ชอบ ๆๆ
- stand with a fist likes this
โดย พิฆาตอสูร on 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:32
โดย ปุถุชน on 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:09
โดนอายัตบัญชีเปล่าวะ หรือได้ยอดเงินเพิ่ม ฐานที่กล้าแหกวงล้อมมวลมหาประชาชนได้
แอบมากินข้าวฟรี....?
เผื่อว่ามีแจกค่ารถ...?
สปาย....?
โดย HiddenMan on 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:58
ยอมรับอย่างหนึ่ง...ไอ้ลุงยิ้มนี่..ยังใจถึงกว่าไอ้..โก๊ะตี๋ ผิดตึก
ผมว่ามันประเมินผิด นึกว่ามีแต่ผู้หญิง และคนน้อย ตะกวดคงช่วยได้...
โดย G-GEAR53 on 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:55
ยอมรับอย่างหนึ่ง...ไอ้ลุงยิ้มนี่..ยังใจถึงกว่าไอ้..โก๊ะตี๋ ผิดตึก
โดย ดอกปีบ on 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 11:45
"ลุงยิ้ม ตาสว่าง" โดนแล้ว มวลชวนรวบตัวได้บริเวณหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี โยธินพัฒนา 3 ล่าสุดการ์ดกปปส. ได้นำลุงยิ้มออกจากแนวเคลื่อนไหวแล้ว ไม่มีเหตรุนแรงแต่อย่างใด
วันนี้ ( 22 ธ.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตรงจุดโยธินพัฒนา 3 บริเวณหน้าบ้าน รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. ประกาศเดินทางมามอบดอกไม้จันทน์ และอ่านแถลงการขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งรักษาการ นำโดย "เจ๊ปอง" นายอัญชลี ไพรีรักษ์ และรศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.25 น. ได้มีรายงานข่าวว่า มวลชนได้รวบตัว "ลุงยิ้ม ตาสว่าง" คนเสื้อแดงที่มีพฤติกรรมชอบเข้าไปในสถานที่ชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทั้งหลาย เพื่อถ่ายรูปเย้ยกลุ่มผู้ชุมนุม ลงเฟซบุ๊คของตัวเอง -โดยมวลชนที่บริเวณโยธินพัฒนา 3 รวบตัวเอาไว้ได้ ล่าสุดทางการ์ดกลุ่มกปปส.ได้นำตัว "ลุงยิ้ม" ออกมาจากแนวเคลื่อนไหวเพื่อความปลอดภัย โดยไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด
******************************************************************************************
นี่คือความแตกต่าง......ถ้าเป็นม็อบเสื้อแดง รับรองลุงยิ้ม เละ !!
โดย จอมโจรคิด on 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 13:20
เรื่องแบบนี้เสื้อแดงเขาเชื่อกันจริงจังนะครับ เมื่อวานขากลับจาก สตช.
แท็กซี่ก็เล่าให้ผมฟังว่า เทพเทือก โดนหมายจับแล้วหนีแน่ๆ เห็นวิทยุเล่าว่านั่งรถหนีไปไหนไม่รู้ สงสัยออกนอกประเทศไปแล้ว
ผมได้แต่นั่งขำ เสื้อแดงพวกนี้อยู่แต่ในกะลาสีแดง ไม่ได้รับรู้ข่าวสารโลกภายนอกเขาเลย เฮ้อ...
โดย คนไทยคนหนึ่ง on 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 13:20
พูดซ้ำๆคนเสื้อแดงก็เชื่อนะ ดูอย่างเรื่องราวปี53 เรื่องราวที่คนเสื้อแดงเชื่อ
กับเหตุการณ์จริงต่างกันลิบลับ เขาก็เชื่อกันอย่างนั้น ใครมาบอกเรื่องจริงเสื้อแดงก็ไม่
เปลี่ยนความเชื่อ
โดย ปุถุชน on 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 16:01
เมื่อยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภาแล้ว....
แกนนำ นปช. ไพร่เสื้อแดง จะหนีไปไหน.....?
