Jump to content


ศรอรชุน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 20 พฤษภาคม 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2557 20:20
*****

#1170370 .... ยินดีต้อนรับ "นายกเฉพาะกาล" จาก "ผู้แทนปวงชนชาวไทย" ตามท...

โดย ศรอรชุน on 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 16:26

วุฒิสภา รีบตั้งนายกให้เสร็จ 

 

หลังจากนั้น นายกตั้ง ครม. แล้ว ออกพระราชกำหนดที่นำไปสู่การปฏิรูปประเทศ

 

ปรับย้ายตะกวดและข้าราชการตำแหน่งสำคัญที่เป็นแขนขาของระบอบทักษิณ (เป็นไปตามกฎการเปลี่ยนมือของอำนาจ)

 

ระหว่างนี้กลุ่มแกนนำแดง ลิ่วล้อของระบอบทักษิณ จะออกมาอาละวาด ชุมนุม สร้างความshipหายให้ประเทศ

ก็ปล่อยให้มันทำไป...

 

แอ็คชั่น = รีแอ็คชั่น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง

การันตีว่าไม่ซ้ำรอยเหตุการณ์จากปี 53 

 

ทหารเขาเตรียมทำตามวรรคท้ายของคำทำนายอยู่แล้ว...

 

พอนึกถึงตอนนั้น ก็พลันคิดถึงคำพูดอมตะของเติ้ง เสี่ยว ผิง ตอนที่รักษาความเรียบร้อยของจีน ณ จตุรัสเทียนอันเหมิน

 

"จีนมีประชากรเป็นพันล้าน จะหายไปซักล้าน เพื่อรักษาประโยชน์ส่วนใหญ่ของประเทศจีน ก็ถือว่าคุ้ม"




#1170352 .... ยินดีต้อนรับ "นายกเฉพาะกาล" จาก "ผู้แทนปวงชนชาวไทย" ตามท...

โดย ศรอรชุน on 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 16:00

วัดใจทุกภาคส่วนของระบบราชการ ธุรกิจครับ ว่าอยากให้ปัญหาของประเทศคลี่คลาย เดินหน้าต่อได้ไหม

 

หรืออยากให้เกิดความวุ่นวายและสุดท้าย จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ 

 

ระบบอื่นโอเค เขาแสดงออกชัดเจนว่าต้องการปฏิรูป

 

แต่ระบบราชการ ถึงแม้จะมีข้าราชการผู้รักประเทศชาติจำนวนมาก

 

แต่ระดับหัว ระดับบริหาร เป็นคนในระบอบทักษิณเสียเยอะ (เว้นสาธารณสุข)

 

ที่ไม่ใช่ก็เกรงผลกระทบกับตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง

ตำรวจนะเลิกหวัง... ทหารอยู่ฝั่งเรา แต่ก็ต้องเก็บตัวเงียบ

 

รอลุ้น ครับ...




#1170339 .... ยินดีต้อนรับ "นายกเฉพาะกาล" จาก "ผู้แทนปวงชนชาวไทย" ตามท...

โดย ศรอรชุน on 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:40

วุฒิสภา คงจะต้องรีบทำงานสำคัญเพื่อประเทศชาติให้จบโดยไว

 

ในระหว่างรอวุฒิสภา หมู่ชาวเราก็ไปปฏิวัติประชาชนกับลุงกำนัน

 

เดินสองทาง แต่ก็มีจุดหมายเดียวกัน...




#1169142 .... ยินดีต้อนรับ "นายกเฉพาะกาล" จาก "ผู้แทนปวงชนชาวไทย" ตามท...

โดย ศรอรชุน on 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:30

ทางออกประเทศ.jpg
 
วุฒิสภาออกแถลงการณ์ 3 ข้อ ย้ำหานายกฯ ใหม่ภายใต้ รธน.
 
พูดถึงการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมของรัฐบาล พูดว่าคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่มีปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับสถานภาพว่ายังใช้อำนาจได้หรือไม่ 
และอำนาจที่มีอยู่ก็เป็นไปอย่างจำกัดเป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศ รวมถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นมากมาย
 
     1.เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวบรรลุเจตนารมณ์ในการคืนความสงบสุขและความสมานฉันท์ของคนในชาติ ต้องเร่งดำเนินการจัดให้มีการปฏิรูปประเทศในทุกด้านให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มเพื่อดำเนินการดังกล่าว
 
     2. ขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีอยู่ตามมาตรา 181 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเรียกร้องให้รัฐบาลและพรรคการเมืองให้ความร่วมมือกับวุฒิสภาในการหาทางออกให้กับประเทศภายใต้การมีส่วนร่วมของคนในชาติอย่างเต็มกำลัง เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และลดเงื่อนไขความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น
 
     3.วุฒิสภาพร้อมที่จะทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่อง โดยจะนำความเห็นและข้อแนะนำจากทุกภาคส่วนมาพิจารณาในการประชุมตามข้อบังคับของวุฒิสภาเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระดับสากลและประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยโดยเร็ว ภายใต้หลักการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
 
 
วุฒิฯ ขีดเส้น 3 วัน  รัฐบาลไม่ร่วมมือ เลือกนายกฯ
 
ยินดีต้อนรับ "นายกเฉพาะกาล" ที่ได้การคัดเลือกจาก "ผู้แทนปวงชนชาวไทย" ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ครับ...
 



#1148176 ....วัดหรืออะไรเนี่ย....

โดย ศรอรชุน on 30 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:12

1947752_736288736390047_294677309_n.jpg

post-938-1252470372.jpg

ไม่ต้องร่ำเรียน ไม่ต้องลำบากลำบน หาเงินซักก้อนซื้อค้อน ก็รวยกันพุงปลิ้นแล้ว

ไม่ดีหรา... กิกิ ^_^


#1142767 ไม้หนึ่ง ก.กุนที ไปซะแระ

โดย ศรอรชุน on 24 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:11

 

ย่ำรุ่งมิถุนายน

 

Tue, 2009-06-23 15:30

ไม้หนึ่ง ก.กุนที

1. แทงลึกลงหมุดสุดแผ่นดิน
ปักพินเป็นของปวงชนสยาม
คณะราษฎรปลุกวีรกรรม
24 มิถุนากระทำการ

 

2 หมุดเหล็กตอก 2475
ตรึงปักนัคราเป็นหลักฐาน 
เบิกทางตีนตัดถนนต้นตำนาน
ปณิธาน “ประชาธิปไตย”

 

3 รุกรับกับปฏิกิริยา
ชนะแล้วรวนกระแสมาแพ้พ่าย
ซากโบราณฟื้นสุดลมหายใจ
เกิดอสูรกายแฝงเร้นรัฐ

 

4 แทรกสนิมซึมกัดหมุดเหล็กกร่อน
ปกครองประชากรโดยอสัตย์
เศรษฐกิจล้าหลังโทมนัส

ไม่สามารถอภิวัฒน์ตามโลกา

 

5 ทุกขุมขนมีแต่เครือข่ายอำมาตย์
ทุนขวาจัดเสริมด้วยซ้ายไร้เดียงสา
แต่งวิเคราะห์สังคมจมมายา
ว่าชนชั้นศักดินาไม่ดำรง

 

6 คือฝูงทาสคงจงรักกับนายทาส
ม้วนรัดชาติชูโมหะจริตหลง
ชีวทรรศน์กระบวนทรรศน์ไม่ซื่อตรง
ทั้งประเทศกลายเป็นผงรอฝ่าตีน

 

7 ราษฎรปักหมุดหมายมากี่ปี
การกดขี่ไม่เห็นจะจบสิ้น
ยังยากจนทนทุกข์ขลุกโคลนดิน
ต้องพออยู่พอกินนี้เพื่อใคร?

 

8 มาเถิดมา พี่น้อง ผองคนทุกข์
ไม่รบรุกคงไม่อาจเห็นฟ้าใหม่
ร่วมกันสู้สู่อุษาแสงอุทัย
ทวงประชาธิปไตยของปวงชน

 

9 มาเถิดมา พี่น้อง ผองคนทุกข์
ไม่รบรุกคงไม่อาจเห็นฟ้าใหม่
ร่วมกันสู้สู่อุษาแสงอุทัย
ปักหมุดใหม่อีกอันให้ถาวร!

----------------------------------------------

 

ก็น่านะ...




