Jump to content


noom2553

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 3 เมษายน 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
-----

Posts I've Made

In Topic: คิดยังไงกับการออกหวยงวดนี้ครับ

2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:13

ภายหลังจากที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกรางวัลงวดประจำวันที่ 1 กุมภาพันธุ์ 2556 โดยรางวัลที่ 1 คือ 565566  และเลขท้าย 2 ตัว คือ 66 ซึ่งตรงกับเลขทะเบียนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีใช้ปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคเหนือคือ นข 666 สุโขทัยนั้น ปรากฏว่าบรรดาเซียนหวย รวมถึงผู้ที่อยู่ในห้องออกรางวัล ทั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ต่างพร้อมใจกันส่งเสียงฮือฮาทันที เมื่อเลขท้ายออกมาเป็นเลขเบิ้ลอีกครั้งพร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะเกิดขึ้นแบบนี้

 

นายสุริยใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้โพสต์ข้อความลงใน facebook ส่วนตัว ด้วยความสงสับว่า มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือการออกแบบ เพราะเหตุการณ์ทำนองนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นแค่ 1-2 ครั้ง แต่เกิดขึ้นมาถึง 5 ครั้ง จนเกิดความสงสัยว่า นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือไม่

 

"ผมไม่เล่นหวย และไม่เคยซื้อหวย แต่ก็เอะใจ และฉุกคิดจนเกิดคำถามในใจว่า ทำไมหวยที่ออกไม่ว่าจะเป็นเลขท้าย 2 ตัว หรือ 3 ตัว ไปตรงกับทะเบียนรถของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ 5 ครั้งด้วยกัน

...มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือออกแบบ!!!...

ต้องถามผู้มีความรู้ว่าวิธีออกหวยของกองสลากในปัจจุบัน เขาล็อกกันได้หรือไม่ เพราะคนเล่นหวยจำนวนมากยังเชื่อว่าทุกวันนี้ "มีหวยล็อก" ซึ่งในอดีตก็เคยมีกันจริงๆ

ผู้รู้ช่วยตอบทีครับ..."

 

ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รวบรวมข้อมูล เลขทะเบียนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้โชคกับนักเสี่ยงดวงมาแล้ว จำนวน 5 งวด 6 คัน คือ งวดวันที่ 16 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ เลขท้าย 2 ตัว ออก 62 ซึ่งเป็นเลขทะเบียนรถตู้โฟล์คกันกระสุนสีดำำ ทะเบียน ป้ายแดง ว 1662 กรุงเทพมหานคร ต่อมางวดที่ 1 ก.ย. 54 ผลหวยคือ เลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 คือ 533  ซึ่งตรงกับทะเบียนรถคุ้มกัน ฎก-4533

ต่อมางวดที่ 16 พ.ย. 54 ผลหวยคือ เลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 คือ 997777 ซึ่งตรงกับทะเบียนรถวีออส รับส่งลูกชายนายกรัฐมนตรี วฉ-777 ในงวดเดียวกันเลขทะเบียนรถเมล์ ที่นายกรัฐมนตรี นั่งไปช่วยน้ำท่วม คือ THAILAND 12-0757 กทม. ผลหวยคือ เลขท้าย 2 ตัว ในงวดนั้นคือ 57 และ งวดวันที่ 16 ธ.ค. 55 เลขท้ายรางวัลที่ 1 ออกหมายเลข 529524 ตรงกับรถโฟล์คตู้สีดำ ทะเบียน ฮภ 2924 กระทั่งงวดล่าสุด

 

พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นอดีตนายตำรวจติดตาม ทักษิณ สมัยเป็นนายก ก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่ "มีวันนี้เพราะพี่ให้"

ผมอยู่วงนอก ไม่รู้เส้นสายข้างในหรอกครับ ว่า เป็นหวยล็อคหรือไม่ อาจเป็นความบังเอิญก็ได้ แต่ช่างเป็นความบังเอิญที่โคตรไม่ธรรมดา

ยุคนี้ เรื่องประหลาดแบบนี้ เกิดขึ้นได้เสมอ สื่ออย่าง มติชินก็รับลูกคล่องจุงเบย เป็น PR ขาประจำของนางยกปู ชะเลียตั้งแต่ ชุดแต่งกาย ทรงผม รถ ของใช้ส่วนตัว ชมตลอดว่า เป๊ะ เป๊ะ เป๊ะ และทุกครั้งที่หวยออกตรงกับของใกล้ตัวนางยก มติชินก็ไม่รีรอที่จะให้ข่าวชะเลียตามสไตล์ 

