โลกสวยงาม

ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องไปว่ากันขนาดนี้

เขาชุมนุมคนได้ ก็ถือว่าเขาได้ทำแล้ว

จะเอาผู้ดิบผู้ดี ไปต่อยเตะกับนักเลงติดยา ใครจะทำได้ล่ะ

คนที่มาชุมนุมกับพรรคปชป. ส่วนใหญ่ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์

และมากับส.ส.ด้วย แต่ละคน ต่อยใครเป็นซะที่ไหน

ขนาดด่ายังด่าแบบสุภาพเลย

 

คือมันต้องประเมินและวิเคราะห์คนให้ถูก

เมื่อ ปชป.ออกมาทำม๊อบเอง มันก็เป็นม๊อบสุภาพแบบนี้แหละ

ผู้กองปูเค็มเลยเซ็งไงครับ

แต่นี่มันจะเป็นเครื่องหมายการค้าของ ปชป.

ว่า สุภาพ นิ่มนวล และเป็นผู้ดี มีความคิด

นี่คือม๊อบปชป.

ต่อไป ผู้ดิบผู้ดีมีการศึกษา เขาก็มาม๊อบนี้ เพราะมั่นใจว่า เออ มันสุภาพดีนะ

ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ

ไม่เห็นเสียหายนี่

 

นึกถึงเราเอง เราก็ไม่กล้าชนเหมือนกัน เราก็คงต้องทำอย่างปชป.

แต่ละคนมีดีมีเสียต่างกัน

จะไปบอกให้ม๊อบ ปชป.ต้องลุย ต้องชน

มันทำไม่ได้

พันธมิตรเองที่เราไป ก็เพราะ แป๊ะลิ้มยืนยันสันติ อหิงสา เราถึงไป

เริ่มต้นก็ต้องอย่างนี้

หรือว่ามันไม่ใช่วะ

 

ไม่รู้จะด่าไปทำไม เขาทำได้ขนาดนี้ก็โอแล้ว

ถ้าวันนี้ทำฮาร์ดคอจนเลือดตกยางออก

ไอ้แฟต มันก็คงเข้ามาถล่มอีกว่า พาคนไปตาย หลอกใช้คนให้ไปบาดเจ็บเพื่อตัวเองอีก

 

ผมว่า อย่าไปสนใจครับ

ถ้าคิดว่าทำในสิ่งทีถูกต้องเป็นธรรม อย่าสนใจว่าใครจะด่าครับ

]

@fm91trafficpro @traffy แยกเทเวศน์ ต่อเนื่องถ.สามเสน การจราจร รถหนาแน่น เริ่มติดขัด pic.twitter.com/ns4qRl6y8V

 

[attachment=23408:สามเสน.jpg

 

เชื่อว่ามี จนท. ศอ.รส. มานั่งมอนิเตอร์ เวปนี้

 

เพราะฉะนั้น ฝากบอกด้วยว่า

 

กรุณาอย่าปิดถนน แบบโง่ ๆ เยี่ยงนี้

 

เข้าใจป่ะ

 

ทำใจได้เสมอ ใครมาชุมนุม แล้วรถติดเนี่ย

 

แต่ติดแบบความคิดขี้ขลาดตาขาวเยี่ยงนี้

 

รับไม่ได้ !!!!

 

 

ความรับผิดชอบที่พึงมีของ ปตท อันดับแรกคือการรับผิดชอบต่อพื้นที่

ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และการเก็บกู้ให้กลับคืนมาในสภาพปกติให้เร็วที่สุด

เพราะผลกระทบในวงกว้างที่เกิดขึ้น มันพ้นจากคำว่าธุรกิจไปแล้ว

 

แต่ไม่ใช่การออกมาร้องเรียกประชาชนจิตอาสาให้เข้าไปร่วม

เวินมีเยอะแยะ คุณก็ไปจัดจ้างมืออาชีพมาทำสิครับ

อุปรณ์ใดๆ ก็ควรจัดหาให้ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่ใช่เรียกจิตอาสามาทำ

โยนพลั่วให้อันนึงกะหน้ากากปิดปากปิดจมูก แถมข้าวเที่ยง และที่พักฟรี

แม้ว่าคุณจะจัดทำกันเองในองค์กรณ์ก็เถุอะ

 

บริษัทใหญ่โตระดับชาติ

แต่การแก้ปัญหา กลับเพียงใช้จิตอาสา มันสมควรแล้วหรือ

คนไทยไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าที่คุณรู้กันนะครับ

จ้างฝรั่งก็ได้ บริศัทไหนที่ทำเป้น มีปัญญาทำ

เอาคนอื่นเค้ามาลำบากกับคุณได้อย่างไร

เท่าที่ศึกษามาบ้าง พระในสายหลวงพ่อชาจะเดินแนวทางอาปาณานสติ หรือสมาธิลมหายใจครับ และจุดเด่นก็คือคำสอนและแนวปฏิบัติ

