Jump to content


paper punch

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 08:59
-----

#620034 live ถ่ายทอดสดปราศรัยใหญ่ สดจาก youtube

โดย หนูอ้อย on 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:06

สิงห์ไม่ไปสวนเบญ ถามคุณชายเรื่องปกหนังสือสำนักอนามัย กทม.หรือ :lol:




#619991 วลีเด็ด จากคุณชายสุขุมพันธ์ สดๆสักครู่ ยัดปากเพื่อไทย จนเรื่องไร้รอยต่อเป็นอน...

โดย โจโฉ นายกตลอดกาล on 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:51

"ผมไม่เชื่อครับว่ารัฐบาลจะใจดำ ไม่ช่วยเหลือกทม. ถ้าผู้ว่าฯไม่ได้มาจากพรรคเดียว

 

กับรัฐบาล ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่ไม่สนับสนุนเมืองหลวงของตัวเอง"




#619917 ภาพหม่อมถูกป้ายสี ชาวเสรีไทยจะอธิบายอย่างไรดี /// เคลียร์ไหวไหม

โดย notcomeng on 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:17

พ่อแม่พี่น้องครับ แยกย้ายกันได้แล้ว จขกท.หมดสภาพไปแล้วครับ

 

หัวกระทู้ถามว่าชาวเสรีไทยจะแถลงยังไง พอสมาชิกมาอธิบายที่มาที่ไปชัดเจน ดันเปลี่ยนแนวบอกคุณชายต้องออกมาชี้แจง

 

อยากให้คุณชายชี้แจงไปสวนเบญฯตอนนี้เลยครับ แกอยู่ที่นั่น

 

ที่นี่สมาชิกปิดประเด็นเรียบร้อยแล้วครับ

พอมันไม่เป็นอย่างที่เค้าคิดไว้ทีแรก ก็ออกอาการอย่างนี้แหล่ะครับ

เค้าคงเคยชินกับการที่ได้รับการเยินยอโดนที่ไม่มีการตั้งคำถามจากลากดำนาอ่ะครับ  ^_^




#619125 ใต้จะสงบจริงๆเหรอ

โดย เช never die on 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:03

พวกที่อ้างว่าเป็นแกนนำแล้วมาลงนามด้วยน่าจะเป็นเพียงการสร้างราคาให้กลุ่มตนเอง จริงๆ แล้วไม่น่ามีบทบาทที่จะยุติความรุนแรงได้

 

 

 

ผมว่า..ปาหี่่ครับ...ที่มาเจรจาไม่ใช่แกนนำสั่งการ
เดี๋ยวอีก 1-2 วัน ต้องมีเหตุรุนแรงอีก..คอยดูกัน

 

เมื่อวานตอนหัวค่ำเพิ่งจะเซ็นเปิดการพูดคุยกัน

 

วันนี้เช้ามืด ระเบิดกลางตลาดอีกแล้ว

 

ถ้าไม่ดับไฟที่ใจคน ก็อย่าหวังว่าจะดับไฟใต้ได้ง่ายๆ

 

-_-  ยุคนี้มันดีตรงมีเนท, เครือข่ายข่าว ที่รู้ทันกันได้ทั่วโลกภายในไม่กี่วินาทีนะขอรับ ข่าวนี้แม่มเงียบเชียบสนิทจากสื่อหลัก... หากไอ้เหียกนี่ย้อนยุคไปสักสามสิบปีที่แล้วสงสัย มันคงเป็น ปธน.แล้ว โดยชาวบ้านยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยนั่นล่ะขอรับ...

 

 

 

อย่างที่ผมเคยบอก ต่อให้ไปให้สุดทาง ได้รับเอกราชไปแล้ว ข้างในก็ยังต้อบรบราฆ่าฟันกันไปอีกไม่น้อยกว่ายี่สิบปี เหมือนอาฟกานิสถาน

 

ไอ้กลุ่มนี้ก็อ้างว่ากุเป็นคนไปเจรจามากุต้องได้กุมอำนาจรัฐ ไอ้นั่นก็อ้างว่ากุเสียสละเลือดเนื้อพี่น้องแบบมะรอโซเป็นร้อยเป็นพันกุต้องได้ปกครอง และอีกสารพัดกลุ่ม นั่นแหละ ไม่มีใครยอมใครง่ายๆหรอก

 

ดีที่สุดที่ผมมองก็คือต้องดับไฟในใจคนให้ได้ ตามแนวทาง 12 ข้อ แล้วให้เป็นเขตปกครองพิเศษแบบกรุงเทพ-พัฒยา จะเรียกปาตานีมหานคร หรือนครปัตตานีอะไรก็สุดแล้วแต่ โดยมีรัฐไทยเป็นพี่เลี้ยงห่างๆ ให้เลือกผู้ว่ากันเอง เก็บภาษีใช้กันเอง ขาดเหลือส่วนกลางจ่าย กิจการกลาโหม - การต่างประเทศยังเป็นอำนาจของส่วนกลาง แต่กิจการภายใน ตำรวจ ศาล ฯลฯ ให้ตัดสินใจกันเอง จะใช้ภาษาราชการอะไรก็เลือกกันเอาเอง แต่ต้องยังคงภาษาไทยเป็นภาษาราชการหลัก ถ้าได้คร่าวๆตามนี้ ผมว่าน่าจะทำให้ไฟใต้มอดดับลงได้

 

