Jump to content


kisa

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 19 พฤษภาคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2557 13:01
-----

#1087441 ชาวนาจากอยุธยาได้รับเงินค่าข้าวไปเรียบร้อยแล้ว...

โดย sixking on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:58

ไม่คิดถึงชาวนาที่ฆ่าตัวตายเพราะโครงการรับจำนำข้าว กลับไปยกยอปอปั้นไอคนที่เกือบทำประเทศบรรลับ

 

 

นี่แหละคือคำตอบว่าทำไมประเทศไทยถึงห่วยแตก... บางครั้งนักการเมืองเลวก็อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศวุ่นวายอยู่เหมือนทุกวันนี้... ผมว่าปัจจัยสำคัญคงเป็น "ความเห็นแก่ตัว" ของคนไทยนี่แหละ

 

 

หากคนไทยส่วนใหญ่เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งแล้วไซร้ มีหรือไอพวกนักการเมืองซื้อสิทธิ์ขายเสียงจะได้ครองบ้านครองเมืองอยู่ถึงทุกวันนี้...




#1079244 POP CORN จะมัวรอเฝ้าม็อบไม่ได้อีกแล้ว ต้องปฏิบัติการเชิงรุก กำจัดผู้สั่งการแ...

โดย ศรอรชุน on 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:03

บางกรณี การฆ่าเพื่อระงับการฆ่า  บางครั้งมันก็จำเป็นต้องทำ  เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่


ถัดจากขวัญชัย จะเป็นการแจกข้าวโพดคั่วจากพ่อค้าป๊อบคอร์นระดับยอดฝีมือ
ระดัยพรีเมี่ยมขึ้นห้าง ไร้ร่องรอย ไร้รูปรสกลิ่นเสียงให้ตามรอย

โปรดรอคอยตอนต่อไป...


#1079033 POP CORN จะมัวรอเฝ้าม็อบไม่ได้อีกแล้ว ต้องปฏิบัติการเชิงรุก กำจัดผู้สั่งการแ...

โดย ศรอรชุน on 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:26

ต้องใจเย็น ตั้งสติให้ดีครับ

สิ่งที่พวกมันต้องการ ผู้รับผิดชอบที่รักประเทศชาติอย่างแท้จริง รู้หมดละครับ

เพียงแต่รีแอ็คชั่นที่จะออกตอบโต้พวกนรกนี้ มันมีหลายขั้น หลายระดับ หลายแนวทาง หลากหลายผลที่ต้องการ...

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้นแน่... สยามประเทศจะต้องผ่านเรื่องร้ายๆนี้ไปได้...


#1079015 POP CORN จะมัวรอเฝ้าม็อบไม่ได้อีกแล้ว ต้องปฏิบัติการเชิงรุก กำจัดผู้สั่งการแ...

โดย ทรงธรรม on 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:07

บอกตามตรง ครับ ว่าเจอเหตุการณ์

 

สูญเสีย เมื่อคืนแล้ว ก็ อึ้งแล้วก็ รู้สึก

 

ท้อถอย กับการมีชีวิตอยู่ในประเทศไทย

 

 

เพราะประเทศนี้ มีสัตว์ น-รก มากมาย เหลือเกิน

 

ไม่คิดว่า จะทำได้ลงคอ กับคนมือเปล่า

 

รวมทั้ง เด็กผู้หญิง เล็ก ๆ ที่กำลังนั่งทาน

 

ก๋วยเตี๋ยว ไม่รู้ อิโหน่อิเหน่

 

 

ผมมึนมาก ไม่รู้ว่า พวกเรา จะทำอย่างไรดี

 

ผมเห็นหลายคนแค้นแล้ว ก็ต้องบอกว่า

 

พวกคุณมีเหตุผล ให้คิดอย่างนั้น

 

 

ผมเอง นับ กปปส ทุกคน เป็นญาติ

 

ดังนั้น ก็รู้สึกว่า ตัวเองสูญเสีย

 

บุคคลอันเป็นที่รัก แล้วก็ เสียดาย

 

อนาคต อีกยาวไกล ของน้องฟิก มาก ๆ

 

 

แกน่าจะได้ ร่าเริง ตามประสาเด็ก

 

แต่มาเจอ สัตว์ น-รก ฝูงใหญ่ ในประเทศ

 

ซึ่งได้รับการหนุนหลัง โดย คนอีก

 

กว่า 10 ล้านเสียง เป็นอย่างน้อย

 

 

เรื่องบ้า ๆ แบบนี้ เกิดขึ้นมากมาย

 

เต็มไปหมด รู้สึกว่า จะอยู่อย่างไร

 

ท่ามกลาง คนที่ หน้าเนื้อ ใจเสือ พวกนี้

 

 

เห็นกัน ก็นึกว่าคนธรรมดา

 

แต่ใจยิ่งกว่า สัตว์หน้าขน พร้อมจะ

 

พรากชีวิต พวกเราไป ทุกเมื่อ

 

 

ผมบอกตรง ๆ ชีวิตนี้ ไม่เคยคิด

 

จะฆ่าใคร (แต่ตอนนี้ อาจยกเว้น ทักษิณ)

 

แล้วไม่คิดด้วยซ้ำว่า จะลงมือ แม้แต่

 

เอามีด จิ้มเบา ๆ กับคน สักคน

 

 

เพราะคิดว่า พวกเรา มีอารยธรรมแล้ว

 

ไม่ต้องการกลับเป็น สัตว์หน้าขน อีกแล้ว

 

แต่ดูเหมือน พวกเราจะคิดกันแค่ กลุ่มเดียว

 

อีกฝั่งเขาไปไกลแล้ว สวมวิญญาณสัตว์

 

ไปมากแล้ว วันดี คืนดี จะลุกมาฆ่าใคร

 

อีกก็ไม่รู้

 

 

เหนื่อยใจ ตอนนี้ เป็นไปได้

 

อยากย้อนวันเวลา ที่คน ยังไม่

 

ถูกกระตุ้น สัญชาตญาณ ดิบ ขนาดนี้

 

แต่นั่นล่ะ คนเรา จะไม่เผยธาตุแท้

 

ตราบเท่าที่ ไม่มีสิ่งมากดดัน

 

 

ผมขอแต่ พวกเรา อย่าให้ความกดดัน

 

มาทำให้ พวกเรา เป็น คน ที่ไม่ใช่คน เลยนะครับ

 

 

ปล่อยพวกมัน เป็นสัตว์หน้าขน กลุ่มของมันเถิด

 

พวกเรา จะได้มีโอกาส ชีวิตหลังความตาย

 

ไปเจอ น้องฟิก บนสวรรค์

 

 

รอก่อนนะ น้องฟิก ตอนนี้ ขอให้หนู มีความสุข




#954015 นางฟ้าในหมู่มวลมหาประชาชน ขจัดอำนาจชั่วปฏิรูปประเทศไทย

โดย petepoo on 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:54

ขอเสนอ นางฟ้า เข้าแข่ง บ้างครับ

 

 

 

 

ภาพที่ 3 เอามาจาก  http://webboard.seri...ทนำทัพ/page-269

 

Attached Images

  • สาวม๊อบ 1.jpg
  • สาวม๊อบ 2.jpg
  • สาวม๊อบ 3.jpg



#953685 นางฟ้าในหมู่มวลมหาประชาชน ขจัดอำนาจชั่วปฏิรูปประเทศไทย

โดย ดอกปีบ on 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:10

 