ค่อนข้างจะเข้ากับวิถีชีวิตของคนทำงานทั่วไป จึงเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในหมู่ฆราวาส  โดยเฉพาะนักธุรกิจและพนักงานบริษัท

 

แต่ในแง่ของพระ แนวทางนี้ อาจจะมีจุดอ่อนอย่างหนึ่งก็คือขาดการเน้น "กรรมฐาน 5" ที่พระวัดป่าสายหลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์จะถือเป็นหลักในเรื่องนี้

(คนที่เคยบวชเรียนมาคงจะรู้ว่าหมายถึง การพิจารณาร่างกายภายนอก

5 อย่างคืน เกศา ทันตา โลมา นขา ตโจ) ซึ่งบางที่ก็ต่อยอดเต็มรูปแบบเป็นกายคตาสติ (การพิจารณากายเป็นปฏิกูล) หรือ อสุภกรรมฐาน

ซึ่งในแง่ของพระแล้ว เป็นอาวุธสำคัญในการต่อสู้กับกามารมณ์และมาตุคามที่เป็นศัตรูร้ายที่สุดของพระ

 

ถ้าสามารถเห็นเพศตรงกันข้ามแล้วมี "อสุภสัญญา" ได้

คือมองแล้วเห็นภาพซ้อนขึ้นมาเลยว่า เห็นสวยๆแบบนี้ แค่สะกิดให้ผิวขาดนิดเดียวก็เลือดทะลัก หน้าท้องสวยๆแบบนี้

ข้างในมี่ไส้อยู่กี่ขด ก้นสวยๆแบบนี้ จิ้มนิ้วเข้าไปแค่องคุลีเดียวก็เจออึเหม็นฉึ่ง ใครทำได้ถึงขนาดนี้

ก็ไม่ต้องห่วงแล้ว อย่างไรก็ดี ครูบาอาจารย์หลายท่านก็เล่าให้ฟังว่า ถ้าเจอคนที่เคยเป็นเนื้อคู่กันมาหลายชาติ บางครั้ง

เคล็ดวิชานี้ก็ยังเอาไม่อยู่ ต้องถอนกลดหนีกันกลางคืนเลยทีเดียว

 

หลวงปู่ชานั้นท่านไปฝากตัวอยู่กับหลวงปู่มั่นเป็นระยะสั้นๆ สนทนาธรรม แล้วมาปฏิบัติเองจนบรรลุธรรม แนวทางปฏิบัติของท่าน

จึงแตกต่างจากแนววัดป่าของหลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ที่เป็นแนวหลักของสายวัดป่าบ้านเราที่ภาวนาพุทธโธจนใจสงบ

แล้วนำจิตที่เป็นสมาธินั้นมาพิจารณาความเป็นอสุภของกาย แนวหลวงปู่ชาจะออกไปทางเซ็นๆหน่อย จึงเป็นที่ชื่นชอบ

ของคนทำงานและคนต่างชาติ

 

 

คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าแค่เอาผ้าเหลืองมาห่มก็ละกิเลสได้ แต่จริงๆแล้วในการละกิเลสต้องฝึกกันเยอะ และใช้เครื่องมือหลายๆอย่างไปด้วยกัน

เพราะกิเลสมันมีหลายตัว โดยเฉพาะกามารณ์ซึ่งเป็นของที่ธรรมชาติมันฝังมากับสัญชาตญาณ ถ้าลองนึกว่าพระอริยะของพุทธ

มี 4 ระดับ แต่ระดับที่ 3 อย่างพระอนาคามียังครองเรือนได้ ก็ไม่น่าแปลกใจ และยิ่งทำให้คนที่เป็นพระจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด

เราเสียพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาหลายรูปแล้วเพราะสาเหตุแบบนี้แหละ

 

ในฐานะเด็กวัดเก่าเห็นมาค่อนข้างเยอะ ในหลายๆเคสผมไม่โทษพระนะ แต่โทษสีกานี่แหละ เห็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วไม่รู้เป็นไร

ชอบไปสนิทสนมกับท่าน บางรายถึงกับจีบพระเอาตรงๆชวนให้สึกมาเป็นสามีเลย เรื่องแบบนี้ไม่ได้เพิ่งจะมามีนะ ถ้าคนที่ชอบอ่านประวัติครูบาอาจารย์ต่างๆ

