Excel

โดย...ทีมข่าวการเมืองhttp://www.posttoday...แกนนำในค่ายทหาร

ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นหัวหน้า ประกาศยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้ประเดิมเชิญแกนนำคู่ขัดแย้งทั้งพรรคเพื่อไทย แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ กปปส.เข้ารายงานตัว พร้อมทั้งนำไปควบคุมตัวยังค่ายทหารทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

อย่างไรก็ดี ความพยายามที่จะให้คู่ขัดแย้งทุกฝ่ายมาอยู่ด้วยกันเพื่อ “ละลายพฤติกรรม” ไม่เป็นผล

ปฏิบัติการของ คสช.เริ่มจากการรายงานตัวตั้งแต่เช้าวันที่ 23 พ.ค. ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ ผู้มารายงานตัวแต่ละคนจะถูกยึดโทรศัพท์มือถือไว้ทั้งหมด หลังจากนั้นจะถูกนำไปแยกบัญชีแบ่งเป็นกลุ่มๆ ให้นั่งรอการเรียกชื่อ บ้างถูกเรียกไปแล้วก็ถูกนำกลับมาใหม่

“บ้างก็ถูกเรียกแล้วก็ไม่ได้กลับมาที่ห้องโถงรวมอีกเลย เพราะจะถูกแยกกลุ่มควบคุมตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ของกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นค่ายอดิศร จ.สระบุรี กรมทหารราบใน จ.เพชรบูรณ์ หรือหน่วยทหารที่วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา”แหล่งข่าว เปิดเผย

ทั้งนี้ ก่อนจะถูกนำตัวไปควบคุมแต่ละพื้นที่ทุกคนจะได้รับแจกข้าวกล่อง ประเดิมด้วยเมนูไก่ผัดหน่อไม้เหมือนกันหมด โดยมีผลไม้สับปะรดและแตงโมตบท้าย

ผู้ผ่านการรายงานตัวกลุ่มหนึ่งถูกทหารเชิญขึ้นรถตู้ ซึ่งเตรียมไว้ 10 คัน กำหนดให้นั่ง 8 คนต่อคัน ยกเว้นคันสุดท้ายที่มีผู้โดยสารเพียง 2 คน เมื่อขึ้นรถครบหมดแล้วมีรถทหารนำขบวนปิดหัวปิดท้ายเดินทางออกจากสโมสรทหารบก เทเวศร์ ไปในช่วงบ่ายแก่ๆ โดยที่ทุกคนไม่ทราบที่หมาย

เพียง 1 ชั่วโมง ทั้งหมดเดินทางถึงสถานที่ควบคุมตัว ณ ศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพภาคที่ 1 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

สถานที่แห่งนี้เป็นชุมชนมีบ้านพักของครอบครัวทหารอยู่จำนวนหนึ่ง ใจกลางชุมชนเป็นบ้านพักรับรอง 10 หลัง ลักษณะชั้นครึ่ง ใต้ถุนสูง มี 2 ห้องนอน 1 ห้องโถง มีเตียงแบบทหารพร้อมที่นอนและมุ้ง บ้านเหล่านี้ถูกปิดไว้นานไม่ค่อยได้ใช้สอย มีคำสั่งให้เร่งทำความสะอาดล่วงหน้าแบบฉุกละหุก

สำหรับแกนนำที่ถูกนำมาควบคุมมีทั้ง กปปส. นปช. พรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล และข้าราชการที่ฝักใฝ่ระบอบทักษิณ ประกอบด้วย สมชาย วงศ์สวัสดิ์, วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล, สุรนันทน์ เวชชาชีวะ, นลินี ทวีสิน, ชูชาติ หาญสวัสดิ์, นิสิต สินธุไพร, ขวัญชัยไพรพนา, ธวัช วิชัยดิษฐ, ธงทอง จันทรางศุ, อำพน กิตติอำพน

