Jump to content


PinkDevil

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ 2552
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
-----

Posts I've Made

In Topic: ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 05:46

โอกาสที่สมศักดิ์จะเข้าร่วมขบวนการในฐานะม้าใช้ ก็ คือ เหตุการณ์ในปี 16 เพราะ ในปี 19 คุณแอมป์บอกว่าสมศักดิ์ขึ้นไปอยู่ระดับแกนนำแล้ว

คุณพิงค์จะใช้จินตนาการกับประวัติศาสตร์ร่วมสมัยไม่ได้นะครับ คนในเหตุการณ์ยังมีชีวิตอยู่ พิจารณาจากความพยายามที่ทำมาข้างบน ต้องบอกว่า เป็นเรื่องตาบอดคลำช้างครับ แต่ที่คลำน่ะไม่ใช่ช้าง เป็นหมู

ผมยกตัวอย่างเรื่องเดียวให้พิจารณาก็พอ ไม่อยากทำมาก สงสาร นายชดเล่าว่า เขาถนัดวาดรูป ซึ่งมันโรเนียวไม่ได้ต้องถ่ายเอกสาร

ประโยคนี้ จะเกิดในปี 2516 ไม่ได้

ปีนั้น การถ่ายเอกสารอยู่ในระดับที่ใช้งานมวลชนยังไม่ได้ เพราะต้องใช้กระดาษเคลือบน้ำยา ราคาแผ่นละประมาณ 10 บาท ปีนั้นก๋วยเตี๋ยวชามละสองบาทนะครับ ดังนั้น สมมติฐานที่วางว่า นายชดทำงานกับยัยเหงี่ยมในปี 2516 ก็โยนทิ้งไปได้เลย เพราะคนวิเคราะห์ขาดประสบการณ์จริงในเรื่องราวที่ตนเองดึงมาใช้

ส่วนเรื่องสมศักดิ์เป็นแกนนำ ผมได้อธิบายไว้ในกระทู้ลูกจีน ซึ่งคุณพิงค์คงไม่ได้อ่าน ตอนที่เป็นคำสัมภาษณ์ของแกนนำจากเพาะช่าง ผมบอกว่า สมศักดิ์เป็นแกนนำตามการวางตัวของขบวนการ แต่มันก็ยังเด็กมาก พี่คนนั้นเล่าอย่างสงสารว่า มันนอนหมอบร้องไห้อยู่ข้างๆ แกต้องปลอบว่าอย่าร้อง อายเขา....พี่คนนั้นก็ยังบอกว่าสมศักดิ์กับธงชัยยังเด็กมาก แต่เด็กขนาดนั้นในปี 2519 ก็คือแกนนำในการตัดสินชีวิตของมวลชนนะครับ (อ่านบทความคืนที่ยาวนานฯ ในกระทู้นั้นได้)


มี 2 ประเด็นที่ต้องขออนุญาตทำความเข้าใจให้ตรงกัน

1) ขอบคุณกับคำแนะนำที่บอกว่าดิฉันจะใช้จินตนาการกับประวัติศาสตร์ร่วมสมัยไม่ได้ ดิฉันวางสมมุติฐานว่าเหตุการณ์ที่นายชดเล่าใน 10 บรรทัดนั้น อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 16 โดยอาศัยพื้นฐานจากการวิเคราะห์ของคุณแอมป์ในความเห็นที่ 198

สมศักดิ์เป็นประธานนักเรียนสวนกุหลาบ และเป็นคนทำหนังสือรุ่น สมานมิตร 17
เลขต่อท้ายบ่งบอกว่า ในปี 2516 ที่จีรนันท์/เสาวณีย์เป็นสองโฆษกให้การเดินขบวน
สมศักดิ์ยังใส่ขาสั้นเรียนที่สวนฯอยู่เลย


บทบาทของเขาก็คือ เลิกเรียนเดินมาสนามหลวง เข้าไปในธรรมศาสตร์ ร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษา ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ สองทุ่มก็กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ทำอย่างเดิน ....ไม่มีที่ให้เด็กนักเรียนเข้าไปรับรู้อะไรในวันนั้น นอกจากนั่งที่สนามฟุตบอล แจกน้ำ อาหาร วิ่งเป็นม้าใช้....ห่างไกลจากห้องประชุมแกนนำมากมาย


และข้อมูลของคุณแอมป์ในความเห็นที่ 316 ที่ระบุว่าใน ปี 18 สมศักดิ์ได้กลายเป็นแกนนำแล้ว

เสาวณีย์และจีรนันท์ เป็นโฆษกคู่ของขบวนการนักศึกษา 14 ตุลา 16
วันนั้น สมศักดิ์ยังนุ่งขาสั้นอยู่สวนกุหลาบ ยังเรียนทฤษฎีมาร์กซิสต์จากเอกสารโรเนียวอยู่เลย