</body>

81062.jpg

9 ธ.ค. 56 นับว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทย ที่มวลมหาประชาชนนับหมื่นนับแสน จากทุกสาขาอาชีพ รวมไปถึงนิสิต นักศึกษา ไม่เว้นแม้กระทั่งสาวๆ น่ารัก ที่ออกมาร่วมต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งกัดกินประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เรื่องของหัวใจนั้น เกินร้อยกว่าผู้ชายแมน ๆ บางคนหลายสิบเท่า

 

และในวันที่มวลมหาประชาชน จะเผด็จศึกระบอบทักษิณ และรัฐบาลที่หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ สาวๆ เหล่านี้ก็ไม่พลาดออกมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังครั้งนี้

 

เห็นแบบนี้แล้ว แนวหน้าออนไลน์ ต้องขอยกให้พวกเธอเป็นนางฟ้า แห่งมวลมหาประชาชน ที่จะร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

13155.jpg

13154.jpg

12908(1).jpg

12906(1).jpg

13138.jpg

13139.jpg

13152.jpg

13140.jpg

13145.jpg

13143.jpg

13141.jpg

13142.jpg

13157.jpg

13156.jpg

748417657963.jpg

1391751_706969689321114_442980192_n.jpg

ติดตามเฟซบุ๊กร่วมเป็นแฟนเพจแนวหน้าออนไลน์ได้ที่
www.facebook.com/naewnaonline

http://www.naewna.com/politic/81062




#876771 เอาแล้้ว."พ่อค้าจตุจักร" รวมตัวตะเพิดเสื้อแดง เหตุ ตั้งเวทีขวางทางจรา...

โดย 2012 on 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 09:20

พ่อค้าในสวนจะเริ่มจัดร้านตอนเย็นศุกร์. บ้านผมใกล้ วันนี้จิบกาแฟยืนดูควายโดนกระทืบกันดีกว่า


#867409 ไม่โง่จริงเป็นเสื้อแดงไม่ได้นะครับ55+เรามารวมเรื่องเล่าของแดงโง่ๆกัน

โดย redfrog53 on 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 08:50

หลังจากเมื่อเช้าเผากงเต๊ก i-Phone, i-Pad, และ Rolex ไปให้อากง อาม่า
ตกบ่าย บรรพบุรุษก็ส่ง whatsapp มา chat กับเรา
อากง :
พวกลื้อไม่ต้องเผาอาลายมาให้อั๊วเลี้ยวนะ พวกอั๊วมีทั้งบิ๊กซี เซ็งทั่งเวิง โรงหนังซีหยัมครบเลี้ยว ไอ้พวกเสื้อแลงมังเผามาให้ตั้งแต่ปี 53 เลี้ยว...
เรา : งั้นอากงคงแฮปปี้มากซีนะ
อากง : แน่นอง...อ้อ! ลื้อไม่ต้องเผา i-Phone 4S มาให้อีกเลี้ยวนะ เปลืองเงิงเปล่าๆ น่อ
เรา : ทำไม่ล่ะ อากงใช้ไม่เป็นเหรอ?
อากง : ป่าว Steveve Jobs อีมาเปิกตัว I-Phone 5 เมื่อวางนี้เลี้ยว
อากง : ...
อากง : ตอนนี้อั๊วรออาทักษิง ให้อีมาเปิกเอไอเอ๊ก ที่นี่สังญางไวไฟ ไม่ค่อยลีน่อ
เรา : รอไม่นานหรอกอากง...แล้วอากงอยากได้อะไรเป็นพิเศษอีกรึเปล่า?
อากง : มีซี่ อยากล่ายมากๆเลย
เรา : อะไรเหรออากง?
อากง : กูเกิ้งเหลิมไง!!!... อีรู้หมกทั้ง 3 โลก...ถามอารายอีก็ตอบล่ายหมก… ตั้งกะเรื่องการเมืองยังเรื่องการมุ้ง... ขนากนังนกแก้วปะติบักกางว.5 ฉาวโฉ่แค่ไหนก็ยังตอบล่าย...เหมืองอีไปยืงอยู่ข้างเตียงโฟซีซั่งล่วยเลย...กูเกิ้งที่นี่รู้แค่โลกเลียว...ไม่ล่ายลังใจอากงเลย...




#832079 ปลัดกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าราคาสินค้าแพงขึ้นเป็นแค่ความรู้สึก !!!...

โดย อมพระมาพูด on 3 กันยายน พ.ศ. 2556 - 18:32

แพงจริงๆหว่ะ ลูกชิ้นเนื้อหมูแท้ๆ แค่ไม้ละ 5 บาท  :lol:
 
1185302_584871564884646_728864950_n.jpg


เม-ริงกล้าแด-ร๊ก เหรอะ "น้ำจิ๋มรสเด็ด"


#739037 ศึกสองสี หรือ อ้ายชะนีอยากมีผัว

โดย ตะนิ่นตาญี on 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:12

มื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตะนิ่นตาญี เดิน ตุหรัด-ตุเหร่ เล่นอยู่แถวแถว

 

ถนนราชดำเนินกลาง เนื้อแท้ นั้น อยากเห็นเส้นทางที่ว่ากันว่า

 

จะใช้สำหรับการแข่ง F-1 หรือ ที่มักเรียกกันว่า การแข่งรถสูตร ๑

 

วันนั้น ตะนิ่นตาญี เริ่มเดินตั้งแต่ด้านหน้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝั่งสนามหลวง

 

ไปยัง พระบรมมหาราชวัง จาก ประตูวิเศษไชยชาญ ผ่าน ประตูมณีนพรัตน์

 

เลี้ยวขวาไปด้านหน้า กระทรวงกลาโหม ย้อนกลับมาที่ ศาลหลักเมือง

 

ไหว้ พระหลักเมือง และ หลักเมือง แล้วมา ศาลฎีกา ตรงขึ้นมาไหว้ แม่พระธรณีบีบมวยผม

 

เสร็จแล้วออกมาที่ ถนนราชดำเนินกลาง...

 

เดินไป-คิดไป ถึง Camp élysées Avenueหรือ ที่คนไทยเรียกติดปากกันว่า ถนน ชอง อาริเซ่ นั่นเอง

 

คำว่า élysées นั้น หมายความถึง Elysium Fields อันได้แก่สถานที่แห่งหนึ่ง

 

ซึ่งอยู่ ระหว่าง นรก กับ สวรรค์ ของ ฟารั้ง เป็นที่พักอาศัยของผู้ประกอบกรรมดี

 

ที่รอเวลาขึ้นสวรรค์หรืออย่างไรประมาณนั้น หากเพื่อนเพื่อนท่านใดมีความรู้

 

เรื่อง นรก-สวรรค์ ของ ฟารั้ง มัน จะขยายความเรื่องนี้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง

 

ว่ากันว่า เมื่อครั้งปี พุทธศักราช ๒๔๗๕ ได้มี บุคคล ที่ยังอยู่ใน วัยฉกรรจ์ กลุ่มหนึ่ง

 

ผู้ซึ่งได้ไปศึกษาวิชาต่อที่ ประเทศฝรั่งเศส ได้ พบปะสมาคมเที่ยวเตร่กันใน Paris

 

จนมีความช่ำชองในมหานครแห่งนั้นเสียทั่วไป พวกเขาได้เห็นความสวยงามของนครแห่งนั้น

 

เมื่อกลับมายังแผ่นดิน อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาก็ได้ก่อการปฏิวัติขึ้น.....