นอกจากนี้ วิชาญ มีนชัยนันท์, ธีระ วงศ์สมุทร, ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์, นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, บุญรื่น ศรีธเรศ, สุชาติ ธาดาธำรงเวช, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, ยุคล ลิ้มแหลมทอง, วิทยา บุรณศิริ, ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข, สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล, และวรพงษ์ ตันติเวชยานนท์

ขณะที่แกนนำฝ่าย กปปส. มี นิติธร ล้ำเหลือ, สุริยะใส กตะศิลา, ชุมพล จุลใส, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ, เสรี วงษ์มณฑา, ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, ทยา ทีปสุวรรณ, อัญชะลี ไพรีรัก, และจิตภัสร์ กฤดากร

เมื่อถึงที่หมายทุกคนจะแยกย้ายเข้าบ้านพัก ในชั้นแรกจะจัดให้อยู่คละๆ กัน แต่ต่างฝ่ายไม่ยอมจะอยู่ด้วยกัน จึงต้องแยกเป็นฝ่ายแกนนำ กปปส.อยู่รวมกันหลังหนึ่ง ฝ่ายเพื่อไทยและ นปช.แยกไปอยู่อีก 2 หลัง

จากนั้นทหารได้แจกขันคนละใบพร้อมอุปกรณ์ เช่น ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ผงซักฟอก คนละ 1 ชุด รวมทั้งเสื้อยืดคอกลมมีทั้งสีขาว น้ำเงิน เขียว และกางเกงเลอีกคนละชุด เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้นำอะไรติดตัวเลย ซึ่งในส่วนของบ้านพัก กปปส.ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ทหารเตรียมไว้ สภาพจึงดูคล้ายนักโทษ ขณะที่ฝ่ายบ้านพักของแกนนำเพื่อไทยและ นปช.บางคนยังไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้า ยอมที่จะสวมชุดเดิม

ทั้งนี้ บ้านพักแต่ละหลังมีทหารคอยดูแลและอำนวยความสะดวกหลังละ 5 นาย มีหน้าที่ซื้อข้าวของจำเป็นให้ รวมทั้งบริการตามต้องการ เพราะห่างออกไปไม่ไกลนักมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งหากคนไหนที่มีเงินติดตัวก็จะไหว้วานให้ทหารไปซื้อข้าวของขนมนมเนยมาประทังหิวได้

ผู้ถูกควบคุมตัวทุกคนได้รับอนุญาตให้เดินเล่นได้ แต่ไม่ให้ไปไกลนัก เพราะบริเวณนี้งูเห่าชุกชุม ขณะที่เรื่องการกินจะมีแม่บ้านคอยจัดเตรียมให้ครบทุกมื้อ เช่น มื้อเช้าเป็นข้าวต้มหมู กลางวันเป็นต้มยำเห็ดใส่ไก่ กุนเชียงทอด มีของหวานเป็นผลไม้ กล้วยน้ำว้า ส่วนมื้อเย็นเป็นหมูทอดกระเทียมพริกไทย และไข่เจียว

อย่างไรก็ดี เพื่อความสมานฉันท์ทหารพยายามแนะนำทุกฝ่ายมาทานอาหารร่วมกัน แต่ฝ่าย กปปส.ปฏิเสธ จึงต่างคนต่างกินต่างอยู่ในบ้านของตัวเอง แม้ ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จะพยายามเป็นตัวกลางมาขอเชื่อมไมตรีกับฝ่ายแกนนำ กปปส. แต่ก็ไม่เกิดผล

อย่างไรก็ตาม ในการควบคุมตัววันแรกของคืนวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา มีทหารได้เข้ารับตัวจิตภัสร์ออกไป รวมทั้งบ้านพักของฝ่ายเพื่อไทยและ นปช.ก็มีการรับตัว สมชาย ธีระ ธงทอง และบุญรื่น ออกจากบ้านพัก ทำให้ชูชาติ หาญสวัสดิ์ โวยวายว่าทำไมจึงเลือกปฏิบัติให้ออกไปได้แค่บางคน