ส่วนตัวแทนที่มาเจรจานั้น ผมก้ว่าถูกหลอกแดรกอีกแล้ว ถ้าคนที่จะมาเจรจามีพาวเวอร์จริง ก็สั่งให้กลุ่มต่างๆยุติความเคลื่อนไหวอย่างน้อย 3 เดือน - 6 เดือนให้ดูก่อน หลังจากนั้นถ้าทำได้จริงก็แสดงว่ามีพาวเวอร์จริง ก้จะเป็นการเจรจาถูกคน แต่ถ้าเจรจาไปแล้วระเบิดตูมตามไปด้วยพร้อมๆกัน อย่างนี้ไม่ใช่แล้วครับ




#619106 ใต้จะสงบจริงๆเหรอ

โดย เช never die on 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 08:45

ผมว่า..ปาหี่่ครับ...ที่มาเจรจาไม่ใช่แกนนำสั่งการ
เดี๋ยวอีก 1-2 วัน ต้องมีเหตุรุนแรงอีก..คอยดูกัน

 

เมื่อวานตอนหัวค่ำเพิ่งจะเซ็นเปิดการพูดคุยกัน

 

วันนี้เช้ามืด ระเบิดกลางตลาดอีกแล้ว

 

ถ้าไม่ดับไฟที่ใจคน ก็อย่าหวังว่าจะดับไฟใต้ได้ง่ายๆ




#616860 คนดีพาเหรด ร่วมทีมผู้บริหาร สุขุมพันธ์ เปิดตัวกว่า 20 คน เย็นนี้ ต่อตระกูล -...

โดย redfrog53 on 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 16:59

คนดีพาเหรด ร่วมทีมผู้บริหาร สุขุมพันธ์ เปิดตัวกว่า 20 คน เย็นนี้ ต่อตระกูล - สุรพล - อ.มานพ ร่วมช่วยงาน กทม. ปชป.ตั้ง หน่วยเคลื่อนที่เร็ว 10 ชุด ป้องปรามทุจริตเลือกตั้ง
 
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.พรรคประชา ธิปัตย์ แถลงแสดงความวิตกกังวลว่าในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งและจะต้องมีการนับคะแนน 6 พันกว่าหน่วยเลือกตั้ง เกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ และการทุจริตการเลือกตั้งในรูปแบบต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมทางพรรคจึงจัดหน่วยพิเศษเรียกว่า หน่วยเคลื่อนที่เร๋วพิเศษเฝ้าระวังการทุจริตเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ซึ่งหน่วยนี้จะมี 10 ชุด โดยแต่ละชุดจะเคลื่อนที่ตามโซนต่าง ๆ ของกทม. เช่น กทม.เหนือ ตะวันออก ธนบุรีเหนือ- ใต้ กรุงเทพชั้นกลาง เป็นต้น ทั้งหมดจะประกอบด้วยทนายความอาสา และหน่วยรักษาความปลอดภัยจะมีอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ กล้อง บันทึกภาพและเสียงกรณีพบเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจรัฐไม่ถูกต้อง หรือพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น สาเหตุที่ต้องใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็วพิเศษเพื่อให้เกิดความคล่องตัวไปในเข้าไปยังจุดเกิดเหตุที่มีการร้องเรียนเข้ามา เพื่อแก้ไขสถานการณ์หรือบันทึกความผิดปกติในการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น เสริมกับกลุ่มอาสาสมัคร ผู้สังเกตการณ์ที่ประจำตามหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยอยู่แล้ว โดยหน่วยเคลื่อนที่เร็วจะปฏิบัติการจนถึงการนับคะแนนเสร็จสิ้น เพื่อรักษาสิทธิในฐานะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ป้องปรามไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นด้วย
 
นายองอาจ ยังกล่าวด้วยว่า เย็นวันนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่ากทม.พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัวทีมผู่ทรงคุณวุฒิบริหารจัดการมหานครกว่า 20 คน ที่ ร.ร.เซ็นทาราแกรดน์แอดเซ็นทรัลลาดพร้าว อาทิ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถาน อ.มานพ พงศทัต ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง เป็นต้น 
สบู่ อู๋เจี๊ยะ ฮ่่อฮ้อ Bangkok Dream Team !!!!
Flukey Panupong ฝั่งนี้มี "ผู้ชำนาญด้านผังเมือง" อีกฝั่งก็มี "ผู้ชำนาญด้านเผาเมือง"
Frost Bu-Thong สุดยอดแล้วครับ คนดีช่วยคนดีแบบนี้ซิประเทศเจริญแน่นอนครับ
Farm Pipat เป็นทีมงานคุณภาพจริงๆครับ แต่ละคนสุดยอดครับ
Wannaporn Boontor แต่ละคนสุดยอด ขอให้เดินหน้าเต็มที่นะคะ เอาใจช่วย
หญิง รัง คนดีก็ต้องเชียร์สุขุมพนธุ์เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเห็น ๆ กันอยู่ ว่าหากปล่อยให้รัฐบาลนี้ยิ่งใหญ่เกินไป ไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมืองและลูกหลาน
เพชรรัตน์ รักในหลวง ทีมงานยอดเยี่ยมมากน่าท่ีจะเปิดตัวก่อนหน้านี้แต่ก็ยังไม่สาย เลือกเบอร์16แน่นอน
Jutarat Rattanatavee คนดี ก็มีทีมดี มาอยู่ด้วย ให้กำลังใจ เต็ม100#16
Seeha Asun แต่ทีมรองผู็ว่า กทม ของพงศ์พัศ มีจตุพร พรหมพันธ แน่นอน เพราะทักษิณใด้วางมาแล้ว เพื่อต้องแทนคนเสือแดง..ชัดเจนแล้วครับแล้วคนกรุงเทพจะว่าอย่างไร
 



#613314 มีวันนี้เพราะผีให้

โดย kwan_kao on 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 07:47

คุณนิชา  เป็นสุภาพสตรีที่น่านับถือ

ประพฤติตัวดี เป็นแบบอย่างที่ดี

 

สามารถชื่นชมเธอได้ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ

 

เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง

 

ขนาดแต่งตั้งอาวุโสน้อยกว่าเธอ ข้ามเธอไป

 

เธอยังไม่เคยออกมาโวยวาย คร่ำครวญ เรียกร้อง

 

เธอไม่เคยใช้คำว่า "ผู้หญิง" มาปกป้องตัวเธอเอง

 

แต่เธอทำทุกอย่างตามครรลอง วิถีทางที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา

 

นับถือน้ำใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ




#612725 ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดเรื่องสุขุมพันธุ์เรื่องผลงานเพราะผมเองก็เข้าใจผิดและผมว่...