 

การปฏิวัติ นั้น ได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแผ่นดินสยาม

 

จาก สมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็น การปกครองแบบประชาธิปไตย

 

ถึงแม้นว่าจะได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น ประชาธิปไตย แล้ว

 

คนหนุ่มกลุ่มนั้นก็ไม่สามารถลบล้างความคิดแบบโบราณที่ว่า ตนเองเป็น ฝ่ายชนะ

 

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเขา จึงเข้าใจกันเอาเองว่า "บ้านเมือง เป็นของ พวกเขา แต่เพียงฝ่ายเดียว"

 

หากใช้ภาษาไทยที่มี สำนวน สวิงสวาย สักหน่อยก็เห็นพอจะเขียนได้ว่า

 

"เสียงส่วนใหญ่ คือ ความถูกต้อง"

 

เจ้าประคุณเอ๋ยเกิดมา ไม่เคยเห็น-ไม่เคยเจอ ร่ำเรียนมาไหนต่อไหน

 

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องแล้ว ประเทศไทย ก็คงไม่จำเป็นต้องมี กฎหมาย

 

ไว้ตัดสินว่า ใครถูก-ใครผิด ใช้ direct free kick เอ๊ย ไม่ใช่ ขอประทานโทษ ใช้ vote กันไปเลย

 

สิ้นเรื่อง-สิ้นราว แล้วไปบอก ปราชญ์ฟารั้ง มันด้วย ว่า.....

 

ไอ้กล้วย เอ๋ย ประชาธิปไตย ไม่จำต้องมี check and balance ดุล และ คาน

 

กันให้ เมื่อย ตะเข็บลูกหมาก แต่อย่างใด ใช้ vote กันอย่างเดียว ได้เสียวสมใจแน่แน่

 

มาคุยกันเรื่อง Camp élysées Avenue กันต่อดีกว่านะเพื่อนเพื่อน

 

เมื่อคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองมีความเห็นว่าบ้านเมืองเป็นของตนเช่นนี้

 

ก็มีความปรารถนาที่จะสร้างสรรค์บ้านเมืองที่ตนยึดมาได้นั้น

 

ให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทรรศนะของตน และเมืองที่คณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองเห็นว่า

 

เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเวลานั้นก็คือ กรุงปารีส พวกเขา จึงมีความประสงค์

 

ที่จะตัดถนนหนทางและสร้างตึกรามอาคาร ใน กรุงเทพฯ ให้มี

 

ลักษณะโอ่อ่าภูมิฐานเหมือนกับที่ กรุงปารีส.....

 

ความคิดนั้น ได้ก่อกำเนิดขึ้นที่ "ถนนราชดำเนินกลาง" อันมีที่ดินทั้งสองฝากฝั่งเป็น

 

ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้จัดการแยกไว้ต่างหาก

 

แล้วให้คนอื่นที่ไม่ใช่ พระมหากษัตริย์ หรือ ผู้ที่มิใช้ พระมหากษัตริย์ ทรงแต่งตั้ง

 

เข้าจัดการดูแลทรัพย์สินนั้น ผลที่เกิดขึ้นก็คือ คณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง มีอำนาจ

 

ถึงขนาดที่จะสั่งใช้ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในทางใดใดก็ได้

 

อำนาจนี้มีถึงขนาดรุกล้ำเข้าไปถึงการจัดการ "พระคลังข้างที่"

 

อันเป็นอีก พระคลัง หนึ่ง ใน การใช้เก็บ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

 

เพื่อนเพื่อนว่าไหมครับ ทรัพย์สิน-เงิน-ทอง นั้นเป็นของแปลก

 

หากใครได้เข้าไปอยู่ใกล้ใกล้ มีสิทธิ-มีอำนาจในการจับต้องของพวกนี้

 

พวกเขาก็มักที่จะร่ำรวยได้อย่างกะทันหัน

 

หากใครไม่เชื่อก็ลองดู รัฐมนตรีสีม่วง ปะไร จากที่เคยทำธุรกิจขาดทุนมหาศาล

 

กลับกลายมาร่ำรวยแบบ ไม่มีหัว-ไม่มีหาง ให้ชาวบ้านเขานินทากัน

 

เฮ้อ...ว่าจะไม่แล้วเชียวนา คริคริคริๆๆๆ

 

อย่างไรก็ตาม การสร้าง ถนนราชดำเนินกลาง ขึ้นมาใหม่นั้น ก็ได้เป็นไป

 

สมอารมณ์หมาย ของ เหล่าคณะผู้ก่อการฯ ในอันที่จะสร้างบ้านเมือง

 

ให้ละม้ายคล้ายคลึง กับ กรุงปารีส อันเป็นมหานครที่ตนได้ให้ความนิยมมาแต่ยังละอ่อน

 

จะให้ถนนกว้างใหญ่อย่างเดียวเห็นที่จะไม่พอ ต้องขยายทางเดินเท้าออกไป

 

ให้มีพื้นที่มากพอที่จะวาง โต๊ะ-เก้าอี้ เพื่อจะได้ใช้ นั่ง จิบน้ำชา-กาแฟ กันแบบ ฟารั้งมัน

 

เมื่อได้ดัดแปลงแต่งแต้ม ถนนราชดำเนินกลาง จนสมใจนึกบางลำพู พร้อมทั้ง

 

ได้ก่อสร้าง โรงร้าน-โรงแรม-โรงมหรสพ พร้อมมูลแล้ว

 

เหล่าผู้ก่อการฯ จึงได้ป่าวประกาศเชิญชวนให้ประชาชนเข้าไปเช่าตึกรามอาคารเพื่อทำการค้า

 

ในชั้นแรกนั้นก็ไม่มีใครนิยมเข้าไปเช่าแต่อย่างใดว่างอยู่นานหลายปีทีเดียว

 

จึงได้มีคนเข้าใช้มาจนถึงทุกวันนี้.....