สำหรับคนที่เหลือนั้นได้รับการบอกเล่าว่าจะต้องอยู่อย่างน้อย 7 วัน บ้างก็บอกว่าวันที่ 26 พ.ค.นี้ ก็จะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านทั้งหมด คนที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่จึงตกอยู่ในสภาพเหมือนติดคุก เพราะไม่เปิดให้ใครเยี่ยม ไม่มีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงหรือแม้แต่คนในครอบครัวรู้ว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหนในห้องไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์ จึงวังเวงเดียวดายตามลำพังในหมู่มิตรยามยาก

“ทำให้บางคนทำกิจกรรมแก้เซ็ง เช่น นิติธรวิ่งออกกำลังกายชกลมในตอนเช้า อัญชะลีอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ให้เพื่อนฟังเสมือนหนึ่งจัดรายการข่าวเช้า ส่วนบ้านพักแกนนำเพื่อไทยและ นปช.ก็นั่งเล่นไพ่แก้เซ็ง บ้างก็นอนเอกเขนก

“สำหรับอาจารย์เสรี และ พล.อ.ปรีชา ดูจะประสบปัญหามากที่สุด เนื่องจากต้องฉีดยาเบาหวาน เมื่อไม่ได้รับยาจึงอ่อนเพลีย บรรดาแกนนำ กปปส.ได้ร้องขอทหารให้นำ 2 คนนี้ออกไปบ้านพักที่โรงพยาบาล หรือ สถานที่ที่มีการจ่ายยาได้ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต”แหล่งข่าว เปิดเผย

เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วจริงๆ เมื่อวานยังคิดอยู่ว่าการที่ทักษิณเลือกการถูกยึดอำนาจแทนการลาออก จะเป็นทางเลือกที่หายใจได้คล่องกว่า แต่วันนี้ต้องคิดใหม่แล้ว ดูเหมือนทักษิณจะคิดผิด คราวนี้ทหารเอาจริงเอาจังเฉียบขาดมากชนิดไม่คิดจะญาติดีกันอีกแล้ว ไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมไม่มีการประนีประนอมใดใดทั้งสิ้นเหมือนมีการศึกษาวางแผนมานาน การปฏิบัติการเก็บทุกเม็ดของทหารน่าจะทำให้ทักษิณอกสั่นขวัญแขวนไปไม่ใช่น้อย คิดจะขนมวลชนมาสู้ก็ไม่ใช่ง่ายเหมือนปี 49 หรือ 53 เพราะความชั่วช้าสามานย์ของนักการเมืองสายตัวเองทำให้คะแนนนิยมจากคนทั่วไปลดลงไปเยอะและแกนนำถูกบล็อคไว้เหมด คงมีแต่พวกเปลี่ยนเสื้อแดงเสื้อขาวหน้าเดิมๆสลับไปมาซึ่งจะทนแดดทนฝนได้นานหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ส่วนพวกฮาร์ดคอร์ไม่ต้องพูดถึง โผล่ออกมาก็น่าจะไม่เหลือเพราะตำรวจก็ช่วยลำบาก การจ้างสื่อขยายผลเหมือนที่แล้วๆมาก็น่าจะยาก เหมือนดูเหมือนทหารจะไม่เกรงใจสื่อ(ขายตัว)อีกต่อไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่คิดหวังว่าการต่อสู้ของ กปปส.คงไม่สูญเปล่าครับถ้าเรายังมั่นคงและเชื่อมั่น ช่วยให้กำลังใจการทำงานของพวกเขา อย่าไปตื่นตกใจหวั่นไหวเกินเหตุทำให้เสียขวัญกันเองกับปฏิบัติการณ์จิตวิทยาของพวกมันที่จะเกิดขึ้นอีกวันสองวันนี้ครับ

ดูจากรูปการ คงล้างบางกีฬาสี อันธพาลต้องหมดไป

หมดเวลาเกรงใจ นักสิทธิ นักสื่อมวลชน นักวิชาการ นักเศรษฐกิจ

ต่างชาติหรือสารพัดห่วงแบบก่อนๆ

 