#1142312 ไม้หนึ่ง ก.กุนที ไปซะแระ

โดย ศรอรชุน on 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:57

ถ้าเสื้อแดงตาย...  นั่นคือ ฝ่ายอำหมาดยิง
ถ้า กปปส. ตาย...  นั่นคือ สร้างสถานการณ์กันเอง

 

ถ้าจับมือปืนได้... จะเป็นใครก็ตาม จะเรื่องชู้สาว โกงเงิน หรืออะไรก็ตาม นั่นคืออำหมาดสั่ง
ถ้าจับมือปืนได้... แล้วเป็นแก็งค์แดง นั่นคือ "แดงเทียม"

 

ถ้าจับมือปืนไม่ได้... นั่นไง! กูว่าแล้ว ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย

มีมือที่มองไม่เห็นคอยบงการ...

 

สรุป ปิดคดี จบนะ จะได้ไปเคี้ยวเอื้องต่อ....

 

1396082945-1395670353-o.gif

 

^_^




#1142291 ลูกเขย “ทักษิณ” เผยแผนลงทุนปี 57 "ส่วน ลูกหลาน เทือกสุบรรณ" ทำอะไรเป็...

โดย ศรอรชุน on 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:27

ลูกนายใหญ่ เอามาหา แ ด ก ไม่ได้....ไปลากลูกเขย มาเล่น ก็เอาวุ๊ยยย..!!!
ต่อไป ก็คงไป ลากเอา อาอึ้ม อากู๋ อากิ๋ม อาเจ็ก อาแปะ.....มาด้วยเนอะ...เอาให้ครบนะครับ....555555+

 
จนป่านนี้ ผมยังไม่รู้ว่า ไอ้โอ๊ค ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง
 
ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
 
 
มีอันหนึ่ง คือ จ้างลิ่วล้อเขียนเฟสบุ๊ค
...

แถมด้วยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พ่วงมาอีกคดี 55+

นิพฏฐ์ ฟ้อง FB โอค "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
http://m.sanook.com/...latest/1547902/

อีโอคมันโง่ยันเงา...

^_^


#1142030 ....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรร...

โดย ศรอรชุน on 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:34

 
 

ศอ.รส.เดินตามแนวทางอุกฤษ มงคลนาวิน
 

 

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2557 ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้ 1.ศอ.รส. ได้พิจารณาจดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับของศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ซึ่งในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268(2) และ (3) กรณีโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) โดยศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษฯ เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับคำร้องให้พิจารณากรณีดังกล่าว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 และการโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ก็เป็นการใช้อำนาจบริหารตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ก็ไม่มีผลทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 182 (7) และไม่มีผลทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง (1) เนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นๆ นั้น พระมหากษัตริย์ทรงได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ดังนั้นความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะสิ้นสุดลง หรือรัฐมนตรีทั้งคณะจะพ้นจากตำแหน่ง ก็ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีแล้วเท่านั้น
ส่วนในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ ได้ให้ความเห็นว่า กระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม เนื่องจากการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันเป็นการใช้ข้อกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดขึ้นเองฝ่ายเดียว โดยมิได้ตราขึ้นเป็นกฎหมาย โดยองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนดังเช่นกระบวนพิจารณาของศาลอื่นๆ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา และศาลปกครอง ดังนั้น ในเมื่อการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ดำเนินการไปโดยความยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ และตามกฎหมายแล้ว คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมไม่ถือว่าเป็นเด็ดขาด ไม่มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ด้วยเหตุนี้ศาลรัฐธรรมนูญจึงควรที่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตนไว้ก่อนจนกว่าจะได้ดำเนินการให้เป็นไปโดยถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หรือหลักนิติธรรม
อนึ่ง ศอ.รส. ขอเรียนว่า ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ ศอ.รส. ฉบับที่ 1 และแสดงให้เห็นว่าความกังวลของ ศอ.รส. ว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยเกินกว่ารัฐธรรมนูญนั้น มิได้เป็นการคาดการณ์ที่ไร้มูลความจริง และศอ.รส. มิได้มุ่งหวังที่จะก้าวก่าย ทำลายชื่อเสียงหรือความเชื่อถือศรัทธาของศาลรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในทางกลับกัน หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีนี้อย่างตรงไปตรงมาตามข้อกฎหมายก็จะเป็นการพิสูจน์เองว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และจะได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน
ที่มา 
http://breakingnews....p?newsid=719182
 
คนอ่านกฏหมายรู้ ดูกฏหมายเป็นยืนยันฮะ ว่าความเห็นคนอยากเสียตัวยามแก่ใช้ได้  -_-

รัฐบาลใกล้จมน้ำตายอยู่ ฟางแก่เน่าๆลอยมาเส้นนึง ก็ต้องเกาะไว้ก่อนครับ

ha ha ขรรมส์ ^_^


#1141561 ....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรร...