 

จริงจริงแล้วก็น่าสนุกดีอยู่หรอกครับเพื่อนเพื่อน ที่ได้ไปเห็นอะไรอย่างใด

 

ที่ตัวเองชอบแล้วเมื่อมีอำนาจขึ้นมาก็เก็บเอาสิ่งเหล่านั้นมาทำขึ้นในบ้านเมืองของตน

 

โดยไม่ต้องไป สนใจ-ใส่ใจ ว่า คนอื่น เขาจะชอบหรือไม่แต่อย่างใด เขาต้องการสิ่งเหล่านี้หรือไม่

 

ลืมไปเสียสิ้นถึง รากฐาน-อารยธรรม ของ คนไทย และ ความเป็นไทย

 

พูดไปทำไมมี...ดูได้ไม่ต้องไปไหนไกล คนกล่าวอ้าง-ยกหางตัวเอง ว่า มีความรู้

 

ลืมไปเสียสิ้นแล้วว่า ความรู้ นั้น ไร้ค่า เมื่ออยู่ในตัว ของ คนที่ ไร้ความดี

 

เอาเทอดตามสบายเดี๋ยวไอ้หมอนั่นมันก็จมน้ำลายที่คนเขาถ่มถุยตายไปเอง

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๗.๑๒ นาฬิกา

Attached Images

  • จิตรกรรมริมคลองหลอด.jpg
  • ประชาธิปไตย.jpg



#732989 แนะนำกระทู้ฮาประจำสัปดาห์ "กระบือสอนสลิ่มตุนไข่ไก่"

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:54

เรื่องของเรื่องคือ สลิ่มบ่นเรื่องไข่แพง

 

กระบือแดงยอมไม่ได้  ต้องเสนอหน้ามาแก้ตัว

"สลิ่มแมร่มโหมกระแส ตรูสิฉลาด ตรูตุนไข่ไก่ไว้ตั้งแต่ก่อนมันแพงแล้วโว้ย"

 

เสรีไทย-หมื่นปีตุนไข่ไก่(ปวดตับ).png

 

 

สลิ่มมรึน ไข่สดตุนได้กี่วันวะ

กระบือสวน  เมริงไม่รู้เจี้ยไร กรูเอาไปทำไข่เค็มว้อย

 

เสรีไทย-หมื่นปีไข่ไก่ทำไข่เค็มได้อีก.png

 

 

 

 

 

 




#734497 แจ้งข่าว..ครับ วันนี้ทหารปลดแอกประชาชนฯ/กลุ่มธรรมาธิปไตย/กลุ่มหน้ากากขาว นัดร...

โดย redfrog53 on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 04:26

แจ้งข่าว..ครับ
วันนี้ทหารปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มธรรมาธิปไตย กลุ่มหน้ากากขาว นัดรวมตัวกันบริเวณเชิงสะพานมัฆวาน ในเวลา 13.00 น. เพื่อให้กำลังใจนายถวิล เปลี่ยนศรี 
สำหรับทหารปลดแอกจะแต่งเครื่องแบบเต็มยศ และขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่รักความเป็นธรรมเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
น้าหนวด ผ้าขะม้าพาจร


ปล. เรียนเชิญ หน้ากากแดงด้วย!!!!




#734581 ปากคำ"ชัย ราชวัตร"กับ"ภารกิจสุดท้าย"

โดย wat on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:03

B6F3A3A751A84E03A3BD28CDE44EEDA1.jpg

 

ใครล่ะจะคิดว่า "ชัย ราชวัตร" จะวางปากกา ปิดตำนาน "ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน" ที่อยู่คู่หน้า 5 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐมานานถึง 34 ปี

 

ที่พูดคือเรื่องจริงจากปากบรมครู"ชัย ราชวัตร" หลังเจ้าตัวยืนยันกับโพสต์ทูเดย์ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะเลิกเขียนแน่เพราะอายุมาก เหนื่อยและล้าเต็มที "ผมลากสังขารมานานเต็มที และก็ 72 อายุมากแล้วด้วย การ์ตูนมันก็เหมือนตัวคนเขียนแหละ คือ มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย มันควรจะวางมือตั้งนานแล้ว ถึงแม้ใจผมชอบการเขียนการ์ตูน แต่พอเขียนนานๆ เข้ามันกลายเป็น หน้าที่ที่ต้องทำ ชอบไม่ชอบก็ต้องทำ ไม่มีอารมณ์จะเขียนก็ต้องทำ มันบังคับไปแล้ว และมันก็ไม่สนุกเหมือนเดิมแล้ว ที่ผ่านมาโรงพิมพ์ก็ต่ออายุให้เราเรื่อยๆปกติไทยรัฐเขาเกษียณอายุ 60 ตอนนี้ต่ออายุมา 72 แล้ว ไหนยังต้องคอยหลบภัยจากเรื่องการเมืองนี่มันไม่สนุกหรอก ผมคง หาทางลงที่มันค่อยๆ ลง แต่ไม่ใช่ปุ่บปั๊บ โดดลงจากเวทีเลย" อาการเหนื่อยที่"ชัย ราชวัตร" หมายถึง คือ ทำงานช้าลงกว่าจะเขียนงานแต่ละชิ้นเสร็จ คิดนานไม่เหมือนเมื่อก่อน "ความจริง กว่าจะเป็นการ์ตูนช่องแต่ละชิ้น ใช้เวลาครึ่งค่อนวัน เพราะหนึ่ง เราต้องตามข่าวเพื่อหาประเด็นมาเขียน ต้องอ่าน หนังสือพิมพ์ อ่านคอลัมน์วิจารณ์แทบทุกฉบับ อ่านเพื่อสะสมเอาข้อมูล แล้วก็มาจดไว้ว่า สิ่งไหนเป็นประเด็นที่เราจะเอามาวิจารณ์ได้บ้าง แล้วก็คิดมุก มันไม่ใช่การเขียนภาพประกอบนะ เพราะอันนั้นมันง่าย อ่านเสร็จปั๊บ ก็เลือกเอาตอนนึงมา แล้วก็เขียนภาพไปเลย อันนี้มันต้องคิดมุก คือ การ์ตูนที่มีมุกหักมุม ในช่องสุดท้าย มันเป็นกับดักตัวเอง คือ มันคิดอะไรมันยากนะ เพราะบางทีเรามีประเด็นจะเขียน แต่เราไม่มีมุก เพราะมันไม่มีมุกตลก เสน่ห์ของการ์ตูนช่อง มันอยู่ที่มุกตลก ต้องหักมุมช่องสุดท้าย บางทีเราคิดมุกอยู่ 2-3 ชั่วโมง 

 

"ส่วนฉบับวันอาทิตย์ มันยากตรงที่ว่า มันต้องมีหัวข้อ แค่คิดหัวข้อก็ยากแล้ว แล้วก็หาเรื่องทุกเรื่องคือ 6 เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ามีเรื่องไรบ้างที่จะเข้ากับหัวข้อที่เราตั้งไว้  บางทีคิดได้ 3 เรื่องที่เหลือคิดไม่ออก ตัน ก็นั่งอยู่ครึ่งวัน กว่าจะหาอะไรมายัดให้มันเต็ม 6 เรื่องได้ มันก็เหนื่อยไปอีกแบบ  ดังนั้น ใครบอกว่า เขียนง่ายๆ ผมโกรธมากเลย"

 

“มีพรรคพวกมาขอให้ช่วยเขียนการ์ตูนลงแม็กกาซีนให้ ก็บอกไม่ไหวแล้ว เขาก็บอก เฮ้ยอะไรหว่ะ  เขาคงคิดว่า หยิบขึ้นมาแล้วเขียนได้เลย เป็นงานที่ไม่ต้องใช้สมอง ความจริงเขียนการ์ตูนมันไม่ได้หนักตรงเขียนเส้น แต่มันหนักตรงที่ใช้ไอเดีย  แล้วเมื่อเขียนมาถึงจุดหนึ่งเป็นที่รู้จักแล้ว ก็มั่วไม่ได้เราก็ไม่อยากฆ่าตัวตาย คือ เขียนไปแล้วจืดชืด ไม่มีอะไร มันก็ฆ่าตัวตายเปล่า    

     