เป็นกระทู้สั้นที่สุดของผม......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
โดย พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน on 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 16:06
ไปอยู่ประเทศต้นแบบประชาธิปไตยที่กินได้อย่างเขมรครับ
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:25
คุณผึ้งพเนจร นั่นเหรอหลักฐาน งง หว่ะ
แล้วมันยังไงเหรอ ก็เขาเห็นทหารยิง แล้วจะให้เขาบอกว่าทักษิณยิงเหรอไง
หน้าด้านแถแถ่้ดๆๆๆ
ก็คุณถามแบบนี้
เขาเสนอข่าวไม่เป็นกลางยังไง เมื่อไร
ขอหลักฐานและที่มา หน่อยครับ
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:24
แล้วก็ไปเป็นพยานคดีราชปรารภอีก....โห *** โคตรเทพพพพพพพพพพพ
http://www.posttoday...บเขาเป็นสื่อแดง
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:17
รู้สึกไอ้นี่มันรู้ดีไปทุกจุดเกิดเหตุเลยนะครับ
สงกรานต์ตอนคอกวัวก็อยู่ พูดเยอะจัด
ตรงราชปรารภก็อยู่ ขึ้นเป็นพยานให้แดงด้วย
ส่วนอันนี้เป็นพยานเบิกความคดีวิภาวดี
แมร่งงงง เมพยิ่งกว่าซูเปอร์แมน
นิค นอสติทซ์ หอบภาพเบิกคดี ‘พลฯ ณรงค์ฤทธิ์’ พยานยันจุดเกิดเหตุมีแต่ จนท.
Wed, 2013-02-27 19:31
ไต่สวนการตายพลทหารณรงค์ฤทธิ์ เหยือกระสุน 28 เม.ย.53 นิค นอสติทซ์ ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน นำภาพเหตุการณ์ยื่นต่อศาล เบิกความ จนท. ตะโกนให้กลุ่มผู้ตาย "หยุดๆ" ก่อนถูกยิง ประจักษ์พยานเบิกความจุดเกิดเหตุไม่มีผู้ใดนอกจาเจ้าหน้าที่ ไต่สวนต่อ 14 มี.ค.
22 ก.พ. 56 ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 811 ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพ คดีหมายเลขดำที่ อช.4/2555 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 5 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ร้องขอให้ศาลไต่สวนการเสียชีวิตของพลทหาร ณรงค์ฤทธิ์ สาละ (ได้รับเลื่อนยศเป็น ร้อยตรี หลังเสียชีวิต)อดีตทหารสังกัด ร.พัน.2 พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็ว เพื่อระงับเหตุการณ์การปะทะกันของตำรวจ ทหาร กับผู้ชุมนุม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เขตบางเขน ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 เม.ย.53
โดยในวันนี้ได้มีพยาน 3 คน เข้าเบิกความประกอบด้วย นิค นอสติทซ์(Nick Nostitz)อายุ 44 ปี สื่อมวลชน-ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน นายธีระ ปะติตัง อายุ 49 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการหมู่บ้านจัดสรรแกรนด์ ไอ-ดีไซน์ วิภาวดี ซึ่งทั้ง 2 เป็นประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งนายประยูร อนุสิทธิ์ อายุ 40 ปี คนขับแท็กซี่ ในฐานะพยานแวดล้อมในเหตุการณ์
นิค นอสติทซ์ เบิกความว่า พยานมาอยู่ไทย 20 ปี มีภรรยาเป็นคนไทย เป็นผู้สื่อข่าวอิสระ ที่ส่วนมากทำเกี่ยวกับสังคม และการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งเสื้อแดงเสื้อเหลือง เกี่ยวกับคดีนี้ 28 เม.ย. 53 เดินทางออกจากบ้าน 11 โมงด้วย จักรยานยนต์ส่วนตัวโดยไปที่ราชประสงค์ก่อนเพื่อดูเหตุการณ์ชุมนุม นปช. ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ไปประจำทุกวันเพื่อตามข่าวความเคลื่อนไหว โดยเมื่อถึงที่ชุมนุมผู้ชุมนุมได้ประกาศจะไปให้กำลังใจเสื้อแดงที่ปทุมธานีและแจกซีดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ 10 เม.ย.53 หลังจากนั้นพยานได้โทรเพื่อนตนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และทราบว่าจะมีการสกัดเสื้อแดงที่ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พยานจึงตามผู้ชุมนุมที่เคลื่อนขบวนด้วย รถจักรยานยนต์ รถยนต์และรถเครื่องเสียง ถึงแยกพหลโยธิน และขับนำหน้าผู้ชุมนุมเพื่อไปดักรอจากฝั่งเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อจะทราบการปฏิบัติการ
