ผมรู้สึกเหมือนความเห็นของคุณ ypk นะครับ
ผมเชื่อว่า ด้วยวิธีการที่นักการเมืองทำๆ กันอยู่นี้
มันทำให้ระบอบการเมืองไทยในปัจจุบันและอนาคต ไม่มีวันจะกลับไปเป้นอย่างเดิมอีกแล้ว
รัฐบาลในสมัยหน้า ไม่ว่าจะเป็นใคร จำเป็นแค่ไหน ก็ไม่สามารถลดการจ่ายให้ชาวนาตันละ 15000 ได้อีก
ไม่มีการปรับลดค่าแรงลงได้ต่ำกว่า 300 ได้อีกแน่นอน
อย่างไรเสีย ใครที่จะเข้ามาเป้นรัฐบาลต่อไปจากรัฐบาลเพื่อไทย
ก็ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบต่อการกระทำโง่ๆ ของพรรคเพื่อไทยที่ทำไปแล้ว
ดังนั้น ถึงตอนนั้น ถ้าไม่ตามน้ำไป ก็ต้องปฏิรูประบอบการเมืองใหม่กันแน่ๆ อยู่แล้วล่ะครับ
แต่ผมเคยได้ยินเสื้อเหลืองหลายคนพูดแบบนี้
ถ้า ปชป ไม่ชูการปฏิรูป ก็อย่าหวังว่าจะได้เป็นรัฐบาลอีกเลย
ผมว่า จริงอย่างที่คุณ ypk พูด คือมันเป็นการพยายามโยงจนมั่วเพื่อตีขลุมเข้ามางตัวเอง
คนที่เลือกประชาธิปัตย์ ก็เพราะเชื่อว่าประชาธิปัตย์ดีกว่าพรรคอื่นๆ
ที่เลือกประชาธิปัตย์ ก็เพราะเชื่อว่านโยบายและการทำงานของประชาธิปัตย์ใช้ได้
หรือแม้แต่เลื่อกเพราะจำใจก็เถะ
ผมเชื่อว่าบนเงื่อนไขดังตัวอย่างที่ผมพูดมา ไม่เกี่ยวกับว่าจะปฏิรูปหรือไม่
คนที่เลือกพรรคเสื้อแดง
แน่นอน ความรักในกลุ่มเดียวกัน พวกฉัน อันนั้นย่อมมีไม่แตกต่างกัน
แต่แน่นอน เขาย่อมชิงชังรังเกียจฝ่ายตรงกันข้ามอย่างประชาธิปัตย์
หากประชาธิปัตย์ชูนโยบายจะปฏิรูปการเมือง หรือปฏิรูปตัวเอง
ย่อมไม่ใช่เงื่อนไขที่จะทำให้พวกเขาหันมาเลือกประชาธิปัตย์หรอก
ต่อให้พวกเขาอกหักจากเพื่อไทย (ผมเห็นมาแล้วในพันทิป เรื่องการออกนิรโทษกรรมนี่แหละ
ไม่เลือกเพื่อไทย แต่ก้ไปเอาคนอื่นอยู่ดี เพราะเกลียดพรรคประชาธิปัตย์อยู่ไม่เสื่อมคลาย)
ความผันผวน อาจจะเกิดขึ้น
หากประชาธิปัตย์บอกว่าจะปฏิรูป คนเสื้อเหลืองหลายคนที่เคยโหวตโน
หันมาโหวตให้ประชาธิปัตย์ (แต่จะได้ซักเท่าไหร่ เงื่อนไขแค่นี้พอมั๊ย)
12+2 ล้านคะแนน ก็ยังไม่พอหรอก ที่จะชนะ 15 ล้านเสียง
ที่สำคัญ ผมไม่เชื่อว่าคนที่ออกมาเย้วๆ กันที่ราชดำเนินกับประชาธิปัตย์
จะเอาการปฏิรูปมาเป็นเงื่อนไข
อยากให้มีมั๊ย ก็คงอยาก แต่ไม่ใช่เงื่อนไขแน่ๆ
คนกลุ่มเดียวที่จะเอาการปฏิรูปมาเป็นเงื่อนไข คงมีเพียงกลุ่มเดียว
ดังนั้น ผมจึงไม่คิดหรอกครับ ว่าการปฏิรูป จะเป็นเงื่อนไขของโอกาสจะเป็นรัฐบาลของประชาธิปัตย์
ผมอยากให้เจ้าของกระทู้ บอกพี่
โลกนี้ ไม่มีอะไรเป็นได้ดั่งใจเราไปได้หมดหรอกครับ
ตัวคุณเอง ยังเป็นไม่ได้ดั่งใจเขาเลย (เพราะคุณคงคิดต่างกันกับเขา)
แล้วนับประสาอะไร กับนักการเมืองที่ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่
ถึงที่สุด คุณก็ยังมีประเด็นด้านอื่นๆ ที่ทำให้คุรกับเขายังเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันได้อยู่
แนวทางทางการเมืองก็เช่นกันนะครับ
เงื่อนไขมากมาย ที่เมื่อคุณพูดในฐานะคนทำ กับฐานะคนอยากให้ทำ
มันย่อมมีเงื่อนไขแตกต่างกัน
ให้เขาอดทนรอหน่อย ให้โอกาสหน่อย รอพิสูจน์หน่อย
สมมุติว่า คราวหน้า ประชาธิปัตย์ได้คะแนนท่วมท้น เป็นรัฐบาลพรรคเดียว
คนเสื้อแดงแผ่วไปหมด ไม่มีใครมาชุมนุมสร้างปัญหา
แต่ประชาธิปัตย์ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงอะไร นั่นคงจะเป็นคำตอบแล้วล่ะครับ
แต่พูดก็พูดเหอะ
ถึงเวลานี้ การจะเปลี่ยนใจคนทั้ง 3 ฝ่ายให้คิดไปในแบบอื่นๆ
ผมว่ายากเย็นไปแล้วล่ะครับ
บางที รอให้เขาประจักษ์ด้วยตาตัวเองอาจจะเป้นวิธีที่ดีที่สุดครับ