โดย ศรอรชุน on 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:20

เพจคุณสมจิตร สรุปไว้ค่อนข้างละเอียดครับ

 

21 เม.ย. 57 อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ทำจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 2 เรื่อง“เมื่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นฝ่ายที่ฝ่าฝืนหลักนิติธรรมเสียเอง ศาลรัฐธรรมนูญก็ควรที่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่” โดยมีเนื้อหาที่จงใจให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้

1.) ศาลรัฐธรรมนูญ ละเลยในการออก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 216 วรรค 6 โดยใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ.2550 แต่ไม่ตรากฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญภายใน 1 ปี หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 300 วรรค 5

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เสนอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อสภามาแล้วสองครั้ง คือ
25 มิ.ย. 51 เสนอเข้าสภามีการรับหลักการวาระ 1 ตั้งกรรมาธิการฯพิจารณาวาระ 2 ส่งเรื่องกลับสภามีข้อโต้แย้ง ประธานกรรมาธิการฯจึงถอนร่างกลับไปทบทวน ต่อมามีการยุบสภา 10 พ.ค. 54 และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยืนยันกฎหมายทำให้ตกไป ทำให้กฎหมายดังกล่าวค้างการพิจารณาอยู่ในสภานานกว่า 3 ปี
22 มี.ค.55 เสนอเข้าสภาเพื่อให้บรรจุในการพิจารณาวาระ 1 แต่กว่าสองปีที่ผ่านมาสภาที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากไม่มีการนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา กฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จึงถูกดองในสภาเป็นครั้งที่สองนานกว่าสองปี รวมเวลาที่กฎหมายฉบับนี้ถูกสภาผู้แทนราษฎรเตะถ่วงไม่เร่งพิจารณาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดนานถึง 6 ปี
 

2.) นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 7 ปี แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังละเลยที่จะดำเนินการเพื่อให้มีกฎหมายดังกล่าว

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญเสนอร่างกฎหมายตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด คนที่ละเลยไม่ดำเนินการให้กฎหมายดังกล่าวออกมามีผลบังคับใช้คือ สภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ยุคพรรคพลังประชาชนครองเสียงข้างมามาจนถึงยุคพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบัน
ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมไม่ให้มีการละเมิดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการตรากฎหมาย เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นปัญหาที่ไม่มีการตรากฎหมายภายใน 1 ปี จึงเป็นความรับผิดชอบของสภา ไม่ใช่ความผิดของศาลรัฐธรรมนูญ
 

3.) นำเอาข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ.2550ที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้กำหนดขึ้นเองแต่เพียงฝ่ายเดียวมาใช้ในการพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย

ความจริง
ข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญฯมิได้กำหนดขึ้นเองแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ยึดโยงกับกรอบการพิจารณาคดีของศาลแพ่ง โดยในข้อ 6 กำหนดให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
 

4.) การพิจารณาคดีจะต้องมีกฎเกณฑ์หรือกติกาว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาล เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับประชาชน กฎเกณฑ์หรือกติกาว่าด้วยวิธีพิจารณาดังกล่าวจะต้องถูกกำหนดขึ้นโดยองค์กรที่มีความชอบธรรมตามหลักประชาธิปไตยนั่นก็คือจะต้องมีการตราขึ้นเป็นกฎหมายโดยองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่ใช่ศาลเป็นผู้กำหนดเอง

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญได้เสนอกฎหมายให้สภาพิจารณาแล้ว แต่สภาซึ่งมีหน้าที่ตรากฎหมายดึงเรื่องไม่ยอมพิจารณากฎหมายดังกล่าว ทำให้ค้างการพิจารณาอยู่ในสภาที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมาก จนกระทั่งมีการยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 กฎหมายนี้จึงไม่ได้รับการพิจารณาเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญเสนอมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 6 ปี
 

5.) การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ บิดเบี้ยว ขาดความชัดเจนในกระบวนการพิจารณา เพราะไม่มีกรอบแห่งการใช้อำนาจ

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญมีกรอบการใช้อำนาจตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญฯ ที่ให้อำนาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
ประเทศชาติวุ่นวายเพราะนักกฎหมายเลวไปเป็นขี้ข้า “โจร” บิดเบือนความจริงให้ "สื่อชั่ว" ขยายผลคำโกหกให้ยาพิษกับสังคมไทย
https://www.facebook...ubstory_index=0




#1141555 ....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรร...