โดย RiDKuN_user on 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:03

ขำตรรกะดอนยอ สนับสนุนให้คนซื้อรถส่วนตัวไม่ทำให้รถติด

แต่สนับสนุนขนส่งสาธารณะ บอกว่าทำให้รถติดซะงั้น  :mellow:




#612722 ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดเรื่องสุขุมพันธุ์เรื่องผลงานเพราะผมเองก็เข้าใจผิดและผมว่...

โดย เช never die on 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:53

แล้วนโยบายรถคนแรก ของไอัเปรตอีเปรตตัวไหนละครับ ที่ทำให้รถติดมากขึ้น แทนที่จะเอาภาษีที่ต้องคืนไปพัฒนาขนส่งสาธารณะ

 

แล้วจะมาเบียดบังเอากับคนที่เขาต้องการใช้   เห็นแก่ตัวไปหน่อยมั๊ง

ก๊ากก....มาโยงกันได้ไงเนี่ย  เทพจริงๆเลย :lol: 


 

 

 

สู้เค้าลูกเพ่ ถึงจะโดนกระหน่ำด้วยเหตุผลหลักฐานยังไง ลูกเพ่ต้องทำเป็นหูหนาตาเล่อโง่เง่าเต่าตุ่นเป็นควายให้มากๆเข้าใว้ครับ

 

อย่าไปกลัวพวกสลิ่ม-แมงวาบมัน ถ้าเถียงไม่ได้ให้ใส่ตัวหัวเราะกร้าก บ้าๆ บอๆ แบบนี้แล้วเฉไฉม่าไม่เกี่ยวกันเลย ถูกแล้วคร้าบลูกเพ่

 

เชียร์ ลูกเพ่ดอนยอ อภิมหาควายแดงนะคร้าบ ....   รักนะ จุ้ฟ จุ้ฟ ..




#610011 จูดี้หนีดีเบตได้อย่างไร มาอ่านจากใจคนจัดงาน

โดย ทัชชี่ on 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:49

จูดี้หนีดีเบตยังไงอ่านที่นี่ จากคุณสมชัย ศรีสุทธิยากร องค์กรกลางผู้จัดงาน

@สมชัย ศรีสุทธิยากร
ใครอยากอ่าน เรื่องเฟอร์บี้ ไปดีเบต ศรีปทุม ยาวๆ อ่านที่นี่

ลำดับเหตุการณ์ การติดต่อพรรคเพื่อไทย กรณีดีเบตที่ศรีปทุม

เนื่องจากมีการชี้แจงของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการจัดดีเบตที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ในฐานะผู้จัดผมใคร่ขอเรียนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้

1. ประมาณต้นเดือน ก.พ. หลังจากที่ รอง โสภิต (รองอธิการบดี ม.ศรีปทุม) ได้โทรหาผม เพื่อเสนอ ว่า ม.ศรีปทุม ควรจัดดีเบต ผมได้โทรหา นายภูมิธรรม เวชยชัย (พี่อ้วน) เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ของพรรคเพื่อไทย ว่าจะมีความเป็นไปได้เพียงไรที่จะจัดดีเบต ผู้สมัครผู้ว่า กทม. ในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งภูมิธรรม ได้บอกว่า เป็นไปได้ ขอให้ทำรายละเอียดมา


2. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ทำจดหมายเชิญผู้สมัคร 4 ราย ลงนามโดยพลเอกสายหยุด เกิดผล พร้อมร่าง กติกาเบื้องต้น ส่งทางไปรษณีย์ไปยังผู้สมัครทั้ง 4 ราย ซึ่งคาดว่าหนังสือจะถึงพรรคหรือ ผู้สมัคร ไม่เกินวันที่ 10 กุมภาพันธ์


3. หลังจากส่งหนังสือถึงผู้สมัคร ผมได้ติดต่อ ภูมิธรรม อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทราบเรื่องแล้ว และขอให้ผมติดต่อโดยตรงกับระดับเจ้าหน้าที่ โดยให้ชื่อ คุณแพรว (คนเดียวกับที่ผมติดต่อ ตอนดีเบต นายกรัฐมนตรีเมื่อการเลือกตั้งทั่วไป ปี 53) ซึ่งคุณแพรว บอกรับเรื่องแล้วและส่งให้คนที่รับผิดชอบดำเนินการต่อ แต่ไม่ให้เบอร์ติดต่อโดยตรง ดังนั้น จุดเชื่อมต่อที่เชื่อมได้ในขณะนั้น คือ คุณแพรว