จะรู้ว่าท่านโดนกันแทบทุกรูป เพียงแต่ท่านสติแข็งกว่าแค่นั้นเอง แทนที่เราจะมีพระดีๆเอาไว้ทำงานสืบศาสนาอย่างได้ผล 

ก็เสียท่าแม่โคเขาอ่อนกันหมด ...ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นบุญกุศลหรอกนะ 

ผู้ที่รับหน้าที่เผยแผ่ธรรม เมื่อไม่สามารถรับภาระในการตัดจากกิเลสได้ ก็สมควรแล้วที่ต้องไปตามทางของปุถุชนคนธรรมดา

 ก็ยังดีที่สึกแล้วมีภาพออกมานะขอรับ... แค่แปลกใจ แต่ไม่ผิดคลองธรรม...

ก้อรัดถะบานอยากให้เรื่องอื่นกลบเรื่องจำนำข้าวขาดทุน ทนๆหน่อยเส่ะ (ให้กุได้หายใจ หายคอหน่อยสิว้อย จาก บุญทรุด/เต้น โชว์โง่)

 

เกือบจะรอดแล้ว ....... แต่ถึงฆาตจริงๆ  เอกยุทธิ์ ฉลาดมากๆ แต่คนอื่น ไม่ทันแก 

 

 

 

ขอให้ไปสู่สุขติ ครับ...........อนิจจา ไม่ว่าจะเป็นใคร ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้

 

ผมเคยเรียนถามพระสายวัดป่า ท่านให้ข้อคิดดีมากเลยครับ

ท่านบอกว่า วิบากกรรม หรือกรรมแต่กาลก่อน ไม่ได้มาในรูปแบบที่คนไทยคิดกัน

การที่เราไม่เกิดปัญญาที่จะคิดหาทางออกได้ ยังคงหลงผิดอยู่ในการทำความผิดนั้น เท่ากับเราต่อเวรต่อกรรมไปเรื่อยๆ ลงหลุมลึกเรื่อยๆ

น่นคือผลของกรรม ที่ทำให้เราหยุดไม่ได้ คิดไม่เป็น

(กรณีนี้ตรงกับทักษิณ ผมถึงเชื่อว่าทักษิณมีกรรมหนักมาก เพราะป่านนี้ยังลงหลุมลึกเรื่อยๆไม่หยุด ไม่เกิดปัญญา คิดไม่เป็น)

 

 

 

ปล. ผู้หลักผู้ใหญ่เคยสอนว่าคนที่หลับตายอย่างสงบ คือทำบุญมาดีนัก

ผมเชื่อแล้วครับว่าจริง

 

 

ตรงนี้ของคุณผึ้ง ตรงใจกับที่ผมคิดเหมือนกันครับ แต่ผมคิดไปอีกอย่าง...

 

ประเทศไทยคงอยู่ในช่วงบาปกรรมตามทันเหมือนกัน

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราเป็นประเทศธรรมะ เป็นม้าอารีที่่ช่วยเหลือเพื่อนบ้านตลอด

เราก็เลยผ่านเรื่องราวร้ายๆหนักๆมาได้ตลอด แม้จะไม่ถึงกับดีเท่าไหร่

 

แต่ช่วงที่ผ่านๆมา เราหลงระเริงไปกับวัตถุจนจิตใจคนในสังคมจำนวนมากเสื่อมลงอย่างเหลือเชื่อ

เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของคนในสังคม ดูถูกดูแคลนคนที่ต่ำกว่า

โดยเฉพาะพฤติกรรมที่คิดว่า "ลูกค้าต้องถูกเสมอ...หรือ...จ่ายเงินไปแล้ว ต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ..."

เห็นเงินเป็นพระเจ้า ว่างั้น

(พวกแดงมักจะเหมาว่าพฤติกรรมพวกนี้เป็นของพวกเหลืองหรือสลิ่ม แต่ผมกลับพบว่า

คนชั้นกลางที่เป็นแบบนี้มักจะเป็นพวกกลางกลวง หรือไม่ก็แดงไปเลยมากกว่า

เพราะถ้าคุณไม่มีสำนึกรับผิดชอบสังคม คุณก็คงไม่ออกมาต่อสู้เพื่อสังคมหรอก )

คนชั้นกลางบางกลุ่มทำทุกอย่างเพื่อเงิน แม้จะขายตัว ขายศักดิ์ศรี น่าเศร้าที่คนพวกนี้ไม่ใช่คนยากจนไร้ทางเลือก

แต่เป็นนักศึกษา เป็นคนมีความรู้ที่มีอนาคตรออยู่ข้างหน้าด้วยซ้ำ

 

