Jump to content


tonythebest

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 22 มกราคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 00:47
*****

Topics I've Started

กระทู้้รายงานตัวอย่างเป็นทางการ ตามประกาศคณะรักษาความสุขสำราญแห่งเสีไทยไชโย (คสช)

15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 - 21:19

สืบเนื่องจาก การที่บอร์ดเสรีไทยได้ถูกปิดไปเป็นเวลานานพอสมควร

สมาชิกเก่าและใหม่ ห่างหายกันไปเป็นจำนวนมาก

สมาชิกจำนวนมาก ระเหเร่ร่อนไปตามพื้นที่ต่างๆ กระจัดกระจายตัวกันไป

บางส่วนที่อายุมากๆ ก็ถูกส่งตัวเข้าบ้านพักคนชราไปบ้าง เป็นที่น่าเวทนา

บางส่วน ก็เฝ้าเวปลามกเสียจนแทบหาทางกลับไม่ถูก

 

กระทู้นี้ จึงอยากเรียนเชิญเพื่อนสมาชิกมาขานชื่อรายงานตัว

เพื่อจัดส่งเข้าบ้าน AF ต่อไป

 

อนึ่ง สมาชิกหน้าใหม่ๆ ก็เรียนเชิญนะครับ

อสอง ก๊วนสิงห์อมควัน ณ สโมสรทหารบกก็เรียนเชิญนะครับ

อสาม ไม่มีอะไรแล้วครับ


กรุงศรีอยุธยาถูกพม่าตีแตก เพราะคนไทยคิดคิดทุรยศต่อแผ่นดิน

5 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:32

ลำดับเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา (ครั้งที่ 1)
 
พระเจ้าบุเรงนองทรงนำทัพเข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2111 ยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมา เมืองตาก รวมทั้งหมด 7 ทัพ ประกอบด้วย พระมหาอุปราชา เจ้าเมืองแปร เจ้าเมืองตองอู เจ้าเมืองอังวะ เจ้าเมืองเชียงใหม่ และเชียงตุง เข้ามาทางเมืองกำแพงเพช โดยได้เกณฑ์หัวเมืองทางเหนือรวมทั้งเมืองพิษณุโลกมาร่วมสงครามด้วย รวมจำนวนได้กว่า 500,000 นาย ยกทัพลงมาถึงพระนครในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน โดยให้พระมหาธรรมราชาเป็นกองหลังดูแลคลังเสบียง ทัพพระเจ้าบุเรงนองก็ตั้งค่ายรายล้อมพระนครอยู่ไม่ห่าง การตั้งรับภายในพระนครส่งผลให้มีการระดมยิงปืนใหญ่ของข้าศึกทำลายอาคารบ้านเรือนอยู่ตลอด ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก
 
ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเมื่อทราบว่าหัวเมืองทางเหนือเป็นของพม่าแล้ว จึงเตรียมรบ อยู่ที่พระนคร นำปืนนารายณ์สังหารยิงไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งลุมพลี ถูกทหาร ช้าง ม้าล้มตายจำนวนมาก พม่าจึงถอยทัพมาตั้งที่บ้านพราหมณ์ให้พ้นทางปืน แล้วพระเจ้าหงสาวดีจึงเรียกประชุมการศึก พระมหา อุปราชเห็นสมควรให้ยกทัพเข้าตีไทยทุกด้านเพราะมีกำลังมากกว่า แต่พระเจ้าหงสาวดีไม่เห็นด้วยเพราะกรุงศรีอยุธยามีทำเลดีมีน้ำล้อมรอบ จึงสั่งให้ตีเฉพาะด้านตะวันออกเพราะคูเมืองแคบที่สุด พม่าพยายามจะทำสะพานข้ามคูเมืองโดยนำดินมาถมเป็นสะพาน พระมหาเทพนายกองรักษาด่านอย่างเต็มสามารถ โดยให้ทหารไทยใช้ปืนยิงทหารพม่าที่ขนดินถมเป็นสะพานเข้ามา ทำให้พม่าล้มตายจำนวนมากจึงถอยข้ามคูกลับไป
 
พระเจ้าบุเรงนองทรงพยายยามโจมตีอยู่นานจนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2112 ก็ยังไม่ได้กรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก พระองค์ทรงพยายามเปลี่ยนที่ตั้งค่ายอยู่หลายระยะ โดยในภายหลังทรงย้ายค่ายเข้าไปใกล้กำแพงเมืองจนทำให้สูญเสียพลอย่างมาก ระหว่างการสงครามสมเด็จพระมหาจักรพรรดิประชวรและสวรรคตในเวลาต่อมา สมเด็จพระมหินทร์ขึ้นครองราชและทรงบัญชาการรบแทน
 