4. ระหว่างวันที่ 10-15 กุมภาพันธ์ ผมได้พยายามติดต่อคุณแพรว หลายครั้ง มีประมาณ 3 ครั้งที่โทรติด และได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนที่ดูแลคิวใกล้ชิด คือ คุณชิว หรือ คุณณรงค์ แต่ไม่ยอมให้เบอร์โทรติดต่อ แม้ผมจะขอทุกครั้งบอกว่าจะให้เขาติดต่อกลับ แต่ไม่มีการติดต่อกลับ หลังจากนั้น ผมพยายามติดต่อคุณแพรวด้วยการโทรที่ถี่ขึ้น แต่คุณแพรวไม่ยอมรับสาย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว มหาวิทยาลัย ต้องเดินหน้าดำเนินการในการจัดเตรียมสถานที่ การประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งรอไม่ได้ และ จากการรับปากเบื้องต้นจาก ภูมิธรรม ที่มีตำแหน่งสูงถึงเลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผมจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา


5. สำหรับผู้สมัครรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น มรว. สุขุมพันธุ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และนายโฆสิต ผมได้ใช้วิธีการทาบทามทางโทรศัพท์ ผ่านทีมงานสนับสนุน และ ส่งจดหมายเชิญ เช่นเดียวกัน ทุกท่านรับปากว่าจะมา โดยไม่มีหนังสือตอบรับเป็นทางการทุกราย ยกเว้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งมีหนังสือตอบรับเป็นทางการมาเมื่อวันที่วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ เพียงรายเดียว

6. ในระหว่างการดำเนินการ ผู้จัดได้ทาบทาม เคเบิ้ลทีวี 4 ราย เพื่อทำการถ่ายทอดสด คือ วอยซ์ทีวี (ติดต่อผ่านคุณ ปิยะดา ซึ่งเป็นเลขาของคุณทรงศักดิ์ เปรมสุข ผู้อำนวยการสถานี) สปริงนิวส์ (ติดต่อ
คุณสุทธิชัย บุนนาก ประธานกรรมการบริษัท) บลูสกายแชนแนล (ติดต่อผ่านคุณเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานี) และ มีเดียนิวส์ (ติดต่อผ่านคุณสมเกียรติ เจริญภิญโญยิ่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ช่อง 7 สี) ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเพียงรา
ยเดียว คือ สปริงนิวส์ ส่วยวอยซ์ทีวี ตอบปฏิเสธ โดยส่งอีเมลล์ มาว่า เราเป็นสถานีเล็กๆไม่มีความพร้อมในการถ่ายทอด บลูสกายแชนแนล แจ้งว่าต้นทุนสูง ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่อาจเชื่อมสัญญาณทางอินเตอร์เน็ต ในบางช่วงเวลา ส่วนมีเดียนิวส์ แจ้งว่า การนำรถโมบาย (mobile)ออกไปถ่ายทอดเป็นเรื่องใหญ่ คงไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้น จึงไม่เป็นจริงตามที่พรรคเพื่อไทย บอกว่าผู้จัดมีแนวคิดจะถ่ายทอดผ่านบลูสกายแชนแนลเท่านั้น

7. วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลา ประมาณ 17.30 น. ผมได้รับการติดต่อจากคุณณรงค์ โดยโทรเข้ามาที่มือถือของผมเอง (เนื่องจากผมไม่มีเบอร์คุณณรงค์) แจ้งว่า พรรคมีมติไม่ร่วมการดีเบต โดยบอกว่าผู้สมัครติดภารกิจในวันดังกล่าว ซึ่งผมบอกว่า ถ้าเช่นนั้นก็เสียหาย เพราะมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการไปมากแล้ว และใช้งบประมาณเกือบแสนบาทในการดำเนินการ ขอให้ทบทวน เพราะการดีเบตน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน คุณณรงค์ยืนยันว่าพรรคมีมติไปแล้ว คงไม่ทบทวน ผมแจ้งว่า อาจตั้งตุ๊กตาเฟอร์บี้แทน คุณณรงค์ กล่าวว่า อยากทำอะไรก็ทำ เป็นเรื่องของอาจารย์


8. วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ผมติดต่อกับคุณณรงค์ เพื่อขอทราบความคืบหน้าในการทบทวน คุณณรงค์แจ้งว่า มีมติแล้วว่าไม่ไป โดย บอกว่า จะไป ต่อเมื่อ
1)เป็นการดีเบตกับ ม.ร.ว สุขุมพันธุ์ เท่านั้น เพราะหากไปฟังคนอื่นจะเสียเวลาม
าก
2) จะไปเฉพาะรายการที่มีการถ่ายทอด
สดทางฟรีทีวีเท่านั้น ซึ่งทั้งสองประเด็นดังกล่าว ก็ไม่เป็นจริง เนื่องจากในประเด็นแรก วันพฤหัสที่ 21 ก.พ. ช่วงเช้า พล.ต.อ. พงศ์พัศ ก็ได้ไปที่ คุรุสภา ซึ่งมีผู้สมัครไปพูดถึง 13 คน และ วันพฤหัสที่ 21 ก.พ. ทางเนชั่น ก็จัดดีเบต 2 คน กับ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ แต่ พล.ต.อ. ก็ไม่ไปเช่นกัน ส่วนการถ่ายทอดดีเบตทางฟรีทีวี ไม่มีใครสามารถทำได้
เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก

9. ผมพยายามเสนอทางเลือกให้ พล.ต.อ.พงศ์พัศ มาเพียงบางช่วง เช่น อาจจะมาเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งคุณณรงค์ก็รับปากว่า น่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ โดยจะต้องดูจากตารางเวลาในวันนั้นก่อน โดยแผนการหาเสียงในแต่ละวันจะไม่นิ่ง ปรับเปลี่ยนทุกวัน โดย ของวันพฤหัสที่จะดีเบต จะมีการเคาะกันนาทีสุดท้ายในคืนวันพุธ เวลา ประมาณ 20.00 น. โดยรับปากว่า หากเป็นไปได้ จะพยายามแทรกให้มาในบางช่วงเวลา เพราะกำหนดการที่มีในวันพฤหัส มีดังนี้ ช่วงเช้า ไปคุรุสภา หลังจากนั้นไปที่ สถาบันราชภัฏสวนดุสิต ตอนเที่ยงไป หาเสียงที่ตลาดชลประทาน ถนนสามเสน
หลังมีโปรแกรมอีกที ประมาณ 5 โมงเย็น ไปหาเสียงร่วมกับนายกรัฐมนตรี ที่ตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งไม่มีกำหนดการสำคัญในช่วงบ่
ายซึ่งน่าจะสามารถปลีกเวลามาได้

10. วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ ประมาณ 9.00 น. ผมโทร คุณภูมิธรรม อีกครั้ง แจ้งปัญหาที่ พล.ต.อ. พงศพัศ มาไม่ได้ และ ทำให้งานเสียหาย คุณภูมิธรรม อธิบายว่า ผมต้องประสานกับคุณณรงค์แต่แรก
ไม่ควรประสานกับคุณแพรว (ทั้งๆที่ เป็นคนให้เบอร์ คุณแพรว แก่ผมเองเพื่อเดินเรื่องต่อ) และ แจ้งว่า จะพยายามคุยเพื่อให้ปรับเปลี่ยน
โปรแกรมให้เท่าที่ทำได้

11. วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา ประมาณ 13.00 น. ผมโทรหาคุณณรงค์แจ้งให้ทราบว่า ผู้สมัครทุกคนมาครบหมด และ มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สปริงนิวส์ คุณณรงค์ ก็เล่ากำหนดการให้ฟังว่า วันพฤหัสคิวยังเหมือนเดิม คือ เช้า คุรุสภา สวนดุสิต เที่ยงที่ตลาดชลประทานบ่ายไม่มีกำหนดการสำคัญ และเย็น 17.00 น. ร่วมหาเสียงกับนายกรัฐมนตรีที่ตลาดยิ่งเจริญ ดังนั้นคืนนี้ (วันพุธ) เวลา ประมาณ 20.00 น. จะรายงาน พล.ต.อ. พงศพัศ ให้ทราบถึงการดีเบตที่ศรีปทุม เพื่อให้ท่านตัดสินใจ และ อาจปลีกเวลามาได้ ประมาณ ครึ่ง ถึง หนึ่ง ชม.

12. เวลา 18.56 น. มี SMS จาก คุณณรงค์ มาถึงผม ข้อความว่า “ตกลงพรุ่งนี้ท่านเข้าไม่ได้ครับ ขอโทษด้วยครับ” โดยไม่เหตุผลใดๆ และผมไม่ได้โทรศัพท์กลับ

 

13. วันพฤหัสที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 7.41 น. ผมส่ง SMS กลับไปยังคุณณรงค์ ข้อความว่า “วันนี้ มีอธิการบดีและผู้บริหารทั้งมหาวิทยาลัยมาร่วมฟัง และถ่ายทอดสดทางสปริงนิวส์ น่าจะใช้เวลาในการดีเบตแค่ 2 ชั่วโมง 13.00-15.00 ทางมหาวิทยาลัย หวังว่าจะได้รับเกียรติจากอนาคตผู้ว่า แวะมาสักครึ่ง ชม. ครับ จะตั้งเก้าอี้รอ รบกวนแจ้งท่านด้วย”

14. การดีเบต มีขึ้น ระหว่างเวลา 13.15 ถึง 15.30 น. โดยประมาณ โดยไม่มี พล.ต.อ. พงศพัศ เข้าร่วม และมีการตั้งตุ๊กตาเฟอร์บี้ ตามที่เตรียมการ

15. เวลาประมาณ 16.00-17.00 น. มีโทรศัพท์ จาก พล.ต.อ. พงศพัศ โทรเข้ามีถือผม พูดจาแบบสุภาพ เป็นมิตรบอกว่า วันนี้ไม่ทราบเลยว่ามีดีเบตที่ศรีปทุม หากทราบต้องมาแน่ๆ ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่บอกอะไรผมเลย โดยโทรเข้า ต่อเนื่องในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงถึง 3 ครั้ง และย้ำในประเด็นเดิมว่า ว่าไม่ทราบ ต้องขออภัย หากทราบจะต้องมาแน่ๆ เพราะสนิทกับผม อย่าว่าแต่สามชั่วโมงเลย 6 ชั่วโมงก็ว่าง และในตอนบ่ายวันนี้ก็ว่างไม่มีกำหนดการอะไร ผมแจ้งกลับว่า ถ้าเช่นนั้นก็เป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทย หรือ ระบบการจัดการภายในพรรค ที่ท่านจะต้องไปจัดการกันเอง

16. ประมาณ 17.00 น. มีโทรศัพท์ จาก คุณภูมิธรรม เข้ามาต่อว่าผมด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หยาบคาย โดยผมได้พยายามชี้แจงถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และ ให้แง่คิดว่า การดีเบต เป็นสิ่งที่ผู้สมัครต้องให้ความสำคัญ และ กลไกในพรรคอาจเป็นปัญหาในการจัดการ


