Jump to content


ทรงธรรม

Member Since 23 April 10
Offline Last Active 30 May 14 11:46
-----

#202355 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by ดราม่า on 4 April 2012 - 10:46

ขออนุญาติตอบเป็นภาพครับ เป็นการอธิบายความเห็น229

Posted Image

ชั้งครั้งที่สาม เหตุและผลต้องดูที่ครั้งแรกด้วยครับ จะรู้ว่าหินก้อนไหน เบาหรือหนัก กรณีนี้ ตอบ 11ผิดปรกติแบบหนักครับ


หวังว่าคงถูกแล้วนะ มันยากจริงๆ :(

แต่ผมว่าถูกนะ คิดแล้วมันเป็นไปได้ทุกกรณี


#202278 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by chackrapbong on 4 April 2012 - 10:08

ขอโทษครับ
ขอปาดหน้านิดเดียว เกี่ยวกับคำถามตรรกศาสตร์ ไม้ตายกระบวนท่าที่ 1

(กระบวนท่าที่ 2 ยังทำไม่ได้ ทำได้แค่ ครี่งทาง ต้องหาวิธีเพิ่ม
เพราะมีหลาย case ในตัวมันเอง แต่แบ่ง สามกอง กองละ 4 ลูก น่าจะเดินมาถูกทางแล้ว)

หลังจากที่เราตาย และเข้าไปสู่ยมโลก เจอป้ายเขียนไว้ว่า “เบื้องหน้าเจ้ามีอยู่ 2 ประตู ทางเข้าสู่นรกแลสวรรค์ เจ้ามิอาจล่วงรู้ได้โดยพลัน จำต้องถามเจ้ายักษ์เฝ้าประตู เจ้าควรรู้ยักษ์หนึ่งเล่าความเท็จ เรื่องจะเล็ดความจริงไม่มีหนา ส่วนอีกตนพูดจริงใจไม่ไก่กา สองยักษาถนอมจิตเป็นมิตรกัน เจ้าถามได้ 1 คำถามกับ 1 ยักษ์ จงตระหนักว่าจะตั้งคำถามไหน จึงจะได้สู่สวรรค์ในทันใด หากพลั้งไปสู่นรกหมกไหม้เอย” เราจะตั้งคำถามว่าอย่างไรจึงจะเข้าประตูสวรรค์ได้

แสดงว่า ถามคำถามได้ 2 ครั้ง ถูกไหมครับ (เพียงแต่ถามคำถาม 1 คำถาม กับยักษ์ 1ตน)
ถามครั้งที่ 1 ถามยักษ์ตนใดตัวหนึ่ง
ถามครั้งที่ 2 ถามยักษ์อีกตนหนึ่ง ที่ไม่ไช่ตนแรก
ถ้าเงื่อนไขนี้ใช้ได้

ผมขอตอบ

1.ถามยักษ์ตนใหนก็ได้ด้วยคำถามที่ทดสอบก่อนว่ายักษ์ตนใหนพูดจริง ตนใหนพูดเท็จ
เช่น ท่านเป็นผู้เฝ้าประตูยมโลก ใช่หรือไม่(เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ายักษ์ทั้งสองตนนี้เป็นผู้เฝ้าประตูยมโลก)
ถ้ายักษ์ตนนั้น ตอบว่า ใช่ แสดงว่า ยักษ์ตนนั้นพูดความจริง
ถ้ายักษ์ตนนั้น ตอบว่า ไม่ใช่ แสดงว่า ยักษ์ตนนั้นพูดโกหก
2. เมื่อแยกได้แล้วว่า ตนใหนพูดจริง ตนใหนพูดโกหก เราก็ถามว่า ประตูใหนเข้าสู่สวรรค์
-ในกรณีที่ ข้อ 1 คำตอบเราได้จากยักษ์ตนที่โกหก เราก็เลือกถามยักษ์อีกตนหนึ่งที่พูดความจริง และทำไปตามที่ยักษ์ตนนั้นบอก
ก็จะเข้าประตูสวรรค์ได้
-ในกรณี่ที่ ข้อ 1 คำตอบเราได้จากยักษ์ตนพูดจริง เราก็เลือกถามยักษ์อีกตนหนึ่งที่พูดโกหกและทำตรงข้ามที่ยักษ์ตนนั้นบอก
ก็จะเข้าประตูสวรรค์ได้


#202131 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by อิสระในกรอบ on 4 April 2012 - 07:27


