หนึ่งในสกุลเพชระบูรณิน

ฝากถึงนักการเมือง เศรษฐีทั้งหลาย ผู้แห่แหนนำเงินมาฝากเพื่ออุ้มธนาคารออมสิน

ฝากเงินแล้ว! ใช่ว่าชาวนาจะไปถอนเงินของคุณออกมาได้

ฝากเงินแล้ว! ใช่ว่าชาวนาจะได้ดอกเบี้ย คุณต่างหากที่ได้

ฝากเงินแล้ว! ใช่ว่าเงินจะเป็นของชาวนา เงินทุกบาทก็ยังเป็นของคุณ

ถ้ารักชาวนา อยากช่วยเหลือชาวนา ก็ควรจะ

ถอนเงินออกมา! ให้ชาวนาเอาใบประทวนมาขายให้คุณ

ถอนเงินออกมา! เอามาปล่อยกู้ให้ชาวนาโดยมีใบประทวนเป็นทุนค้ำเงินกู้ของคุณก็ได้

ถอนเงินออกมา! ปล่อยกู้ให้ชาวนาแบบไร้ดอกเขาจะได้อยู่สบายๆ

ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่ามาบอกว่ารักชาวนาจริง

""""  ระวังนะ เว้ยยยยย  จีนก็จ้อง

 

 

แหล่งน้ำมัน อ่าวไทย  เหมือนกัน...

 

จะเทคโอเว่อ ประเทศรึไง? ถามกรูหรือยัง?

มีที่ไหนน้ำมงน้ำมัน บร้ารึเปล่า ประเทศนี้ไม่มีน้ำมันหรอก ถ้ามีราคาน้ำมันจะแพงขนาดนี้หรอครับ

ปล.ประชด เบาๆ 1 ดอก คริๆ

 

ง่ะ ผม "อ้างถึง" ผิดคนอ่ะ T_T

ขอนอกเรื่องบ้างครับ ผมรู้จักพี่คนนึงนามสกุลนี้แหละ เลยอยากรู้ว่า นามสกุลนี้คนเพชรบูรณ์ใช้เยอะมั้ยครับ

เยอะครับเพราะเป็นนามสกุลเก่า ได้รับพระราชทานมาสมัยตอนที่เริ่มมีพระราชบัญญัติ(เรียกแบบนี้ถูกรึเปล่าไม่แน่ใจ)นามสกุลครับ ถ้าตอนนั้นไม่ทรงโปรดเกล้าพระราชทานมา ผมและคนอื่นๆคงได้ใช้นามสกุล เพ็ชรานุรักษ์ ครับ ตามบรรดาศักดิ์ของต้นตระกูลผู้นั้นครับ ยาวไปหน่อย แต่ที่เล่าให้ฟังเพราะภูมิใจที่รู้ที่มาที่ไปของนามสกุลตนเอง(จริงๆเเล้วถ้าว่าไปจริงๆ ต้นตระกูลที่สืบขึ้นไปอีก 3 ชั่วคน เป็นเจ้าพระยาครับเจ้าเมืองเพชบุรี) ทำให้ผมรู้สึกหวงแหนแผ่นดินที่บรรพบุรุษใช้เลือดเนื้อแลกมา ถึงยุคเราเราก็จะเจริญรอยตามพวกท่านเหล่านั้น ปกป้องรักษาผลประโชน์ของแผ่นดิน พิทักษ์ราชบัลลัง ไม่ให้ใครมาย่ำยีได้ครับ

ปล.ส่วนคนที่มองว่าผมบ้ายศบ้าบรรดาศักดิ์ อ่อขอบอกไว้นะครับ มานเป็นความภูมิใจส่วนตัวนะครับ ไม่ได้เอาไปเบ่งอำนาจ อวดบารมีใคร เพียงแค่เอาไว้เตือนสติตัวเองว่าควรทำอะไรเท่านั้นครับ