กว่าจะมาเป็นแกนนำธรรมศาสตร์ ก็ปี 2518 ตามรอยพิเชียรและธงชัยที่มาสร้างฐานไว้ให้
เวลา 2-3 ปีในช่วงนั้น มีนัยยะสำคัญจนเอามาเล่าปนกันไม่ได้


เมื่อเอา การวิเคราะห์ของคุณแอมป์และข้อมูลที่คุณแอมป์ให้มา ทำให้ดิฉันได้ตั้งสมมุติฐานว่าเหตุการณ์ที่นายชดเล่าไว้ใน 10 บรรทัด อาจจะเกิดขึ้นในปี 16 เอาเป็นว่าที่ดิฉันอ้างอิงเอาไว้ไม่ชัดเจนเอง จนทำให้คุณแอมป์ต้องมาวิเคราะห์แก้การวิเคราะห์ของคุณแอมป์เอง

2) เมื่อคุณแอมป์มาวิเคราะห์ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่นายชดเขียนเล่าไว้ใน 10 บรรทัดในความเห็นที่ 104 ไม่สามารถเกิดในปี 16 ได้ ดังนั้น คงเหลือเพียงสมมุตฐานเดียว คือ เป็นเหตุการณ์ช่วงปี 19 คำถามที่เกิดขึ้นคือ แกนนำเด็กแต่เป็นเด็กที่คุณแอมป์บอกว่าเป็นแกนนำตัดสินชีวิตของมวลชนได้ จะต้องเดินมาของานฝ่ายเอกสารทำหรือ ??? จะต้องสถาปนาตัวเป็นม้าใช้ให้พวกพี่ๆ ที่ทำเอกสารหรือ ทั้งๆที่ได้รับการโปรโมตไปอยู่ระดับแกนนำไปแล้ว

อย่างน้อยตอนนี้เราก็สามารถตัด choice ไปได้แล้วว่าเหตุการณ์ที่นายชดเล่าไว้ น่าจะเป็นเหตุการณ์ของปี 19 จุดบอดของเรื่องเล่าตอนนี้คือ บทบาท ของสมศักดิ์ในช่วงปี 19 ซึ่งกลายเป็นแกนนำไปแล้ว ตอนนี้ดิฉันเชื่อว่า เพื่อนๆก็คงพิจารณาความสมเหตุสมผลของเรื่องเล่าของนายชดตามข้อมูลที่ปรากฎในกระทู้ลูกจีนเนรคุณ แล้วว่าสมเหตุสมผลมากน้อยเพียงใด

ท้ายที่สุดทุกคนรอจิกซอร์สำคัญตัวสุดท้ายจากนายชด เพื่อจะได้สรุปปิดกระทู้นี้ว่าว่า สมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง จริงหรือไม่ และ นายชดเล่าเรื่องโกหกใน 10 บรรทัดแรกของความเห็นที่ 104 หรือไม่ ซึ่งนายชดควรจะมาพร้อมหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่านายชดเองไม่ได้โกหกได้แล้ว การพิสูจน์ความจริงที่ตัวเองพูดมันง่ายแสนง่าย และไม่มีใครที่จะเสียหายจากการที่นายชดสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวนายชดพูดจริงไม่ได้พูดโกหก ถ้าจะมีคนเสียหายก็แค่สมศักดิ์เจียม ที่จะต้องอับอายขายขี้หน้าเพราะปูมหลังได้ถูกขุดคุ้ยว่า เป็นเพียงเด็กซื้อโอเลี้ยง

In Topic: ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 04:28

ที่จริงได้เขียนไว้อย่างชัดเจนในตอนต้นของความเห็นที่ 571 แล้ว แต่เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของคำพูดของนายชดที่นายชดได้พูดไว้ใน 10 บรรทัดแรก ของความเห็นที่ 104 ในกระทู้ลูกจีนเนรคุณ

ดิฉันตั้งสมมุติฐานไว้ 2 สมมุติฐาน คือ

1) เหตุการณ์ที่นายชดเล่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 16

2) เหตุการณ์ที่นายชดเล่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 19

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสมมุติฐานใด มีข้อโต้แย้ง ที่ทำให้เรื่องเล่าของนายชดมีจุดบอด คือ

1) ถ้าเป็นเหตุการณ์ในปี 16 สมศักดิ์เป็นเพียงเด็กมัธยม มีความเป็นไปได้ที่สมศักดิ์จะเป็นเพียงม้าใช้ของพวกรุ่นใหญ่ในหน่วยงานผลิตเอกสาร แต่นายชดและยัยเหงี่ยม ก็เด็กเกินกว่าที่จะมาทำงานผลิตเอกสารที่เป็นงานสำคัญ (นายชดเรียกจีรนันท์ว่าพี่ ตอนปี 16 จีรนันท์อยู่ปี 2 ดังนั้นแก่ที่สุดที่นายชดและยัยเหงี่ยมจะเป็นได้ คือ เด็กปี 1)