....อย่างสมัยก่อนเราเขียนการ์ตูนใหม่ๆ เราก็พยายามว่า วันนี้ เขียนได้เท่านี้ พรุ่งนี้ต้องเขียนให้ดีกว่านี้ มะรืนนี้จะต้อง เขียนให้ดีกว่าพรุ่งนี้ แต่พอถึงจุดหนึ่งแล้วมันกลายเป็นว่า วันนี้ต้องพยายามเขียนให้ได้เหมือนเมื่อวานมันกลับกัน เพราะมันถึงจุดสูงสุดของเราแล้ว เราจะเขียนให้ดีกว่านี้ ไม่ได้แล้ว” ชัย ราชวัตร บอกว่า ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ในที่สุดมันก็ต้องปิดฉาก หยุดงานประจำ แต่อาจเป็นนานๆ อาจปล่อยของออกมาที "ถึงผมจะหยุดไปก็ไม่ได้หมายความว่า เหนื่อยอ่อนเพราะเราเบื่อการเมืองแล้วบ้านเมืองเป็นยังไงช่างมัน แต่ผมอยากให้คนอื่นได้แสดงบ้างส่วนตัวขอมาเป็นกองเชียร์อยู่ข้างๆ แล้วก็มีโอกาสตอดนิดตอดหน่อยบ้าง ก็คงมี นักเขียนการ์ตูนคนต่อไปที่จะสร้างการ์ตูนชุดใหม่ขึ้นมา"

 

7FFAE308A6C54E1C9A6049B5BF91BDCA.jpg

 

ที่มาไอ้จ่อย-ผู้ใหญ่มา

34 ปีกับการ์ตูนล้อการเมือง "ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน" ได้ทำหน้าที่สะท้อนเหตุบ้านการเมืองในแต่ละยุคสมัยเป็น อย่างดีจุดกำเนิดเริ่มที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ แต่ไม่กี่ปี จากนั้นก็ย้ายวิกมาอยู่ไทยรัฐกระทั่งปัจจุบัน ส่วนที่มาของ ตัวละคร "ผู้ใหญ่มา" กับ "ไอ้จ่อย" สนทนากันเรื่องปัญหาบ้านเมือง "ชัย ราชวัตร" เล่าเบื้องหลังว่าได้ไอเดียมาจาก ช่วงที่อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เขียนเรื่องสั้นวิจารณ์ระบอบเผด็จการทหารโดยใช้สัญลักษณ์จดหมายจาก นายเข้ม เย็นยิ่ง ถึง นายทำนุ เกียรติก้อง นายเข้ม คือ ตัวอาจารย์ป๋วย ซึ่งเป็นชื่อจัดตั้งตอนเป็นเสรีไทยต้านญี่ปุ่น ทำหน้าที่เป็นชาวบ้านวิจารณ์การปกครองของหัวหน้าหมู่บ้านชื่อทำนุ เกียรติก้อง แปลมาจาก ถนอม กิตติขจร นั่นเอง "ผมได้ไอเดียจากตรงนั้น เพราะรัฐบาล พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ซึ่งมาจากการปฏิวัติ แม้จะให้เสรีภาพกับประชาชน แต่การจะเขียนอะไรก็ได้ไม่เต็มที่ ผมเลยสมมติประเทศขึ้นมาเป็นหมู่บ้าน ใช้ชื่อว่าทุ่งหมาเมิน แล้วก็สมมติตัวผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็คือนายกฯ ที่เป็นผู้ปกครอง หมู่บ้าน และก็มีไอ้จ่อยเป็นลูกบ้าน คอยทักท้วงกับผู้ใหญ่มาซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน วันแรกก็คิดแค่ตัวละครสองตัว ถกเถียงปัญหาบ้านเมือง แล้วก็มีตัวอื่นๆตามมาทีหลัง แล้วแต่เหตุการณ์แต่ละเรื่อง"

"ชัย ราชวัตร" ชื่อจริงสมชัย กตัญญุตานันท์ เป็นชาว จ.อุบลราชธานี เดิมทำงานธนาคาร ก่อนลาออกมาเข้า สู่วงการหนังสือพิมพ์เมื่อปี2515 ขณะที่บ้านเมืองอยู่ภายใต้ เผด็จการทหาร เริ่มเขียนการ์ตูนที่แรกให้หนังสือพิมพ์มหาราษฎร์ จากนั้นไม่นานเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ประชาธิปไตยเบ่งบาน มีหนังสือพิมพ์ออกมาหลายฉบับ มหาราษฎร์ปิดตัวเองลง "ชัย ราชวัตร" ย้ายไปอยู่หนังสือ พิมพ์เดลินิวส์ โดยวาดภาพประกอบ "งิ้วการเมือง" กระทั่ง เกิด 6 ตุลา 2519 เขาไม่ต่างจากนักหนังสือพิมพ์รายอื่นที่ต้องหลบลี้หนีภัยอำนาจมืด เพราะ "รัฐบาลหอย" ไล่จับกุม ปิดหนังสือพิมพ์ที่วิจารณ์รัฐบาล

 

หลบภัยไปสหรัฐยุคเผด็จการ

"ยุคปฏิวัติมีการจับกุมนักศึกษากับกลุ่มปัญญาชน นักหนังสือพิมพ์ สมัคร สุนทรเวช เป็น รมว.มหาดไทย สมัครก็เรียก บก.เข้าไป แล้วก็สั่งห้ามฉบับนั้น คนนั้นคนนี้ เขียน แต่ละฉบับก็จะมีลิสต์ถูกห้ามเขียน ผมเองก็ถูกห้ามด้วย มันก็ต้องหนี ถ้าไม่หนีก็ไม่รู้จะโดนตั้งข้อหาอะไร เพราะตอนนั้นพอจับกุมแล้วก็ขึ้นศาลทหารไม่ใช่ศาลปกติ ซึ่งศาลทหารก็ขังลืมไปเลย ไม่มีใครฟ้องร้อง"

 

"ชัย ราชวัตร" ตัดสินใจหนีไปอยู่สหรัฐ ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการล้างถ้วยชามในบาร์ ผับ แต่ก็ไม่ทิ้งเลือดผู้รักความเป็นธรรม เพราะยังเข้าร่วมงานกับชมรมชาวไทยเพื่อประชาธิปไตยรณรงค์ต่อสู้ช่วยเหลือนักศึกษาที่ถูกจับตอน 6 ตุลา 2519 พร้อมกับทำหนังสือพิมพ์ไทย ชื่อสันติภาพ ซึ่งเป็นแนวต่อต้านรัฐบาล อยู่อเมริกาได้ 2 ปี พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ปฏิวัติ รัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร เริ่มคืนเสรีภาพให้ประชาชน หนังสือพิมพ์สามารถวิจารณ์รัฐบาลได้ จึงวางแผนกลับเมืองไทย "ผมอยากกลับเมืองไทย เพราะการไปอยู่เมืองนอก มันก็เหมือนเป็นพลเรือนชั้นสอง พอดีทางเดลินิวส์ตอนนั้นมี เปลว สีเงิน เป็นหัวหน้ากอง บก. เขาโทรทางไกลไป หาผมว่า จะกลับเมืองไทยไหม ถ้ากลับก็มาเลย เพราะบ้านเมืองเริ่มมีเสรีภาพในการเขียนแล้ว จึงตอบตกลงทันที พออยู่เดลินิวส์ได้ 2-3 เดือน ก็มีปัญหาขัดแย้งกับนายทุนหนังสือเกี่ยวกับการบริหาร เมื่อเปลว สีเงิน ลาออก ผมก็ เลยลาออกตาม แต่โชคดีที่ไทยรัฐชวนไปเขียนการ์ตูนผู้ใหญ่มาต่อในปี 2522"