ไม้ตายก้นหีบกระบวนท่าที่ 2 ของผม
มีหิน 12 ก้อน ขนาดเท่ากันทุกก้อน มีอยู่ 1 ก้อนที่น้ำหนักต่างจากพวก (ไม่รู้ว่าเบาหรือหนัก) ให้ชั่งบนตาชั่งสมดุล (แบบคาน) 3 ครั้ง สามารถบอกได้ว่าก้อนไหนที่ผิดปกติและบอกได้ว่าเบาหรือหนัก

หวังว่าคงถูก :(

ใช้วิธีแบ่งเป็นกลุ่มล่ะ4ก้อนครับได้ 3 กลุ่ม A B C มันมีหลายกรณี ผมสมมุติให้ชั่ง B กับ C เป็นครั้งแรกเสมอ (ขอตั้งชื่อหิน (A= 1 2 3 4) (B= 5 6 7 8) (C=9 10 11 12))

ถ้าB Cเท่ากันเป็นเคสง่ายคือ จะเหลือแค่ A เป็นกลุ่มผิดปรกติ (BและCเป็นหินปรกติ) ให้เอาหินจาก A มา3ก้อน ชั่งครั้งที่สองกับหินจากกลุ่มปรกติ3ก้อน ถ้าเท่ากันอีก แสดงว่าหินที่เหลือใน A ผิดปรกติ ชั่งครั้งที่สามก็เป็นการเปรียบว่าหินผิดปรกติหนักหรือเบา
แต่ถ้า3ก้อนที่นำมาชั่งไม่เท่ากัน แสดงว่าผิดปรกติใน3ก้อนนั้น(และเราจะรู้ว่าหนักหรือเบาก็ตรงนี้แล้วนะครับเพราะเทียบกับกลุ่มปรกติแล้ว) ในการชั่งครั้งที่สามให้นำออกมา2ก้อน ถ้าเท่าก็รู้ว่าอันที่เหลือผิดปรกติและก็รู้แล้วว่าหนักหรือเบาจากการชั้งครั้งที่สอง แต่ถ้าไม่เท่าเราก็รู้ว่าก้อนไหนอยู่ดีเพราะเรารู้อยู่แล้วว่าหินหนักหรือเบา



แต่ถ้า B C ไม่เท่ากันเป็นเคสยาก จะเหลือแค่ A เป็นกลุ่มปกติ(ชื่อa) ในการชั่งครั้งแรกที่ไม่เท่ากันให้จำไว้ว่า B กับ C อันไหนหนักกว่ากัน

ก่อนชั่งครั้่งที่สองสมมุติให้เอาหินจาก B และ C สลับกัน (5 9 a a) (10 7 6 a) พัก8 11 12 แล้วเอากลุ่มที่สลับไปชั่งเปรียบกัน

สมมุติให้Cหนักว่าในการชั้งครั้งแรก ถ้าชั้งครั้งที่สอง (10 7 6 a) หนักกว่าแสดงว่า 10 กับ 5 ผิด แล้วให้เลือก 5 หรือ 10 มาชั่งกับ a เช่าถ้าเอา 10 มาชั้งแล้วหนักกว่า แสดงว่า10ผิด


อธิบายเป็นภาษายากกว่า เพราะตอนคิดวาดเป็นรูป :(


กรณีเคสยาก ถ้าชั่งครั้งที่ 2 แล้ว (5 9 a a) (10 7 6 a) เท่ากัน ชั่งครั้งที่ 3 เราก็จะไม่รู้ว่า 8 11 12 อันไหนผิดปกติครับ


#202104 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by ดราม่า on 4 April 2012 - 03:14

ไม้ตายก้นหีบกระบวนท่าที่ 2 ของผม
มีหิน 12 ก้อน ขนาดเท่ากันทุกก้อน มีอยู่ 1 ก้อนที่น้ำหนักต่างจากพวก (ไม่รู้ว่าเบาหรือหนัก) ให้ชั่งบนตาชั่งสมดุล (แบบคาน) 3 ครั้ง สามารถบอกได้ว่าก้อนไหนที่ผิดปกติและบอกได้ว่าเบาหรือหนัก

หวังว่าคงถูก :(

ใช้วิธีแบ่งเป็นกลุ่มล่ะ4ก้อนครับได้ 3 กลุ่ม A B C มันมีหลายกรณี ผมสมมุติให้ชั่ง B กับ C เป็นครั้งแรกเสมอ (ขอตั้งชื่อหิน (A= 1 2 3 4) (B= 5 6 7 8) (C=9 10 11 12))