2) ถ้าเป็นเหตุการณ์ในปี 19 นายชดและยัยเหงี่ยมน่าจะอยู่ปี 4 ซึ่งโตพอที่จะทำงานผลิตเอกสารที่เป็นงานสำคัญ แต่ปัญหาคือ ในเหตุการณ์ปี 19 สมศักดิ์ได้กลายเป็นแกนนำ (หรือถูกวางตัวให้เป็นแกนนำแล้ว) ตามตรรกะของคนปกติ คนที่เป็นแกนนำหรือรู้ตัวว่าได้รับการวางตัวให้เป็นแกนนำ จะต้องเดินมาขอช่วยงาน ด้วยอากัปกิริยาอย่างที่นายชดได้เขียนเล่าไว้ในความเห็นที่ 104 ในกระทู้ลูกจีนเนรคุณหรือ ???? ขออนุญาตโควทมาเพื่อประกอบการพิจารณา

ฮี่ๆๆๆๆ สมัยนู้นนะ

ยัยเหงี่ยม กะ ผม ต้องมานั่งโรเนียวแจกใบปลิว ยัยเหงี่ยมมันถนัดพิมพ์ ผมถนัดโรเนียว กับ วาดรูปประกอบ ไอ้ที่วาดรูปประกอบนั่นแหละที่มันแพง เพราะมันโรเนียวไม่ได้ มันต้องถ่ายเอกสาร ต้องไปถ่ายแถวหลังกระทรวงโน่น มันจะถูกหน่อย อีกอย่างลูกเจ้าของร้าน ก็เรียนแถวนั้นแหละ


ทำงานกันอยู่ มีไอ้ตี๋เกรียนคนหนึ่งหัวโตๆ ผมตั้งๆเหมือนไม้กวาด ใส่เชิ๊ตสีขาวๆอมเหลืองสกปรก มาด้อมๆมองๆ

"พี่ครับ ผมจะมาสมัครอาสาช่วยครับ"

ยัยเหงี่ยมมันรับเอาไว้ บอกว่า เอาไว้ให้มันวิ่งไปถ่ายเอกสาร ซื้อโอเลี้ยง ซื้อถั่วตัด และ ตบกระโหลกเล่น ยามพวกเราเซ็ง

ทุกวันนี้ มันก็คือ ไอ้สากกะเบือ นั่นแหละ น้าเปิ้ล



Edit: เพื่อเปลี่ยนเลขที่ความเห็นจาก 121 เป็น 104 และเพิ่มโควทความเห็น 104

In Topic: ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

13 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:46

ระหว่างรอนายชดหาหลักฐานของ ยัยเหงี่ยม เพื่อนนายชด มายืนยันว่าข้อความที่นายชดเขียนไว้ใน 10 บรรทัดแรกของความเห็นที่ 104 ในกระทู้ลูกจีนเนรคุณ เป็นเรื่องจริง

ขอนำเสนอการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ ที่นายชดจะอยู่ร่วมขบวนการนักศึกษาส่วนผลิตเอกสาร และสมศักดิ์เป็นแค่ลูกกระจ๊อกคอยวิ่งซื้อโอเลี้ยง ถั่วตัด ให้ยัยเหงี่ยม เพื่อนนายชด

สมมุตฐาน ข้อมูลของคุณแอมป์และการวิเคราะห์เหตุการณ์ของคุณแอมป์ถูกต้องทั้งหมด ดังนั้น

คำถามที่ 1 ความเป็นไปได้ ที่สมศักดิ์จะเข้าร่วมขบวนการในฐานะเด็กซื้อโอเลี้ยง

สมศักดิ์เป็นประธานนักเรียนสวนกุหลาบ และเป็นคนทำหนังสือรุ่น สมานมิตร 17
เลขต่อท้ายบ่งบอกว่า
ในปี 2516 ที่จีรนันท์/เสาวณีย์เป็นสองโฆษกให้การเดินขบวน สมศักดิ์ยังใส่ขาสั้นเรียนที่สวนฯอยู่เลย

บทบาทของเขาก็คือเลิกเรียนเดินมาสนามหลวง เข้าไปในธรรมศาสตร์ร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษา ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญสองทุ่มก็กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ทำอย่างเดิน ....ไม่มีที่ให้เด็กนักเรียนเข้าไปรับรู้อะไรในวันนั้น นอกจากนั่งที่สนามฟุตบอล แจกน้ำ อาหาร วิ่งเป็นม้าใช้....ห่างไกลจากห้องประชุมแกนนำมากมาย ความเห็นที่ 198 กระทู้ลูกจีนเนรคุณ


ไม่ใช่แค่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่คุณไม่มีความเข้าใจแนวทางปฎิบัติของขบวนการนักศึกษาในครั้งนั้นเลยและยังลำดับวันเวลาผิดอีกด้วย