 

เล่นหวยอยากรวยต้องติดตามเรื่องของนางยก อย่าให้คลาดสายตาครับ ดูป้ายรถ เช็คประวัติให้ละเอียด ดู วันเดือนปีเกิด เลขเวลาที่ตกฟาก ตลอดทั้งวันประจำเดือนมา วันประจำเดือนไม่มา เผื่อฟลุ้ค

ทำงัยได้ครับ ก็เกิดมาในยุคมารครองเมือง ผู้คนก็หลับไหลไม่ได้สติ บ้างก็หลงใหลไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี  ก็ทนๆกันไปเถอะครับ เมืองไทยต้องให้มันเสื่อมโทรมสุดๆ คนส่วนใหญ่ถึงจะลุกขึ้นมาสู้ คนที่เขาสู้ๆกันอยู่ ถ้าไม่ชอบเขาในบางเรื่อง ก็ช่วยกันรุมกระทืบ เป็นแนวร่วมมุมกลับซะอีก

อ้อ เดี๋ยวพวกแดงหน้ามืดอาจจะออกมาแก้ต่างให้นางยกอีกตามเคย พวกนี้วันๆไม่ทำอะไรหรอกครับ แถได้ทุกเรื่อง


In Topic: ชัก"งงงง"แล้ว.มีทั้ง"แดงอำมาตย์" "แดงอิสระ" "แดงล...

1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:56

  ตอนนี้เห็นคนที่หลับหูหลับตาเชียร์ รบ.แล้วทุเรศว่ะ

โดย ตาย่าน เมื่อ ศุกร์ 01 ก.พ. 2013 8:22 am

 

แรกๆ ช่วงเลือกตั้ง การหลับหูหลับตาเชียร์นั้นก็พอรับได้เพราะว่าช่วงนั้นการต่อสู้แบ่งออกเป็นสองขั้วก็คือ
- ฝ่ายเผด็จการอุปถัมภ์ นำโดยพรรคปชป. (กิงๆแล้วมันไม่อยากเลือกตั้งหรอก)
- ฝ่ายคนเสื้อแดงอุปถัมภ์ นำโดยพรรคเพื่อไทย

ในระหว่างชุลมุนอยู่นั้น เป้าหมายหลักของทั้งสองค่าย ก็คือการทำอย่างไรให้ชนะเลือกตั้งให้ไ้ด้
ส่วนการจะบริหารหรือการดำเนินงานต่างๆ ค่อยว่ากันภายหลัง
และแล้ว ฝ่ายรากหญ้า ก็สามารถเอาชนะเลือกตั้ง ส่งพรรคเพื่อไทยขึ้นไปอยู่บนหิ้งในตำแหน่งผู้นำสูงสุดฝ่ายบริหารได้สำเร็จ

ทว่า... สองปีผ่านไป พรรคเพื่อไทยซึ่งได้รับแรงหนุนอย่างล้นหลามจากคนเสื้อแดง
ก็บริหารงานได้โหลยโท่ย ห่วยแตก ในบางเรื่องเช่นเรื่องการประชาสัมพันธ์
เรื่องการบริหารจัดการติดตามคดีความต่างๆ ซึ่งทำได้ส้นตรีนมากๆ

โดยเฉพาะคดีปรส. ซึ่งจะหมดอายุความในอีก 5 เดือนนี้แล้ว

ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีการติดตามอะไร ก็คงจะปล่อยให้หมดอายุความ ท่ามกลางสายตาอันเคลือบแคลงสงสัยของคนทั้งประเทศ
งานนี้ต้องเรียกว่า ทำงานได้บัดซบจริงๆ เพราะอำนาจอยู่ในมือแล้ว การตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องที่มีประสิทธิภาพนั้น
แค่เซ็นแต่งตั้งโครมลงไป ก็สามารถทำได้ทันที

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ซึ่งทำงานได้ควายๆ มาตั้งแต่สมัยเจ๊เฉยมาจนถึงปัจจุบัน ตำแหน่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กเส้นทั้งนั้นเอามานั่งหน้าเอ๋ออยู่ทำงานไม่เป็น
ดังนั้นประชาชนที่ห่างไกล ก็ยังคงไม่เข้าใจถึงความอัปยศของคดี ปรส. เลย 

ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว อำนาจอยู่ในมือของรัฐบาลแล้ว รัฐบาลก็กำลังเสวยสุขอย่างปรีด์เปรมอยู่ตอนนี้กันทุกๆคน
รวมทั้งสส.ที่ส่วนมากจะงอมืองอเท้า ไม่ยอมบริหารบ้านเมือง อาศัยกินบุญเก่าจากคนเสื้อแดงเลยไม่ต้องทำงานอะไร
เพียงแค่อยู่พรรคเพื่อไทย ทุกอย่างก็ฉลุยแล้วนี่คือความคิดของสส.หัวครวยเหล่านี้ ส่วนคนเสียประโยชน์ก็คือประชาชน

ขั้นตอนต่อไป ที่คนเสื้อแดงควรทำก็คือ การเร่งรัดรัฐบาลที่ตัวเองเลือกเข้าไปบริหาร ให้ทำงานตามที่เคยหาเสียงไว้
ให้ทำในสิ่งที่ควรจะทำ แต่ทว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ในปัจจุบันนี้ มีักลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งที่ผมเรียกว่าแดงหน้ามืด
คนกลุ่มนี้จะหลับหูหลับตาเชียร์รัฐบาลทุกอย่าง ใครจะแตะต้องไม่ได้ต้องออกมาตีโพยตีพาย

ในสายตาของคนเสื้อแดงและประชาชนที่ไม่เลือกสี มองรัฐบาลว่านี่คือตัวแทนของตน
ส่วนพวกเสื้อแดงหน้ามืด กลับมองรัฐบาลในเชิงสัญลักษณ์ที่เอาไว้บนหิ้งกราบเช้ากราบเย็น 
ถ้าหากรัฐบาลเป็นรถไถควายเหล็ก คนเสื้อแดงที่เป็นแดงหน้ามืดจะเอารถไถควายเหล็กไว้บนหิ้งแล้วกราบเช้ากราบเย็น
พอคนเสื้อแดงกลุ่มอื่น จะเอารถไถควายเหล็กไปไถนา กลุ่มพวกแดงหน้ามืดจะออกมาคัดค้านในทุกกรณี 
เพราะกลัวว่า รัฐบาลควายเหล็กจะเลอะโคลน กลัวว่าจะต้องเหนื่อยเพราะลุยโคลนลุยหนองแค่นั้นเอ

 

 

http://www.tayan008....php?f=3&t=54992


In Topic: คุณโอ๊ค วอนช่อง 3 ฉายเหนือเมฆ 2 ตอนจบ

9 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:03

ซีอีโอเครือ ASTVผู้จัดการ เผย “พานทองแท้” ไอ้โม่งสั่งช่อง 3 ถอดละคร “เหนือเมฆ 2” ชี้พาดพิงครอบครัวถือว่ามัดตัวเอง ปูดได้ข่าวบินฮ่องกงร่วมกับ “มาลีนนท์” แถมมีคนเห็นเข้าไปในช่อง 3 ก่อนละครถูกถอดแบบอธิบายไม่ได้ แถมเสียงอ่อยบอกเห็นใจกันด้วย ไล่คืนสัมปทานช่อง 3 แล้วย้ายไปทำช่องวอยซ์ทีวีด้วยกันเลย เผยสงสาร “ฉัตรชัย-สินจัย” แว่วถูกถอดผู้จัด อนาคตมืดลง ฝากทุกคนให้กำลังใจพร้อมนักแสดง
       
       วานนี้ (8 ม.ค.) นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือ ASTVผู้จัดการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เฟซบุ๊กนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน กล่าวตำหนิผู้จัดละคร “เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์” ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่ามีเนื้อหาเสียดสีครอบครัวชินวัตร และเรียกร้องให้ช่อง 3 ออนแอร์ละครต่อโดยอ้างว่ารัฐบาลตกเป็นจำเลยของสังคม ระบุว่า จากที่ตนได้ติดตามข่าวและตั้งข้อสังเกต ในที่สุดนายพานทองแท้ก็ให้ข่าวเรื่องละครเหนือเมฆที่พาดพิงครอบครัวตัวเอง เท่ากับเป็นการมัดมือตัวเองว่าแท้จริงแล้วตัวเองอยู่เบื้องหลังในการถอดละครเรื่องเหนือเมฆ ออกจากช่อง 3
       
