Jump to content


OsirisEyeInSky

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 2552
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2556 20:40
-----

Topics I've Started

ไฟฟ้าดับหลายจังหวัดในภาคใต้.. เกิดอะไรขึ้นหรือครับ

21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:21

ได้ข่าวจากเพื่อนๆ หลายจังหวัดภาคใต้ว่าไฟดับกันทั้งเมือง ปัตตานี ภูเก็ต หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี  อัพเดทข่าวกันหน่อยนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นขณะนี้


จะมีชาติไหนทน เท่าคนไทย ยกเลิก ไม่ขายเบนซิน 91 .. คนจนๆ มีรถเก่า ก็ปรับใช้โซฮอลล์กันต่อไป

17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:19

อย่ามาบอกนะครับ  ว่ารถเก่า เปลี่ยนจากเบนซิน 91 ไปเป็นโซฮอลล์ จะไม่มีผลกระทบ 

ประเทศสารขัณฑ์นี่ ดีแท้  นึกจะบังคับ ปรับ เปลี่ยน ห้าม แก้ไข ฯลฯ อะไรก็ทำได้อย่าง

สะดวกโยธินยิ่งกว่ารัฐบาลเผด็จการหรือรัฐบาลคอมมิวนิสต์  และประชาชน บ้านนี้ เมืองนี้

ก็ช่างไร้ปากเสียงเสียจริงๆ ..  อนิจจา!  


ยกย่อง “ราตรี” วีรสตรี “จิตตนาถ”แนะ“อภิสิทธิ์-สุเทพ”ควรไปกราบเท้าขอขมา

4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:16

ติดตาม ผู้จัดการออนไลน์มานานพอสมควร  เช้านี้อ่านข่าวกรอบนี้ แล้วเกิดความสงสัย  ว่าทำไม รบ. อภิสิทธิ์ ในขณะนั้น  ยืนยันว่าคนไทยไปล้ำแดนเขมร

มีเหตุผลเบื้องหลังอันใดหรือไม่  ในบอร์ด เสรีไทย  น่าจะมีการพูดคุยเรื่องนี้กันบ้าง  หากใครมีข้อมูลจะช่วยชี้แนะแนวทางให้ค้นหาก็จะขอบพระคุณยิ่ง

 

อนึ่ง  ในข่าวที่อ่านนั้น  กวาดสายตาผ่านก็สะดุดกับอะไรบางอย่าง.. (ตามที่เน้นตัวหนาข้างล่าง)..  จึงสงสัย ว่า ผจก. ทำอะไรอยู่  มีจุดมุ่งหมายอย่างไรหรือ

และการนำเสนอข่าวเช่นนี้  ถือว่าเป็นการเสี้ยม หรือไม่ ... อันนี้ก็คงต้องถาม สาวกเหลืองแป๊ะ ตลอดจนผู้รู้ ช่วยไขความกระจ่างทีเทอญ  

 

 

 

 

 

กับข่าวก่อนหน้านั้น ใน ผจก. ออนไลน์...

      ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

“ราตรี” เปิดใจชีวิตในเรือนจำ ย้ำไม่ได้ล้ำแดนเขมร โกรธ ปชป.เมินรักษาประโยชน์ชาติ

 

 วันนี้ 3 ก.พ. เมื่อเวลา 20.00 น. น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ พร้อมด้วย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และนายตายแน่ มุ่งมาจน ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ถูกกัมพูชาจับกุมตัวในข้อหาบุกรุกแผ่นดิน ได้ร่วมสนทนาในรายการ “ก่อนจะถึงจันทร์” ออกอากาศทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

       
       น.ส.ราตรีกล่าวว่า หลังจากศาลกัมพูชาตัดสินในวันที่ 1 ก.พ. 2554 วันที่ 4 ก.พ. นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ได้เข้าพบตนกับนายวีระ โดยพูดว่ามาในฐานะเพื่อนไม่ได้มาในฐานะตำแหน่งรัฐมนตรี และเสนอว่าจะให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่ได้บอกว่าจะช่วยรูปแบบไหน แต่ตนก็เข้าใจเองว่าคงเป็นการเจรจาระหว่างรัฐบาลสองประเทศ แล้วจะได้รับการปล่อยตัว ระหว่างที่รอความช่วยเหลือตนก็ทวงถามตลอด ได้คำตอบแต่ว่าต้องรอให้กัมพูชาพิจารณา แต่ติดเงื่อนไขการอภัยโทษ ซึ่งเรายังไม่เข้าหลักเกณฑ์ พออยู่ๆ ไปความหวังก็น้อยลง จนกระทั่งอยู่ได้ 4 เดือนก็เลิกหวัง คิดว่าได้ออกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น พอคิดอย่างนี้ได้ก็สบาย เพราะก่อนนี้คาดหวังว่าจะได้ออกวันนั้นวันนี้ แต่พอถึงเวลาแล้วมันไม่ได้ตามที่คิดก็ผิดหวัง จึงคิดว่าใช้เวลากับวันนี้ให้ดีที่สุด โดยระหว่างที่อยู่ในเรือนจำสถานทูตไทยในกัมพูชาก็คอยช่วยเหลือตลอดว่าขาดเหลืออะไร ไม่ได้เงียบหายไปเลยซะทีเดียว
       
       น.ส.ราตรีเล่าถึงความเป็นอยู่ในเรือนจำว่า เนื่องจากเป็นชาวอโศก ถูกฝึกให้ลำบากอยู่แล้ว จึงปรับตัวได้ไม่ยาก แล้วทางเรือนจำก็ค่อนข้างดูแลดีกว่านักโทษคนอื่น ห้องที่ถูกขังจากเดิมอยู่กัน 20 คน พอตนเข้าไปเขาก็เคลียร์ให้ โดยอยู่ร่วมกับนักโทษชั้นดีอีก 3 คน
       