1 คุณอ้างเรื่องสมศักดิ์ขึ้นเวทีในเวลานั้นไอ้หงอกเจียมมันไม่ใช่แกนนำก็จริงแต่มันก็ขึ้นเวทีไฮปาร์ค .....น่าสงสารจริงๆ
ที่คุณไม่รู้เลยว่าสมศักดิ์เป็นแกนนำ และที่มันขึ้นเวทีก็เพราะมันพูดเก่ง แต่แกนนำไม่จำเป็นต้องขึ้นเวทีทุกคน
ความเห็นที่ 314 กระทู้ลูกจีนเนรคุณ


เสาวณีย์และจีรนันท์ เป็นโฆษกคู่ของขบวนการนักศึกษา 14 ตุลา 16 วันนั้นสมศักดิ์ยังนุ่งขาสั้นอยู่สวนกุหลาบยังเรียนทฤษฎีมาร์กซิสต์จากเอกสารโรเนียวอยู่เลย

กว่าจะมาเป็นแกนนำธรรมศาสตร์ ก็ปี 2518 ตามรอยพิเชียรและธงชัยที่มาสร้างฐานไว้ให้ เวลา 2-3 ปีในช่วงนั้นมีนัยยะสำคัญจนเอามาเล่าปนกันไม่ได้
ความเห็นที่ 316 กระทู้ลูกจีนเนรคุณ


จากความเห็นข้างต้นของคุณแอมป์ เท่าให้ทราบว่า โอกาสที่สมศักดิ์จะเข้าร่วมขบวนการในฐานะม้าใช้ ก็ คือ เหตุการณ์ในปี 16 เพราะ ในปี 19 คุณแอมป์บอกว่าสมศักดิ์ขึ้นไปอยู่ระดับแกนนำแล้ว

คำถามที่ 2 งานเอกสารที่นายชดกับยัยเหงี่ยมทำ เป็นงานที่สำคัญหรือเป็นงานธรรมดาที่ใครก็ทำได้

2 คุณยังไม่รู้ต่อ จึงบอกว่า มันอาจจะไม่ใช่ตัวเด่นมากมายแต่ถ้าเทียบกัน คุณกระจอกกว่ามัน ซึ่งน่าขัน ระดับที่ผลิตเอกสาร กับระดับที่ขึ้นเวที ลำดับชั้นในขบวนการนักศึกษาต่างกันแค่ใหน...คุณไปศึกษามาก่อนดีกว่า

3 แล้วทำไมคนอย่างไอ้หงอกเจียมถึงต้องมากลัวคนกระจอกกว่ามันอย่างคุณ นี่คือคำพูดของคนที่ไม่รู้เลยว่าสมศักดิ์กับนายชดน่ะ คนละรุ่นกัน นายชดเขาพูดถึงพี่แว่น .......อันเป็นนัยยะสำคัญของเรื่องเล่า เพราะพี่แว่นถูกคุณพ่อขอให้ถอนตัวจากขบวนการนักศึกษา หลังเสร็จภาระกิจโฆษกที่คนทั้งประเทศประทับใจ เธอเป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้ออกทีวีร่วมกับสมบัติ คนรุ่นนั้นมองสมศักดิ์แบบที่นายชดมองทั้งนั้น
ความเห็นที่ 314 กระทู้ลูกจีนเนรคุณ


จากความเห็นที่คุณแอมป์ไปชี้แนะให้หมีคอมมานโด คุณแอมป์ชี้โดนนัยว่างานระดับผลิตเอกสารนั้น สำคัญกว่าคนที่ขึ้นเวทีปราศัย รวมทั้งได้บอกอีกว่านายชดนะคนละรุ่นกับสมศักดิ์

คิดตามที่คุณแอมป์วิเคราะห์และให้ข้อมูลไว้ สมศักดิ์น่าจะเข้าร่วมขบวนการนิสิตนักศึกษาในฐานะม้าใช้ของกลุ่มนักศึกษาที่ผลิตเอกสาร ซึ่งเป็นกลุ่มงานที่มีความสำคัญ ในช่วงปี 16

คราวนี้เราลองมาดูข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับปี 16 กัน ในปี 16 จีรนันท์ พิตรปรีชา ซึ่งเป็นโฆษกของขบวนการนิสิตนักศึกษา กำลังศึกษาอยู่ปี 2 ของจุฬา ถ้านายชด เรียกจีรนันท์ ว่าพี่จี๊ด ดังนั้นนายชดต้องเป็นรุ่นน้องจีรนันท์ เอาว่าแก่ที่สุดที่นายชด จะเป็นได้ คือ เป็นรุ่นน้องจีรนันท์ 1 ปี เท่ากับว่า นายชด อยู่ปี 1

คำถามที่ย้อนกลับมาคือ ถ้างานผลิตเอกสารนั้นสำคัญจริง ทำไมถึงยินยอมให้นายชดและยัยเหงี่ยม ซึ่งเป็นเพียงเด็กปี 1 ที่เพิ่งพ้นจากรั้วมัธยม มาทำงานนี้ ความสมเหตุสมผล มีหรือไม่ ???