       ทั้งนี้ สังเกตได้จากช่อง 3 สั่งถอดละครเรื่องเหนือเมฆออกกะทันหัน อ้างว่าผิดต่อกฎหมาย มาตรา 37 ของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ปี 2551 แต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเนื้อหาในละครไม่มีความเหมาะสมตรงไหน พูดอยู่แค่คำเดียวว่า ไม่เหมาะสม ผู้บริหารไม่สามารถตอบคำถามได้เลยว่าไม่เหมาะสมตรงไหน แต่ในขณะที่นายพานทองแท้ที่ออกมาให้ข่าว สามารถบรรยายตัวละครในเรื่องเหนือเมฆที่มีความเทียบเคียงคล้ายคลึงกับครอบครัวของตนได้อย่างละเอียด ตรงกับครอบครัวของตนออกมาเลย
       
       “การเปรียบเทียบของนายพานทองแท้ชัดเจนมากกว่าที่ในโซเชียลเน็ตเวิร์กเขาเปรียบเทียบกันอีก นั่นก็แสดงว่านายพานทองแท้เป็นคนที่ติดตามหาข้อมูลในเรื่องละครเรื่องนี้มาตลอด ประกอบกับผมได้ข่าวมาแต่ผมไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า มีข่าวว่าช่วงที่ละครเหนือเมฆฉายใหม่ๆ นายพานทองแท้ได้ไปฮ่องกงกับผู้บริหารตระกูลมาลีนนท์ของช่อง 3 ซึ่งโอเคเขาอาจจะมีความรู้จักสนิทสนมคุ้นเคยกัน แต่ก็เป็นการชี้ให้เห็นว่านายพานทองแท้สามารถต่อสายภายในกับผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 ได้ทันที แล้วที่ชัดเจนยิ่งกว่านั้นก็คือว่า ล่าสุดก่อนที่ละครเหนือเมฆจะโดนถอดกลางอากาศ มีคนเห็นนายพานทองแท้เข้าไปในช่อง 3 ไม่ทราบว่าไปทำอะไรอยู่ในช่อง 3 แล้วหลังจากนั้นไม่นานละครเหนือเมฆก็โดนถอดออกไป โดยที่ผู้บริหารช่อง 3 ไม่สามารถอธิบายอะไรต่อสังคมได้ แถมบอกว่าให้เห็นใจครอบครัวของตนด้วย” นายจิตตนาถ กล่าว
       
       นายจิตตนาถ กล่าวต่อว่า ถ้าดูกันให้ดี วันนี้นายพานทองแท้มีอิทธิพลสูงมากในแวดวงผู้ใหญ่ไทย ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ซึ่งเป็นถึง รมว.กลาโหม เคยถูกนายพานทองแท้สอนมวยมาแล้วกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณยกเลิกไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพลถึงกับไปไม่เป็นเลย ขนาดรัฐมนตรีกลาโหมยังเงียบจ๋อย ก็แสดงว่านายพานทองแท้มีอิทธิพลล้นฟ้าจริงๆ ไม่ต่างจากทายาทจอมขมังเวทย์ในเรื่องเหนือเมฆเลย นับประสาอะไรกับตระกูลมาลีนนท์ จะไม่อยู่ภายใต้อุ้งเท้าของนายพานทองแท้ ชินวัตร
       
       “ฉะนั้น การออกมาโต้ตอบทางเฟซบุ๊กของนายพานทองแท้ ทั้งๆ ที่เขาหายไปนาน มันเป็นเพราะเขาไม่คิดว่ากระแสสังคมจะแรงขนาดนี้ เพราะคิดว่าการที่ช่อง 3 ไม่นำเสนอข่าว เพราะช่อง 3 ถือเป็นสื่อหลัก และอีกอย่างละครเหนือเมฆเรตติ้งมันไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว ก็คิดว่าพอเรื่องนี้เงียบๆ ไปคนก็ไม่สนใจ แต่ปรากฏว่าวันนี้เขาคิดผิด ทุกอย่างมันก็พุ่งเป้าไปที่ครอบครัวเขาและรัฐบาล ปรากฎว่ากลายเป็นตัวเขาเองออกมาคอนเฟิร์มให้การลิงก์เนื้อหาในละครกับตัวเขา ที่คนแทบจะไม่สนใจอยู่แล้วชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ฉะนั้นในฐานะของนักสื่อสารมวลชน ผมสามารถฟันธงได้เลยว่า นายพานทองแท้นี่แหละคือเบื้องหลังคนที่ถอดละครเรื่องเหนือเมฆตัวจริง ส่วนทีมวอร์รูมของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนายสุรนันทน์ (เวชชาชีวะ) หรือว่า นางสาวศันสนีย์ (นาคพงศ์) มันเป็นเด็กรับใช้ในบ้าน มันไม่มีอิทธิพลที่จะทำขนาดนั้นหรอก” นายจิตตนาถ กล่าว
       