ผมมาบอร์ดนี้ทีไรก็แวะมาแต่สภากาแฟ เลยเผลอไปหน่อย ส่วนที่ไหนนั้น มันมีที่มาที่ไปครับถ้าอยากรู้จริงๆ ผมจะหาข้อมูลมาให้ เพราะผมเป็นคนในพื้นที่ ข้อมูลที่มาที่ไป มานมีเรื่องการเมืองท้องถิ่น การคอรัปชั่น ผลประโยชน์ต่างๆ นาๆ ครับ ขอเรียบเรียงข้อมูลก่อนครับ

อย่าด่าผมเลย ในความตึงเครียด เราควรมีรอยยิ้มบ้างครับ

______________________________________________________________

นี่แหละกาแฟอเมซอนของแท้

ที่มาที่ไปของภาพนี้

ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งของปั้ม ปตท. ครับ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ปั้มนี้สร้างมาได้ ประมาณ 4-5 ปีแล้ว ตอนสร้างระบุว่า เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับบุคคลากรในมหาวิทยาลัยครับ ภายในประกอบด้วย ปั้ม ปตท ขนาด 14 หัวจ่าย ร้านกาแฟอะเมซอน ร้าน 7-11 ครับ การก่อสร้างราบรื่นดี งบประมาณที่ใช้ประมาณ 20 ล้านบาท พอเสร็จแล้วกลับไม่ได้เปิดครับ (ตอนนั้นผมเรียนอยู่ประมาณ ปี 3) เหตุผลที่ไม่ได้เปิด อบต.เขาให้เหตุผลดังนี้ครับ

"อบต.สะเดียง ตั้งอยู่ในเขตผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ โดยประกาศในราชกิจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๐ (เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๖๒ ก) โดยข้อ ๑๘ กฎกระทรวงดังกล่าวนี้ กำหนดให้องค์การบริหารส่วนตำบล สะเดียงมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมการก่อสร้างหรือการประกอบกิจการในเขตผังเมืองรวมปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ ในระหว่างการใช้บังคับนั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสวัสดิการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ในเรื่องดังกล่าวนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงได้ตรวจสอบบริเวณสถานที่ที่จะก่อสร้างสถานีบริการดังกล่าวแล้ว พบว่า บริเวณที่ จะก่อสร้างอยู่ในเขตผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงเห็นว่า มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ต้องดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างอาคารและประกอบธุรกิจพลังงาน ต่อสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ก่อน ต่อมามหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ได้แจ้งองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงว่า การจัดตั้งสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสวัสดิการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์นั้น เป็นการจัดตั้งตั้งขึ้นเพื่อจะใช้ในราชการและสวัสดิการของข้าราชการ พนักงาน บุคลากร และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก (บันทึกแนบท้ายข้อตกลงการจัดตั้งสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสวัสดิการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์) และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๑๓ กำหนดให้อำนาจแก่มหาวิทยาลัยในการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินในเชิงธุรกิจของมหาวิทยาลัย รวมทั้งที่เป็นราชพัสดุตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ รวมทั้งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์เห็นว่า เป็นการจัดตั้งสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสวัสดิการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ในที่ดินราชพัสดุของมหาวิทยาลัยฯ จึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ขัดกฎกระทรวงผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ตามองค์ประกอบการใช้ที่ดินเพื่อกิจการในเชิงธุรกิจและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ในเรื่องดังกล่าวนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงได้พิจารณาในเบื้องต้น ปรากฏว่า ตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ ได้กำหนดให้มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ อยู่ในบริเวณการใช้ที่ดินหมายเลข ๘.๑ โดยกำหนดให้เป็นสีเขียวมะกอก ให้เป็นที่ดินประเภทสถาบันการศึกษา ที่ข้อ ๑๔ กฎกระทรวงดังกล่าว กำหนดให้ที่ดินประเภทสถาบันการศึกษา ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการศึกษา หรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา สถาบันราชการ หรือสาธารณประโยชน์เท่านั้น และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงในบริเวณพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างสถานีบริการดังกล่าว ปรากฏว่า บริเวณสถานีบริการดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว ปรากฏ ๑๔ หัวจ่าย และมีทางเข้าออกของสถานีบริการน้ำมันติดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑ แต่ไม่ปรากฏทางเข้าออกหลังสถานีบริการฯ ที่จะให้ราชการ ข้าราชการ พนักงาน และนักศึกษาอันถือได้ว่าเป็นบุคคลภายในของมหาวิทยาลัยฯ และในบริเวณข้างเคียงห่างจากรั้วสถานีบริการฯ มีเพียงช่องทางเข้า - ออก สถานีบริการน้ำมันเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ชี้แจงมา เป็นเพียงแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐเท่านั้น องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงมีความเห็นในชั้นต้นว่า สถานีบริการดังกล่าว มีเจตนาบริการบุคคลภายนอกเป็นหลักแต่บริการบุคคลภายในมหาวิทยาลัยฯ เป็นรอง ซึ่งไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) (มีสถานีบริการตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยฯ ห่างจากถนนสายหลัก) กรณีดังกล่าวนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง มีความเห็นสอดคล้องกับกองนิติการ กรมโธาธิการและผังเมือง คือ

