Jump to content


Bookmarks

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 2552
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 01:03
*****

Topics I've Started

ตำรวจเชื่อยิงรถสาวทอมเป่านกหวีดแค่ขู่ ตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สิน

6 เมษายน พ.ศ. 2557 - 02:03

สมควรที่จะต้องปฎิรูปตะกวดโดยด่วน ยิงใส่รถที่มีคนนั่งอยู่ เอาปืนจ่อหัว ตั้งข้อหาแค่ทำลายทรัพย์สิน :blink:  

 

ตำรวจเชื่อยิงรถสาวทอมเป่านกหวีดแค่ขู่ ตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สิน

 

ยิงรถสาวทอมเป่านกหวีดใส่นายกฯ ตำรวจเชื่อเป็นแค่การข่มขู่ ตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สิน ด้านพรรคเพื่อไทย แนะผู้เสียหายเข้ากระบวนการยุติธรรม จวก สุเทพ อย่ามากล่าวหาเป็นการใช้อำนาจมืดกับคนไม่จำนนต่อระบอบทักษิณ
 
                ความคืบหน้าคดี นางสาวพัทธนันท์ หลีล้วน สาวทอมเป่านกหวีดใส่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูก 2 คนร้ายบุกทุบรถและยิงใส่รถปิกอัพ ล่าสุด วันนี้ (5 เมษายน 2557) พ.ต.อ.ชาติชายวรกุล ผกก.สภ.เขาค้อ กล่าวถึงการตั้งข้อหาคนร้ายว่า ในชั้นนี้ตั้งข้อหาเพียงทำลายทรัพย์สินเท่านั้น ส่วนข้อพยายามฆ่ายังต้องรอผลการตรวจสอบวิถีกระสุนจากเจ้าหน้าที่กองวิทยาการก่อน แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นจากร่องรอยกระสุนที่รถที่ถูกยิงใส่ ลักษณะการยิงน่าจะเป็นการข่มขู่มากกว่าความต้องการเอาชีวิต โดยเฉพาะคนร้ายทุบกระจก จนเห็นผู้เสียหาย หากจะมุ่งเอาชีวิต คงยิงใส่คนได้ทันที
 
                พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวอีกว่า สำหรับปมสาเหตุนั้น เบื้องต้นคงตั้งไว้ครอบคลุมทุกประเด็นตั้งแต่ขัดผลประโยชน์เรื่องชู้สาวและเรื่องการเมือง โดยเฉพาะประเด็นหลังค่อนข้างหนักหน่อยและผู้เสียหายก็ปักใจเชื่อ แต่จะเป็นกลุ่มไหนคงต้องขึ้นอยู่กับแนวทางการสืบสวน แต่อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีทั่วไปคงไม่มีการตั้งทีมสืบสวนเพื่อคลี่คลายโดยตรง แม้จะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนก็ตาม
 
                ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคดีนี้เช่นกันว่า ขอให้นางสาวพัทธนันท์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลยินดีให้การช่วยเหลือแต่อย่ากล่าวหาโดยไร้หลักฐานเหมือนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมากล่าวหาว่าเรื่องนี้เป็นกระบวนการที่ใช้อำนาจมืดต่อประชาชนที่ไม่จำนนต่อระบอบทักษิณ 
 
                ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงขอประณามนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ที่มาจับทุกเรื่องโยนใส่นายกรัฐมนตรีเช่นนี้ เพราะการที่นางสาวพัทธนันท์เป่านกหวีดใส่นางสาวยิ่งลักษณ์ในวันนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก มีแต่นายสุเทพที่มอบนกหวีดทองคำให้ใหญ่โต เหมือนกับเชิดชูมือปืนป๊อปคอร์น

 

 

“มิสเตอร์เฉิน”ตัวละครบริษัทขายข้าวโผล่ปล่อยกู้“เมียอริสมันต์”

18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 18:44

erereyuyu.jpg

 

ชื่อของ นายจุ้ง เชียงเฉิน อดีตกรรมการบริษัท เอ็ม.ทีเซ็นเตอร์เทรด จำกัด ผู้ชนะประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาล จำนวนกว่า 1.9 ล้านตัน เพียงรายเดียว ในสมัยที่ นางพรทิวา นาคาศัย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก่อนจะถูกตรวจสอบพบเงื่อนงำ จนกระทั่งมีการยกเลิกการประมูลไปในที่สุด กำลังถูกจับตามองอีกครั้ง
 
หลังนายจุ้ง เชียงเฉิน ปรากฏรายชื่อหนึ่งใน “เจ้าหนี้” ของ นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ภรรยา นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ช่วงพ้นตำแหน่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา
 
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 นางระพิพรรณ ระบุว่า มีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำนวน 3 ราย คือ
 
