voodoo

อย่าลืมโฆษกตำรวด คนเก่งที่ชื่อว่า ปิยะ  เสียล่ะ คนนี้แถลงข่าวให้ข่าวเท็จต่อสังคม ทำให้วุ่นวาย

สู้ไอ้ขวดไม่ได้ ไอ้ขวดยังแน่ซะก่า

อยากรู้ไอ้ขวดเขียนอะไร ไปหาดูเอาเอง

เคยเจอมันครับข้างนอก เวลาไปไหนมันจะรีบเดินแล้วเข้าไปหลบในรถรอ เหมือนกลัวคนเห็นมัน
ไอนี้ขี้ขลาด เดินถนนแบบคนปกติยังไม่กล้าเลย

คนที่โง่ที่สุดคือไอ้พวกมวลชนของไอ้ลายจุด

โดนหลอกเต็มๆศรัทธากับไอดอลมันจนโงหัวไม่ขึ้น
เข้าใจอยู่นะกับพวกคนประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีเงินจ้าง
เพราะสมองโดนล้างเรียบร้อยแล้ว เป็นสาวกโดยหัวใจ
แอคชั่นมันเลยเยอะเหมือนเจอพวกโอทาคุประเภทหัวรุนแรง
 

เป็นไงล่ะ สาวกของลายจุด

โดนหลอกให้โดนจับฟรีๆ

ส่วนลายจุดนอนตีพุงสบายไป

หาหัวหน้าแกงค์ใหม่เถอะ

กำลังอึดอัดอยู่ว่า หลายรายกำลังเชียร์เลยเถิดไปหน่อย

ถึงขั้นให้เป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ ไล่ล่า ขังลืม ยิงทิ้ง อย่างนี้แรงไป

ความถูกต้องเหมาะสมต้องคงอยู่ ควนถอยกลับมาเชียร์อย่างมีสติ

อย่าลืมว่า เขาทำเพื่อระงับเหตุและสลายสีเสื้อ ไม่ใช่เข้ามาทำแทน กปปส. โดยตรง

แน่นอนว่าถูกใจฝ่าย กปปส.ส่วนใหญ่ เขาก็ประกาศอยู่เขาไม่เป็นพวกของใคร

เขาเป็นพวกใครไม่ได้ ไม่งั้นงานสลายสีเสื้อก็ไม่มีวันเป็นไปได้

ส่วนเหตุการณ์จะพัฒนาเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับทักษินเต็มตัวนั้นก็เป็นไปได้

ตามสถานการณ์พาไปถ้าทักษินและเสื้อแดงไม่ยอมสลายตัว

กลับมาตั้งหลักกันใหม่ดีกว่าครับ เชียร์ได้ ผมก็เชียร์ แต่ต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่เขาด้วย

และเชียร์แล้วก็อย่าลืมจับตาดูว่า เมื่อมีอำนาจเบ็ดเสร็จในมือ เขาจะหลงมัวเมาอำนาจจนเลยเถิดเกินควรหรือไม่

ปล.ต่อไปใครเชียร์ให้ตัดหัวคั่วแห้งฆ่าแกงกันผมขออนุญาตลบ เพราะถือว่าปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง ไม่เป็นผลดี ปล่อยไปจะฮึกเหิมลืมตัวกันไปเรื่อย

 

 

 

ผมว่าทหารดูแรงต้านครับถ้าเงียบก็จะถูไถไปเอาแค่ระดับขี้ข้ากับฮาร์ดคอร์ แต่ลองแบบวันนี้นี่ คิดว่าคงอยู่เฉยไม่ได้ครับ เพราะในหลายพื้นที่มีการขยับกันมาก ถ้าไม่กระชับอำนาจสงสัยจะเละครับ

 

แน่นอนการรักษาความสงบจำเป็นต้องทำ แต่ก็ต้องเท่าที่จำเป็น

และต้องไม่ทำให้รูปการณ์แย่ไปกว่าเดิม

 

แล้วถ้าทักษิณตั้งใจให้แย่กว่าเดิม?

 

ลิเบียโมเดล?