โอกาสที่นายชดและยัยเหงี่ยม จะอยู่ส่วนผลิตเอกสาร และมีพาวเวอร์ขนาดที่ยัยเหงี่ยมสามารถพูดจาอย่างที่นายชดว่ามาได้ แทบจะเท่ากับศูนย์ เพราะคนที่จะทำงานสำคัญอย่างงานผลิตเอกสาร ทั้งนายชดและยัยเหงี่ยมน่าจะต้องมีพรรษาแก่กล้ากว่าการเป็นเพียง fresher

ถ้าเป็นเหตุการณ์ในปี 19 ที่นายชดและยัยเหงี่ยมซึ่งน่าจะอยู่ปี 4 ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะทำงานเอกสาร และยัยเหงี่ยมน่าจะมีสิทธิมีเสียงมากมายในการที่จะรับใครหรือนำใครเข้ามาทำงาน (ในเวอร์ชั่น 2009 ที่นายชดว่ายัยเหงี่ม เป็นคนพาสมศักดิ์ เข้ามาเป็นม้าใช้) แต่ตอนนั้นสมศักดิ์ได้กลายไปเป็นแกนนำแล้ว คนที่เป็นแกนนำจะมาขอสมัครทำงานกับพวกนายชดและยัยเหงี่ยม ทำไม

สรุป ถ้าเป็นเหตุการณ์ปี 16 ที่สมศักดิ์เป็นเพียงเด็กมัธยม ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่สมศักดิ์จะเข้าร่วมงานแบบม้าใช้ของพวกพี่ๆ นายชดและยัยเหงี่ยม ก็เด็กเกินกว่าที่จะทำงานเอกสาร(ที่คุณแอมป์บอกเป็นนัยว่าเป็นงานสำคัญ สำคัญกว่าการขึ้นเวที)

แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์ปี 19 ที่นายชดและยัยเหงี่ยม ถือว่าเป็นรุ่นใหญ่ในมหาวิทยาลัย โตและมีพรรษาแก่กล้ามากพอที่จะทำงานสำคัญระดับผลิตเอกสารได้ สมศักดิ์มันก็ได้กลายเป็นแกนนำที่ได้ขึ้นเวที ไปเสียแล้ว มันจะต้องมาสมัครขอช่วยงานเป็นลูกมือส่วนเอกสารทำไม

################################################################

ส่วนที่เพื่อนสมาชิกหลายคนมีความเห็นว่า การถกเพื่อจะรู้ว่าสมศักดิ์ เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง หรือไม่ มันไม่มีความสำคัญอะไร ต่อให้เป็นจริงหรือไม่จริง มันก็ไม่มีผลอะไรต่อสมศักดิ์

ถูกต้องมันไม่มีผลอะไรต่อสมศักดิ์ แต่ถ้ามันไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแจ่มแจ้งว่า สิ่งที่นายชดเล่ามาว่าเพื่อสร้างภาพว่าสมศักดิ์ เป็นแค่คนกระจอกๆคนหนึ่งเป็นเรื่องจริง มันเท่ากับว่า นายชดสร้างเรื่องโกหกเกี่ยวกับสมศักดิ์ขึ้นมา แล้วเรื่องที่นายชดสร้างขึ้นมา ได้ถูกนำไปบอกต่อแล้ว

คำถาม คือ พวกเราเสรีไทย จะจัดการเรื่องนี้ให้ได้ข้อสรุปกันเอง เพราะ ถ้านายชดโกหก อย่างน้อย การโกหกเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของนายชดคนเดียว อาจจะมีเพื่อนๆ บางคนของนายชดที่ออกมาปกป้องกลบเกลื่อนเรื่องราวให้ แต่ก็เป็นแค่เรื่องเฉพาะกลุ่ม ที่ออกมาปกป้องเพราะความรักเพื่อน รักพวกพ้อง หรือจะปล่อยไว้ให้สมศักดิ์ หรือแดง เข้ามาถลกแล้วจับโกหกให้ พร้อมทั้งความน่าเชื่อถือทั้งหมดของเสรีไทยได้พังไปด้วยพร้อมๆกับนายชด

ถ้าถึงวันนั้น ภาพของเสรีไทยคือแหล่งที่สร้างเรื่องโกหก เผยแพร่เรื่องโกหก เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายที่ตนไม่ชอบ ไม่มีการตรวจสอบข้อมูล มีการตัดเรื่องจบ เพื่อช่วยพวกพ้อง มีการล็อกกระทู้ ลบกระทู้ รู้สึกคล้ายๆกับสิ่งที่พวกเราด่าเวปแดงหรือไม่ ตรองดูให้ดี

