Jump to content


Rxxxx

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 27 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 10:41
****-

#584640 รถเมล์ฟรี โครงการที่อภิสิทธิ์อยากทำแต่ทำไม่สำเร็จ

โดย notcomeng on 31 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:40

ยันรัฐบาลรับไหวภาระหนัก เล็งต่ออายุรถไฟ-เมล์ฟรี

 

295328_534525419901799_1296211156_n.jpg

 

 

"มาร์ค" ไม่สนรัฐรับภาระหนัก ต่ออายุมาตรการรถเมล์ รถไฟ และไฟฟ้าไปจนถึงสิ้นปี 2553 เล็ง จัด "รถไฟ-รถเมล์" ฟรี เข้าไปสู่ระบบบริการสาธารณ (พีเอส โอ) ...

 

http://www.thairath....ntent/pol/92728

 

 

เอาข่าวเก่าปี 53 สมัยที่อภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลมาให้ดูนะครับ ว่านายอภิสิทธิ์เองก็คิดโครงการนี้เหมือนกัน  -_-
 

พอจะอวยพวกเดียวกัน บอกสมัครเป็นคนคิด พอจะด่าอภิสิทธิ์ ดันจะยกให้อภิสิทธิ์คิดซะงั้น  :lol:  :lol:  :lol:




#584863 จม.เปิดผนึกถึง UN กรณีคดี"สมยศ" ตรง+แซ๊บ

โดย kokkai on 31 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:38

ชาติตะวันตก มักคิดว่า

 

ชาติพันธุ์เขาเก่งที่สุด ดีที่สุด

 

หารู้ไม่ว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์หลายๆอย่าง ชาติตะวันออก คิดค้นได้ก่อน

 

เพียงแต่ขาดการต่อยอด ต่อเนื่อง  แล้วก็สูญหายไป

 

 

พวกตะวันตก เขาหลงตัวเองมากไปนะ




#584550 จม.เปิดผนึกถึง UN กรณีคดี"สมยศ" ตรง+แซ๊บ

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 31 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:47

ใครก็ได้ ช่วยไปบอกให้อีนี่ประณามกองกำลังอิสราเอลที่คุกคามชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสแบงค์และฉนวนกาซ่าก่อนดีไหม ก่อนที่จะกระแดะมาวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของไทย

 

ผมเคยดูสารคดีเรื่องการทำสงครามในอิรักกับอาฟกานิสถาน

การคำนวณจรวดระยะไกล  กองทัพสหรัฐคำนวณพลาดบ่อยมาก  

ไปตกใส่หมู่บ้านของพลเรือน คนบริสุทธิ์ตายมากมาย... ผมไม่เห็นยูเอ็นจะประท้วงสหรัฐ

 

มีอีก  การข่าวของสหรัฐบางทีก็ผิด  คิดว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านก่อการร้าย ปรากฏว่าไปถล่มหมู่บ้านซะตายไปกว่าครึ่ง

ค้นพบทีหลังว่าไม่ใช่  ถามว่าชาวบ้่นเรียกร้องอะไรจากสหรัฐได้?

ในเมื่อสหรัฐอ้างว่าเป็น Casualty of War คือในสงครามมันต้องมีสูญเสียบ้าง...

โห  อ้างได้โล่  

และตามเคย  ยูเอ็นเงียบเป็นเป่าสากกะเบือ




#584154 จม.เปิดผนึกถึง UN กรณีคดี"สมยศ" ตรง+แซ๊บ

โดย RaRa on 31 มกราคม พ.ศ. 2556 - 00:55

ที่นี่ คือ  "ราชอาณาจักรไทย ( Kingdom of Thailand )"

 

และมีการปกครอง "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข"

 

เมื่อ ผู้ใดกระทำการอันผิดต่อข้อห้ามของกฏหมาย ต้องได้รับโทษตามที่กฏหมายกำหนดไว้.....

 

แล้วทำไมถึงออกมาเรียกร้องที่จะไม่ยอมรับโทษ ตามความผิดที่ได้กระทำไปหล่ะครับ !!!

