วีรพัฒน์หน้าแตก ชมรม CUSEAF ยืนยันว่า นายวีรพัฒน์เป็นคนเสนอหน้ามาเอง แต่นายวีรพัฒน์ก็พยายามแถเป็นประมาณว่า เป็นการตัดสินใจร่วมกัน
วีรพัฒน์นึกว่าคนไทยโง่ อ่านภาษาอังกฤษไม่เป็น ขอร้องให้ทางชมรม CUSEAF ออกประกาศเพื่อยืนยันว่า " ไม่ได้ขอไปพูดที่นั่นเอง แต่ชมรมเป็นคนเชิญไป" ปรากฎว่าทางชมรม CUSEAF ออกประกาศ ยืนยันข้อเท็จจริงที่ตรงข้ามกับที่วีรพัฒน์พยายามตอแหล แต่ถึงกระนั้น วีรพัฒน์ก็เอามาบิดเบือน และแถไปว่า "เป็นการตัดสินใจร่วมกัน"
ข้อเท็จจริง " CUSEAF would like to clarify that both Mr. Verapat and CUSEAF mutually agree on the decision to invite Mr.Verapat to speak for CUSEAF. It is no way Mr. Verapat invited himself or forced CUSEAF to host this event. "
คำแปล ชมรม CUSEAF ต้องการสร้างความกระจ่างว่า ทั้งนายวีรพัฒน์ และชมรม CUSEAF ต่างตกลงตัดสินใจที่จะเชิญ นายวีรพัฒน์ มาเป็นผู้บรรยายให้กับชมรม CUSEAF ไม่มีทางที่นายวีรพัฒน์จะสามารถเชิญตัวเอง หรือไปบังคับให้ชมรมฯจัดงานได้
ประโยคนี้ชัดแล้วครับว่า นายวีรพัฒน์ เป็นคนไปล๊อบบี้ CUSEAF ให้เชิญตัวเองมาบรรยาย เพราะใช้คำว่า "ทั้งนายวีรพัฒน์ และชมรม CUSEAF ต่างตกลงตัดสินใจที่จะเชิญ นายวีรพัฒน์"
ถ้าเป็นไปอย่างที่นายวีรพัฒน์ตอแหลแล้ว ทางผู้เชิญต้องใช้คำว่า ชมรมเป็นคนเชิญ นายวีรพัฒน์มาเอง มิใช่ บอกว่าทั้งวีรพัฒน์และชมรมเป็นผู้เชิญ นายวีรพัฒน์มาเอง
แม้ว่าประโยคสุดท้ายชมรมฯพยายามช่วยนายวีรพัฒน์เต็มที่แต่ก็หนีความจริงไม่พ้น เพราะแน่นอนนายวีรพัฒน์จะเชิญตัวเองหรือจะไปบังคับให้ชมรมฯจัดงานไม่ได้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ชมรมบอกก็คือ
นายวีรพัฒน์เป็นคนเสนอให้ชมรมเชิญนายวีรพัฒน์ไปพูด ซึ่งชมรมฯก็เห็นพ้องก็เลยทำหนังสือเชิญ
เสนอหน้าไปเอง แถมยังจะทำให้ชมรมเค้าเสื่อมเสียอีก
แล้วเค้าอยากจะให้มันพูดอีกเหรอ
หรือว่ามันยังหน้าด้านอยากจะพูดอีก