 

ทำไปก็ไม่มีประโยชน์กับทักษิณ ทักษิณจะทำทำไมครับ

 

เผาศาลากลางทักษิณก็ไม่ได้อะไรฮะ

 

 

 

 
พูดง่ายๆคือ "เป็นคนพูดมากฟังน้อย  หรือพูดคนเดียวแล้วไม่ฟังใคร"
 
ถ้าผมเจอหนเดียวผมจะไม่กล้าด่วนสรุปเขา เพราะมันไม่แฟร์ แต่นี่เจอกี่ครั้งเป็นทุกครั้ง

โค ตะ ระ เห็นด้วย

ไม่เคยร่วมงานอะไรหรอกแต่ฟังตอนเค้าพูดบนเวทีดึกๆ ถ้าพูดคนเดียว พูดน้ำไหลไฟดับ ธรรมะนำทาง เรื่องโน้นออกเรื่องนี้
แต่พอขึ้นเวทีพร้อมกับท่านอื่น เช่น วันเด็กที่มีขึ้นไปเล่นเกมส์รับรางวัล หรือวันที่ขึ้นไปกับอาจารย์ปืง อาจารย์กบ เท่าที่ฟังไป เค้าไม่ให้เกียรตผู้ร่วมเวที

เป็นคนมีอัตตาสูง ไม่ใช่คนอ่อนน้อม เป็นคนแข็ง โดยยึดติดว่าตัวข้ามีธรรมมะ

คนที่ศึกษาธรรมะมานาน หลายคนมักเป็น เอาธรรมมะมาเป็นอัตตาวางตัวตนไว้สูงกว่าผู้อื่น
ไม่ควรเป็นเช่นนั้น


สังเกตพระอริยสงฆ์ มักจะดูเมตตา กรุณา ยิ้มแย้ม เบิกบาน แต่เปี่ยมไปด้วยความสงบ ร่มเย็น

 

 

 

โอว ใช่เลยครับน้านิ่ม  แปลว่าน้านิ่มก็ "สัมผัส" กระแสของคุณอี้ แบบเดียวกับผมเลย

"ไม่ให้เกียรติผู้ร่วมเวทีคนอื่น".... ใช่เลยคำนี้ แต่ผมคิดคำพูดไม่ออกครับ...

 

นี่คน 2 คนต่างกรรมต่างวาระรู้สึกเหมือนกัน ตรงกัน

ไม่บังเอิญแล้วครับ

 

ไม่อยากโยง  อดีตเพื่อน ควายแดง ผมก็เป็น (วัดจานบิน)

คิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง เอาธรรมโม๊ะ มาอ้างตลอด ทั้งๆ ที่ต่อจากธรรมโม๊ะ เป็นเรื่องผิด

เหนื่อยใจจริงๆ        

กรณีนี้ ผมคิดต่างกับ อี้แทนคุณนะ เพราะบอกตรง ๆ ว่า จากความรู้สึก และความรู้สึกส่วนตัวเลย ผมเองก็ไม่คิดว่า กำนันสุเทพ และกปปส. จะสามารถชนะได้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ที่ผ่านมา เปรียบเหมือนว่า ที่ กปปส. และมวลมหาประชาชน ต่อสู้มาทั้งหมดนั้น มันได้เต็มที่ 99% แต่ก็ไม่สามารถที่จะหาหมัดไหนมาน๊อคได้ เพราะรัฐบาลเองก็หน้าด้าน ยื้ออำนาจสุดตัว และพร้อมจะใช้อาวุธ เข่นฆ่า ฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ใยดี

ถ้าทหารไม่ยึดอำนาจ ผมก็ยังมองไม่ออกว่า วันที่ 26 พ.ค. จะประกาศชัยชนะได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลไม่ยอมลาออกซะอย่าง ถึงแม้ สว. จะพิจารณาตั้งนายกคนกลางขึ้นมา แต่ในทางปฏิบัติ ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าจะสามารถทำได้ เพราะข้อกฎหมายต่าง ๆ ในรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ชัดเจนพอที่จะบอกว่าทำได้ ขนาดประกาศกฎอัยการศึก แล้วรัฐบาล ก็ยังหน้าด้าน ไม่ลาออกอยู่ดี

ความรู้สึกของผมกลับคิดว่า การที่ บิ๊กตู่ ตัดสินใจยึดอำนาจนั้น คงเพราะพิจารณาแล้วว่า ทหารต้องเข้ามาช่วยเติม 1% ที่ขาดไป เพื่อเป็นหมัดน๊อค ให้กับ กปปส. ในการน๊อครัฐบาลชุดนี้

และการที่ บิ๊กตู่ กล้าที่จะเอาคอตัวเองเข้ามาแขวน เพื่อยึดอำนาจนั้น น่าจะเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น บิ๊กตู่ น่าจะเห็นแล้วว่า