       ในตอนหนึ่ง นายจิตตนาถ กล่าวถึงประโยคในเฟซบุ๊กนายพานทองแท้ ที่กล่าวหาว่า ทำไมไม่เห็นมีใครทำหนังเรื่องที่เกี่ยวกับลูกอำมาตย์หนีทหาร ถามว่าที่ผ่านมาเคยมีภาพยนตร์ที่ประชดประชันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ตนไม่ได้ฝักใฝ่สี ไม่ได้ฝักใฝ่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย แต่ตนดูภาพยนตร์เรื่องอินทรีย์แดง ของนายวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เท่าที่ทราบนายวิศิษฏ์เป็นเสื้อแดงโดยตรง ตนเคยดูเนื้อหาเรื่องอินทรีย์แดง จงใจว่านายอภิสิทธิ์โดยตรง ตรงกับที่เราเห็นว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ภาพลักษณ์ดี แต่หน้าไหว้หลังหลอก และหนังเรื่องนี้สร้างในยุคสมัยของนายอภิสิทธิ์ด้วย ถ้าใครที่ไปดูจะเห็นว่าคาแรกเตอร์ของนายกคนนี้สะท้อนนายอภิสิทธิ์ออกมาเต็มๆ อีกอย่างอินทรีย์แดงก็เป็นสัญลักษณ์ของภาคประชาชนที่ต่อสู้ เขาพยายามหมายถึงพวกเสื้อแดงที่ต่อสู้กับความอยุติธรรมของอำนาจรัฐ ก็คืออำนาจอำมาตย์ เท่าที่นายพานทองแท้บอกว่าไม่เคยมีใครสร้างละคร ไม่จริง อย่างน้อยหนังเรื่องอินทรีย์แดงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเลยว่า นายอภิสิทธิ์เคยโดนด่าแบบนี้ไปแล้วถ้าใครจะมอง
       
       เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวอยากจะเรียกร้องอะไรกับช่อง 3 เหมือนกับที่นายพานทองแท้เรียกร้องให้ออนแอร์ละครเรื่องเหนือเมฆที่เหลือหรือไม่ นายจิตตนาถ กล่าวว่า ถ้าตนจะเรียกร้อง ก็เรียกร้องอยากที่จะให้ตระกูลมาลีนนท์คืนสัมปทานช่อง 3 ดีกว่า แล้วให้มีการประมูลสัมปทานช่อง 3 ใหม่ เพราะว่าจริงๆ แล้วช่อง 3 เป็นคลื่นสาธารณะ ไม่ใช่คลื่นของตระกูลใดตระกูลหนึ่งหรือกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ช่อง 3 เป็นคลื่นของประชาชน ฉะนั้นถ้ามาทำช่อง 3 อุ้มฝ่ายข่าวที่สนองการเมือง แต่ไปกดดันฝ่ายละครซึ่งไม่ได้ไปทำเรื่องที่มันเสียหาย แต่เชิดชูจริยธรรมความดีให้เกิดขึ้นในสังคม แต่กลับไปแบนเขา กำลังทำหายนะให้เกิดขึ้นในฟรีทีวีสาธารณะ ฉะนั้นตระกูลมาลีนนท์ไม่มีคุณสมบัติที่จะบริหารช่อง 3 ต่อไป
       