พระเจ้าบุเรงนองจึงถามพระมหาธรรมราชาว่าจะ ทำอย่างไรให้ชนะศึกโดยเร็ว พระมหาธรรมราชาทรงแนะว่าพระยารามเป็นแม่ทัพสำคัญหากได้ตัวมาการยึดพระนครจักสำเร็จ จึงมีสาสน์มาถึงพระอัครชายาว่า "...การศึกเกิดจากพระยารามที่ยุยงให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน ถ้าส่งตัวพระยารามมา ให้พระเจ้าหงสาวดีจะยอมเป็นไมตรี..." สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงอ่านสาสน์แล้ว ปรึกษากับข้าราชการต่างๆจึงเห็นสมควรสงบศึกเพราะผู้คนล้มตายกันมากแล้ว สมเด็จพระมหินทร์ฯมีรับสั่งให้ส่งพระสังฆราชออกไปเจรจาและส่งตัวพระยารามให้พระเจ้าบุเรงนองเพื่อเป็นไมตรี แต่พระเจ้าบุเรงนองตบัตสัตย์ไม่ยอมเป็นไมตรี ทำให้สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงพิโรธโกรธแค้นในการกลับกลอกของพระเจ้าบุเรงนองอย่างมาก มีรับสั่งให้ขุนศึกทหารทั้งปวงรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง พระเจ้าบุเรงนองเห็นว่ายังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ จึงส่งพระมหาธรรมราชามาเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้แต่ถูก ทหารไทยเอาปืนไล่ยิงจนต้องหนีกลับไป
 
พระเจ้าหงสาวดีจึงคิดอุบายจะใช้พระยาจักรีที่จับตัวได้เป็นประกันเมื่อครั้งสงครามช้างเผือกเป็นใส้ศึก จึงให้พระมหาธรรมราชาทรงเกลี้ยกล่อมพระยาจักรีให้เป็นไส้ศึกในกรุงศรีอยุธยา แล้วแกล้งปล่อยตัวออกมา รุ่งเช้าพม่าทำทีเป็นตามหาแต่ไม่พบเลยจับตัวผู้คุมมาตัดหัวเสียบไว้ริมแม่น้ำเพื่อให้ไทยหลงกล
 
สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงดีพระทัยที่พระยาจักรีหนีมาได้จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาการรบแทนที่พระยาราม ครั้นพระยาจักรีได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาพระนครแล้วจึงดำเนินการสับเปลี่ยนหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ จนกระทั่งการป้องกันพระนครอ่อนแอลง พระยาจักรีได้ใส่ ร้ายให้พระศรีสาวราชว่าเป็นกบฏจึงถูกสำเร็จโทษ เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันควรพระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาทุกด้าน และทำให้กองทัพพม่าเข้าสู่พระนครสำเร็จโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน
 
ในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 (เดือน ๙ ไทย) พระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาและเปิดประตูเมือง ทำให้ทัพพม่าเข้ายึดพระนครสำเร็จ กรุงศรีอยุธยาจึงตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า
 
 
 
 
 
 
 
 
สาเหตุที่นำไปสู่การเสียกรุงศรีอยุธยา (ครั้งที่ 2)
 
กองทัพอยุธยาได้เว้นจากการทำศึกสงครามมาเป็นเวลานาน ประกอบกับผู้นำอยุธยา ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ คาดคะเนสถานการณ์และยุทธวิธีผิดไป ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแนวปะทะกันกองทัพพม่าเข้ามาถึงคูพระนคร หรือระบบการส่งกำลังบำรุงให้การสนับสนุน ก็ดูจะล่าช้ากว่าฝ่ายพม่ามาก และที่สำคัญที่สุดก็คือ ฝ่ายพม่าเองสามารถเอาชนะยุทธวิธีน้ำหลากที่ฝ่ายอยุธยามักใช้ได้ผลมาแล้วได้เป็นผลสำเร็จ
 
พม่าได้ปรับยุทธศาสตร์การตีพระนครใหม่ โดยไม่ยอมให้สภาพธรรมชาติมาเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการทางทหาร เมื่อน้ำหลากมาแล้วพม่ายังไม่ยอมถอย ทั้งยังล้อมกรุงอยู่อย่างเหนียวแน่น ทำให้ฝ่ายอยุธยาต้องเผชิญกับภาวะอดอยาก และมีอันต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด
 