อะไรจะเกิดก็เกิด ไม่กลัวคำขู่ใดๆทั้งสิ้น แต่เกิดแล้วต้องจบในครั้งนี้ เพื่ออนาคต

เห็นจากแถลงการณ์ออกมาถี่ยิบ เรียงเสียงครางกันอื้ออึง

ไอ้พวกแดงที่ออกมาวันนี้ คงโดนหมด  เราจะเห็นคนปากเก่งเข้าคุกกันแบบไม่คิดว่าจะกล้า

 

 

"ทุกอย่างผมรับผิดชอบเอง" คำนี้คงไม่ได้มาจากอารมณ์ แต่คงมาจากการคิดแล้ว

เสียสละรับแรงกระแทกคนเดียว แล้วชาติรอด เป็นผมมีโอกาศผมทำครับ

Tee Terapong

ภาพสท้านใจ...บิดาของวีรชน มารุต เที่ยงลิ้ม ถือธงชาติ เป่านกหวีดนำหน้ารูปถ่ายของลูกชาย เราจะไม่ลืมคุณและครอบครัวครับ

มารุต เที่ยงลิ้ม คือ เสรีชน ที่เสียชีวิต โดน M79 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 

หลับให้สบายนะคะวีรชนคนกล้าของมวลมหาประชาชน

 

เห็นภาพนี้แล้วอยากร้องไห้ตาม

อย่าลืมกองสลากนะ อภินิหารเยอะเหลือเกิน

โอ๊ย เหนื่อย ออกจากบ้านไปงาน สุดยอดของดีเมืองจันท์มา

กลับมา เลยมีเรื่องเล่า และความเห็นที่ค่อนข้างมโนสุดๆ ดังนี้

๑.ประธานในงานที่ผมไปกบลูกสาวคือเกรียงเดชฯ ผวจ.จันท์

หงอยมาก มันไม่เหลือราศีอีกแล้ว แขกในงานมองมันเป็นเหมือน

ธาตุอากาศยังไงก็ไม่รู้ ผิดกับคุณธวัชชัยฯ ที่ดูมีน้ำมีนวลและ

เป็นไฮไลต์ของงานนี้

๒.กรณีที่ คสช ยุบ สว ขอบอกแบบมโนว่า จะมี สว ชุดนี้หลายท่าน

อย่างเช่น คุณหญิงจารุวรรณ คุณสมชาย ทนายวันชัย คุณไพบูลย์

หรือคุณประสาร ฯลฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ

แห่งชาติหรือไม่ก็เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปการเมือง ไม่เชื่อก็คอยดู

๓.ผบ ตร ธาริต ปลัด กห ก็โดนย้ายไปแล้ว คิวต่อไปน่าจะเป็นคิว

ของปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้ว่าฯ ซึ่งมีบุคคลที่ได้รับการจองกฐิน

จาก คสช เท่าที่ทราบ(จากมโนของผมเอง)ก็มี ปลัดฯมหาดไทย

อธิบดีกรมปกครอง(ไอ้ศิริพงษ์ ห่านตระกูลตัวเอี้ยประจำกระทรวง)

เกรียงเดช ผวจ.จันท์ และอีกหลายๆตัว ใครนึกออกช่วยบอกที

๔.เรื่องการเรียกบุคคลมาพบเพื่อสนทนาธรรมกับ คสช เช็คไปเช็คมา

ยังขาดไปเป็นบางคน เช่น คณิน บุญสุวรรณ ตัวนี้แสบสุดๆ ไอ้วิเชียร

นายก อบจ.ตราด ไอ้นี่ คนเกาะช้างเขาบอกมาว่าตอนปี ๕๓ มันเคยให้

ที่พักไอ้แม้วบนเกาะช้าง เพื่อบัญชาการเกมให้ควายแดงเผาเมืองมาแล้ว

+บ้านเมืองที่มันมีปัญหาสารพัดปัญหาทุกวันนี้ เพราะคนเลวระยำทุก

สาขาอาชีพมาเจอกัน ตั้งแต่ นักการเมืองเลว ข้าราชการเลว ตำรวจเลว

ทหารเลว(บางคน) กำนัน ผญบ.เลว  พ่อค้าเลวๆ  นักธุรกิจเลวๆ พระหรือ

นักบวชเลวๆ  รวมไปถึงประชาชนรากหญ้าเลวๆบางตัว  ถึงเวลาหรือยังที่

พวกเราทุกคนที่พอมีจิตสำนึกสาธารณะอยู่บ้าง  ช่วยกันทำหน้าที่ของตน

ให้ดีที่สุด ช่วยดูแลสภาพสังคม และช่วยกันสรรค์สร้างพัฒนาบ้านเมือง

โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือผลประโยชน์และความผาสุกของประเทศชาติ+