ถ้าB Cเท่ากันเป็นเคสง่ายคือ จะเหลือแค่ A เป็นกลุ่มผิดปรกติ (BและCเป็นหินปรกติ) ให้เอาหินจาก A มา3ก้อน ชั่งครั้งที่สองกับหินจากกลุ่มปรกติ3ก้อน ถ้าเท่ากันอีก แสดงว่าหินที่เหลือใน A ผิดปรกติ ชั่งครั้งที่สามก็เป็นการเปรียบว่าหินผิดปรกติหนักหรือเบา
แต่ถ้า3ก้อนที่นำมาชั่งไม่เท่ากัน แสดงว่าผิดปรกติใน3ก้อนนั้น(และเราจะรู้ว่าหนักหรือเบาก็ตรงนี้แล้วนะครับเพราะเทียบกับกลุ่มปรกติแล้ว) ในการชั่งครั้งที่สามให้นำออกมา2ก้อน ถ้าเท่าก็รู้ว่าอันที่เหลือผิดปรกติและก็รู้แล้วว่าหนักหรือเบาจากการชั้งครั้งที่สอง แต่ถ้าไม่เท่าเราก็รู้ว่าก้อนไหนอยู่ดีเพราะเรารู้อยู่แล้วว่าหินหนักหรือเบา



แต่ถ้า B C ไม่เท่ากันเป็นเคสยาก จะเหลือแค่ A เป็นกลุ่มปกติ(ชื่อa) ในการชั่งครั้งแรกที่ไม่เท่ากันให้จำไว้ว่า B กับ C อันไหนหนักกว่ากัน

ก่อนชั่งครั้่งที่สองสมมุติให้เอาหินจาก B และ C สลับกัน (5 9 a a) (10 7 6 a) พัก8 11 12 แล้วเอากลุ่มที่สลับไปชั่งเปรียบกัน

สมมุติให้Cหนักว่าในการชั้งครั้งแรก ถ้าชั้งครั้งที่สอง (10 7 6 a) หนักกว่าแสดงว่า 10 กับ 5 ผิด แล้วให้เลือก 5 หรือ 10 มาชั่งกับ a เช่าถ้าเอา 10 มาชั้งแล้วหนักกว่า แสดงว่า10ผิด


อธิบายเป็นภาษายากกว่า เพราะตอนคิดวาดเป็นรูป :(


#201602 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by อิสระในกรอบ on 3 April 2012 - 18:38

อ้า ผมถามมั่ง
มี ชาย 3 คน ชื่อ พล นิกร กิมหงวน มีภรรยามาด้วยทั้ง 3 คน ดังนี้
พล คู่กับ นันทา
นิกร คู่กับ ประไพ
กิมหงวน คู่กับ นวลละออ
ชายทั้ง 3 ขี้หึง สุด ๆ วันหนึ่ง ทั้ง 3 คู่ได้มา ริมฝั่งแม่น้ำโขง จะข้ามจากฝั่ง หนองคาย ไปฝั่ง เวียงจันทน์ (เผอิญ สะพานมิตรภาพ ยังไม่ได้สร้าง)
ก็มีเรือไม้ลำหนึ่ง นั่งได้ สูงสุด 2 คน แต่เพราะความขี้หึง ของชายทั้ง 3 ปัญหาจึงเกิด
สามีทั้ง 3 ไม่ยอมให้ภรรยาของตัวเอง นั่งเรือไปกับชายอื่น หรือ อยู่ฝั่งเดียวกับชายอื่น โดยไม่มีตัวเองอยู่ด้วย
ทำยังไงล่ะทีนี้ จะพาทั้งสามคู่ ข้ามไปฝั่งเวียงจันทน์ ไปม่วนซื่น กับนายแม้ว อย่างไรดี
อ้อ ในที่นี้ ถือว่า ทั้ง 6 คน พายเรือเป็นทุกคนครับ


1. นันทาไปกับประไพ นันทากลับมา
2. นันทาไปกับนวลละออ นันทากลับมา
3. นิกรไปกับกิมหงวน นิกรกับประไพกลับมา
4. พลไปกับนิกร นวลละออกลับมา
5. นันทาไปกับนวลละออ นันทากลับมา
6. นันทาไปกับประไพม่วนทุกคู่


#201193 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by suratation on 3 April 2012 - 14:05