แม้แต่สถาบันๆในสังคมก็เสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นศาสนา การศึกษา สื่อมวลชน ฯลฯ เรียกว่าเราอยู่ในยุคเสื่อมอย่างแท้จริง

ครั้งหนึ่งเราปล่อยให้คนถูกฆ่าตัดตอนไปถึงสองพันกว่าคน ปล่อยให้คนถูกฆ่าในภาคใต้ไปเป็นพันๆคน

โดยมองผ่านตาแบบไม่รู้สึกรู้สา ...หลังจากนั้นเราก็โดนสึนามิไปเต็มๆ มันก็น่าจะเตือนอะไรได้สักอย่าง

 

เรามีคนที่ออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลเลวๆ แต่กลับถูกนักวิชาการ สื่อหัวก้าวหน้าใส่ไคล้ กลายเป็นสมุนเผด็จการ

คนที่ออกไปตาย แม้จะเป็นน้องผู้หญิงจิตใจบริสุทธิ์ แต่กลับถูกใส่ความว่าพกระเบิด ระเบิดใส่ตัวเองตายเอง

แล้วสังคมส่วนใหญ่ก็ดันเชื่อ ใช้คำมักง่ายแค่ "ปิดสนามบิน" ก็ปล้นความชอบธรรมหรือคำยกย่องที่ควรจะได้

จากการเสียสละออกไปเสี่ยงตายเพื่อสังคมได้โดยสิ้นเชิง 

 

คนในสังคมส่วนหนึ่งมืดบอด ปล่อยให้คนชั่วๆชักนำ พาทั้งตนเองทั้งประเทศตกต่ำลงไปทุกทีๆ

คนส่วนใหญ่เพิกเฉย มึนชา มองเห็นแต่ชีวิตสนุกสนานข้างหน้าตัวเอง ด่าทุกอย่างที่ขัดความสนุกของตน

ขณะที่คนกลุ่มเล็กๆที่มีปัญญา มองเห็นหายนะ พยายามจะร้องเตือน แต่ไม่มีคนรับฟัง...

ภาพมันคุ้นๆหรือเปล่า?  

นึกถึงคำพูดของคุณผึ้ง(กระทู้ไหนผมจำไม่ได้ล่ะ..ขอโทษทีครับ..แต่โดนใจ) คือ เค้ารู้สึกอย่างไร..เวลาที่รู้ว่าจะต้องตาย..เพราะโดนฆ่า..แล้วนี่..2 วันเต็มๆ..แค่คิดก็..นะ

คงหนีไม่พ้น คำว่า "กรรม"

 

 

ดูแล้วน่ากลัวมากๆ

 

เราจะเอาสิ่งที่คุณผึ้งน้อยพูด ไปดูแลลูกๆ ให้เขาห่างไกลจากการสร้างเวรกรรม เป็นคนดีของสังคม

ส่วนตัวเราเอง ไม่เคยสร้างกรรมหนัก แต่หากจะมีกรรมเก่า ก็ต้องรับไป

ขอบคุณครับ

 

 

 

ผมหนาวในหัวใจไปเลยครับแค่จินตนาการถึงความรู้สึกผู้ตาย... มันวังเวงมาก

ทำให้ผมตระหนักจริงๆว่าคนเราไม่มีทางรู้จริงๆว่าเราจะตายวันไหน ตายอย่างไร

ดังนั้น ขณะยังไม่ตายนี่....อย่าได้ทำชั่วเลย  อย่าเบียดเบียนทำร้ายใครเลย

ตอนตายจะได้ไม่ต้องติดค้างใครอีกครับ

แต่ถ้าเราทำกรรมมาให้ต้องเจอสภาพแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ

ฉะนั้น ทางเดียวที่ทำให้เรา "สงบใจ" ได้คือ กรรมใหม่เราไม่สร้าง 

อย่างน้อยเราก็รู้แน่ว่าเราไม่สร้างเหตุต่อไปให้เกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมอีก

 

 

พระพุทธศาสนาสอนว่า "ทุกสรรพสิ่งไม่มีคำว่าบังเอิญ  และไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุปัจจัย"

ผู้ก่อการอย่างนายสันติภาพและทีม  ก็คงเคยผูกเวรต่อกันมาก่อนกับผู้ตายนะครับ

ถึงได้ต้องมาพบเจอกันอีกจนได้  

เกือบจะรอดแล้ว ....... แต่ถึงฆาตจริงๆ  เอกยุทธิ์ ฉลาดมากๆ แต่คนอื่น ไม่ทันแก 

 

 

 

ขอให้ไปสู่สุขติ ครับ...........อนิจจา ไม่ว่าจะเป็นใคร ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้