1.นายไชยา พงศ์เรืองรอง ที่อยู่ 33/1 หมู่ 8 ต.หนองกบ ราชบุรี วันทำสัญญา 15 ธ.ค.2554 ยอดหนี้คงเหลือ 2,000,000 บาท
 
2. mr.chenJunchang (นายจุ้ง เชียงเฉิน ) ที่อยู่ 95 หมู่ 13 อ.ม่วงสามสิบ อุบลราชธานี วันทำสัญญา 1 ก.ย.2555 ยอดหนี้คงเหลือ 5,000,000 บาท
 
3.นายสมบัติ พิษณุไวศยวาท ที่อยู่ 44/13 ถ.บ้านปากแรด อ.บ้านโป่ง ราชบุรี วันทำสัญญา 9 ก.ค. 2556 ยอดหนี้คงเหลือ 6,000,000 บาท
 
รวมจำนวนหนี้สินทั้งหมด 13,000,000 บาท
 
จากการตรวจสอบพบว่า สัญญากู้ยืมเงิน ที่นางระพิพรรณ กับ นายจุ้ง เชียงเฉิน ที่ระบุว่าจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2555 ทำที่บ้านพักส่วนตัวของนางระพิพรรณ และนายอริสมันต์ บ้านเลขที่ 342/2 ซอยเสือใหญ่ อุทิศ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
 
โดย นายจุ้ง เชียงเฉิน ตกลงให้ นางระพิพรรณ กู้เงินเป็นจำนวน 5,000,000 บาท และในวันทำสัญญาฉบับนี้ นางระพิพรรณ ได้รับเงินจำนวน 1,000,000 บาท จาก นายจุ้ง เชียงเฉิน ไปแล้วตั้งแต่วันที่ทำสัญญา ส่วนเงินที่เหลืออีก 4 ล้านบาท นายจุ้ง เชียงเฉิน จะให้ นางระพิพรรณ กู้เป็นงวดๆ 5 แสนบาท เป็นเวลา 8 งวด จนกว่าจะครบตามจำนวนเงินทั้งหมด
 
ขณะที่ นางระพิพรรณ ยินยอมชำระดอกเบี้ยให้ นายจุ้ง เชียงเฉิน ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจนถึงวันที่ชำระเสร็จสิ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5.4 ล้านบาท
 
โดยนางระพิพรรณ ตกลงชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย คืนในวันที่ 1 กันยายน 2557 นี้ หากนางระพิพรรณ ผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง นายจุ้งเชียงเฉิน สามารถบอกเลิกสัญญา และทำการเรียกเงินต้น พร้อมดอกเบี้ยคืนได้ทันที
 
erertrrr.jpg
 

ลุงกำนัน ช่วยสงเคราะห์คนนี้หน่อยครับ เห็นบอกว่าอยู่นครศรีธรรมราช

4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 20:59

1118281_100000150477496_1533428232_q.jpg

เรื่องนี้ต้องถึงหูณัฐวุฒิ..!! 

*** แกนนำ กปปส.หอบเงิน เกือบ 300 ล้าน ซื้อที่ดินเมืองคอน ***

มีข่าวมาบอก (ชัวร์ ครับ)... แกนนำ กปปส.ระดับสูง ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน กับอดีตนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในราคา 280 ล้านบาท วางมัดจำ 60 ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดก็ผัดผ่อนเรื่อยมา จนมีการดำเนินคดีให้รับโอนที่ดินตามที่ตกลงซื้อไว้ 

กระทั่งเมื่อมีการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของ กปปส. แกนนำเคลื่อนพลนำมวลชนออกเรี่ยไร รับบริจาคเงินจากคนกรุงเทพ และ คนภาคใต้ได้จำนวนมหาศาล แต่กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวมารับโอนที่ดิน (แปลงที่พิพาทกันอยู่) การโอนที่ดินมีขึ้นในวันที่ กปปส.ไปปิดสำนักงานที่ดินนั่นเอง 

สำหรับเงินค่าที่ดินที่ต้องจ่ายแก่ผู้ขาย ในวันโอนคือ จำนวน 220 ล้าน ไม่ได้เป็นเช็ค หรือดร๊าฟ แต่เป็นเงินสด ๆ กลิ่นหอม ๆ นับกันบนสำนักงานที่ดินเลยทีเดียว (ไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าอากร )

หายสงสัยหรือยัง ทำไมแกนนำ สั่งให้ปิดส่วนราชการ /สำนักงานที่ดิน ในวันนั้น ?

เมื่อหลักฐานพร้อม คนพร้อม เราจะเอามาเผยให้ตาสว่างกันสักที !!

วัลลภ พิธีพรม เสื้อแดงคดีเพียบ ได้เงินเยียวยา 1 ล้าน 7 แสนบาท?