 

ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุค "ชัย ราชวัตร" ยอมรับว่าถูกคุกคามเป็นธรรมดา แต่ไม่ถึงกับสาหัส หรือ ถูกฟ้องร้อง ส่วนใหญ่จะเป็นจดหมายเตือนหรือขู่จะฟ้อง เพราะแต่ก่อนไม่มีเฟซบุ๊กเหมือนปัจจุบัน มีครั้งหนึ่งมี นายทหารออกมาขู่ว่า ทหารจะเอกเซอร์ไซส์ ความหมายคือ จะปฏิวัติอีก และโจมตีสื่อว่าขัดขวางไม่ให้ทหารมา บริหารประเทศทั้งที่ทหารเรียนจบ จปร.มา เขาเขียนการ์ตูน แซวว่า จปร. ย่อมาจากเจ๋งเป้งทุกเรื่องเท่านั้นแหละ เลขานุการกองทัพบกทำจดหมายมาว่า จะฟ้องร้องข้อหาหมิ่นสถาบัน เพราะ จปร.เป็นพระปรมาภิไธย เอามา ล้อเลียนไม่ได้ แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ

 

3C5BD5EC0B954B658C4409C13ADF0BB7.jpg

 

ยุคไหนเขียนยาก-ง่าย

อย่างไรก็ตาม "ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน" เคยขาดหายไปจากไทยรัฐช่วงหนึ่ง คือ พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ถึงขั้นที่เจ้าตัวคิดจะหยุดเขียนไปตลอดชีวิต "ช่วงนั้นทหารปฏิวัติ ก็หยุดเขียน เพราะไม่รู้ทิศทางลมเป็นอย่างไร ตอนนั้นนึกว่าจะหยุดเลย ไม่นึกว่าจะเอากลับมาแล้ว ชิ้นสุดท้ายที่เขียนก็เขียนในลักษณะว่า ตอนนี้ เกิดมีโรคห่าลงมาหมู่บ้าน เสียงหัวเราะสรวลเสเฮฮาที่เคย มีอยู่ก็เงียบหายไป หมู่บ้านทุ่งหมาเมินกลายเป็นทุ่งร้าง ผมก็ทิ้งปริศนาไว้อย่างนั้น แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มสงบไม่มีการจับกุม พอเปิดหนังสือพิมพ์ผมก็เริ่มกลับมาเขียนใหม่ เพราะคนอ่านที่เป็นแฟนเรียกร้องอยากอ่านผู้ใหญ่มาต่อ ก็กลับมาเขียนผู้ใหญ่มาอีกครั้ง เรียกได้ว่าขาดช่วงไปแค่สัปดาห์เดียว" ช่วงไหนเครียดสุด? เขาตอบว่า มักอยู่ในช่วงปฏิวัติ เพราะปฏิวัติแต่ละครั้งเราไม่รู้ว่ารุนแรงแค่ไหน หลายครั้งเขาก็ไล่จับกุม ปิดหนังสือพิมพ์บ้าง พอปฏิวัติทีเราก็ต้องคอยสังเกตทิศทางลม และต้องเบรกตัวเองพักหนึ่งเพื่อดูว่าเขาเล่นงานแค่ไหนถ้าเขาปล่อย เราก็เริ่มเขียนเหมือนเดิม แล้วช่วงไหนเขียนการ์ตูนสบายที่สุด? "มันมีอยู่สองช่วง คือ ช่วง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ บรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ เพราะมันมีเรื่องให้ล้อเลียนตลอดและประชาชนก็มีอารมณ์ร่วมด้วย เขียนอะไรไปก็ถูกอกถูกใจ ฉะนั้นในช่วง พล.อ.ชวลิต กับ บรรหาร ถึงขั้นที่เขียนล่วงหน้าทิ้งได้หลายชิ้นเลย ทำให้ผมเที่ยวต่างจังหวัด ไปต่างประเทศได้บ่อย เพราะสามารถเขียนทิ้งไว้หลายชิ้น โดยที่ว่าผลงานก็ออกมามีคุณภาพ เขียนไปแล้วคนก็ยังชอบอยู่ ทั้งที่เขียนล่วงหน้าหลายวัน

 

ความยากในการเขียนการ์ตูนแต่ละยุคแตกต่างกันหลายลักษณะ "ชัย ราชวัตร" สรุปให้ฟัง โดยยกตัวอย่างช่วง 3 อดีตนายกฯ "อานันท์-ชวน-ทักษิณ" ว่า เขียนยาก กันคนละแบบ "ตอนนายกฯ อานันท์ มันยากตรงที่ว่า แกเป็นนายกฯ ในดวงใจ ซึ่งเราก็ชอบ เราศรัทธา อยากได้คนอย่างนี้มาเป็นนายกฯ และเราก็ไม่อยากโจมตี ก็เลยเขียนไม่ออก หรือ อย่างคุณชวนเป็นนายกฯ เราก็เห็นว่าเป็นนายกฯ ที่เราอยากได้ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตก็เลยเขียนไม่ออก เลยไม่มีมุขจะล้อ เพราะนักเขียนการ์ตูนถ้าจะให้เขียนให้สนุกก็คือ นักการเมืองขี้โกงในยุคคอร์รัปชั่น แต่พอไม่มีสิ่งเหล่านี้เราก็เขียนไม่ออก" "แต่ยุคทักษิณนี่ มาเขียนยากอีกอย่าง ตรงที่ว่า ทั้งประชาชน ทั้งสื่อถูกแบ่งแยกเป็นสองขั้ว ไม่เหมือนยุคเผด็จการในอดีต ยุคถนอม ซึ่งประชาชนกับสื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือ ต่อต้านรัฐบาล เราเขียนอะไรไปคนอ่านก็ชอบ แต่ว่าพอยุคทักษิณเขียนไป คนจำนวนหนึ่งชอบ แต่อีกจำนวนหนึ่งเกลียด โกรธ แปลกมาก เพราะการทำงานหนังสือพิมพ์ เราก็ไม่อยากให้คนออกมาต่อต้านหนังสือพิมพ์ที่เราสังกัดอยู่ พอต่อต้านมากๆ นายทุน เจ้าของหนังสือพิมพ์ เขาก็ต้องคิดมาก เราก็ต้องพยายามเขียนอะไรให้มันเบาลง ไม่รุนแรง อย่างทุกวันนี้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ คนจำนวนมากสนับสนุนอยู่ เขียนอะไรบางทีก็ต้องเบรกเหมือนกัน คือ เขียนได้แต่ไม่เต็มที่ ในวงการสื่อด้วยกันก็ไม่ได้สามัคคีเป็นทิศทางเดียวกัน มันก็เลยยาก"

 