โดย ศรอรชุน on 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:17

ปธ.ศาล รธน.โอด ถูกดองร่าง ก.ม.วิธีพิจารณาของศาล รธน.ชงตั้งแต่ปี 51 ยังไม่คืบ

ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยเสนอเมื่อปี 51 หลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ได้ดำเนินการเพื่อให้มี พ.ร.บ.วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแทนฉบับปัจจุบัน เท่าที่เสนอไปทั้ง 2 ครั้ง ก็ทราบว่ายังไม่มีฉบับของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เสนอเข้านำไปบรรจุวาระร่วมพิจารณาด้วย แต่กลับมีร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ…ที่ ส.ส. นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภา และได้บรรจุไว้ในระเบียบวาระแล้ว แม้ยังไม่มีฉบับของศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปร่วมด้วยก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องเป็นผู้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ประกาศใช้ต้องส่งมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง และความชอบด้วยรัฐธรรมนูญก่อน
http://www.thairath..../content/333015

แล้วศาสตราจารย์พิเศษ อุกฤษ มงคลนาวิน พูดได้อย่างไรว่า

"ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังละเลยที่จะดำเนินการเพื่อให้มีกฎหมายดังกล่าว"  

 

จงใจบิดเบือนแหกตาประชาชนชาวไทย ใช่หรือไม่...




#1141554 ....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรร...

โดย ศรอรชุน on 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:16

นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.)
เป็นนักกฎหมายระดับนี้ ไม่น่าทำตัวให้เสียคนตอนแก่แลย  รู้ดีทุกอย่างแต่ตั้งใจเปิดบางส่วน ปิดบางส่วน
เพื่อสร้างความเชื่อผิดๆให้กับเสื้อแดง แย่มาก...

รธน.50 รัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคหก ได้บัญญัติไว้ให้ วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นไป
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับมาตรา 300
วรรคห้า และบทเฉพาะกาล มาตรา 300 วรรคห้า ได้บัญญัติว่าในระหว่างที่ยังมิได้มีการตราพระราช
บัญญัติ ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจออกข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัยได้ แต่ทั้งนี้
ต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน1 ปี นับแต่วันประกาศใช้
รัฐธรรมนูญ

แต่พอครบปีไม่สามารถตรากฎหมายได้ ... รธน.ไม่ได้เขียนต่อว่าต้องทำอย่างไร...

(ความจริงศาลรัฐธรรมนูญส่งร่าง พ.ร.บ. ให้สภาภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ตั้งแต่ 25 มิ.ย. 51 แต่สภาแก้จนเละเทะและค้างเติ่ง ดองเรื่องมาจนถึงปัจจุบัน อันถือว่าเป็นความบกพร่องของนิติบัญญัติเอง ไม่เกี่ยวกะศาล รธน.  อันนี้ก็เป็นอีกคำเท็จบิดเบือนที่นายอุกฤษ จงใจโกหก โยนความผิดให้ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไม่จัดทำ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาให้แล้วเสร็จ)

จึงต้องนำเอาการอุดช่องว่างกฎหมายตาม ป.แพ่งและพาณิชย์มาตรา 4 วรรค 2 มาปรับใช้
“เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้นให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งและถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นก็ไม่มีด้วยให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป”
(อุดช่องว่างของกฎหมายโดยใช้ จารีตประเพณี, บทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง, หลักกฎหมายทั่วไป)

ทีนี้มาดูว่าจะอุดช่องว่างของ รธน.อย่างไร...

"ศาลรัฐธรรมนูญ"มีมาตั้งแต่ รธน.40 ซึ่งกำหนดให้วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด...(รธน.40 มาตรา 269)

และศาลรัฐธรรมนูญตาม รธน.50 ก็ดำเนินการออกข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัยซึ่งก็มีของเดิมเป็นแม่แบบ 

เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ เมื่อมองที่เจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ 50 ที่ต้องการให้คงศาลรัฐธรรมนูญไว้เหมือน รธน.40 เพียงแต่เพิ่มเติมให้วิธีการพิจารณาฯ ต้องผ่านสภาที่เป็นอำนาจนิติบัญญัติและทำเป็น พ.ร.บ. การที่สภาไม่สามารถผ่าน พ.ร.บ.ได้ภายใน 1 ปีก็เป็นความบกพร่องของนิติบัญญัติเอง ย่อมไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ  ที่เคยดำเนินการมาแล้วเป็นสิบปี(ตามรธน.40)  โดยไม่มี พ.ร.บ.วิธีพิจารณาฯ เช่นเดียวกัน...