จากคำพูดของ อิสระในกรอบ
แล้วคนที่สวมหมวกสีขาวจะคิดแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่าครับ คนสวมหมวกสีขาวเลยลุกขึ้นในครั้งที่ 2 ด้วย คิดว่าคนสวมหมวกดำ 17 คนสวมหมวกขาว 3 คน หรือสวมหมวกดำ 16 คนสวมหมวกขาว 4 คน
อิสระพูดน่าคิดดีแฮะ อาจเป็นเช่นนั้นเลยนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น สงสัยมันลุกกันหมด 20 คนนั่นล่ะ
สงสัยต้องเพิ่ม กฎว่ามีการแปะกาวที่ก้น ให้คนสวมหมวกขาวไว้นะ


ถ้าเอาแค่จากที่คนตั้งคำถามกำหนดไว้ เค้าแค่กำหนดให้หมวกดำลุก ไมไ่ด้บอกว่าหมวกขาวจำเป็นต้องลุกหรือไม่ ผมว่าถ้า20คนลุกก็ถือว่าถูกต้องแล้วนะครับ เพราะหมวกดำทุกคนลุกแล้ว


#200509 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by Gop on 2 April 2012 - 23:06

พรุ่งนี้เช้าผมไม่อยู่ ทิ้งโจทย์ก่อนเลยละกัน สนุก ๆ ครับ เมื่อสายกีต้าร์ขาดเพื่อน 4 คน ตกลงจะออกเงินคนละเท่าๆ กัน ไปซื้อสายกีต้าร์เส้นใหม่โดยสายกีต้าร์เส้นละ 45 บาท เหลือง แดง และน้ำเงิน ออกเงินคนละ 15 บาท ส่วนดำไม่มีเงิน จึงอาสาเดินไปซื้อให้ เมื่อเดินไปถึงร้านเครื่องดนตรี พอดีช่วงนี้กำลังจัดโปรโมชันลดราคาสายกีต้าร์ ขายเพียงเส้นละ 40 บาท ดำนำเงินที่เหลือ 5 บาท มาคืนเหลือง แดง และน้ำเงินคนละ 1 บาท อีก 2 บาท เก็บติดตัวไว้เอง ถามว่า เหลือง แดง และน้ำเงิน ออกเงินคนละ 14 บาท 3 คน ก็ = 42 บาท และเงินอยู่ที่ดำอีก 2 บาท ซึ่งก็รวมเป็น 44 บาท ทำไมจึงรวมกันไม่ได้ 45 บาท และเงินหายไปไหน 1บาท


ผมว่าอันนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด คือทำตัวเองให้งง เหมือนผมเคยงงกับเพื่อนกันเองคล้ายๆอย่างนี้เลย

ผมว่าเรื่องของเรื่องคือ คิดโดยรวมแล้ว เสียเงินคนละ ๑๔ บาท รวมเป็น ๔๒ บาท เอาไปซื้อสายกีตาร์ ๔๐ บาท ดำชักดาบไป ๒ บาท อย่างนี้จะไม่งงครับ


#199952 ขอวัดระดับความรู้กันหน่อยครับ

Posted by อิสระในกรอบ on 2 April 2012 - 16:50

สนุกดีครับ ต่อ ๆ มีห้อง 2 ห้องอยู่ห่างกัน แต่ละห้องมีประตู 1 บานเข้า-ออกได้ครั้งเดียว (ชะโงกข้ามห้องไม่ได้มันอยู่ห่างกัน) ห้องหนึ่งมีสวิทช์ไฟ 3 อัน อีกห้องหนึ่งมีหลอดไฟ 3 ดวง จะรู้ได้ยังไงว่าสวิทช์ไหนจับคู่กับหลอดไหน


เปิดสวิตซ์ที่ 1 ทิ้งไว้ 5 นาทีครับ แล้วปิด
แล้วเปิดสวิตซ์ที่ 2 ค้างไว้ แล้วเดินไปห้องที่ 2

หลอดไฟที่ดับ แต่ร้อน คือ สวิตซ์ ที่ 1
หลอดไฟที่ติด คือสวิตซ์ ที่ 2
หลอดที่ไม่ติด คือหลอดที่เสียครับ :D


ถูกคร้าบ แต่ไม่มีหลอดเสียนะครับ สวิทช์ไม่ได้เปิดตะหาก จริง ๆ แล้วผมจะเฉลยคล้าย ๆ กันนี่แหละ คือเปิดสวิทช์ที่ 1 ทิ้งไว้นาทีเดียวพอให้หลอดมันอุ่น ๆ จากนั้นเปิดสวิทช์ที่ 2 แล้วเดินไปห้องหลอดไฟ หลอดไหนอุ่นคือที่กดอันแรก หลอดที่ติดแต่อุ่นน้อยกว่าคือที่กดอันที่ 2 หลอดที่เหลือคืออันที่ไม่ได้กด B)