       กิจกรรมที่ทำระหว่างอยู่ในเรือนจำก็คืออ่านหนังสือ ถ้าไม่ได้หนังสือคงแย่ แล้วก็ทำอาหารกินเอง เพราะกินมังสวิรัติ แต่มีการห้ามไม่ให้นักโทษคนอื่นมาคุยกับเรา ถ้ามาคุยเขาจะถูกลงโทษ แต่ด้านนายวีระจะลำบากกว่ามาก นอกจากไม่ให้คุยกับใครแล้วยังห้ามไม่ให้เอาหนังสือเข้าไปเลย
       
       ตอนที่รู้ว่าต้องถูกจำคุก ตนห่วงอยู่สองเรื่อง คือ เรื่องงาน และความรู้สึกของครอบครัว ตลอดเวลาก็พยายามพูดคุยเฉพาะเรื่องที่ไม่ให้เขาเป็นห่วง
       
       น.ส.ราตรียังกล่าวด้วยว่า การที่ได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไขอภัยโทษ ที่ต้องรับโทษ 2 ใน 3 แต่นี่ยังไม่ถึง โดยข่าวที่ได้รับมาเขาบอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอให้ถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 3 เลยอ้างถึงโอกาสพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระนโรดมสีหนุ รัฐบาลกัมพูชาจึงยอม
       
       น.ส.ราตรีกล่าวถึงความรู้สึกเมื่อได้รับการปล่อยตัวว่า ยังไม่ดีใจเพราะยังมีเพื่อนอยู่ที่นั่นอีกคนหนึ่ง แล้วถึงวันนี้ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้รุกล้ำแผ่นดินเขมร ช่วงก่อนขึ้นศาลสู้คดีวันที่ 1 ก.พ. 54 ตนได้หลักฐานเพิ่มหลายอย่าง มีความมั่นใจเต็มร้อยว่าสิ่งที่เราพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
       
       เมื่อถามว่าโกรธรัฐบาลอภิสิทธิ์หรือไม่ ที่ยืนยันว่าคนไทยล้ำแดนเขมร ร.ต.แซมดินกล่าวว่า ตนแปลกใจ และงงว่าทำไมไปบอกว่าเป็นของกัมพูชา ไม่ได้โกรธรุนแรง แต่การพูดแบบนั้นไม่เพียงแค่ทำให้เรารับโทษ แต่ทำให้ไทยเสียอธิปไตย เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ไปยอมรับอย่างนั้น ทั้งที่พี่น้องคนไทยที่อยู่ตรงนั้นก็มีเอกสารสิทธิชัดเจน สืบจากยูเอ็น ทหารที่ทำงานอยู่ที่นั่น พี่น้องที่อยู่ตรงนั้น มันก็ชัดเจน ไม่ใช่เรื่องลึกลับสืบยาก แต่ในฐานะนายกฯไปออกทีวี มันชัดเจนว่าไปยอมรับ รองนายกฯก็บอกว่าให้เป็นไปตามกัมพูชา พล.อ.ประวิตรก็มาซ้ำอีก การทำแบบนั้นมันเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเสียหายรุนแรง
       
       ด้านนายตายแน่  กล่าวว่า ปัญหาชายแดนถูกปล่อยปละละเลยมาหลายยุคหลายสมัย กรณีบ้านหนองจาน เกิดหลังจากการที่ยุบศูนย์อพยพแล้ว แต่รัฐบาลไม่เคลียร์คนให้กลับประเทศ พื้นที่ 4.6 ตร.กม.ก็เช่นกัน ปัญหาเกิดมานานแล้ว จะบอกว่าต้องด่าทุกรัฐบาล แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์รู้ปัญหาบ้านหนองจานมาตั้งแต่ตอนเป็นฝ่ายค้านแล้ว เพราะปี 2545 ส.ส.ประชาธิปัตย์เคยตั้งกระทู้ถามสด พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงว่ารู้ปัญหามานานแล้ว แต่พอเป็นรัฐบาลไม่แก้ปัญหา ตนไม่ได้โกรธในตัวบุคคล แต่เราต้องเข้าใจความจริง ต้องพูดความจริง
       
       น.ส.ราตรีกล่าวว่า ตนไม่โกรธว่าทำไมไม่ช่วยเรา แต่โกรธว่าทำไมไม่ดูแลประเทศชาติ เหมือนจะเอาประเทศชาติใส่พานไปถวาย ตนและนายวีระถูกกระทำมันเป็นการเสียอิสรภาพของเรา แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่นั้น ยิ่งกว่านั้นคือผลประโยชน์ประเทศชาติ ที่รัฐบาลไม่ดูแลรักษาไว้ทั้งที่เป็นหน้าที่ ตรงนี้ที่น่าโกรธมากกว่า
       
       “อยากฝากบอกทุกคนว่า ทุกคนมีหน้าที่ ต้องปกป้องสิทธิตัวเอง ที่มากกว่านั้นคือ หน้าที่ปกป้องประเทศชาติบ้านเกิดของตัวเอง ถ้าไม่ทำวันหนึ่งการละเมิดสิทธิก็จะมาถึงตัว อย่ามองว่าชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องไกลตัว ฉะนั้นอย่าละเลยทำหน้าที่พลเมืองดี”
       
       น.ส.ราตรียังกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจด้วยว่า เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ตนไม่ท้อแท้ และยิ่งเป็นแรงขับว่าต้องสู้เพื่อแผ่นดิน
       ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------