#1141550 ....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรร...

โดย ศรอรชุน on 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:14

19084d9.jpg

 

อุกฤษ มงคลนาวิน 

มีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร 
ช่วงรัฐบาลทักษิณ เคยขอคำแนะนำข้อกฎหมายและดึงมาร่วมงานการเมืองหลายครั้ง อาทิ ประธานคณะกรรมการอิสระอำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมความยุติธรรม และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.ยส.)  ล่าสุด หวนคืนมาช่วยงานรัฐบาลอีกครา ในตำแหน่งประธานคอ.นธ.
http://www.khaosod.c...kUzTURrMU5BPT0=

อุกฤษ มงคลนาวิน
ผู้ผิดหวังไปไม่ถึงฝั่งฝันจากความพยายามอยากที่จะเป็น "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" เพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติ แต่ยังแกล้งมึนตาใสเสนอตัวเข้าสู่กระบวนการคัดสรรตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จนถูกศาล รธน. วินิจฉัยว่าคุณสมบัติไม่ถูกต้อง...
  
คำวินิจฉัยของศาล รธน ที่ 2/2541ระบุให้ การแต่งตั้ง อุกฤษ เป็น ตุลาการศาล รธน. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ เป็นโมฆะ เพราะอุกฤษเป็น ศาสตราจารย์พิเศษ ของจุฬาไม่ใช่ ศาสตราจารย์ ที่เป็นข้าราชการพลเรือนมหาวิทยาลัยระดับ 10
http://dl.parliament....pdf?sequence=1

 

การเผยแพร่ในจุลสารภายในของจุฬาฯ ราวๆ ปี 2534 ว่าในการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์กลุ่มหนึ่งนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) อุกฤษ ได้ขอเลื่อนเป็นศาสตราจารย์ (ศ.) เลย โดยไม่ขอเป็นรองศาสตราจารย์ (รศ.) ก่อน ซึ่งทำได้ถ้าผลงานวิชาการที่เสนอมานั้นมีคุณภาพสูงมาก แต่ปรากฏว่า "ไม่ผ่าน" มีผลทำให้ได้เลื่อนแค่เป็น รศ. รับเงินเดือนระดับ  9 (ซี 9) หลังจากนั้น รศ.ดร.อุกฤษก็ลาออกจากราชการไปเปิดสำนักงานกฎหมาย แต่ก็ยังมาสอนที่จุฬาฯ ในฐานะอาจารย์พิเศษ

ต่อมาลูกศิษย์ของท่านซึ่งเป็นเนติบริกร ได้ร่วมร่าง รธน. 2540 ได้ระบุตำแหน่งศาสตราจารย์ เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  แล้วได้จัดการให้สภาจุฬาฯ แต่งตั้ง รศ.ดร.อุกฤษเป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ"  (เป็นตำแหน่งที่ตั้งบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีฐานะเป็นข้าราชการแล้ว) 
แต่เจ้าตัวมักไม่เขียนคำว่า "พิเศษ" คนทั่วไปจึงเข้าใจว่าเป็นศาสตราจารย์ธรรมดา (ซึ่งจริงๆ กว่าจะได้เป็นก็แทบกระอักเลือด เพราะต้องมีทั้งงานวิจัยและตำราที่มีคุณภาพชั้นเลิศ) 
http://www.oknation....t.php?id=750794

 

รูปภาพ1.jpg

 

http://www.nrlcthail...lc2013/main.php

 

เป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ" แต่มักจะตัดคำว่า"พิเศษ" ออกไป
สร้างความสับสันให้ประชาชนโดยทั่วไป...

ตามบิดเบือนให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตัวเองเคยพลาดหวังจากการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคงจะมีปมในใจ...

 

จนหลงลืมความถูกผิด ความชั่วดี ไปสิ้น...




#1136769 ... ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิตที่คิดจะบิดเบือน เพื่อบังฟ้าข้ามสมุทร เรารู้ทัน (...

โดย ศรอรชุน on 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:11

 

...."ชาวนาผูกคอตายไปกี่รายแล้ว...