รู้สึกเหมือนแผ่นดินสูงขึ้น .../  

 

ไม่ได้ฟังประกาศ แต่เดาว่ายุบ สว

 

สมน้ำหน้ามากเลย ถ้างั้น

 

เรื่องบานปลายจนปฏิวัติ เพราะความปอดแหกของพวก สว นี่แหล่ะ

 

อย่าเข้าใจผิด สว.ฝ่ายดีเลยค่ะ ทำอะไรต้องอยู่บนหลักกฏหมาย กรรมการกฤษฎีกาเพิ่งชี้ว่ารองประธานสว.ท่านสุรชัยมีอำนาจเปิดสภาและทูลเกล้าได้ ซึ่งถ้าไม่มีรัฐประหารท่านก็จะทำหน้าที่ได้ในฐานะประธานสภาต่อไป 

 

ส่วนการที่คสช.ยุบวุฒิสภา คงต้องการล้างทำความสอาดมากกว่าค่ะ

 

 

คนดีเรารู้ แต่คนดีอาจไม่ใช่คนกล้า

 

เราไม่ได้ตำหนิว่าเขาไม่ดี

 

เราตำหนิว่าเขาไม่กล้า

 

ไปดูลุงกำนันสิ ช่องทางกฎหมายไม่มีอะไรเลย

 

ที่ทำไปแต่ละอย่าง มีแค่ศรัทธา

 

ที่ก่อนทำ ให้ตาย

 

ใครก็ไม่เชื่อว่าคนจะออกมาเป็นล้าน

 

ท่านก็เสี่ยง เพราะศรัทธา และความกล้า

 

แต่พวกสว จะเอาแต่ชัวร์ พวกนี้เรียนกฎหมาย ย่อมกลัวกฎหมาย

 

เหมือนคนรู้จักไฟฟ้า ย่อมรู้ว่าไฟฟ้ามันอันตราย มีความระวัง อันไหนเสี่ยงก้ไม่ทำ

 

เช่นกัน คนรู้กฎหมาย ย่อมรู้ว่ามันมีช่องต่อสู้ได้ ไม่ชัวร์ เขาก็รอ

 

คุณอภิสืทธิ์ เราเดาว่าเขาพอรู้นะ เรื่องหากไม่มีใครทำอะไร จะมีปฏิวัติ

 

เขาถึงพยายาม เร่งเอาช่วงสุดท้าย บอกนัยๆว่ามีเวลาไม่มาก

 

และพรรคทุกพรรคต้องเสียสละ

 

แต่ตอนนั้นไม่มีใครฟัง

 

คุณอภิสิทธิ์ยังบอกว่า สว .ต้องทำ เป็นหน้าที่ ถ้าไม่ทำ ก็ปัดความรับผิดขอบไม่ได้

 

ชีวิตมันต้องเสียง ยิ่งเรื่องความเป็นความตายของชาติ

 

จะเสียงชีวิต อนาคตตนเอง สักครั้งเพื่อชาติ มันจะสักแค่ไหนเล่า

 

เหมือนท่านประยุทธ ถ้าต้องการเอาตัวรอด ไม่เสี่ยง ก็รอวันเกษียณ

 

วันนั้น หลังประชุม มี สว 2 คนหน้าเครียด ท่านพล.อ สมเจตน์ กับอีกคน ถ้าจำไม่ผิด

 

ท่านเป็น สว สาย คมช   เรานึกแล้วว่าเรื่องไม่ดี

 