๑. สถานีบริการน้ำมันบริการน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นกิจการพาณิชยกรรมประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถดำเนินการในที่ดินประเภทสถาบันการศึกษาได้ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงเห็นว่า ที่ดินประเภทสถาบันการศึกษา ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการศึกษา หรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา สถาบันราชการ หรือสาธารณประโยชน์เท่านั้น 

๒. แต่เนื่องจากการใช้ที่ดินประเภทดังกล่าว อาจจำเป็นต้องมีการใช้ที่ดินลักษณะอื่นปะปนอยู่บ้าง ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับและอำนวยความสะดวกแก่การใช้ที่ดินเพื่อการศึกษาหรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น การจัดให้มีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อบริการแก่นักศึกษา ข้าราชการ พนักงานสามารถกระทำได้ แต่จะเป็นการใช้เพื่อรองรับหรืออำนวยความสะดวกแก่การศึกษาหรือเกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาวัตถุประสงค์และการกระทำในแต่ละกรณีไป เช่น

๒.๑) ถ้าสถานที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณสถาบันการศึกษา มีรั้วล้อมรอบให้บริการแก่ราชการ ข้าราชการ พนักงานเป็นหลัก แต่บุคคลทั่วไปที่เข้ามาภายในสถาบันการศึกษาก็อาจใช้บริการได้บ้าง แต่มิใช่วัตถุประสงค์หลักที่จะบริการแก่บุคคลทั่วไป ก็อาจถือได้ว่า เป็นการใช้เพื่อรองรับหรืออำนวยความสะดวกแก่การศึกษาหรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา
 