 

ผมเคยเรียนถามพระสายวัดป่า ท่านให้ข้อคิดดีมากเลยครับ

ท่านบอกว่า วิบากกรรม หรือกรรมแต่กาลก่อน ไม่ได้มาในรูปแบบที่คนไทยคิดกัน

การที่เราไม่เกิดปัญญาที่จะคิดหาทางออกได้ ยังคงหลงผิดอยู่ในการทำความผิดนั้น เท่ากับเราต่อเวรต่อกรรมไปเรื่อยๆ ลงหลุมลึกเรื่อยๆ

น่นคือผลของกรรม ที่ทำให้เราหยุดไม่ได้ คิดไม่เป็น

(กรณีนี้ตรงกับทักษิณ ผมถึงเชื่อว่าทักษิณมีกรรมหนักมาก เพราะป่านนี้ยังลงหลุมลึกเรื่อยๆไม่หยุด ไม่เกิดปัญญา คิดไม่เป็น)

 

อีกอย่างคือการที่เราทำสิ่งใดแล้วไม่มีคนเข้าใจ ไม่มีคนช่วยเหลือเลย  มืดมนมาก  นั่นก็ผลของกรรมวิบากเช่นกัน

(กรณีนี้ตรงกับคุณเอกยุทธ)

ผมตามข่าวคุณเอกยุทธ  ผมก็อดคิดไม่ได้ครับว่าเขาเสียชีวิตแบบทรมานสุดแล้ว

1. ไม่ได้ตายทันที  แต่รอ 2 วันกว่าจะตาย

2. ส่งสัญญาณหาใคร ไม่มีใครจับสัญญาณได้สักคน

3. ขนาดหนีออกมาจากรถได้ ก็กลับสิ้นโอกาสรอด

 

ผมมานั่งคิดว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุสยอง แต่ตายคาที่ทันที  ยังไม่ทรมานเท่านี้เลยครับ

 

ปล. ผู้หลักผู้ใหญ่เคยสอนว่าคนที่หลับตายอย่างสงบ คือทำบุญมาดีนัก

ผมเชื่อแล้วครับว่าจริง

ผมไปตามดูจากลิงค์ที่เพื่อนเสรีไทยแปะไว้ให้ครับ

ดูแล้วอึ้งไปนาน

http://youtu.be/AB0k_f6fo5Q

 

ผมช่วยสรุปคร่าวๆดังนี้นะครับ

 

1. นายสันติภาพ คนขับรถ แฝงตัวเข้ามาตั้งแต่แรก  โดยมีประวัติเป็นลูกน้องมาเฟียใหญ่คับกรุง

2. เอกยุทธพลาด ที่เปิดรับสมัครคนขับรถผ่านอินเตอร์เน็ต

3. ปกติเอกยุทธจะมีการ์ด 2-3 คนคอยประกบเสมอ สันติภาพรอจังหวะอยู่หลายเดือนจนมีวันที่การ์ดไม่ได้ติดตาม

4. สันติภาพไม่ได้ทำคนเดียว และทีมพัทลุงที่ถูกจับ ไม่ใช่ทีมที่รออยู่ในรถหน้าร้านกระแต เป็นแค่สัปเหร่อ

5. ทีมที่รออยู่ในรถ ตั้งใจมาอุ้มฆ่า แต่เอกยุทธยื้อชีวิตด้วยการต่อรองจะให้เงินมากกว่าที่รับงานมา 

6. เอกยุทธให้ไปเอาเงินที่บ้านเพราะต้องการให้ภาพอยู่ในกล้องวงจรปิด  จึงบอกทีมฆ่า กลับไปเอาเงินที่บ้าน

7. เอกยุทธคิดหาทางหนี จึงโทรถามพี่สาวเรื่องกุญแจบ้านหวังให้พี่สาวรู้ แต่พี่สาวไม่เอะใจ

8. ทีมฆ่าเห็นกล้องวงจรปิด จึงเอาออก

9.  เงินสดไม่มี เอกยุทธต้องการยื้อชีวิตต่อ จึงขอให้รอเบิกเช็คพรุ่งนี้ตอนแบงก์เปิด  

10. ทีมฆ่าจึงพาไปกักตัวต่อที่บ้านพี่สาวสันติภาพ (สายล่อฟ้ารู้จากพิกัดมือถือ ปรากฏที่ลาดกระบัง บ้านพี่สาวจริงๆ)