ผมไม่เป็นกลาง-เกลียดคนโกงกิน

ปรัชญาการเขียนการ์ตูนล้อการเมืองในทัศนะของ "ชัย ราชวัตร" คือ ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนทุจริตโกงกิน ลิดรอนเสรีภาพสื่อไม่ว่านักการเมืองคนนั้นจะมาจากการเลือกตั้งคะแนนเสียงมหาศาลแค่ไหนก็ตาม "สิ่งที่อยากพูด คือ ผมมักถูกโจมตีว่าไม่เป็นกลาง ซึ่งผมเกลียดที่สุดคำนี้ เพราะผมไม่เห็นว่าหนังสือพิมพ์จะต้องเป็นกลาง หนังสือพิมพ์ คือ คนชี้นำประชาชน คอยบอกประชาชนว่า อะไรถูก อะไรดี อะไรชั่ว แล้วมันจะเป็นกลางได้อย่างไร หนังสือพิมพ์เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เมื่อโจรมันปีนรั้วเข้ามาสุนัขมันก็ต้องเห่า ดังนั้น ผมไม่เคยเป็นกลางตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้าสู่วงการเลย วันแรกนั้นเป็นยุคเผด็จการทหาร ยุคที่ศูนย์นิสิต นักศึกษาออกมาเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ผมก็ยืนข้างนิสิต นักศึกษา เพราะเห็นว่านั่นคือความถูกต้อง และทุกยุคมารัฐบาลก็โกงกินคอร์รัปชั่นจนเอิกเกริก ผมก็ต้องมายืนอยู่ฝ่ายตรงข้าม ผมจะเป็นกลางได้อย่างไร"

 

"แต่ถ้าไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์โดยอ้างว่าต้องเป็นกลาง ถ้าอย่างนั้นใครก็มาเป็นนักหนังสือพิมพ์ได้ จบ ป.4 ก็มาเขียนได้ เพื่อรักษาสถานภาพการเป็นกลางอย่างเดียว แล้วอย่างนี้มันถูกต้องหรือไม่ ฉะนั้นความเป็นกลางมันคือหลุมหลบภัยของคนขี้ขลาด" การเขียนการ์ตูนบนความขัดแย้งสองขั้วเหนื่อยแค่ไหน?"มันเหนื่อยหลายแง่เช่น เหนื่อยตรงที่ว่าบางทีเราจะรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนกันเพราะบางชิ้นที่เขียนไป เป็นเรื่องที่หนังสือพิมพ์ไม่มีใครกล้าเขียน ไม่เหมือนสมัยก่อน ร่วมมือร่วมใจกัน ต่อสู้เรื่องอะไรก็ไปในทิศทางเดียวกัน" "การเขียนเราก็ต้องเกรงใจเจ้าของหนังสือพิมพ์ เพราะหนังสือพิมพ์ เขาก็ต้องอยู่รอดด้วยโฆษณาที่คนอ่านจำนวนเยอะๆ แต่ถ้าเสียงจำนวนมากคัดค้านทัศนะของเรา เราก็คงลำบาก อีกอย่างถ้าหนังสือพิมพ์ ถูกปิดก็จะลำบาก หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่เขาก็จะคอยห้ามปรามไม่ให้นักเขียนเขียนอะไรจนเลยขอบเขต"

 

BA4BD6202CFF4E548EAA5AAD802FCC22.jpg

 

ไม่เคยทรยศคนอ่าน

กลัวอันตรายกับชีวิตบ้างไหม? "ก็มีนะ ... มันปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ไม่กลัว เพียงแต่เรามั่นใจว่า สิ่งที่เราเขียนคือความถูกต้อง ถ้าเราไม่กล้าเขียน เพราะเรากลัว เราก็ควรเลิกเขียน หันไปทำอาชีพอื่นซะ แต่ถ้ารักที่จะทำอาชีพนี้ มันก็ต้องเสี่ยงเอา ไปถามทหารที่รบตามชายแดนเขาเสี่ยงไหม เขาก็กลัว แต่ในเมื่อมันเป็นหน้าที่เขาเขาก็ต้องเสี่ยง ทุกอย่างมันขึ้นกับยุคสมัย บางครั้งมันก็แค่ขู่ๆ หรือถ้าหนักที่สุดในยุคเผด็จการทหาร ก็จับขังคุก มันก็แค่นั้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างตอนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ก็เห็นอยู่แล้วว่า ขนาดนายกฯ ยังแทบเอาชีวิตไม่รอด ถูกรุมทำร้าย ฉะนั้นประชาชนอย่างเราธรรมดาก็ยิ่งอันตรายหนัก"ยิ่งอันตรายหนัก" ถามไปว่า อยากฝากอะไรกับสังคม "ชัย ราชวัตร" ตอบเพียงว่า "ตลอดที่ผ่านมา ผมได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ายืนอยู่ข้างความถูกต้อง" "แม้จะมีคนอื่นบอกว่าผมเป็นฝ่ายอำมาตย์ล้าหลัง แต่ในอดีตถึงปัจจุบัน ผมก็ยืนในแนวทางของผมชัดเจน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งหนึ่งผมขอบอกคนอ่านว่า ผมไม่เคยทรยศต่อคนอ่าน แล้วก็ไม่เคยทรยศต่อจุดยืนของตัวเอง และเมื่อไรวันไหนวางมือไปผมก็จะวางมือลักษณะนี้ ไม่ใช่วางมือไปเพราะเปลี่ยนจุดยืนตัวเอง" "ไม่เหมือนนักการเมืองบ้านเราเปลี่ยนแปลงตลอด ทุกวันนี้ไม่ได้โกงกินอย่างเดียว แต่มีลักษณะยึดครองประเทศไทยไปถาวรเลย ขนาดคิดจะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง มันร้ายกาจกว่าเมื่อก่อนนี้เยอะแต่ประชาชนไม่ได้ตื่นตัวขึ้นจำนวนมากก็ยังพร้อมขายเสียงเหมือนเดิม คล้ายๆ ว่าค่าตัวแพงขึ้น แต่ก่อนซื้อ 20 บาท เดี๋ยวนี้ซื้อกันเป็นพัน"

 

ปิดท้าย "ชัย ราชวัตร" ไม่ขอพูดถึงคดีที่ตำรวจตั้งข้อหาหมิ่นประมาทนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กระทั่งกลุ่มเสื้อแดงไปชุมนุมประท้วงที่หน้าอาคารไทยรัฐ เขาบอกเพียงว่า "ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ บางคนก็ช่วยเยอะ เสนอจะให้บ้าน ให้รถใช้ เปลี่ยนที่หลบภัย มันทำให้ผมรู้สึกไม่โดดเดี่ยวจริงๆ"

 

ไม่โดดเดี่ยวในวัย 72 ปี ...