       “ตระกูลมาลีนนท์อยากจะไปทำทีวีดาวเทียม อยากจะไปช่วยนายพานทองแท้ทำวอยซ์ ทีวี ก็ไปทำ คือพูดง่ายๆ คืนสัมปทานช่อง 3 ไปเถอะ แล้วไปช่วยนายพานทองแท้บริหารวอยซ์ ทีวี เอาให้เหมือนช่อง 3 เลยดีกว่า ยกทีมครอบครัวข่าวทั้งหมดไปเลย แล้วก็เลือกผู้จัดละครที่มันพร้อมที่จะเลียตัวเองไปเลย สิ่งที่ผมกังวลที่สุด ผมสงสารทางคุณนก ฉัตรชัย และคุณนก สินจัย (เปล่งพานิช) และดาราในเรื่องเหนือเมฆมากกว่า เพราะงานนี้นายพานทองแท้ไม่พอใจบุคคลเหล่านี้มาก แว่วมาเลยว่าคุณนก สินจัย และคุณนก ฉัตรชัย น่าจะโดนถอดจากผู้จัด ผมว่าอนาคตในการเป็นนักแสดงของช่อง 3 ก็ค่อยๆ มืดลงไปด้วย เพราะว่าตอนนี้อิทธิพลเขาล้นฟ้าเหลือเกิน สังเกตได้จากทุกเรื่องของนายพานทองแท้ และตระกูลมาลีนนท์นี่ก็รับใช้แบบไม่เกรงใจแบบหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว” นายจิตตนาถ กล่าว
       
       นายจิตตนาถ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนฝากกำลังใจให้กับทีมดารา นักแสดงช่องนี้ อยากที่จะให้มีมาตรการโซเชียล แซงชั่น ให้มันรุนแรงมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในโซเชียล เน็ตเวิร์ก การออกมาแสดงพลังกันในเรื่องของการถอดโฆษณา และอยากจะเห็น กสทช. ไม่ใช่เป็นแค่องค์กรที่ทำหน้าที่รับใช้กลุ่มทุนและการเมืองเท่านั้น ตนเห็นว่า กสทช. วันนี้ใช้ไม่ได้ นี่ก็คือสิ่งที่ตนอยากจะเห็น แต่บอกได้เลยว่านายพานทองแท้นี่แหละคือไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่คนอื่น.


In Topic: ขำๆกับ เหนือเมฆ 2 By ธีระ & กนก

6 มกราคม พ.ศ. 2556 - 09:13

สันดานขี้ข้า แถได้ทุกเรื่อง เห็นกันจะจะก็เบี่ยงเบนประเด็นได้ตลอด

สมองสำหรับขี้ข้า มีไว้สำหรับการแก้ตัวให้นายเท่านั้น

ชายชุดดำยิง พล.อ.ร่มเกล้า ถล่มชาวบ้าน ก็ตอแหลว่าไม่มี 

เผาบ้า่นเผาเมือง ฉกนาฬิกาในห้างก็โยนความผิดให้คนอื่น

เผาศาลากลาง โดนจับ ตาย ก็เชิดชูเป็นวีรชน

ของแพงก็ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า

เหนือเมฆ โดนนายมันเต็มๆก็รับไม่ได้ ต้องแบน

ก่อนหน้านี้ Shakespeare Must Die ของคุณอิ๋ง กาญจนวณิช ก็แบนเค้า 

สมแล้ว ที่ถูกเรียกว่าควายแดง


In Topic: ขำๆกับ เหนือเมฆ 2 By ธีระ & กนก

6 มกราคม พ.ศ. 2556 - 08:59

734837_518083338212674_1178483921_n.jpg

 

แด่ พวกดัดจริต 
ถ้ารัฐบาลมีอำนาจขนาดสั่งปลดละครของพวกมึงกลางอากาศได้ เค้าคงสั่งปิด FB ปิดปากที่คอยแกว่งหาเสี้ยนของพวก

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==
ลองคิดเล่นๆ ไม่ว่าสื่อสารพัด ไม่ว่าฟรีทีวีหรือดาวเทียม มีกี่รายการที่ด่ารัฐบาลกระจาย แต่ก็ยังคงสภาพเน่าๆอยู่ ไหนจะ ASTV หรือหนังสือพิมพ์โหนเจ้าอีกสารพัด ถ้ารัฐบาลมีอำนาจมากล้นขนาดนั้น ทำไมพวกแมงสาบยังยั้วเยี๊ยเต็มเมือง

ว่าแต่ไอ้ประเภทไหนกันนะ ที่ถ้าไม่อวย แบนได้ทันที คิดสิคิด ในประเทศนี้ ใครใหญ่ขนาดแบนอะไรต่ออะไรได้ขนาดนี้


== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

http://www.facebook....&type=1