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียกรุงมาจาก "คนทรยศ" ตามคำให้การของชาวกรุงเก่า หน้า 174 บอกว่า "...มีคนไทยชื่อ พระยาพลเทพ ข้าราชการในกรุงศรีอยุธยาเอาใจออกห่าง ลอบส่งศาสตราวุธเสบียงอาหารให้แก่พม่า สัญญาว่าจะเปิดประตูคอยรับเมื่อพม่าเข้าโจมตี และประตูที่พระยาพลเทพ เปิดให้ก็เป็นประตูเมืองทางทิศตะวันออกเข้าใจว่าคงเป็นบริเวณหัวรอ หรือจะห่างจากบริเวณนี้ก็ไม่เท่าใด ซึ่งพม่าก็ได้ระดมเข้าตีปล้นกรุงศรีอยุธยามาทางนี้ ตามที่พระยาพลเทพนัดหมายไว้ โดยเข้าไปได้ในเวลากลางคืน ส่วนวันตามคำบอกของชาวกรุงเก่านั้น ตรงกับวันที่กรุงแตกดังกล่าวมาแล้วข้างต้นเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เชลยไทยได้เห็นในขณะนั้น..."
 
พงศาวดารหลายฉบับได้กล่าวไว้ว่า
 
"...เมื่อกรุงใกล้จะแตก ไทยได้เกิดมุมานะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง รบจนพม่าแตกกลับไปทุกครั้ง จนพม่าต้องตั้งล้อมนิ่งอยู่คราวหนึ่ง และเมื่อเวลากรุงแตกนั้น คนไทยที่สู้รบตายคาแผ่นดินอยู่บนกำแพงเมือง และตามที่ต่างๆ คงจะเห็นการกระทำของพระยาพลเทพได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ภายหลังต่อมา เราไม่ทราบชะตากรรมของพระยาผู้ทรยศต่อชาติคนนี้..."

 

http://board.yimwhan...topic=17&Cate=6

 

 

 

 

 

อยุธยา ถูกตีแตกทั้ง 2 ครั้ง ส่วนหนึ่งก็มาจากคนไทยด้วยกันเอง

คิดคด ทุรยศต่อชาติต่อแผ่นดิน

เหตุการณ์ที่ผมยกมา ลองสังเกตุชัด จากเหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่ 1

ดูเหตุการณ์ ดูจำนวน ดูเวลา ดูกรรมวิธี ดูความเชื่อมโยงกัน

 

จะด้วยเหตุบังเอิญหรืออย่างไรผมไม่ทราบได้

 


ข่าวด่วน สนธิประกาศออกบวชไม่สึก

1 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:48

เช้าวันนี้ เวลา 9.30 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกแถลงการที่บ้านพระอาทิตย์

 

นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำพันธมิตร

นัดหมายผู้สื่อข่าวจากหลายสำนัก เพื่อแจ้งข่าวสำคัญ

 

“ผมต้องกราบขอโทษ มวลมหาประชาชนผู้รักชาติ ที่ออกมาร่วมชุมนุมกับ กกปส

ที่หลายต่อหลายครั้ง ผมและบุตรชาย ได้ให้สัมภาษณ์ ด้วยถ้อยคำที่สื่อไปในแง่ลบ

กับการชุมนุมของ กปปส ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ซึ่งถ้อยคำเหล่านั้น ผมเข้าใจแล้วว่า จะนำพามาซึ่งความเข้าใจผิด และสร้างความแตกแยก

ให้กับมวลมหาประชาชนผู้รักชาติ ซึ่งมีกันอยู่หลายกลุ่ม และมีแนวคิดที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง

แต่ทั้งหมด ก็ล้วนแล้วแต่มีเจตนาไปในทิศทางเดียวกัน คือการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์

 

แต่คำพุดหลายๆ ครั้ง ของผม, ลุกชาย และอดีตแกนนำด้วยกันหลายๆ ท่าน

แม้จะเป็นเพียงความตั้งใจกระตุ้นเตือน ให้การชุมนุม ไม่สับสนในแนวทาง

และมึเป้าหมายที่ชัดเจน หวังผลได้ แต่ก็อาจจะนำพามาซึ่งความแตกแยก 

ความหวาดระแวงในตัวแกนนำ การขุ่นข้องหมองใจกันเอง ในระหว่างผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่ม

 

ผมจึงต้องขอแสดงการขอโทษ ต่อผู้ร่วมชุมนุมทุกกลุ่ม 

ที่คำพุดขอกผมและคนอื่นๆ อาจนำพามาซึ่งปัญหาความแตกแยกในภายหลัง

หรือแม้แต่อาจจะเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ คือความจริง และด้วยเจตนาที่ดีจริงๆ