17. การที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้างว่าพล.ต.อ. พงศพัศ ติดภารกิจ ไม่สามารถมาดีเบตได้ เนื่องจากมีคิวไปพบ คณะครู กทม. เกือบ 1,000 คน ที่ห้องประชุมคุรุสภา ตั้งแต่เวลา 9.00-14.00 น.
การจัดรายการดังกล่าว มี ผู้สมัครไปร่วมรายการ 13 คน และ ให้พูดทีละคน ใครไปก่อนได้พูดก่อน และสามารถกลับได้ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องอย
ู่จน ถึง 14.00 น. ในทางตรงข้าม ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ ก็ได้ไปร่วมดีเบต ที่ คุรุสภา เช่นกัน แต่ก็สามารถมาร่วมดีเบต ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมได้ จึงแปลความหมายได้ว่า การอยู่ที่ หอประชุมคุรุสภา เป็นข้อกล่าวอ้างเพื่อเลี่ยงการดีเบต


18. มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางในการประสานงานให้มีการดีเบต ครั้งสำคัญต่างๆของประเทศ แต่ทุกครั้งที่ประสานกับ พรรคเพื่อไทย (หรือ ไทยรักไทย) มักจะได้รับการตอบสนองแบบเห็นแก่ประโยชน์ความได้เปรียบเสียเปรียบของตนเป็นหลัก เมื่อได้ประโยชน์ ก็จะมา เมื่อเห็นว่าเสียประโยชน์ก็จะหลีกเลี่ยง ไม่ได้คิดถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเป็นหลัก เช่น การดีเบต เลือกตั้งทั่วไป ปี 2554 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้าร่วมดีเบตในฐานะหัวหน้า พรรคไทยไทยรักไทย กับ นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรี)
การดีเบต เลือกตั้งทั่วไป ปี 48 ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี หลีกเลี่ยงการดีเบต โดยไม่ตอบรับ ไม่ตอบปฏิเสธ บอกว่า ถ้ามาก็จะมาเอง) การดีเบต เลือกตั้งทั่วไปปี 53 ที่ห้องประชุมบัวหลวง ม.ศรีปทุม (นส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธไม่ยอมร่วมเวทีดีเบตทุกเว
ที และ ส่ง นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ มาแทน) และการดีเบตผู้ว่า กทม. ที่ผ่านมา (มีการกีดกันข้อมูลไม่ให้ผู้สมัครทราบกำหนดการ และตัดสินใจแทนผู้สมัคร) ซึ่งกรณีทั้งหมดถือเป็นเรื่องการขาดสปิริตทางการเมือง ที่จะนำเสนอตนเองต่อสาธารณะ มุ่งหวังเพียงเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง จนขาดความเป็นสุภาพบุรุษ และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งหากพรรคการเมือง หรือฝ่ายการเมืองต่างๆในประเทศคิดอย่างนี้ ประเทศคงห่างไกลจากความเป็นประชาธิปไตย


สมชัย ศรีสุทธิยากร 22 ก.พ. 2556




#608736 อู้ววว...แมงวาปเล่นไรเนี่ยะ.เดี๋ยวก็เจอเป็ดเหลิมสวนกลับหน้าแหกหรอก...

โดย -เจ๊ม้าม- on 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 14:10

ปชป. โดนซะมั่งก็ดี เอาเรื่องงี่เง่ามาเล่นแบบนี้


#604103 รัฐบาลนี้มันห่วยแตกทำยังกับ"เด็กเล่นขายของ"

โดย คนกรุงธน on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:55

http://www.manager.c...D=9560000020415

“พาณิชย์”ลอยแพร้านถูกใจหลังมี.ค. คาดไม่เกินกลางปีเหลือแค่ตำนาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2556 22:35 น.

556000002131701.JPEG
พาณิชย์”ดิ้นเดินหน้าร้านถูกใจต่อ หลังจะหมดโครงการมี.ค.นี้ เล็งดึงผู้ผลิต ผู้ค้าส่งค้าปลีกช่วยกระจายสินค้า หลังชื่อติดตลาดประชาชนชอบ เผยล่าสุดมีร้านค้าเหลือเพียง 6.8 พันร้านจับตาไม่น่าเกินกลางปีปิดกิจการหมด
เหตุโอกาสได้สินค้าราคาถูกมาจำหน่ายริบหรี่
      

       น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯกำลังพิจารณาว่าจะมอบหมายให้หน่วยงานใดเข้ามาดูแลโครงการร้านค้าถูกใจเพราะหลังสิ้นสุดเดือนมี.ค.2556 งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือและลดภาระค่าครองชีพประชาชนผ่านโครงการจะหมดลง โดยกรมฯได้ประสานไปผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกในการจัดทำแนวทางในการส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้ร้านค้าถูกใจ เพราะผู้ประกอบการร้านค้าถูกใจส่วนใหญ่ยังต้องการให้ใช้ชื่อร้านถูกใจต่อไปรวมถึงประชาชนก็ได้รับรู้แล้วว่าการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าถูกใจจะได้ราคาถูกกว่าการซื้อในร้านค้าปกติ 20%
       ทั้งนี้ ร้านถูกใจที่จะดำเนินการต่อจะยังคงจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพจากผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งสบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม เครื่องปรุงรส ไข่ไก่ และยังมีสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุน คือ ข้าวถุงยี่ห้อ อคส.ที่จะมีการจัดทำขนาดให้ตรงกับความต้องการเพิ่มมากขึ้นทั้งถุง1 กก.และถุง 5 กก.
“เดิมกรมฯ เคยให้การสนับสนุนค่าขนส่งในการจัดส่งสินค้าไปยังร้านถูกใจ