เมื่อพยานถึงจุดที่อนุสรณ์สถานฯ ประมาณ 13.00 น. พยานเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ยืนจับกลุ่ม ทหารเกือบทุกคนตรงนั้นสวมชุดทหารลายพราง และมีนอกเครื่องแบบมาด้วย โดยขณะนั้นถนนยังเปิดอยู่ พยานจึงจอดรถละเดินมาทางทหาร แต่มีทหารเข้าห้ามไม่ให้เข้าใกล้ จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนมีตำรวจเห็น จึงเข้ามาเจรจาและให้พยานเข้าไป ยืนอยู่ในแนวทหาร
นิค เบิกความอธิบายถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำอยู่จุดเกิดเหตุด้วยว่ามีผ้าพันคอสีฟ้าอ่อนหลายคน ทั้งทหารและตำรวจมีอาวุธปืนลูกซองยาวทั้งที่เป็นกระสุนลูกยาง ซึ่งจะเป็นปอกกระสุนสีแดงและกระสุนลูกปราย ที่จะเป็นอีกสีเทาขาว ซึ่งเป็นกระสุนจริง ซึ่งทั้งทหารและตำรวจจะมีกระสุน 2 ชนิดผสมกัน โดยพยานได้นำปอกกระสุนจริงดังกล่าวที่เก็บได้ในสถานที่เกิดเหตุส่งให้ศาลพิจารณาด้วย นอกจากปืนลูกซองแล้ว ในส่วนของทหารมีปืน M16 และ HK ด้วย
พยานเบิกความต่อว่า ถึงเวลา13.30 น. มีการปิดถนนวิภาฯ เฉพาะขาออกทั้งหมด โดยทหารใช้การการยืนแนว โดยเลนถนนด้านนอกจะใช้รั้วลวดหนามขดวางโดยมีทหารยืนเป็นแถวหลังรั้วลวดหนาม ส่วนเลนถนนในจะเป็นทหารกับตำรวจผสมกัน ทำให้ถนนคู่ขนานขาออกรถติดมาก ส่วนฝั่งขาเข้านั้นยังไม่มีการปิดถนน ขณะนั้นพยานเดินไปมา จากการปิดกั้นดังกล่าวส่งผลให้ นปช. ไม่สามารถเคลื่อนไปต่อได้ ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งจึงเดินเท้าและขับจักรยานยนต์เข้ามายังบริเวณที่เจ้าหน้าที่ตั้งแนวอยู่ จนเกิดการปะทะกันโดย นปช. จะยิงหนังสติ๊กใส่ ขณะที่ทหารใช้ลูกซองยิง แต่พยานไม่ทราบว่าใครเริ่มก่อน เมื่อมีการปะทะ นปช. ได้วิ่งหนี ทำให้ทหารก็เดินหน้าเรื่อยๆ และก็ยิงใส่ด้วยลูกซองต่อเนื่อง จนทำให้รถบางคันที่ติดอยู่กระจกแตกเนื่องจากถูกกระสุน โดยในช่วงนั้นเห็นทหารใช้ปืน M16 และ HK ยิงขึ้นฟ้าด้วย
นอกจากนั้นมี นปช. ขว้างสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่จากด้านบนโทลเวย์ด้วย ซึ่งที่เสาโทลเวย์มีทหารยิงปืนรัวใส่เสื้อแดงที่อยู่บนโทลเวย์ โดยพยานได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ด้วย ขณะนั้นทหารที่ยิงห่างพยานประมาณ 50 เมตร ซึ่งทุกครั้งที่มีการยิง จะปรากฏฝุ่นที่เกิดจากกระสุนกระทบผนังปูนของโทลเวย์
หลังจากฝนตกหนัก พยานจึงหลบอยู่ใต้โทลเวย์ ช่วงนั้น กลุ่ม นปช. อยู่ใต้ทางด่วนห่างจากพยานและแนวทหารไปประมาณ 300-500 เมตร ช่วงนั้นก็ยังคงมีทหารเล็กปืนขึ้นไปข้างบนโทลเวย์ด้วย สักพักทหารที่มียศสูงกว่าเข้ามาพูดกับทหารกลุ่มดังกล่าวว่าบนโทลเวย์เคลียร์พื้นที่หมดแล้ว ทำให้ไม่มีการเล็งปืนขึ้นไปต่อ
หลังจากนั้นฝนได้หยุดตกขณะที่พยานบริเวณทางคู่ขนาด สักพักได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ ตะโกนว่า “หยุดๆ” และตามด้วยมีการยิงปืนไป และเห็นจักรยานยนต์ล้มลง โดยพยานห่างจากทหารที่ยิงประมาณ 5-10 เมตร ก่อนที่จะมีการตะโกนบอกว่า “หยุดๆ” นั้น ทหารยังยืนตั้งแนวกั้นถนนอยู่ โดยเสียงที่บอกว่า "หยุดๆ" นั้นมีหลายคนตะโกน ทั้ง ทหารและตำรวจที่ตั้งแนว จุดตรงนั้นใช้ปืนลูกซอง ยิงหลายนัด แต่ไม่รู้ว่าเป็นกระสุนยางหรือจริง โดยก่อนหน้าพยานได้ยินทหารคุยกันด้วยว่ากระสุนยางหมดแล้วให้ใช้กระสุนจริงไปเลย ขณะเกิดเหตุ กลุ่ม นปช. อยู่ห่างออกไปประมาณ 300-500 เมตร