 

หรือว่า "กฏหมาย ที่บ้านเกิดท่าน ข้าหลวงฯ....เมื่อ "ทำความผิดไปแล้ว ไม่ต้องรับโทษที่ได้กำหนดไว้แล้ว ก็ได้" ???" -_- -_-




#582364 ศาลไม่เชื่อเสื้อแดงว่า "อำมาตย์" คือ พล.อ.เปรม แล้วเสื้อเหลืองล่ะ

โดย กรกช on 29 มกราคม พ.ศ. 2556 - 07:42

ประพันธ์เขาบอกว่าบ้านเมืองตอนนี้แตกแยกเป็น 3 ก๊ก เหลือง แดง ฟ้า

และยกตัวอย่างว่า ประวัติศาสตร์สอนว่า ถ้าบ้านเมืองแตกแยกเป็น 3 ก๊กเมื่อไหร่

ต้องมีก๊กใดกีกหนึ่งมีอำนาจเด็ดขาดและต้องปราบดาภิเษกขึ้นมาปราบอีก 2 ก๊ก บ้านเมืองจึงจะสงบสุข

แล้วก็บอกว่าเสื้อเหลืองรักชาติ รักบ้านเมือง ต้องปราบดาภิเษกมาปราบ 2 ก๊ก

 

เขาพูดแบบนี้คือไม่รักในหลวงหรือ ?

 

 อย่ายกคำพูดมาคำเดียวแล้วสรุป ต้องดูภาพรวมว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร

เขาพูดถึงบ้านเมืองแตกแยก ต้องมีคนมาปราบ

เขาไม่ได้พูดถึงในหลวง หรือพาดพิงในหลวงในทางเสียหาย

 

และการตัดสินอะไรใครสักคน ก็ต้องดูพฤติกรรมภาพรวมๆด้วยว่า ที่ผ่านมาเป็นยังไง ? วันนี้เป็นยังไง ?

 

ในอดีตประพันธ์เคยมีประวัติจาบจ้วงในหลวงไหม ?

หลังจากพูดวันนั้นจนถึงวันนี้เคยจาบจ้วงไหม ?

 




#582075 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย CrazyDaimon on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:04

พวกนั้นพระเหรอครับ -''-




#582058 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย wat on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:19

ตามหัวข้อกระทู้ครับ

 

อยากให้ท่านผู้เจนจัดในธรรมทั้งหลาย..........ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ........

 

ถ้าบาป.........ผมคนหนึ่ง........ที่จะขอเลิกวิจารณ์ลัทธิจานบิน.....แบบถาวร

 

ถ้าไม่บาป.............ก็เชิญ....พี่ๆน้องๆ..........บรรเลงกันเองตามใจชอบครับ

 

^_^  แยกเป็นสองประเด็นนะขอรับ...

 

1. การด่าเขาก็เป็นไฟเผาเราเองขอรับ ตามหลักพระตถาคต กรรมคือเจตนา หากเราด่าก็เจตนาของเรา กรรมก็ของเราขอรับ หากด่าแล้วเค้าได้ยินแล้วเค้าจะตอบโต้อย่างไร... ก็กรรมของเค้าเช่นกัน ก็เหมือนการกระทำทางกาย, วาจา, ใจ ของเค้านั่นแหละขอรับ... นั่นคือกรรมของเค้าได้เกิดขึ้นแล้ว... แต่ถ้ากรณีนี้... กระพ๊มก็ด่าขอรับ เพราะมันไม่ใช่ "อริยสงฆ์" แน่นอนล้านเปอเซง... ไม่กลัวขอรับ...

 

2. พระสุปฏิปัณโนที่เป็น "สงฆ์สาวก" ของพระตถาคต... ก็ตามบทสวดที่เราเรียกว่าบทอิติปิโสฯ นั่นแหละขอรับ  คือบท "สรรเสริญพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์" ซึ่งถ้าตามพุทธวจนะจริงๆจะไม่เหมือนที่เราท่องกันมาแต่ช้านานในช่วงเริ่มต้นขอรับ...

 

 

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

(ขอน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง)

 

อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปัชชะติ (ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้)  อะระหัง (เป็นผู้ไกลจากกิเลส)  สัมมาสัมพุทโธ (ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง)  วิชชาจะระณะสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ)  สุคะโต (เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี)  โลกะวิทู (เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง)  อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ (เป็นผู้สามารถฝึกคนที่สมควรฝึกอย่างไม่มีใครยิ่งกว่า)  สัตถา เทวะมนุสสานัง (เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย)  พุทโธ (เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม)  ภะคะวา (เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์)  โส อิมัง โลกัง (ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้)  สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรัหมะกัง สัสสะมะณะพราหมะณิง (กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์)  ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง (เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์)  สะยัง อภิญญา (ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว)  สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ (สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม)  โส ธัมมัง เทเสสิ (ตถาคตนั้นแสดงธรรม)  อาทิกัลยาณัง (ไพเราะในเบื้องต้น)  มัชเฌกัลยาณัง (ไพเราะในท่ามกลาง)  ปะริโยสานะกัลยาณัง (ไพเราะในที่สุด)  สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมะจะริยัง ปะกาเสติ (ทรงประกาศพรหมจรรย์คือแบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ ดังนี้)                                                                      
 