 

F0C13B8A8AB14E878A976ED94212D8C4.jpg

 

ความภาคภูมิใจในชีวิต

ผลงานที่สร้างความภูมิใจในชีวิตของ "ชัย ราชวัตร" คือ การได้เขียนการ์ตูนฉบับพระมหาชนกและคุณทองแดง ทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง โดยเฉพาะการ์ตูนคุณทองแดง สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 3 ล้านเล่ม "การ์ตูนพระมหาชนกฉบับขาวดำ ยอดพิมพ์ประมาณ 3 ล้านเล่ม ผมว่าไม่ใช่สูงสุดของประเทศไทยเท่านั้น แต่เมืองนอกด้วย ตอนนั้นพระองค์ท่านเห็นว่า หนังสือการ์ตูน พระมหาชนกเล่มใหญ่ คนที่ซื้อกลับไปเอาขึ้นหิ้งเก็บใส่ตู้เพราะหนังสือแพงมาก ไม่กล้าให้ใครแตะ ในหลวงเลยรับสั่งให้ทำฉบับที่ ย่อมเยากว่านี้ ก็เลยพิมพ์ฉบับพ็อกเกตบุ๊กย่อส่วนลงมา ราคาเหลือ 35 บาท จน หนังสือทำยอดได้ 3 ล้านเล่ม ช่วงนั้นในหลวง ตรัสว่า หนังสือพระมหาชนกขาวดำ ถูกก็จริง แต่มันไม่สวย พระองค์เลยมีรับสั่งให้ทำอีกฉบับหนึ่งให้เป็นฉบับสี่สี การ์ตูนก็เลยมีสองเวอร์ชั่นขาวดำกับสี่สี ราคาแพงขึ้นมานิด 65 บาท ส่วนคุณทองแดงก็ขายได้ เพราะเป็นช่วงที่คนเอาไปซื้อแจกปีใหม่ค่อนข้างเยอะ บริษัท องค์กรใหญ่ๆ การบินไทย ให้คนอ่านบนเครื่องแล้วหยิบไปได้ด้วย"

 

"ผมถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่งที่ได้ทำงานรับใช้พระองค์ และมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ หลังจาก เสร็จงานแล้ว พระองค์ก็พระราชทานเครื่องราชฯ มาให้ ก็ถือว่าทำงานเป็นที่โปรดปราน"ราชฯ มาให้ ก็ถือว่าทำงานเป็นที่โปรดปราน" เหตุถูกเลือกให้ทำงานครั้งสำคัญชิ้นนี้ "ชัย ราชวัตร" เล่าว่า เพราะตอนนั้นทางอมรินทร์ ซึ่งดูแลเรื่องพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีโครงการจะทำฉบับการ์ตูน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งกับทางอมรินทร์ว่า อยากได้การ์ตูนที่ดูแล้วตลกแบบขายหัวเราะ อมรินทร์ก็เลยทาบทามให้มาวาด ก็ได้ทดลองเขียนตัวอย่างกันอยู่ 2-3 ครั้ง ก็นำทูลเกล้าฯ ถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตัดสินใจ เมื่อทรงโปรดกับที่ผมเขียนขึ้นไปดูเลยมอบหมายผม พอเขียนเสร็จ จากนั้นอีก 2-3 ปี ทรงมีพระราชประสงค์อยากได้คุณทองแดงเป็นการ์ตูน ทางอมรินทร์เขาก็ตั้งทีมขึ้นมาช่วยให้ผมเป็นหัวหน้าทีม ความยากง่ายระหว่างพระมหาชนกกับคุณทองแดง "ชัย ราชวัตร" อธิบายว่า คุณทองแดงค่อนข้างยาก เพราะพระมหาชนกเป็นเรื่องในพระไตรปิฎกฉะนั้นเราสามารถจินตนาการทุกอย่างขึ้นมาได้ ทั้งเรื่องฉากการแต่งกาย ขณะที่คุณทองแดงยากตรงที่ว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงต้องหาข้อมูล ไปในพื้นที่จริง ตามท้องเรื่อง "คุณทองแดงเป็นสุนัขจรจัด อยู่ในซอย ข้างศูนย์การแพทย์ ผมก็ต้องไปสถานที่จริง เอากล้องไปถ่ายอาคารบ้านช่องแถวนั้น เพราะเวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรแล้ว พระองค์ท่านจะได้ว่า ใช่ๆ ตรงนี้ ไม่ใช่เราจินตนาการไปเอง หรือฉากตรงนี้ ไม่ใช่เราจินตนาการไปเอง หรือฉากตอนเข้าไปอยู่ในวัง แล้วเราก็ต้องดูว่าเลี้ยงยังไง แล้วกรงอยู่ยังไง เป็นกรงสุนัขแบบชาวบ้าน หรือเป็นกรงพิเศษ แล้วการฝึก มีเครื่องแต่งกายไหม ก็ต้องไปถ่ายข้อมูลจากในวัง" "ทุกอย่างต้องมีข้อเท็จจริง แล้วสุนัข ทุกตัวที่เป็นลูกของคุณทองแดงทั้งหมด 9 ตัว แต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีสี ลาย ไม่เหมือนกัน เราก็ต้องถ่ายแต่ละตัว หน้าตรง ด้านข้าง ต้องเก็บเป็นแฟ้ม เวลาวาด ก็ต้องเปิดเลยตัวไหนลักษณะเป็นอย่างไร พอดูปั๊บ ในหลวงจะได้ทรงรู้เลยว่าตัวนี้ใช่ เพราะมันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาไม่ได้เลยมันเลยยากตรงนี้"

 

"เขียนเสร็จก็ต้องส่งให้ในหลวงทรงดู เป็นระยะ ตอนนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับอยู่หัวหิน ผมก็ส่งไปอาทิตย์สองอาทิตย์ ก็ต้องมีคนประสานงานนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แล้วพระองค์จะหมายเหตุกลับมาว่า ตรงนั้น ตรงนี้ ต้องแก้ ผ่านขั้นตอนค่อนข้างเยอะ แต่ละเล่มทั้งคุณทองแดง พระมหาชนก ก็ใช้ เวลากว่าครึ่งปี"

 

http://www.posttoday...บ-ภารกิจสุดท้าย

 

^_^  ทองแท้... อยู่ที่ใดก็ย่อมเป็นทอง... วันยันค่ำ... คุณค่าอยู่ที่ตัวของตัวเอง... คารวะด้วยใจขอรับลุงชัยฯ




#733794 ปุกาด ๆ ๆ จาก 1 เป็น 10 จาก 10 เป็น 100 ค่อยๆสะสมพลังอีกไม่นานถึงแสน แน่ๆ

โดย พระฤๅษี on 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:03

>>> ทนไม่ไหว.มานานแล้ว......

.. หลายเรื่อง..หลายแบบอย่าง

..หลายรายการ..หลายตัวบุคคล.
..เป็น..ครม..ที่ห่วยที่สุด.เท่าที่เคย

..เห็นมา. พิมพ์ผิด เป็นพันล้าน....

..ออกมาพูดได้ . ไม่อายหมามัน .....
 




#728073 ใครเป็นคนแฮคเฟสบุ้คแม้ว มาด่าพรรคเพื่อไทยว่าโง่

โดย คนกินข้าว on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:37

ด้วยความโกรธจนสติแตก... โพสต์ด่าไปไม่ทันคิด

พอคิดได้ก็เอาตัวรอด โทษว่าถูกแฮ็ก

เหมือนคราวก่อน จะถีบหัวเสื้อแดงทิ้ง เพราะถึงฝั่งแล้ว จะขึ้นบกเสื้อแดงไม่ต้องตามไปส่ง

แต่พอยังขึ้นบกไม่ได้ ต้องง้อเสื้อแดงต่อ แถไปว่า ที่พูดวันนั้น สัญญาณไม่ดี ทำให้ข้อความคลาดเคลื่อน

จะบ้าตาย ควายก็เชื่อ.............