อันนี้ไม่ได้พูดประชดนะคะ ถ้าใครบอกว่าให้เรื่องจบๆกันไป ไม่ต้องค้นหาความจริง ต่อไปพวกคุณอย่าไปด่าแดงที่เค้าสนับสนุน พรบ ปรองดอง ที่บอกว่าให้เรื่องจบๆ กันไป เพราะพวกคุณกำลังทำเหมือนกัน

เสรีไทยมันเป็นสังคมย่อย ที่สะท้อนสังคมใหญ่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ท่าทีของแต่ละคน คือ การแสดงจุดยืนทางความคิดต่อเรื่อง ถูก ผิด มันใช่เรื่องใครเชียร์ใคร ใครอยู่ฝ่ายไหน แต่เป็นการเลือกแสดงจุดยืน เลือกข้างที่ทำถูกหรือข้างที่ทำผิด เลือกที่จะค้นหาความจริง หรือเลือกที่จะตัดเรื่องจบเพื่อปกป้องพวกพ้องที่อาจจะเป็นคนโกหก พวกคุณเลือกกันเอง

คำพูดของคนคนหนึ่งจะมีน้ำหนัก ไม่ใช่เพราะเป็นคำพูดของคนใหญ่โต ของคนดัง แต่เป็นคำพูดของคนธรรมดาที่เมื่อพูดแล้ว แสดงจุดยืนแล้ว รักษาคำพูดของตนเอง ปฏิบัติอย่างที่ตนเองได้พูดออกไป ไม่ใช่พูดสวยหรู แต่เวลาที่ต้องทำจริงๆ กลับทำตรงข้ามกับที่พูด


Edit: แก้ไขเลขที่ความเห็นจาก 121 เป็น 104

In Topic: สอบถาม-ร้องเรียน-ชี้แจงปัญหาในการตัดสินกับผู้ดูแล

12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 03:54

ขอร้องเรียนให้ม็อดคาราสุ เปิดกระทู้ ข้อเท็จจริงสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง

ตามที่ม็อดคาราสุได้ทำการล็อกกระทู้และบอกให้ pm ไปบอกเหตุผลว่าทำไมถึงสมควรจะเปิดกระทู้ให้เล่นกันต่อ ดิฉันขอเป็นหนึ่งในคนที่ขอให้ม็อดดำเนินการเปิดกระทู้ แต่ขออธิบายเหตุผลไว้ที่หน้ากระทู้นี้ที่ทุกคนสามารถอ่านได้ เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง


1) ในเบื้องต้นได้มีล็อกอินแปลกหน้าชื่อหมีคอมมานโดมากล่าวหาล็อกอินนายชดว่าโกหก ซึ่งต่อมาได้มีการพิสูจน์แล้วว่า ล็อกอินหมีคอมมานโดไม่ได้พูดโกหก ข้อมูลที่นายชดได้เขียนลงในเสรีไทยตรง 10 บรรทัด ที่หมีคอมมานโดยกมาคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยการยืนยันข้อมูลจากคุณเสงี่ยม แจ่มดวง

2) ดังนั้นประเด็นที่ว่า ล็อกอินหมีคอมมานโด ตั้งใจมาใส่ร้ายนายชดโดยข้อมูลโกหกที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามที่คุณแอมป์กล่าวหา ได้ตกไป ประเด็นเรื่อหมีคอมมานโดกับนายชดได้จบไปแล้ว

3) เมื่อมีข้อเท็จจริงดังกล่าว บรรดาสมาชิกที่เข้าไปมุงและร่วมตอบกระทู้นั้นก็ได้รอคำตอบจากนายชด ซึ่งนายชดมาพร้อมกับข้อแก้ตัวที่ว่า ยัยเหงี่ยมที่นายชดยกมานั้น ไม่ใช่คุณเสงี่ยม แจ่มดวง แต่เป็น เสงี่ยม เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เพื่อที่จะแก้ตัวจากข้อกล่าวหาว่าตนเองไม่ได้โกหก พร้อมทั้งโยนว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากการที่ หมีคอมมานโดเข้าใจผิดตีความไปเองว่าเป็นเสงี่ยมเดียวกัน

4) สมาชิกเสรีไทยที่เข้าไปมุงกระทู้แบ่งกันเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อคำแก้ตัวของนายชด อีกฝั่งไม่เชื่อว่ามีเสงี่ยมสองคนจริง แต่เป็นเพียงคำแก้ตัวที่เกิดขึ้นเพราะโดนจับโกหกได้ การแสดงความเห็นกระทบกระแทกกันไป จนม็อดต้องมาปิดกระทู้เป็นระยะ