๒.๒) ถ้าสถานที่ตั้งอยู่ริมถนน บุคคลทั่วไปสามารถเข้าใช้บริการได้โดยสะดวก ลักษณะบริการส่อไปในทางที่จะให้บริการแก่บุคคลภายนอกเป็นหลัก ให้บริการแก่ราชการ ข้าราชการ พนักงานของสถาบันการศึกษาเป็นรอง ก็อาจไม่ใช่การรองรับหรืออำนวยความสะดวกแก่การศึกษาหรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงเห็นว่า นอกจากที่ดินประเภทสถาบันการศึกษา ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการศึกษา หรือเกี่ยวข้องกับการศึกษา สถาบันราชการ หรือสาธารณประโยชน์เท่านั้นแล้ว หากจะใช้ที่ดินประเภทอื่นในที่ดินประเภทสถาบันการศึกษาแล้ว ต้องให้สอดคล้องกัน กล่าวคือ วัตถุประสงค์กฎระเบียบที่กำหนดต้องใช้ให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงซึ่งมีลำดับของกฎหมายสูงกว่าระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ โดยทั้งนี้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ต้องสอดคล้องกับกฎกระทรวงฯ ผังเมืองรวมเมืองเพชรบูรณ์ คือ สถานีบริการฯ ต้องตั้งอยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยฯ อย่างแท้จริง มิใช่ตั้งติดริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑ อันส่อเจตนาให้บริการบุคคลภายนอกเป็นหลัก อนึ่งในปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ ได้ยื่นคำขอแก้แบบเพื่อดำเนินการขอแก้ไขทางเชื่อมบริเวณภายในเพื่อให้สามารถดำเนินการเปิดสถานีบริการได้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๕) ในเรื่องดังกล่าวนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง ได้พิจารณาจากแบบที่แนบเสนอมามีความเห็นในเบื้องต้นว่า ทางเชื่อมภายในดังกล่าว มีขนาดเขตทาง....๓... เมตร ซึ่งไม่สามารถสวนทางเพื่อกลับ เข้ามหาวิทยาลัยฯ ได้ โดยเมื่อใช้บริการเติมน้ำมันแล้วเสร็จ ต้องขับพาหนะออกไปนอกมหาวิทยาลัยฯ แล้วจึงเลี้ยวกลับเข้ามามหาวิทยาลัยฯ โดยผ่านประตูใหญ่ ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง กำลังพิจารณาแบบอยู่ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแต่ได้รับคำชี้แจงที่ไม่ช้ดเจนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดจากการกระทำนอกเหนืออำนาจ การกระทำโดยไม่สุจริต หรือการกระทำที่ใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียงอยู่ระหว่างจัดทำเอกสารเพื่อเรียนปรึกษาข้อกฏหมายต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงชี้แจงมาเพื่อทราบ "

ผมข้องใจว่า ถ้าทำทางคนจากในมหาวิทยาลัยด้วยก็เปิดได้แล้วสิ แต่ไหงพอทำให้เข้าจากในมหาวิทยาลัยได้แล้ว ก็ยังเปิดไม่ได้อยู่ดี ร้างมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าอยากช่วยนะ ช่วยซื้อข้าวดีกว่ามั้ย แล้วเอาไปแจกคนจนในแอฟริกา ได้บุญ ได้หน้า ผู้คน ชาบู ชาบู ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก"สิบห้าล้านรักยิ่งลักษณ์" ได้โพสต์ภาพและข้อความ โดยระบุว่า มีเศรษฐีชาวจีนท่านหนึ่งแสดงเจตจำนงค์ผ่านตัวแทนประเทศไทย ที่มีเงินฝากอยู่อยู่ในธนาคารฮ่องกงเซียงไฮ้ จำนวน 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 15 ล้านล้านบาท) พร้อมระบุว่า ยินดีที่จะให้คำประกันเงินกู้ให้รัฐบาล เพื่อสนับสนุนโครงการจำนำข้าว ช่วยเหลือชาวนาไทยทันทีหากมีความต้องการ

สำหรับข้อความทั้งหมดมีดังนี้

มหาเศรษฐีชาวจีน ยินดีค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐบาลไทยเพื่อช่วยชาวนา

มหาเศรษฐีชาวจีนแสดงเจตจำนงค์ผ่านตัวแทนในประเทศไทย ซึ่งมีเงินฝากในธนาคารฮ่องกงเซียงไฮ้ (HSBC) สำนักงานใหญ่ ถนนควีนส์ เซ็นทรัล ฮ่องกง จำนวน 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 15 ล้านล้านบาท) ยินดีค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐบาลเพื่อสนับสนุนโครงการจำนำข้าว ช่วยเหลือชาวนาไทยทันทีหากมีความต้องการ

"ตรวจสอบทีจริงเท็จประการใด"