แต่เมื่อโครงการสิ้นสุดลง กรมฯ ก็จะหาทางดึงให้

ผู้ผลิต ผู้ค้าส่งค้าปลีก เข้ามาช่วยเป็นคนกลางในการกระจายสินค้าให้ร้านถูกใจ

เพราะตอนนี้ประชาชนให้การรับรู้แล้วว่าสินค้าในร้านถูกใจมีราคาถูก จึงต้องการที่จะผลักดันให้ร้านถูกใจมีการดำเนินการต่อ”น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
       รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้กรมการค้าภายในกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจร้านถูกใจว่าร้านค้าใดมีความประสงค์ที่จะจะดำเนินการต่อหลังสิ้นสุดโครงการในเดือนมี.ค.เพื่อที่จะได้ประสานผู้ผลิต ผู้ค้าส่งค้าปลีกในการจัดส่งสินค้าซึ่งการสำรวจล่าสุดมีร้านค้าถูกใจดำเนินการเหลืออยู่เพียง 6,800 ราย จากเดิม 10,000 ราย

       สาเหตุที่ร้านถูกใจบางส่วนได้เลิกเข้าโครงการร้านถูกใจตั้งแต่กลางปี 2555 เนื่องจากกรมการค้าภายในได้ยุติการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าจ้างรายวันๆละ 300 บาท โดยลดลงเหลือวันละ 200 บาท และต่อมายกเลิกการจ่ายเงินช่วยเหลือและบางร้านมีปัญหาในเรื่องการจัดส่งสินค้า ที่ได้รับสินค้าล่าช้าหรือได้สินค้าไม่ครบตามจำนวนที่สั่ง ทำให้สินค้าไม่มีขายก็เลยไม่อยากสั่งซื้อสินค้ามาจำหน่าย
       นอกจากนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท ทำให้กลุ่มแรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็เลยหันไปซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าห้างค้าปลีกแทน และมีการประเมินว่า ไม่น่าจะเกินกลางปีนี้ร้านถูกใจน่าจะยุติบทบาทลง เพราะแม้จะมีผู้ผลิตผู้ค้าส่งค้าปลีกเข้ามาช่วยกระจายสินค้า แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะได้สินค้าในราคาถูกกว่าปกติ 20% มาจำหน่าย

       สำหรับโครงการร้านถูกใจ ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในวงเงิน1,320 ล้านบาท ให้ดำเนินการพัฒนาร้านค้าชุมชนให้เป็นร้านถูกใจตั้งเป้ามีประมาณ 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศ โดยจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาถูกกว่าท้องตลาดปกติ 20%

 

อีกหนึ่งโครงการดีแต่โม้แล้วตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เจ๊งไม่เป็นท่า เพราะการบริหารงานห่วยๆแบบผักชีโรยหน้า

...ไปอุดหนุนโน่นนี่ บิดเบือนกลไกตลาด ทำเป็นลิงอุ้มแตงแล้วก็ไปไม่ไหว...

 

ทำเหมือน"เด็กเล่นขายของ"เสร็จแล้วก็ทิ้ง ตัวใครตัวมัน แต่ส่วนต่างแดรกกันจนอิ่มไปแล้ว




#603659 ไฟไหม้ ไฟไหม้ ไฟไหม้ !!!

โดย Norachon on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:07

เชื่อแล้วว่า ไม่มีความชั่วใดๆที่รัฐบาลนี้จะทำไม่ได้ เผาโกดังข้าวทำลายหลักฐานมันก็ทำได้ หวังไว้ว่าสักวันหนึ่ง กฏหมายจะลากคอมันเข้าคุกได้




#603587 ไฟไหม้ ไฟไหม้ ไฟไหม้ !!!

โดย bird on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:22

เป็นการระบายข้าว...ที่น่าสมเพช น่าอนาถที่สุด เท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์โลก

เป็นรัดทะบาน ที่มาจากการลากตั้ง โอ้อวดสรรพคุณสารพัด เก่งรอบด้าน

 

คิดได้แค่นี้....ทำได้แค่นี้....

 

อ้อ..ลืมไป...ก็รัดทะบานนี้...ได้มา...เพราะ...การเผา...

 

" เผาไปเลยพี่น้อง...ผมรับผิดชอบเอง..."

 

 




#602964 ลองอ่านดูครับ มันส์มาก เบื้องหลังไอแบงก์ เอสเอ็มอีแบงก์หนี้ท่วม-คนของแม้วทั้ง...

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:32

 ปัญหาหนี้เน่าของเอสเอ็มอีแบงก์กับไอแบงก์ ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เป็นขยะใต้พรมที่นายกิตติรัตน์ซุกเอาไว้
       
       ปี 2552 เอสเอ็มอีแบงก์ มีหนี้เอ็นพีแอล 37.16 % ลดลงมาเหลือ 20.31 % ในปี 2553 และเหลือ 15.73% เมื่อปี 2554 ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นไปถึง 40.68 % ในปี 2555
       
       ธนาคารแห่งประเทศไทย เคยรายงาน การตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงของ เอสเอ็มอีแบงก์ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 สรุปว่า ผลประกอบการโดยภาพรวมของธนาคารยังอยู่ในระดับที่ต่ำใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยการดำรงสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงลดลงต่ำกว่ามาตรฐานที่ ธปท. กำหนด การประกอบธุรกิจขาดทุนอย่างต่อเนื่องเกิน 3 ปี และกระบวนการพิจารณาสินเชื่อยังมีข้อบกพร่อง โดยเฉพาะลูกหนี้เอสเอ็มอีตามนโยบายรัฐ ส่วนใหญ่มีฐานะอ่อนแอ ทำให้จำนวนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มสูงขึ้น
       
       รายงานฉบับนี้ มาถึงมือนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในขณะนั้น ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกิตติรัตน์ ให้กำกับดูแลเอสเอ็มอีแบงก์ นายวิรุฬ จึงสั่งการให้นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานเอสเอ็มอีแบงก์ จัดการแก้ไขปัญหา
       
       เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว คณะกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์ มีมติเลิกจ้างนายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ โดยไม่บอกล่วงหน้าและจ่ายค่าทดแทน ทั้งๆที่ก่อนจะถูกเลิกจ้าง นายโสฬส ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตในการปล่อยสินเชื่อที่ไม่เป็นไปตามมติบอร์ด แต่กลับได้รับค่าชดเชย และไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด
       
       หลังจากนั้น มีการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูกิจการ โดยมีนายพิชัย ชุณหวิชร เป็นประธาน แต่ไม่มีแนวทางใดๆในการฟิ้นฟูกิจการ นอกจากขอเพิ่มทุน เพราะนายพิชัย มาจากธุรกิจน้ำมัน ไม่มีความรู้ในธุรกิจธนาคาร และจนถึงบัดนี้ เอสเอ็มอี แบงก์ ยังไม่สามารถหาเอ็มดีคนใหม่ได้
       
       ส่วนไอแบงก์ หรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร นั้น แบงก์ชาติตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยสินเชื่อไม่ชอบมาพากล ประมาณ 8 โครงการ มูลค่าเป็นหลักพันล้านบาท ในยุคที่นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ เป็นกรรมการผู้จัดการ และได้ส่งข้อมูลให้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งได้มีคำสั่งแต่งตั้ง นายอำนวย ปรีมนวงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการปล่อยกู้ ของไอแบงก์
       
       เมื่อนายธีรชัยลาออก และนายกิตติรัตน์ มาเป็นรัฐมนตรีคลัง การสอบข้อเท็จจริงดำเนินต่อไป และสุดท้ายมีข้อสรุปว่า ไม่พบว่า นายธีระศักดิ์ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ มีผลประโยชน์ จากการปล่อยสินเชื่อทั้งหมด ผลการสอบเบื้องต้นพบความไม่ถูกต้องของการปล่อยสินเชื่อที่เกี่ยวกับระเบียบและวิธีการเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ มีความผิดที่รุนแรง หรือสร้างความเสียหายให้กับธนาคารแต่อย่างใด
       
       หากนายธีรศักดิ์ ไม่ได้มีศักดิ์ เป็นพี่เขยอย่างไม่เป็นทางการ ของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผลสอบสวนอาจจะออกมาอีกแบบหนึ่งก็ได้ นายธีรศักดิ์ ยังคงนังทำงานต่อไป จนครบวาระ และไม่ได่รับการต่ออายุ ผู้มานั่งเป็นกรรมการผู้จัดการไอแบงก์คนใหม่คือ คนในเครือข่ายธุรกิจของทักษิณ ชินวัตร โดยตรง นาย ธานินทร์ อังสุวรังษี ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัทแคปปิตัล โอเค อันเป็นธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ในเครือชินคอร์ป
       
       นายธานินทร์ มีอายุเพียง 47 ปี มีคุณสมบัติ ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งระบุว่า ต้องเป็น ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร แต่นายธานินทร์ เป็นเพียงผู้จัดการทั่วไปเท่านั้น นอกจากนี้ คุณสมบัติที่กำหนดยังระบุว่า ต้องเคยผ่านการบริหารงานในสถาบันการเงิน ที่มีเงินทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่แคปปิตอล โอเคมีเงินทุนหมุนเวียนไม่ถึงเกณฑ์ แต่นายธานินทร์ ก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเอ็มดีของไอแบงก์ แม้จะถูกทักท้วงเรื่องคุณสมบัติจากที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว จนกรรมการสรรหา ต้องระบุไว้ในรายงานการประชุมว่า หากคุณสมบัติผู้สมัครไม่ครบ ให้ถือว่าเป็นความผิดของผู้สมัครเอง เพราะแรงสนับสนุนทางการเมืองต้องการให้นายธานินทร์ได้รับตำแหน่งนี้
       
       ความอ่อนด้อยทั้งความรู้ และประสบการณ์ของนายธานินทร์ ทำให้นายสมชัย ผู้อำนวยการ สศค .ต้องสั่งให้นายธานินทร์แต่งตั้งทีมที่ปรึกษาเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูกิจการ ด้วยการทำสัญญาจ้างเป็นระยะเวลา 1 ปี
       
       ขนาดกระทรวงการคลัง เจ้าของแบงก์แท้ๆ ยังไม่มั่นใจในตัวผู้บริหาร ต้องหาพี่เลี้ยงเข้าไปป้อนข้าวป้อนน้ำให้ แล้วจะเรียกร้องให้ผู้ฝากเงินรายย่อยมั่นใจในไอแบงก์ได้อย่างไร
       
       บทเรียนจากวิกฤติการณ์การเงิน ปี 2540 นำไปสู่การปฏิรูป ระบบการธนาคารและการเงินของไทย จนมีความมั่นคง แข็งแกร่ง สามารถรับมือกับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การเงินครั้งใหญ่ๆ ของโลกได้ ไม่มีธนาคารพาณิชย์แห่งใด ประสบปัญหารุนแรงถึงขั้นต้องถูกควบคุมกิจการ
       
       อนิจจา ในยุคที่มีการสร้างมายาภาพหลอกให้คนเชื่อว่า ประเทศไทยมีกูรูทางด้านเศรษฐศาสตร์ ที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เป็นหัวเรือใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ มีนักการเงินที่เก่งกาจ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีคลัง ชั่วเวลาปีเศษๆ ธนาคารของรัฐ เจ๊งคามือไปแล้ว อย่างน้อย สองแห่ง