5) ปัจจุบันความจริงก็ยังไม่ปรากฎ ว่าเป็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่าความเป็นไปได้ของข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คือ
- นายชดโกหกเรื่องของตัวเองในครั้งแรก พอโดนจับได้ ก็มาโกหกซ้ำ

- นายชดไม่ได้โกหก นายชดกับเพื่อนชื่อเสงี่ยมร่วมทำเอกสารและมีสมศักดิ์เป็นลูกมือคอยวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้ จริง และหมีคอมมานโด เข้าใจผิดไปเองว่า ยัยเหงี่ยมที่นายชดพูดถึงเป็นคุณเสงี่ยม แจ่มดวง

6) อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันสิ่งที่นายชดแก้ตัวนอกจากคำพูดเพียงฝ่ายเดียวจากนายชด

อยากให้ม็อดเปิดใจมองว่านี่ไม่ใช่การที่สมาชิกตีกัน แต่คือการถกเถียงกันเพื่อหาความจริง ตอนนี้ต่างฝ่ายก็นำเสนอการวิเคราะห์ของตัวเองกันออกมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่มันควรจะมีข้อสรุปว่าตกลงนายชดโกหกหรือไม่ การปล่อยให้เรื่องจบอย่างไม่มีข้อสรุป มันก่อให้เกิดผลร้ายได้มากกว่าผลดี เพราะ

1) ในกรณีที่นายชดโกหก แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อไปกลายเป็นว่าที่เสรีไทย ใครอยากจะเข้ามาโกหกอะไรก็ได้ ไม่ต้องรับผิดชอบในข้อมูลที่ตัวเองเอามาลง แล้วอย่างนี้บอร์ดเสรีไทยจะแตกต่างจากบอร์ดแดงที่พวกเราวิจารณ์ได้ว่าเป็นแหล่งปล่อยข่าวลือ เล่าเรื่องโกหกได้อย่างไร

2) ประเด็นเรื่องที่นายชดเล่ามามันเกี่ยวพันกับบุคคลที่สาม คือ สมศักดิ์ ส่วนมากคนในเสรีไทย เกลียดสมศักดิ์ ดังนั้นเรื่องที่ไม่ดีของสมศักดิ์ ทุกคนก็พร้อมจะเอาไปเล่าไปบอกต่อเพื่อความสะใจ แล้วการแพร่กระจายของข้อมูลในอินเตอร์เน็ตทุวันนี้รวดเร็วแค่ไหน แต่สุดท้ายการสืบค้นมันก็จะกลับมาที่แหล่งต้นเรื่อง คือ เสรีไทย ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องโกหกที่นายชดอาจจะเล่าขึ้นมาด้วยความสนุกปาก บอร์ดเสรีไทยก็ควรจะต้องร่วมกันแก้ไขความผิดพลาดนี้ โดยการทำเรื่องจริงให้ปรากฎ เพื่อหยุดการแพร่กระจายข่าวที่ไม่จริง

3) ถ้านายชด ไม่ได้โกหกนายชดก็ควรจะได้รับความยุติธรรมในการพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้โกหก

เปิดกระทู้ให้ถกกัน เดี๋ยวจะเกินเลย จนบอร์ดแตกหรือเปล่า

1) สมาชิกเสรีไทยทะเลาะกันทุกวันอยู่แล้วเพราะคนเราต่างมีความคิดเป็นของตัวเองวันนี้เรื่องนี้เห็นตรงกัน พรุ่งนี้ก็อาจจะเห็นต่างกัน คนที่ทะเลาะกันวันนี้ อาทิตย์ต่อไปอาจจะไปสามัคคีร่วมกันด่าแดงก็ได้ และถ้ามองในแง่ของบอร์ดก็นับว่าดี เพราะแสดงว่าบอร์ดเสรีไทย มีความเป็นปัจเจกสูง ไม่ใช่บอร์ดจัดตั้งที่จะมีเพียงแต่คนที่คิดไปในทางเดียวกันเท่านั้น ซึ่งจะดึงดูดให้คนหน้าใหม่ๆ เข้ามาเป็นสมาชิกเพราะสีสันที่หลากหลายของบอร์ด

2) ถ้าปล่อยให้สมาชิกทะเลาะกันไปตามธรรมชาติทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างเรื่องนี้ตอนนี้คนสนใจก็มุงเยอะ แต่ธรรมชาติของความสนใจของคน มันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พอมีเรื่องใหม่ก็ไปมุงเรื่องใหม่ ก็เท่านั้นเอง แต่ถ้าม็อดลงไปล็อกกระทู้พวกที่อยากให้เรื่องตัดจบก็ชอบ แต่พวกที่ตามเรื่องอยู่ก็จะมองว่าม็อดเข้าข้างอีกฝ่าย คราวนี้จะกลายเป็นประเด็นเรื่องม็อดไม่เป็นกลาง เรื่องมาตรฐานบอร์ด