11. รุ่งขึ้น เอกยุทธพยายามส่งสัญญาณด้วยการเขียนเช็คผิดพ.ศ.  แต่แบงก์ไม่เอะใจ

12. เมื่อได้เงินแล้ว ก็รอจนเย็นเพื่อจะพาไปฆ่า  แต่เอกยุทธโดดหนีจากรถได้ทั้งกุญแจมือ แต่ถูกจับได้  

ถูกลากเข้ามาในรถ และรัดคอ

13. ความตั้งใจแรกคือ "ต้องการไม่ให้มีศพ  หายไปเลย (แบบคดีทนายสมชาย ที่ไม่เจอศพก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ ต้องยกฟ้องตำรวจ 4 ใน 5 คน)

14. จากนั้น ก็จัดการแถลงข่าวเลย  โดยให้นายสันติภาพเขียนคำบอกว่าเอกยุทธหนีไปพม่าเอง

 

15. การสืบสวนมีพิรุธมาก ดังนี้

 

15.1 ทีมกองปราบซึ่งครอบคลุมทั่วปท. ต้องเป็นผู้ทำคดีร่วมกับบชน. กลับถูกกีดกันออกไป ไม่ให้กองปราบเข้ามาในห้องสอบสวนด้วย

15.2 ในการจับตัวผู้ต้องหา กลายเป็นทีม กด.ดส. ตำรวจเกี่ยวกับคดีเด็กและสตรี ซึ่งมาเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ?

15.3 ปรากฏว่านายตำรวจที่คุมกด.ดส.ซึ่งเป็นผู้ตามจับสันติภาพมาได้แบบงุบงิบมาก คือ 1 ในจำเลยคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย ซึ่งปัจจุบันเป็นคนสนิทของคำรณวิทย์

 

ทุกอย่างจะเรียบร้อยตามแผนว่า หาศพไม่เจอ แปลว่าเป็นบุคคลสาบสูญ ทุกคนก็จะลืม  หากไม่มี "คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต"  นั่นคือปัจจัยที่คนบงการคาดไม่ถึง...

ทนายสุวัตร!

 

ทนายสุวัตรตามกัดคดีนี้ไม่ปล่อย ถึงกับเอาตัวกระโดดเข้าไปขวางรถของคำรณวิทย์ ประกาศว่าถ้าไม่ให้มีส่วนรู้เห็นในการสอบสวนสันติภาพด้วย ก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น

 

แผนเดิมจึงแตกโพละ  ต้องเปลี่ยนแผนใหม่เป็นการแถลงข่าวครั้งที่ 2  โดยให้นายสันติภาพรับว่าเป็นคนฆ่าเอง

 

 

คร่าวๆมีดังนี้นะครับ

 

 

 

มาเพิ่มครับ

คุณหริโชคเป็นผู้เล่า  แต่บอกว่าคนหาข้อมูลนี้มาทั้งหมดคือคุณชวนนท์

ขอให้กำลังใจท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ท่านอุตส่าห์อดทนเหน็ดเหนื่อยลำบากดากดำ

มาเป็น "นายกรัฐมนตรี" ตามที่พี่ชายร้องขอ ทั้งที่ท่านไม่มีความรู้ความสามารถใดๆ

พี่ชายก็ส่งบริวารมาคอยช่วยเหลือ แต่พวก ห่ า นี่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย

จนเธอหมดความอดทน ระเบิดใส่พวก ห่ า นี่กลางวงประชุมครม. ไม่ต่ำกว่าสามครั้งแล้ว

แต่พวกห่ า นี่ไม่ได้พึ่งสำเหนียกว่าจะต้องช่วยอะไรเธอได้บ้าง

ดูอย่าง เต้น บุญทรง ปลอด ฯลฯ พวกนี่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย ดันหน้าด้านหน้าทนอยากนั่งเก้าอี้ รมต.ทำไม

เห็นแก่ท่านนายกฯที่เหน็ดเหนื่อยกับพวก ห่ า นี่ เลยเสนอทางออกให้ท่านสัก สามทาง

1.ลาออก เปิดทางให้หลานโอ๊ค ลองเป็นดูบ้าง เผื่อจะไปตบเกรียนไอ้พวก ห่ า นี่ได้

2.ยุบสภา ชิ่งหนีปัญหาจำนำข้าวดีกว่า เพราะยังไงก็ไม่รอดอยู่แล้ว

ลงใหม่ครั้งหน้าก็ชูเจ๊แดง หรือ หลานโอ๊ค เป็นนายกฯ ส่วนตัวท่านเองวางมือไปคอยสอนการบ้านลูกดีกว่า

3.ปรับครม. ไล่พวก ห่ านี่ ออกหมด แต่คงยาก เพราะพรรคนี้มีแต่คนแบบพวกห่ า นี่ ทั้งนั้น