1. รัฐบาลนี้ ล้มเหลวในทุกอย่าง ทำผิดกฎหมายแทบทุกอย่าง เข้ามาเพียงเพื่อผลประโยชน์ของแม้วอย่างเดียว และโกงทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ ชาวนา ที่เป็นฐานเสียงของตัวเอง

2. ประเทศมีความแตกแยก ร้าวลึก

3. ขบวนการล้มเจ้า เติบโต อย่างมาก เพราะรัฐบาลหนุนหลัง

4. ประเทศเกิดความเสียหาย ในทุก ๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ และสังคม

5. ระบอบทักษิณ เติบโต หยั่งรากลึก มากขึ้นทุกวัน ๆ เครือข่าย ขยายไปแทบทุกภาคส่วน ทั้งราชการ ตำรวจ เอกชน นักวิชาการ และอื่น ๆ 

6. การต่อสู้ของ กปปส. และ มวลมหาประชาชน จากทุกสาขาอาชีพ อย่างอดทน สันติ เป็นฝ่ายถูกกระทำ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย หลายอย่าง อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

ผมเชื่อว่าการตัดสินใจของบิ๊กตู่ ครั้งนี้ ส่วนหนึ่่งเป็นเพราะมีประชาชนจำนวนไม่น้อย หนุนหลังอยู่ ประชาชนที่ต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณ ปฏิรูปประเทศ แล้วพาประเทศก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง และเรียกร้องให้ทหาร เข้ามามีส่วนร่วม

ดังนั้นสำหรับการยึดอำนาจครั้งนี้ ผมคิดว่า ทหาร และ ผบ.ทบ. คงได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และคิดว่าทางออกนี้ เป็นทางออกเดียวที่ดีที่สุด สำหรับสถานการณ์ในเวลานี้ และถ้า บิ๊กตู่ ผลักดัน ให้เกิดการปฏิรูป กวาดล้างระบอบทักษิณให้หมดไปได้จริง ๆ ก็อาจจะถือได้ว่า บิ๊กตู่ เป็นตัวแทนของ มวลมหาประชาชน ที่มารับไม้ต่อแล้วทำให้สำเร็จเป็นจริงได้ตามเป้าหมายที่มวลมหาประชาชนตั้งใจไว้

ตอนนี้ก็หวังแค่ว่า การยึดอำนาจครั้งนี้ จะไม่เสียเปล่าเหมือนปี 49 ซึ่งก็คงต้องรอดูกันต่อไป

ตอนนี้ยังไม่คิดต้านรัฐประหาร ได้แต่แอบเซ็ง แต่เมื่อไรเปลี่ยนรูปเป็น เผด็จการ ไม่ฟังเสียงประชาชน เมื่อนั้น ผมร่วมด้วยช่วยต้านอีกแรง

 

ถึงต้องย้ายไปเป็นพวกควายแดง ก็ต้องเอาละ

คงไม่ต้องถึงกับยอมไปเป็ฯควายแดงหรอกครับ

ผมคนหนึ่งล่ะที่มีแนวคิดแบบแกนี่แหละ อีกไม่กี่วันก็ใกล้จะจบแล้ว

ก็คิดว่าอยากจะชนะด้วยตัวเราเอง อยากเขียนประวัติศาสตร์ว่าเราโค่นคนโกงและปฏิรูปประเทศได้

แต่ผมเข้าใจได้ว่าทำไมทหารต้องยกระดับการเคลียร์ประเทศแบบนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมกัน

ในคมชัดลึกว่าอย่างนี้ครับ

http://www.komchadlu...522/185173.html

อย่างไรก็ตามเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้เสนอแนวทางตามที่ได้ให้การบ้านไปก่อนหน้านี้ โดยแต่ละฝ่ายก็ยังคงนำเสนอแนวทางในมุมของตัวเองซึ่งเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศแล้ว เมื่อแต่ละฝ่ายไม่มีจุดร่วมที่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอพักการประชุม และเชิญ แกนนำฝ่าย นปช. และ กปปส. ไปหารือร่วมกันอีกห้องหนึ่ง ประมาณ 45 นาที เมื่อกลับมาที่วงหารือแล้วก็ยังได้เชิญเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ไปพูดคุยกันส่วนตัวประมาณ 1 นาที ก่อนที่จะกลับมาที่วงหารือและได้สอบถาม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรมในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาล ว่าตกลงรัฐบาลยืนยันไม่ลาออกทั้งรายบุคคลและทั้งคณะใช้หรือไม่ ซึ่งนายชัยเกษม ระบุว่านาทีนี้ไม่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์ จึงบอกว่า “ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ ผมตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง”