3) เท่าที่สังเกตุบอร์ดจะแตกไม่ใช่เพราะสมาชิกทะเลาะกัน แต่เพราะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม จากผู้ดูแล ซึ่งมันเกิดจากการล็อกกระทู้ อุ้มกระทู้ จนทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าเรื่องถูกตัดจบเพื่อช่วยอีกฝ่าย ดังนั้นถ้าไม่อยากให้บอร์ดมีปัญหาก็ปล่อยให้ค้นหาความจริงกันไป ถ้าฝ่ายหนึ่งอยากได้คำตอบ อีกฝ่ายไม่มาตอบ สุดท้ายคนที่ตามอยากค้นหาความจริงก็คงยอมรับว่าทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าเรื่องจบแบบนี้ ถึงค้างคา แต่มันก็จะไม่มีปัญหากับบอร์ด เพราะบอร์ดได้เปิดโอกาสให้ถกและค้นหาความจริงอย่างเต็มที่ ไม่มีการปิดกั้น

หวังว่าเหตุผลที่ยกมาให้ทั้งหมดจะเพียงพอต่อการสนับสนุนขอให้มีการเปิดกระทู้เพื่อถกกันต่อได้

...............................................................................................
edit เพื่อแก้คำผิด

In Topic: ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

11 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:12

ผมจะตอบคุณพิงค์ หลังจากฟังคำแก้ตัวของคุณหมีคอมมานโดครับ


หมีคอมมานโด เกี่ยวอะไรด้วยเหรอคุณแอมป์ เท่าที่เห็นหมีคอมมานโดเข้ามาโควท 10 บรรทัดของนายชดมาแล้วบอกว่าโกหก ต่อมาให้รายละเอียดว่าโกหกอะไร โดยบอกว่าข้อมูลที่ได้มา มาจากคุณเสงี่ยม แจ่มดวง ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นการะเกด พวกเราหลายๆคนไม่เชื่อ คุณแอมป์ออกหน้าออกตาที่สุด ทางหมีคอมมานโดบอกว่าถ้าคุณแอมป์อยากพิสูจน์ว่าหมีคอมมานโดพูดจริงหรือเปล่า ก็จะให้คุณแอมป์ได้คุยกับคุณเสงี่ยม แต่คุณแอมป์ไม่ทำ ทางนั้นก็จบเรื่องไม่ต่อความ คุณแอมป์ก็มาตั้งกระทู้นี้เสียดสี จิกกัด พร้อมทั้งวางเบอร์โทรศัพท์ ท้าทายว่าใครอยากรู้ว่านายชดโกหกอะไร ให้โทรไป พอดีมีคนแส่ทุกเรื่อง อย่างปีศาจ เลยโทรไปแล้วมาบอกว่าหมีคอมมานโดไม่ได้โกหก หมีคอมมานโดก็มาปิดประเด็นในส่วนของที่เค้าได้กล่าวหานายชดว่าโกหก ว่าตกลงเค้าพูดพูดจริง ประเด็นของหมีคอมมานโด มันจบไปแล้ว

ประเด็นตอนนี้ คือ ข้อแก้ตัวของนายชดที่บอกว่ายัยเหงี่ยมของนายชด คือ เสงี่ยม เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ไม่ใช่คุณเสงี่ยม แจ่มดวง ซึ่งไม่มีอะไรเลยยืนยันคำพูด นอกจากคำพูดและการรับรองจากคุณแอมป์ หลักฐานที่น่าเชื่อถืออะไรก็ไม่มี นอกจากการพูดวนไปวนมา ดิสเครดิตฝั่งตรงข้ามว่าทำเป็นขบวนการ ทุกอย่างมีหลักฐานอะไรบ้างนอกจากความเชื่อและความลำเอียงของตัวคุณแอมป์ แล้วเรียกร้อให้หมีคอมมานโดต้องออกมาตอบคำถามบ้าบออะไรของคุณแอมป์ แถมที่พิการจนเกินจะรับก็ตรงบอกให้หมีคอมมานโดไปหาตัวเสงี่ยมที่นายชดอ้างมายืนยัน ไหนคุณแอมป์พูดแล้วพูดอีกว่า คนที่กล่าวอ้างต้องหาหลักฐานมายืนยัน

ตอนนี้คนที่กล่าวอ้างคือ นายชด คนที่ใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นขบวนการ ก็คือ คุณแอมป์ แต่สิ่งที่คุณแอมป์ทำ คือ การบอกให้อีกฝ่ายมาตอบคำถามที่เป็นข้อแก้ตัวของพวกคุณ ตกลงคุณแอมป์จะแกล้งบ้า เพื่อสอนให้เพื่อนๆในนี้รู้จักคำว่าสองมาตรฐานอย่างแจ่มแจ้งใช่หรือไม่