ไม่อยากเห็นท่านต้องเหน็ดเหนื่อย แบบนี้ เลือกข้อ 1 หรือ 2 อาจช่วยท่านได้เชื่อผมเถอะ

ของพวกเราหน้ากากขาว

ของพวกเค้า หน้ากากด้าน

ในที่สุดสิ่งที่ภาวนาไว้ก็มาถึง นั่นคือวันที่รัฐบาลนี้เหิมเกริม มองไม่เห็นหัวชาวบ้าน ทำสิ่งที่เลวร้าย จนคนที่เป็นไทยเฉยจะพากันเปลี่ยนเป็นไทยพร้อม ที่ไม่อาจจะทนความเลวร้ายของรัฐบาลนี้ต่อไป และพร้อมใจที่จะออกมากำจัดรัฐบาลที่บริหารบ้านเมืองภายใต้ระบอบทักษิณ ระบอบที่ใช้ประชานิยม นำเอาภาษีของประชาชนไปหว่านสร้างคะแนนนิยม ให้กับตนเอง ใช้ประชาชนที่หลงใหลในผลประโยชน์เป็นเกราะกำบังปกป้องตนเอง ไม่ให้ใครมาโค่นล้มได้ อ้างคะแนนเสียงที่มาจากการเลือกตั้ง สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างมวลชนท่เลือกตนเองเข้ามากับกลุ่มคนที่ต่อต้าน กล่าวหาว่าคนที่ต่อต้านไม่เคารพเสียงข้างมาก ไม่เป็นประชาธิปไตย

ในความจริงเพราะเราเคารพเสียงข้างมากและมีความเป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยที่ได้เสียงข้างมากจึงจัดตั้งรัฐบาลได้ ไม่มีผู้ใดขัดขวางคัดค้านแต่อย่างใด

แต่การไดเสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้รัฐบาลทำอะไรก็ได้ โดยไต้องพิจารณาว่าผิดหรือถูก ไม่ว่าจะได้คะแนนเสียงมากี่สิบล้าน ถ้าหากทำไม่ถูกต้อง ก็จะต้องถูกกำจัดวิธีใดวิธีหนึ่ง สิธีที่ดีที่สุดก็คือกระบวนการประฃาธิปไตยในรัฐสภา

แต่บัดนี้กระบวนการทางัฐสภาของเราง่อยเปลี้ยเสียขา ไม่ไเเป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการในรูปแบบของประชาธิปไตย สส. ซีกรัฐบาลตกอยู่ภายใต้ การควบคุมของนายใหญ่นักโทษหนี่คุก ไม่มีใครใช้ข้อมูลจากฝ่ายค้าน จากสื่อ จากคนที่ร๔เห็นการกระทำอันเลวร้ายของรัฐบาลไปพิจ่รณาก่อนออกเสียง ทุกคนไม่มีใครกล้าแตกคอก การยื่นญัตติกระทู้สด การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ข้อมูบดีแค่ไหน ก็ทำอะไรรัฐมนตรีหรือนานกรัฐมนตรีได้

ด้วยเหตุนี้การเมืองภาคประชาชน จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุล การทำงานของรัฐบาลแทนรัฐสภาในรูปแบบต่างๆ
แฉทางสื่อบ้าง
แฉใน social mediaบ้าง
ร้องเรียนบ้าง
ฟ้องร้องบ้าง
จัดอภิปรายบ้าง
จัดปราศรัยบ้าง
ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ภายใต้รอบของกฎหมาย โดยไม่หลงกลกับวาทกรรมที่ว่า มีอะไรก็ไปพูกันในสภา เพราะสภาไม่ได้เป็นกลไกของประชาธิปไตยที่มีประสิทธิภาพทางการเมือง (political efficacy) อีดต่อไปแล้ว และคนที่อ้างประชาธิปไตยแบบัฐสภา นี่แหละคือคนที่ไยอบเข้าไปตอบกระทู้ในสภา