หลังจากนั้นพยานได้กระโดดข้ามเกาะกลางขั้นระหว่างเลนถนนเพื่อเข้ามาจุดเกิดเหตุเพื่อถ่ายภาพ แต่ถูกทหารสั่งห้ามถ่าย ขณะที่พยานเข้าไปถ่ายภาพนั้นยังเห็นทหารที่ถูกยิงยังไม่เสียชีวิต โดยขณะนั้นมีอาการชักอยู่ ขณะนั้นมีทหารประมาณ 2-3 นาย อยู่กับผู้ตาย ซึ่งขณะนั้นหัวของทหารผู้ตายหันไปทางถนนขาออก และมีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ หลังจากนั้นทหารได้นำเปลมานำศพออกไป โดยพยานมีการนำภาพที่ถ่ายร่างผู้เสียชีวิตมอบให้ศาลพิจารณาด้วย
นิค เบิกความถึงการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในลักษณะเคลื่อนที่ด้วยจักรยานยนต์เหมือนที่ทหารที่เสียชีวิตปฏิบัติการก่อนเสียชีวิตว่า เคยทราบการปฏิบัติการในลักษณะนี้มาก่อนเกิดเหตุ 3 วัน โดยช่วงนั้นทหารจะขับจักรยานยนต์เพื่อตามจับคนเสื้อแดง ซึ่งพยานก็ติดตามความเคลื่อนไหวของทหารกลุ่มนี้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นกลุ่มเดียวกับทหารที่เสียชีวิตหรือไม่
พยานเบิกความเพิ่มเติมถึงการปฏิบัติการของทหารในขณะเกิดเหตุด้วยว่า ก่อนหน้าที่นั้นทหารจะกระจายไปทั่วบริเวณนอกจากบนถนน ทางคู่ขนาดแล้ว ยังมีบริเวณสะพานลอย โดยช่วงเกิดเหตุไม่มีเสื้อแดงอยู่บริเวณใกล้เคียงและไม่มีการปะทะตั้งแต่ฝนตกแล้ว และหลังฝนตกทหารก็มีการกระจายกำลังไปทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีปืนลูกซองและปืนความเร็วสูง M16 และ HK
นอกจากนี้อัยการได้นำภาพถ่ายชายสวมหมวกคลุมโม่งสีดำที่ถืออาวุธปืนสั้นซึ่งเป็นภาพแคปเจอร์จากรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราพร้อมข้อความใต้ภาพที่ระบุว่า “ผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมโม่งเสื้อดำ ที่มาพร้อมกับเสื้อแดง 2 คน” ซึ่งเป็นหลักฐานที่พยานฝ่ายทหารนำมาจากอินเตอร์เน็ตและอ้างส่งต่อศาลให้ นิค พิจารณาว่าขณะเกิดเหตุได้พบเห็นชายในภาพนี่หรือไม่ โดย นิค ได้เบิกความว่า ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา ชื่อ“เวย์น์ เฮย์(Wayne Hay)” ซึ่งเป็นเพื่อนกับพยาน ไม่ได้มีการพูดตามข้อความใต้ภาพที่ระบุนั้น แต่ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่ถูกคนอื่นเขียนกำกับเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตภายหลัง ส่วน เวย์น์ เฮย์ เคยเล่ากับพยานว่าคนในภาพเป็นคนที่อยู่กับคนเสื้อแดงที่ถืออาวุธปืนพกสั้น ที่ไม่ทราบว่าเป็นใคร และภาพดังกล่าวก็ถ่ายก่อนเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของพยานที่เป็นนักข่าวต่างประเทศอีกคนซึ่งทำข่าวอยู่ฝั่งผู้ชุมนุมได้เคยเล่าด้วยว่าผู้ชุมนุมขณะนั้นได้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดผู้ตายในคดีนี้ได้ขี่จักรยานยนต์เคลื่อนผ่านมาได้ โดยมีเพียงเสียงโห่เท่านั้น
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:12
^
^
ตายละวา ผม"โยง"ไม่เป็นด้วยครับ ผมไม่ใช่ห่าเอ็ม อิอิอิ
มาแปะ "ไอ้ตอแหล" เพิ่มอีกครับ
โดย ม่านน้ำ on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:09
เสียดายผมหารูปที่ดี๊ด๊ากับยิ่งลักษณ์ในคอมพพ์ผมไม่เจอ
เอาเฉพาะที่ผมหาเจอก่อนนะ เคยลงไปแล้ว แต่จะลงซ้ำอีกเพื่อให้เพื่อนเสรีไทยดู
ไม่ได้ลงให้กากเดนขี้ข้าแม้วจนสมองเสมิงเน่้าหมดแบบแต๋มดูหรอกนะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ว่าแต่ไม่มีเส้นโยงผูกยุ่งๆไปมาตามจุดต่างๆ แล้ว "เขา" จะเข้าใจหรือ?
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net