นั่นคือการประกาศยุติบทบาทใดๆ ทางหน้าสื่อ ของตัวผมเอง ลุกชาย และสมาชิกแกนนำอื่นๆ

เพื่อให้ผู้ที่ร่วมอุดมการณ์ทั้งหมด มองเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน 

ไม่เกิดความแตกแยกซึ่งกันและกัน และไม่เข้าใจอะไรผิดๆ

หลังจากนี้ ผมและพี่ลอง กำลังจะเดินทางไปเพื่อออกบวช ณ วัดป่าแห่งหนึ่ง

ขออนุญาตไม่พูดชื่อนะครับ คิดว่าจะพยายามบวชให้ได้ตลอดชีวิตครับ

โดยกิจการทั้งหมดของเครือผู้จัดการ ก้ได้รับการดูแลจากลูกของผม คือคุณจิตตินารถ

ซึ่งให้สัญญากับผมเอาไว้ ว่าจะพยายามทำหน้าที่ของสื่ออย่างเป็นกลางที่สุด

ไม่กล่าวให้ร้ายใคร ไม่สร้างความแตกแยก

 

สุดท้ายนี้ คำสุดท้ายที่ผมจะกล่าว แก่ผู้ที่สนับสนุนผมมาโดยตลอด

พี่น้องพันธมิตร และมวลมหาประชาชน กปปส ทั้งหมด 

 

ผมขอโทษ”

 

 


ลองอ่านกันดูครับ คิดเห็นกันอย่างไร

26 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:47

วิมล ไทรนิ่มนวล

 

 

"อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด"

 

กปปส. ไม่ใช่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณและพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ยังมีคนที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์อยู่ด้วย เหตุที่เป็นปัญหาขัดอกขัดใจใครต่อใครหลายคนก็ตรงที่คุณสุเทพและคนของประชาธิปัตย์เป็นแกนนำนี่แหละ

 

สำหรับผม...ไม่ว่าคุณสุเทพและประชาธิปัตย์จะเคยดีจะชั่วอย่างไร และจะดีจะชั่วต่อไปอย่างไร ผมก็วางไว้ข้างตัวก่อน เพราะปัญหาเฉพาะหน้าสำคัญกว่า คือการสลายระบอบทักษิณ

 

และถ้าจะใครบอกว่า ไม่ว่าระบอบทักษิณหรือระบอบอะไรอื่นก็ล้วนแต่เป็นทุนสามานย์ทั้งนั้น ต้องกำจัดไปพร้อมกัน ผมก็ขอถามเผื่อไว้ก่อนว่า "ใครจะกำจัด" และ "กำจัดด้วยวิธีใด"

 

ปัญหาและปัจจัยในการต่อสู้นั้นมากมาย ถ้าใครไม่สามารถจำแนกและจัดลำดับความสำคัญ - ความจำเป็นได้ สู้ไปก็แพ้

พอแพ้ก็จะมี "ผู้เก่งกล้าสามารถ" ออกมาประณามคนนำมวลชนต่อไปอีก...โดยไม่ดูตัวเองว่ามีส่วนมากน้อยแค่ไหนที่ทำให้แพ้ - นับแต่เริ่มเอาแต่ใจตน

 

แม้ใครจะไม่พอใจ ไม่ถูกใจคุณสุเทพและ กปปส. แต่ผมก็เห็นว่า คุณสุเทพและ กปปส. นี่แหละคือ "ฐานที่มั่น" ให้แก่กลุ่มอื่นๆ ที่สามารถจะพูดในสิ่งที่ตนอยากพูดได้เต็มที่

 

ถ้า กปปส. ล้ม (ไม่ใช่แค่คุณสุเทพและ ปชป.) เพราะแนวร่วมต่างก็ไม่ช่วยกันค้ำยันซึ่งกันและกัน ผมฟันธงได้เลยว่า แพ้ด้วยกันทุกกลุ่ม!

 

จากนั้นก็ตัวใครตัวมัน หรืออาจจะมีใครสำนึกเสียดายก็ได้ แต่ก็สายไปแล้ว.

 

https://www.facebook...299989743350329

 

 

 

ผมยังไม่ขอแสดงความเห็นอะไรนะครับ


ถามจริง...พวกเอ็งโง่หรือพวกเอ็งโง่กันแน่เนี่ย

3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:49

ไปเจอในเพจเสื้อแดงมาครับ

เค้าดีอกดีใจกันใหญ่

บอกว่า คนมาใช้สิทธิ์เยอะแยะ พวก กปปส หงายเงิบกันเลย

แทบจะล้มวัวเลี้ยงฉลองกันเลยล่ะมั๊ง

 

YsS11w.png