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม (พระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว)  สันทิฏฐิโก (เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง)  อะกาลิโก (เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล)  เอหิปัสสิโก (เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด)  โอปะนะยิโก (เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว)  ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้)

 

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว)  อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว)  ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรม เป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว)  สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว)  ยะทิทัง(ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ)  จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา  (คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ)    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (นั่นแหละคือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า)  อาหุเนยโย  (เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา)  ปาหุเนยโย  (เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ)  ทักขิเณยโย  (เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณาทาน)   อัญชะลิกะระณีโย  (เป็นสงฆ์ที่บุคคลทั่วไปจะพึงทำอัญชลี)  อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ  (เป็นสงฆ์ที่เป็นเนื้อนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้) ...

 

:)  ที่ยกพระสูตรนี้มาให้ดูเพื่อให้ดูตรงประเด็นส่วนของ "พระสงฆ์" ของพระตถาคตบัญญัติไว้เป็นเช่นไรขอรับ... นี่เป็น 1 ในหลายๆพระสูตรที่มีกล่าวถึงโดยต่างสถานที่, ต่างเวลาและผู้ถาม ที่พระตถาคตกล่าวบอกฆราวาสว่าการพิจารณาสาวกของพระองค์ว่าดี ไม่ดี ปฏิบัติตรงจริงตามคำสอนพระองค์หรือไม่ขอรับ สรุปคือพระตถาคตให้สังเกตุดูพฤติกรรมของพระรูปนั้น แล้วพิจารณาการควรแก่การนำของบูชา, จัดสถานที่ไว้ต้อนรับ...ฯลฯ หรือไม่นั่นแหละขอรับ...

 

;) ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับคำถาม คือควรจะให้ทานอย่างไร พระตถาคตกล่าวไว้พระสูตรหนึ่งขอรับว่า... "แม้เพียงเทน้ำเศษอาหารในหม้อลงน้ำ โดย "หวัง" เพียงให้สัตว์น้อยใหญ่ได้กิน... ก็ยังเป็นที่มาแห่งบุญ ไฉนเลยจะกระทำกับมนุษย์ด้วยกัน... ผู้ใดเป็นผู้บอกงดลาภแก่ผู้อื่นเสีย ผู้นั้นไม่ใช่มิตร เป็นการขุดตนให้ตกต่ำไปด้วย...

 

...พระตถาคตกล่าวถึงอานิสงค์ต่างๆในการทำทานไว้อีกพระสูตรหนึ่งว่า "สมัยหนึ่ง... ที่พระตถาคตได้เกิดมาเป็นมหาอำมาตย์ มีทรัพย์สินมหาศาล มีจิตเมตตา มีฝ่ามือชุ่มด้วยการให้อยู่เนืองๆ เคยแม้แต่นำถาดเงิน ถาดทองมาแจกเป็นทานให้หมู่ชนในเมืองของพระองค์เองก็เคย... พระตถาคตได้กล่าวว่า... การกระทำเช่นนั้น... หาได้อานิสงค์ใหญ่อันใดเลย เพราะ "ไม่มีผู้สมควรได้รับทาน" นั้นมาเป็นผู้รับเลย พระองค์เปรียบไว้ว่า... ทำทานแก่หมู่สัตว์, มนุษย์เป็นร้อยเป็นพันก็ไม่เท่า ทำทานกับพระโสดาบันองค์เดียว ทำทานกับพระโสดาบันร้อยองค์ ก็ไม่เท่าทำทานกับพระสกิทาคามีองค์เดียว... ไล่ไปจนถึงทำทานกับพระอรหันต์ร้อยองค์ ก็ไม่เท่าสร้างที่อยู่อาศัยให้ภิกษุสงฆ์ สร้างที่อยู่อาศัยให้ภิกษุสงฆ์เป็นร้อยเป็นพัน ก็ไม่เท่ารักษาศีลครั้งเดียว...รักษาศีลร้อยครั้งพันครั้ง ก็ไม่เท่าการทำอาณาปานสติเพียงครั้งเดียว... "อาณาปานสตินี่แหละ คือกองกุศลอย่างแท้จริง" ...