ปรากฎว่าสักพัก สว แถลง ขอเชิญองค์กรต่างมาหารืออีก ยังไม่สรุปเรื่องสรรหานายก

 

ลุงกำนัน ผิดหวัง เดินกลับ

 

คนมันไม่เหมือนกันนะ

 

คนกี่ร้อยกี่พันคน จะมีคนดีสักคน

 

คนดีกี่ร้อยกี่พันคน จึงจะมีคนกล้าสักคน

เห็นด้วยกับทุกความเม้นท์ครับ

เชื่อว่านับจากนี้ แกสบายขึ้น และปลอดภัยแน่นอน

 

แกไม่ได้ไปไหนครับ

หลายครั้งที่เห็นแกไวไว ...แต่งชุดพลเอกทหารบกซะด้วย ...เรียกแกไม่ทัน

 

เมื่อว่าง

   คงเขียนหนังสือ ชีวิตจบโทจากเมกา -จนเป็นกบฏแผ่นดิน ...หาเงินมาใช้หนี้ ถ้าขายดีอาจเอาไว้ใช้ตอนแก่

สงวนสิทธิ์

    ถ้าจะบอกว่ากำนันทำม๊อบแล้วรวย จนซื้อที่เขาแพง เขาถูกได้

    ให้ไปเปิดกะทู้ใหม่

ไม่หรอกค่ะ เรายังรักลุงกำนันและชื่นชมแกนนำทุกคนเหมือนเดิม รวมทั้งผู้ทำงานอยู่เบื้องหลัง เบื้องหน้า และพี่น้อง กปปส ทุกคนทั่วประเทศ และทั่วโลกค่ะ

ต้องขอบคุณตั้งแต่เวทีผ่าความจริง ของ ปชป ที่เป็นจุดเริ่มต้นตีแผ่ความชั่วของแม้ว
บลูสกาย ที่ช่วยถ่ายทอดกระจายข้อมูลไปทั่วประเทศแข่งกับทีวีเสื้อแดง

หลายท่าน ที่ทุ่มเทแรงใจแรงกาย จนทำให้เรามีทุกวันนี้ นับแต่นี้เรายังไม่อาจคาดเดา
ผลที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า ก็ได้แต่หวังว่า ท่านประยุทธ จะสามารถพาประเทศออกไปจากเงื้อมมือทรราชได้
หรืออย่างน้อยก็ตัดแขนตัดขา จับตอนมันให้เหลือน้อยที่สุด

ถ้าลุงกำนันไม่เสียสละตัวออกมานำมวลชน เราก็ไม่มีวันนี้แน่นอนค่ะ เราอาจไม่ได้ชนะ 100%
แต่เราก็ชนะใจตัวเองที่กล้าออกมาแสดงจุดยืนของเราครั้งนี้ค่ะ

อ้อ ต้องขอบคุณรัดบานหน้าด้านกับ พรบ ฉบับลักหลับด้วยนะคะ ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เราออกมาเจอกันค่ะ ^^

เรียน เจ้าของกระทู้

ผมอ่านแล้ว น้ำตาไหล จากสามแสนมาผ่านอะไรมาเยอะ

ขอเถอะ

อย่าลืมลุงกำนัน

ผมมองว่า...ปานเทพไม่ได้อ้อนแฟนอย่างเดียว แต่ "บิดเบือนอย่างเจตนา" เลยครับ ในคำพูดนี้

 

แต่หากเราไม่สามารถที่จะฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปได้ก็อาจถึงคราวจำเป็นที่ ASTV ต้องยุติลงอันเป็นผลจากคำสั่งจากรัฐประหารครั้งนี้

 

หลังจากเอาลิ้งค์ ถั่งเช่า ออก   ด่าเขามาเป็นปีๆ 

หึหึ คงต้องโทษแป๊ะแล้วล่ะ ที่ดันบีบให้สุเทพออกมานำส้นตีนแห่งชาติ

คนเลยแห่ไปดูบลูสกายกันหมด

เจ๊งไปเหอะสื่อแบบนี้ ตำหนิกำนัน ผบทบ