ประเทศเสียหายไปกี่แสนล้าน...

รัฐบาลและลิ่วล้อโกงไปเท่าไหร่...

เต็นท์รถมือสองเจ๊งไปกี่ราย...

การส่งออกทรุดเท่าไหร่...

จีดีพี พังพาบ...

หนี้ครัวเรือนถีบตัวสูง...

ข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน...

เกิดจากการซื้อเสียงด้วยนโยบายทั้งสิ้น"....

 

:D  :lol:  :lol:

ไม่มองมุมอื่นเลย  แล้วจะเห็นอะไรล่ะครับ 

ปัญหาการเมืองในประเทศ  ศก.โลก  หรืออื่นๆไม่เกี่ยวเลยหรืออย่างไร

 

http://news.mthai.co...ews/317695.html

หอการค้าไทย!! ยอมรับเศรษฐกิจเสียหายนับแสนล้าน

 

พรรคการเมืองก็ต้องมีนโยบาย  และต้องทำตามนโยบายให้ได้

เพื่อให้ประชาชนศรัทธา  จะใช้แต่โวหารอย่างเดียวแบบการเมืองเก่าๆ

ตอนนี้ไม่ได้แล้วครับ  คนเขารู้ทันแล้ว

 

 

- กระชากราคาสินค้าลงมา หรือยัง...

- ยุบเลิกกองทุนน้ำมัน หรือยัง...

- รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ได้ขึ้นกันหรือยัง...

- ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ เงินในอากาศหากันเจอหรือยัง...

- ถ้าจำนำข้าวขาดทุนมากกว่าประกันราคา รัฐบาลคงอยู่ไม่ได้ รับผิดชอบกันบ้างหรือยัง...

- ไม่มีนโยบายนิรโทษกรรมให้ทักษิณ แล้วที่รัฐบาลยุบสภาหนีความผิดเพราะอะไร...

ฯลฯ

 

ถ้าเราตกข่าว ช่วยชี้แจงแถลงไขหน่อย...

 

เสื้อแดงชอบอ้างเศรษฐกิจโลก...

ไม่ต้องมองไกล ไปดูตัวเลขเศรษฐกิจของเพื่อนบ้านใกล้ๆ เวียดนาม มาเลย์ เป็นอย่างไร

คิดว่าคงมีความสามารถหาได้...

 

ผมมองครบทุกองค์ประกอบแล้ว แต่คุณละ 

ลองละวางความชื่นชอบนักการเมืองและเปลี่ยนแนวความคิดเพื่อประเทศชาติ...

 

ก็จะพบกับความจริง...




#1136720 ... ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิตที่คิดจะบิดเบือน เพื่อบังฟ้าข้ามสมุทร เรารู้ทัน (...

โดย ศรอรชุน on 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 17:14

 

 

 

 

ฮ่า..

จขกท.พยายามเอาคำพูดเมื่อ  8  ปีที่แล้ว   มาทำให้ดูเหมือนว่า  อ.ลิขิต

เป็นไม่หลักปักขี้เลน  หรือทำนองพยายามดิสเครดิต  แต่ไม่ได้โต้แย้งในเนื้อหาในคลิปเลย

แต่เน้นโวหารแทน

ผมว่า  อ. แกพูดไม่ผิดหรอกครับ  ก่อนนั้นประชาชนในชนบท  อาจจะรู้ข้อเท็จจริงน้อย

แต่หลังจาก  รปห. ปี  49. มาจนถึงปัจุบัน  ด้วยเทคโนโลยี  ทำให้ข่าวสารต่างๆ

แพร่หลายมากขึ้น   แปดปีให้หลัง  คนชนบทอาจจะยังจนอยู่  แต่คงไม่เขลาแน่นอนครับ  จขกท.

รปห. 49  ทำให้ชนบท  ฉลาดขึ้น   มองเห็นอะไรมากขึ้น

 

ใจเย็นๆครับ ดูจากชื่อเรื่องมีวงเล็บ (1 ) เรื่องนี้ยาวแน่นอน  :D

 

คุณจาฤกเป็นคนฉลาด ในเรื่องการพูดประเด็นที่ตัวเองได้ประโยชน์ อธิบายหน่อยครับ ชาวชนบทฉลาดขึ้นอย่างไร  :)

 

ก็ถ้าคนได้รับข่าวสารมากขึ้นหลายๆด้าน หลายๆสื่อ  ก็คงจะทำให้ฉลาดขึ้นบ้าง

มั้งครับ  ผมคิดอย่างนั้น  ยกเว้นคนที่ไม่ยอมรับสื่อที่เห็นต่าง  อาจจะเข้าข่ายดักดาน :D

 

 

 

 

พัฒนาการของประชาธิปไตย 8 ปี นับตั้งแต่ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิต พูดว่า...