ขอเพิ่มอีกหน่อย

ถึงผมไม่สนับสนุนรัฐประหาร

แต่ผมก็ไม่อยู่กับเสื้อแดง เพราะพวกนั้นอ้างประชาธิปไตยแบบพิธีกรรม แถมมีแนวคิดทำลายสถาบันกษัตริย์

เพียงแค่เมนู ไข่ ธรรมดา ๆ หลาย ๆ ท่าน ก็ หลาย ๆ ปัจจัย..

ตามความชอบ ซึ่งห้ามกันไม่ได้

ทุกท่านมีสิทธิ ที่จะเลือก ทานได้ตามต้องการ

เพียงแต่..ร้านที่ท่านเลือก จะมีวัตถุดิบมากพอที่จะทำให้

ได้ตามที่ท่านต้องการหรือไม่..

สถานการณ์ ณ ช่วงเวลานั้น..อยู่ในสถานะที่จะเลือกได้หรือไม่

หากท่านพบ บุคคลหนึ่ง กำลังจะหมดสติ เพราะไม่ได้ทานข้าว

ไม่ได้ทานอาหารมานาน...

รอบ ๆ ตัวท่านมีเพียงร้านอาหารตามสั่ง ที่แทบจะไม่เหลือวัตถุดิบ

ที่จะให้ทำอาหาร ตามที่บุคคลนั้นต้องการ หรือตามที่ท่านต้องการ

มีเพียง ข้าว 1 จาน กับ ไข่อีก 1 ฟอง มะเขีอเทศ ครึ่งลูก...

แม่ครัว ลงทำข้าวไข่เจียว ให้เพราะแม่ถนัดและใช้เวลาไม่นาน

แต่ ท่านบอกว่า ไม่ได้ ต้องเป็น ข้าว-ไข่ต้ม ซึ่งต้องใช้เวลาต้มพอควร

และการที่จะปอกเปลือกไข่ออกแล้วไม่ให้ติด ได้ผิวไข่ที่ราบเรียบ

ก็ต้องใช้ความถนัด  ซึ่ง..แม่ครัว...ไม่ค่อยชำนาญ นัก

บุคคลที่กำลังหมดสติ..กลับแย้งขึ้นมาว่า...ขอเป็น ไข่ดาว..ได้มั้ย

แม่ครัวตอบว่า...ทำได้ แต่มันน้อยน่ะ..เดี่ยวจะไม่อยู่ท้อง.

แม่ครัว จึงตัดสินใจ..ทำข้าว ไข่เจียว โดยเติมมะเขีอเทศ และ

เติมน้ำเข้าไปเล็กน้อย...ข้าว-ไข่เจียว..ร้อน ๆ ก็พร้อมเสริฟภายใน

ไม่กี่นาที...

สถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน...ก็ไม่ได้ต่างอะไร...

การต่อสู้ของประชาชน เดินทางมาไกล ไกลเกินกว่าจะถอยกลับ

ลุงกำนันที่ทิ้งทุกอย่าง เพื่อนำทางการต่อสู้

แต่..การต่อสู้ครั้งนี้.ต้องสู้กับ

ทักษิณ ที่ไม่ยอม ปล่อยวาง ยึดประเทศเป็นเครื่องต่อรองอำนาจ

บทสรุป...จึงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้าจะคาดเดา...

ว่าจะสูญเสียหรือไม่...คนไทยจะจับอาวุธขึ้นมาเข้าหากันหรือไม่

ทหาร..ในฐานะ แม่ครัว..

ไม่ได้มีทางเลือกมาก..อย่างที่หลายท่านคิด...จึงต้องเลือกเมนู

ที่ถนัดเป็นสำคัญ...

ส่วนจะอร่อยถูกใจหรือไม่...ก็ขึ้นอยู่กับ..

ผู้ที่ทาน จะทำความเข้าใจได้หรือไม่....

วัตถุดิบที่จำกัด เวลาที่จำกัด...และ เป็นเพียงแม่ครัว..มิใช่ 

Master Chef...

เห็นภาพเลยครับ

ทุกวันนี้ สังคมเราเห็นแก่ตัวกันมากเกินไปจริง ๆ แม้จะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