11 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:01

สรุปลำดับการยิงระเบิด M79 ที่วัลลภ พิธีพรมถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยิง 
(สรุปจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath....ay/view/129252)
 
#1 : 16 มี.ค.53 ยิงธนาคารกรุงเทพ สาขารัชโยธิน จำนวน 1 นัด กระสุนตกใกล้บ้านพักนายอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#2 : 4 เม.ย. 53  ยิงบริเวณลานจอดรถห้างแม็คโคร  ถนนเชียงใหม่-ลำปาง  ต.หนองป่าครั่ง  อ.เมืองเชียงใหม่ (ไม่มีการดำเนินคดี)
#3 : 4 เม.ย. 53  ยิงโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ตนานุวัฒน์ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ ด้านหลังห้างแม็คโคร สาขาหางดง (ไม่มีการดำเนินคดี)
#4 : 10 เม.ย.53 ยิงจากสะพานมัฆวาน เพื่อผลักดันทหาร ตำรวจ บริเวณตึกไทยคู่ฟ้า และตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล จำนวน 3 นัด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#5 : 28 เม.ย.53 ยิงใส่บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาตลิ่งชัน จำนวน 1 นัด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#6 : 8 พ.ค.53 ยิงใส่บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนวิภาวดี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จำนวน 1 นัด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#7 : 10 พ.ค. 53 ยิงใส่สำนักงานกู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ จ.อุตรดิตถ์ (ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต)
#8 : 14 พ.ค.53 ยิงจากฐานที่มั่นใต้สะพานยกระดับประตูน้ำ ไปทางบริเวณหน้าโรงแรมอินทรา แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี จำนวน 4 นัด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#9 : 16 พ.ค.53 ยิงจากฐานที่มั่นหลังสวน (แยกราชประสงค์ตัดถนนวิทยุ) ไปทางสวนลุมพินี (ไม่มีการดำเนินคดี)
#10 : 16 พ.ค.53 ยิงจากฐานที่มั่นถนนอโศก ไปทางทิศที่มีป้ายบอกทางด่วนท่าเรือ จำนวน 60 นัด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#11 : 18-19 พ.ค.53 ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ากระชับพื้นที่ในรอบทิศทางไม่ทราบแน่ชัด ว่าจุดใดบ้าง ประมาณ 120 นัด (ไม่มีการดำเนินคดี)
#12 : 6 ก.ย. 53 ยิงด้านหน้าค่ายกรมรบพิเศษ 5 ค่ายขุนเณร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ไม่มีการดำเนินคดี)
#13 : 12 ก.ย. 53 ยิงอาคารที่ทำการบริษัทเชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด ของนายคะแนน สุภา (ศาลจังหวัดsเชียงใหม่ยกฟ้อง)
 
ถาม : เงินเยียวยาเป็นอย่างไร คุ้มไหม
วัลลภ : 1ล้าน 7แสน กับสองปีกว่าในคุก ซื้อบ้านกับเอาไปใช้หนี้ที่กู้เอามาเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวสามแสนก็หมดแล้ว ดอกเบี้ยวันละพัน ผมไม่ได้เป็นเสื้อแดงเพราะเงิน ไม่มีใครรู้ว่าติดคุกแล้วจะได้เงิน ไม่มีใครรู้ว่าตายแล้วจะได้เงิน อันนี้ถือว่าเป็นกำไรชีวิตถ้าได้มา แต่ถ้าไม่ได้มาก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว เพราะจริงๆ แล้วทำทุกสิ่งทุกอย่างลงไปด้วยอุดมการณ์ทั้งนั้น คือเราไม่อยากเห็นใครมาทำร้ายประชาชน ตัวผมเองผมไม่เคยคิดแล้วก็ไม่เคยรู้ว่าติดคุกแล้วจะมีเงินส่วนนี้มา ไม่เคยหวังว่าในขณะที่ติดคุกอยู่จะต้องมีใครมาดูแลมาช่วยเหลือ
 

 


เห็นเสื้อแดงเขาว่า รถไฟความเร็วสูงของลาวให้งบแพงกว่าไทย

9 มกราคม พ.ศ. 2557 - 00:30

 
สลิ่มบางตัวอิจฉารถไฟลาวสร้างแล้ว....
ทีของไทยจะทำ กรูเห็นสลิ่มรั้งกันใหญ่ กลัวเป็นหนี้ ของลาวทำแพงกว่ากรูไม่เห็นเขาจะกลัว***ไรเลย 
...................................................
-*ลาวใช้ 1.2 แสนล้าน สร้างระยะ 220 กม.
-ไทยใช้ 3.8 แสนล้าน สร้างระยะ 669 กม.(สายเหนือ กรุงเทพ - เชียงใหม่)
-*ไทยใช้ 8.2หมื่นล้าน สร้างระยะ225 กม.(กรุงเทพ - หัวหิน
999919_466368286801979_92182511_n.jpg