 

:D  ก็ลองพิจารณาให้แยบคายดูขอรับ...




#582053 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย ดอกปีบ on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:14

post-16492-0-09833100-13593745811.png




#582049 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย พอล คุง on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:08

ผมว่า คนที่บาปคือ ธัมมชัยโย ตากหากครับ

ที่หลอกใช้คนที่มาบวชเพราะศรัทธา

เพื่ิให้ตัวเองได้ได้ลาภสักการะ

และคนที่ศรัทธา ให้เกณฑ์คนมานั่งโปรยดอกไม้


#582022 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย wat on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 18:40

ถ้าอ่าน "พระไตรปิฎก" จะพบว่าหลายๆ คนก็วิพากษ์วิจารณ์

"พระพุทธเจ้า" ต่อหน้า จนเกิดเป็นบทสนทนาธรรมกันหลายพระสูตร

พระพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิเลยนะครับ (เท่าที่อ่านเจอ)

 

^_^  แก้ไขๆขอรับ มันคือการโจษ หรือการโต้วาทะทางอรรถ ทางธรรม หรือจับผิดขอรับ... แต่ถ้าด่า หรือใส่ความด้วยอาฆาต, เคียดแค้น โดยไม่ตอบคำถาม หรือยอมรับว่าผิดในข้อแย้งใดๆของตถาคต, หรือนิ่งเฉยต่อคำแย้งของตถาคตแล้วยังกล่าวเช่นเดิมถึง 3 ครั้ง... มีพระสูตรกล่าวโดนธรณีสูบบ้าง ฝีขึ้นโดยฉับพลันตายลงนรกทันควันบ้างขอรับ... อ้อ... รวมถึงพระอรหันต์ก็มีกล่าวอยู่ไม่กี่พระสูตรขอรับ...




#582019 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย Kyubey on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 18:38

ลัทธิเพี้ยน ด่าได้ไม่บาปครับ

/人◕ ‿‿ ◕人\




#582007 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย Strangerman on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 18:23

บาปตรงไหนล่ะครับ ผมไม่ได้ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา

 

แต่ด่าลัทธิบ้าบอ ทำตัวเป็นปลิงสูบเงินจากคนที่ศรัทธา

 

พุทธศาสนาเคยสอนให้ทำบุญเพื่อหวังสิ่งตอบแทน? ทำบุญมาก(เงิน) จะได้มาก?

 

มันผิดเพี้ยน บิดเบี้ยว ไปหมดแล้วครับ  ยิ่งปล่อยไว้นานวันจะกลายเป็นการปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ให้เห็นดีเห็นงาม กลายเป็นเรื่องปกติไป

 

ใช้สื่อโปรโมต ใช้สาวกโฆษณาชวนเชื่อกันเข้าไป  แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปกำกับดูแล  ผมมองว่าเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองพอๆ กับ ไอ้หน้าเหลี่ยม เลยจริงๆ นะครับ ^^




#581918 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย ParaDon on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:46

สาวกจานบินก็เหมือนสาวกแดง เชื่อในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ งมงายในสิ่งที่คนอื่นเอามาบอกต่อ




#581916 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย อาตี๋ on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:41

ติฉินนินทาพระที่ไม่เหมาะสม(แม้ไม่ใช่ลัทธิธรรมกายซึ่งผมถือว่านักบวชลัทธินี้ไม่ใช่พระ)ก็ไม่บาป เพราะเป็นเหตุให้เกิดข้อในพระวินัยหลายๆข้อ ทำให้พระเกิดการปรับตัว

 

แต่ถ้าหมิ่นประมาท ใส่ร้ายพระ(แม้แต่ไม่ใช่พระ)ก็บาปครับ




#581896 จะบาปมั๊ยเนี้ยะ................ที่พากันวิจารณ์...............ลัทธิจานบิน........

โดย pooyong on 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:46

การจัดบวช ของธรรมกายก็ด้วยครับ มีการจัดหากินหัวคิว

เพื่อไปเบิกกับกรมการศาสนา มีนายหน้าจัดหาคนมาบวชให้ครบ

และดูแลให้อยู่ครบพรรษา จะย้ายวัดยังไม่ได้

มีน้องคนนึงไปบวชมา บอกเค้าก็ปฏิบัติดีนะ แต่คุมเข้ม กลัวหนี

เพราะกลัวจะเบิกไม่ได้ จำนวน