เพื่อนร่วมชาติ

31 ครั้ง - ซูดาน

24 ครั้ง - อิรัก

19 ครั้ง - โบลิเวีย

17 ครั้ง - กีนี-บิสเซา (Guinea-Bissau), ซีเรีย, โตโก, ไทย

16 ครั้ง - บูรุนดี (Burundi), ชาด (Chad)

15 ครั้ง - อาร์เจนตินา, กาน่า, กีนี (Guinea)

โดยในกลุ่มประเทศหัวตารางที่ยกมา มี 8 ประเทศ (กาน่า, ไทย, ชาด, กีนี-บิสเซา, ซูดาน, โตโก, กีนี, บูรุนดี) ที่ยังมีรัฐประหารเกิดขึ้นตั้งแต่หลังปี 2000 เป็นต้นมา

สรุปว่าประเทศไทยมีรัฐประหารบ่อยครั้งเป็นอันดับ 4 ของโลก

ตัวอย่างประเทศอื่นๆ : เซียร่า-ลีโอน (14) ปานามา (13) กัมพูชา (12) ฟิลิปปินส์ (11) บังกลาเทศ (8) พม่า (6) ลาว (6) อินโดนิเซีย (5) ปากีสถาน (5) เนปาล (5) แคเมอรูน (4) เกาหลีใต้ (3) เกาหลีเหนือ (2) อินเดีย (1) ซาอุฯ (1) ศรีลังกา (1)

อีกข้อมูลบอกว่าแค่ 13

http://hilight.kapook.com/view/102528

info-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9

ใครถูก ใครเสร่อ ช่วยบอกผมที

Bourne likes this

#1189293 ประกาศ คณะต่อต้านรัฐประหารและเผด็จการ คลช. ฉบับที่ 1

โดย เพื่อนร่วมชาติ on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:25

พวกคลั่งลัทธิเลือกตั้งรีบตุนไว้นะครัฟ เดี๋ยวจะหากินยาก ๕๕๕

จูกัดขงเบ้ง likes this

#1188569 ถามนักวิชาการ+ลูกหาบลัทธิเลือกตั้ง รัฐประหารครั้งนี้ผิดรัฐธรรมนูญ 2550 ตรงไหน

โดย เพื่อนร่วมชาติ on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:06

ผมพนันได้ว่าไอ้พวกนี้ถ้าไม่ได้อ่านรัฐธรรมนูญจริง ๆ จัง ๆ ก็คงไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์

รัฐธรรมนูญมาตรา 7 บอกไว้ยังไง

ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

คีย์เวิร์ด ในมาตรานี้คือ "ตามประเพณีการปกครอง" ลูกหาบลัทธิเลือกตั้งไม่รู้จะเข้าใจคำนี้รึเปล่า ว่ามันหมายถึงสิ่งที่เคยปฏิบัติกันมา หลังจากประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครอง

เอาล่ะ ต่อให้เข้าใจคำว่าตามประเพณีการปกครอง ลูกหาบลัทธิเลือกตั้งก็คงนึกไม่ออก ว่าเมืองไทยเคยปฏิบัติอะไรกันมาบ้าง เพราะผมมั่นใจว่าลูกหาบพวกนี้ฟังแต่แกนนำ ไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์

ก่อนรัฐประหารครั้งนี้ เมืองไทยมีปัญหาคณะรัฐบาลหัวขาด มีรัฐมนตรี แต่ไม่มีนายกฯ สภาผู้แทนจะเลือกนายกฯใหม่ก็ไม่มี ไอ้ครั้นอยากจะเลือกตั้งใหม่ ก็ไม่มีนายกฯจะทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง กลายเป็นเดดล็อค รัฐบาลไม่สมประกอบ ฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่สมประกอบ ติดขัดทุกทาง เป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติไว้ว่าให้ทำยังไง

สรุปว่า เข้าองค์ประกอบ ต้องไปดูประวัติศาสตร์ว่าตามประเพณีที่ผ่านมา ปฏิบัติกันอย่างไร แล้วเรื่องอย่างนี้ พูดไปก็อย่าหาว่าผมเชลียร์คณะราษฎรล่ะ

จะมีใครในแผ่นดินนี้เหมาะจะเป็นเบนช์มาร์ค ให้เราอ้างอิงประเพณีการปกครองประชาธิปไตยได้ดีไปกว่าโคตรพ่อโคตรแม่นักประชาธิปไตยไทยอย่างคณะราษฎร ผมเห็นทีต้องบอกว่าไม่มี

จะไปอ้างประเพณีสมัยจอมพลถนอม จอมพลสฤษดิ์ นักวิชาการ/ลูกหาบลัทธิเลือกตั้งก็คงไม่ยอมรับ ดังนั้น อ้างคณะราษฎรเห็นจะเหมาะสมที่สุด

ดังนั้น คำถามคือ "คณะราษฎรทำยังไงเมื่อเจอเดดล็อค ปัญหาขัดแย้ง ไปทางไหนก็ติดขัด"

หลังจากปฏิวัติ 24 มิถุนา 2475 แค่ไม่ถึงหนึ่งปี ปัญหาก็เกิด สรุป ๆ คือ คณะราษฎรแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายนายกฯ กับฝ่ายหัวหน้าคณะราษฎร(พระยาพหล)+ปรีดี สาเหตุหนึ่งคือสมุดปกเหลือง เค้าโครงเศรษฐกิจของปรีดี ความแตกแยกร้าวลึกส่งผลถึงขนาดเอาอาวุธเข้าไปข่มขู่กันในสภา (โอ้ว กุผมไม่อยากเชื่อ คณะโคตรพ่อโคตรแม่ประชาธิปไตยไทยเขาทำแบบนี้กันด้วย อุตส่าห์นึกภาพสวยหรูมาตลอดว่าพวกเขาเป็นนักสันติวิธี อหิงสา ปราศจากอาวุธ ๕๕๕) ฝ่ายนายกฯก็สู้ด้วยการใช้อำนาจปิดสภา ฝ่ายหัวหน้าคณะราษฎร ก็สู้ด้วยการลาออก ประเทศชาติติดขัด เดินหน้าไม่ได้

ไม่เหมือน แต่ก็คล้ายประเทศไทยก่อนรัฐประหารคราวนี้

คล้ายไม่คล้ายก็อ่านคำพูดของพระยาพหล หัวหน้าคณะราษฎร

ด้วยคณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดิน ณ บัดนี้ ไม่ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มต้นปิดสภาผู้แทนและงดใช้รัฐธรรมนูญเป็นหลายบท

ดังนั้น การแก้ปัญหาครั้งนั้นก็อาจเรียกได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีการปกครองแบบประชาธิปไตย ทำยังไงเมื่อเจอ "เดดล็อค"

หัวหน้าคณะราษฏรกล่าวต่อไปว่า

คณะทหารบก, ทหารเรือ และพลเรือน จึงเห็นเหตุจำเป็นเข้ายึดอำนาจการปกครองเพื่อให้มีการเปิดสภาผู้แทนดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ

นักวิชาการ/ลูกหาบลัทธิเลือกตั้งเห็นรึยัง แน่นอน คณะรักษาความสงบฯไม่ได้อ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันผิดจากประเพณีของคณะราษฏรเสียที่ไหน และขอให้สำนึกไว้ด้วยว่า คณะนี้นอกจากจะเป็นโคตรพ่อโคตรแม่ประชาธิปไตยของบางคนแล้ว บางท่านยังเป็นบุพการีของการรัฐประหารด้วย ๕๕๕๕

จำใส่กะโหลกไว้