกๆ คุณชัชชาติ พลาดเพราะไปยอมทุ่มเงินกับเส้นทางไปเชียงใหม่ตามความต้องการของ ′นายใหญ่-นายหญิง′ ทั้งๆ ที่คุณชัชชาติ ก็คงจะรู้ว่าไม่ได้เป็นเส้นทางที่คุ้มค่าที่สุด จากนั้นพอ สส.อีสานกลัวเสียคะแนนก็เลยยอมมาแก้เอกสาร จนถูกจับได้
ถ้าใครอยู่ในวงการหุ้น จะรู้นะครับว่าบริษัทไหนทำเอกสารประกอบการขอเงินเพิ่มทุนอย่างนี้ ถึงกับผิดอาญาเลยทีเดียว โทษสูงสุดติดคุกสองปี และนั่นเขาขอเงินกันเพียงหลักร้อยล้านพันล้าน
แต่นี่จะเอาเงิน ๒ ล้านล้าน แต่เอกสารที่อ้างว่าครบถ้วนเรียบร้อยนั้น จริงแล้วยังขาดความน่าเชื่อถือในอีกหลายจุดสำคัญ และเป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่ยอมยืนยันให้เอกสารนี้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย
วันก่อนผมนั่งคุยกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านเล่าให้ผมฟังว่าตอนที่ท่านไปคุยกับจีนเรื่องนี้ ผู้ที่จีนให้มาคุยด้วยก็คือผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน ขณะนั้นทั้งสองท่านยังเป็นรองนายกฯอยู่ และท่านทั้งสองได้วาดแผนว่าจะต้องมีการเชื่อมโยงจีนเข้ามากับอาเซี่ยนด้วยเส้นทาง คุนหมิง-สิงคโปร์ ที่ผ่านเมืองไทยจากหนองคายไปสู่ปาดังเบซาร์ และที่สำคัญข้อตกลงเบื้องต้นกับจีนคือการร่วมลงทุนที่จะทำให้ภาระการลงทุนของไทยเราลดลงอย่างมาก
แนวคิดเราคือ
๑. เริ่มลงทุนด้วยเส้นแรกสาย ′เอเซียใต้′ คุนหมิง-ลาว-ไทย-มาเลย์ฯ-สิงคโปร์
๒. เราใช้พื้นที่ทางรางเป็นส่วนทุนของเรา
๓. จีนลงเงินค่าวางราง ซึ่งใช้ส่วนนี้เป็นทุนของเขา
๔. ทั้งหมดจดทะเบียนเป็นบริษัทร่วมทุน มีสัมปทานบริหารเส้นทางรางประมาณ ๕๐ปี
๕. บริษัทนี้กู้เงินมาลงทุนในตัวรถไฟและการบริหารจัดการ เท่ากับประชาชนคนไทยผู้เสียภาษีต้องใส่เงินน้อยมาก
๖. ใครคนอื่นอยากวิ่งรถไฟบนรางนี้ก็ได้ แต่ต้องเสียค่าเช่ารางให้บริษัทร่วมทุนในช่วงสัมปทาน
๗. ส่วนเงินที่ไทยต้องใช้ จะมาจากงบประมาณ
๘. ทุกขั้นตอนผ่านรัฐสภาฯ และได้พิจารณาตามมาตรา ๑๙๐ แล้วด้วย
นี่คือการ ′แปลงสินทรัพย์เป็นทุน′ ที่รัฐมนตรีชัชชาติตอบในสภาฯว่า ′ยากเกินไป′ และทั้ง ′ผู้คิดแทนพรรค′ และ สส. พรรคเพื่อไทยทุกคนก็กลับลำคำสัญญาว่า หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะ ′ไม่กู้′
แถมดันไปกู้นอกระบบงบประมาณอีกต่างหาก และไม่ยอมยืนยันว่าจะใช้ระเบียบการพัสดุในการจัดซื้อจัดจ้าง
เค้าทำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ผ่าน ม. 190 ไปแล้วด้วย
ไปถึงหนองคายเลย...ทางใต้ ก็ถึงสุไหงโกลกอีก.....กู้น้อยกว่าอีกต่างหาก
เอาไปดำเนินการต่อป่านนี้ ได้เห็นลงเสาเข็มกันไปแล้ว
มันเอาไปเปลี่่ยนเป็นแบบผิดกฏหมาย
ที่นี้อดนั่งรถไฟความเร็วสูงเลย ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ถึงจะได้ทำโครงการ
โดย Kunnaimong
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:04
โดย แสงดาวแห่งศรัทธา
on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:21
พอมีขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มีปัญญาขึ้น
กระสันต์อยากได้เพราะอคติทางการเมืองอย่างเดียว
ต้องถามมันด้วยว่า ปกติเดินทางมันใช้เครื่องบินเป็นประจำด้วยหรือไม่
เพราะค่าตั๋วรถไฟความเร็วสูงมันก็พอๆกัน
55 บอกผมไม่มีปัณญาขึ้น เงินเดือนพ่อแม่คุณรวมกันยังไม่ได้ครึ่งผมเลย อิอิ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net