ลองทบทวนความเลสร้ายของรัฐบาลนี้ดู แล้วเราจะเห็นว่าทำไมพวกเขาควรจะไป
★ เขาเอาคนอับปัญญามาเป็นนายก
★ เขาแต่งตั้งคนอบปัญญาและมีปัญกาด้านจริยธรรมเป็นรัฐมนตรี
★ เาโยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม
★ เขาออกนโยบายผิดพลาดหลายนโยบาย สร้างความเสียหายใก้ประเทศ
@นโยบายจำนำข้าวที่ขาดทุนกลายแสนล้านและมีดารคอรับชั่น
@ นโยบายรถคันแรกที่ทำใก้รัฐถังแตก
@ นโยบายนำจากเงินกู้ 3.5 แสนล้าน
@ นโยบายกู้เงิน 2.2 ล้านๆที่สร้างหนี้ถึง 50 ปี มีปัญหาความไม่โปร่งใส ใ
@ นโยบายกด้านพลังงานที่ทำให้นน้ำมันแพง เชื้อเพลิงแพง ของแพง
@ นโยบายเพิ่มรายได้ค่าแรง 300 บาทต่อวันและปริญญาตรี 15000 บาท
★ มีความพยายามจะแก้รัฐธรรมนูญให้มีดารตรวจสอบยากขึ้น
★ผลักดันกฎหมายปรองดองฟอกผิดให้ทักษิณ
★ เลี้ยงอีนธพาลไว้คุกคามข่มขู่ฝ่ายตรงกันข้าม
★ ประณามประเทศไทยว่าไม่มีควมเป็นประชาธิปไตยให้โลกรู้ ทำลายภาพลักษณ์ ของประเทศ
★ ไม่ยอมรับอำนาจศาล มีความคิดที่จะล้มศาล
★ ให้บทบาทที่สัญภายในพรรคกับบุคคลที่มีบทบาทในการล้มเจ้า
★ ดูถูกประชาชนมองประชาชนเป็นขยะ
★ ไม่มีควาใเป็นประชาธิปไตย ขัดขวาง ข่มขู่ คุกคามคนที่คิดต่าง ไม่มีพื้นที่ในสื่อหลักในการนำเสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง

ประชาชนจำนวนมากที่ทนรัฐาลนี้ไได้จึงมีขบวนการหน้ากากขาวทั้งใน social media ละการชุมนุมนอกสภา และจำนวนกำลังจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย รวมกับประชาชนอีกหลายกลุ่มที่แสดงให้รัฐบาลเห็นว่า พวกเขาไม่ต้องการรัฐบาลทั้ไร้ทั้งความสามารถ จริยธรรม พวกเจาพร้อมจะออกมาไล่รัฐบาล

อย่าอ้างว่ามาจากเสียงข้างมากไล่ไม่ได้ เพราะที่เราไล่นี้ไม่เกี่ยวกับการเป็นรัฐบาล เสียงข้างมากหรือข้างน้อย แต่เกี่ยวกับการเป็นรัฐบาลที่แย่ทั่งด้านความสามารถและจริยธรรม ดังนั่นอย่าได้ใช้วาทดรรมเซี้ยมให้มวลชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยคิดว่าพวกที่
ต่อต้านรัฐบาล ดูถูกพวกเขา ไม่เคารพเสียงเขา เพราะมันไม่จริง เราไม่ได้ต่อต้านคนเสื้อแดงทีเลือกพรรคของทักษิณ แต่เราต่อต้านรัฐบาลที่บริหาร บ้านเมืองไม่โปร่งใส ออกนโยบายทีาไม่เข้าท่าต่างหาก

รัฐบาลกล้าไหมล่ะที่จะเปิดพื้นที่ในสื่อโทรทัศน์ให้แก่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เปิดโอกาสให้ประชาชนได้รู้ความจริงว่ารัฐบาลทำอะไรเลวร้ายไว้บ้าง ไม่ใช่ครอบงำด้วยวาทกรรมต่างๆอยู่ข้างเดียว

 

 

https://www.facebook...ngmonta?fref=ts

 

 

 

เฟซบุ๊คของอาจารย์เสรี วงษ์มณฑาถูกโจมตี จนอาจารย์ต้องหยุดโพสต์แสดงความเห็นบ่อยๆ เหมือนเดิม....

พวกไพร่เสื้อแดง รักระบอบทักษิณเข้าไปแทนที่....

 

จึงนำให้อ่าน ณ เวบเสรีไทยดอทเนท.....

 

 

ปล.บัตรเติมเงิน ปลาร้าเก่าในไหใหม่ กลางสามโลก(ยังอยู่ ?) และ อีแอบไม่ต้องโพสต์เอาบัตรเติมเงินนะ จะบอกให้.....

เพราะนายทาสเงินรู้ว่าอาจารย์เสรีไม่ได้เข้ามาอ่าน ไม่รู้สึกเจ็บปวดอันใดหรอก จะบอกให้......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

ถ้าจะโพสต์ให้พวกเราอ่าน เราอ่าน'ข้อความไร้สาระ'มามากแล้ว อ่านอีกชิ้น สองชิ้น ไม่เป็นไรหรอก จะบอกให้......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

 

 

แสดงว่ากระบือแดงสารภาพแล้วว่า จำนำข้าว ทำประเทศ ship หาย