คนชนบททั้งจน ทั้งเขลา ตกเป็นเครื่องมือของการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง

ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ...

การซื้อเสียงต่อหัวสูงขึ้นจากแค่ไม่กี่ร้อยบาทเป็นหลักพันต่อเสียง
แถมด้วยมีแพ็คเกจซื้อยกครัวในราคาเหมาสามพันบ้าง ห้าพันบ้าง แล้วแต่จำนวนสมาชิก

เอาแค่ระดับ นายก อบต. มีเงินต่ำกว่าห้าล้าน สิบล้าน ก็เลิกคุย
แจกเงินทุกคน หากย่ามใจไม่แจกญาติพี่น้องด้วยย่ามใจว่าเป็นของตาย 
ก็มีสอบตกมาให้เห็นมากมายหลายพื้นที่

นับประสาอะไรกับการเมืองระดับชาติ ที่ซื้อเสียงด้วยงบประมาณแผ่นดิน 
กับโครงการผลาญชาตินานับประการ อ้างความยากจนของชาวบ้าน 
เพียงเพื่อคะแนนเสียงและการทุจริตเพื่อพวกพ้อง...

ถ้าใครจะแย้งให้ลองไปถามเสี่ยเต้นดู ว่าข้าวที่จำนำมาแล้วมีเท่าไหร่ ขายไปเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่
ขาดทุนกี่แสนล้าน ข้าวหายสาบสูญโดยหาสาเหตุไม่ได้อีกกี่ล้านตัน

ปฏิรูปเพื่อให้สิ่งเหล่านี้หายไป แล้วมาเลือกตั้งกัน  ไม่ดีกว่าหรือ...

 

ผลวิจัยจาก  อ. สิริพรรณ  หรือ  อ. ปริญญา    รวมถึงผลสำรวจ

จาก  อีสานโพล  ก็ออกมาในแนวทางเดียวกันว่า  ปัจจุบันนี้(อ้างอิงจากการเลือกตั้งล่าสุด)

การซื้อเสียงมีผลกับคะแนนน้อยมาก  นั่นแสดงว่า  ประชาชน  เข้าใจการเมืองมากขึ้น

เงินซื้อเสียงไม่ได้อีกต่อไป  ผมว่าเลิกติดกับดักวาทกรรมเก่าๆ  ของพรรคเก่าๆเถอะครับ

http://isranews.org/...oney_25828.html

https://www.facebook...468315289871967

 

อันล่างนีผลสำรวจจากอีสานโพล  เข้าทำนองรับเงินหมากาเบอร์ 1  อย่างไรไม่รู้ :D

 

ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อผู้สมัครเลือกตั้งที่แจกเงินซื้อเสียง 

 

ร้อยละ

รับได้เป็นเรื่องปกติแต่จะกาให้กับคนที่ชอบมากกว่า

61.2

รับไม่ได้และจะไม่เลือกเด็ดขาด

23.9

รับได้เป็นเรื่องปกติและจะกาให้กับคนที่ให้เงินมากกว่า

14.9

 

 

ใช้เงินตัวเองซื้อเสียงมันเด็กๆแล้ว

 

อย่างบักแม้ว ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยแอนด์เดอะแกงค์

 

เขาใช้งบประมาณแผ่นดิน และเงินเอกชน ซื้อเสียงด้วยนโยบายผลาญชาติวินาศสันตะโร

 

ด้วยโครงการประชานิยมที่ไม่สนใจประเทศ...

 

ชาวนาผูกคอตายไปกี่รายแล้ว...

ประเทศเสียหายไปกี่แสนล้าน...

รัฐบาลและลิ่วล้อโกงไปเท่าไหร่...

เต็นท์รถมือสองเจ๊งไปกี่ราย...

การส่งออกทรุดเท่าไหร่...

จีดีพี พังพาบ...

หนี้ครัวเรือนถีบตัวสูง...

ข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน...

 

เกิดจากการซื้อเสียงด้วยนโยบายทั้งสิ้น

 

คุณรู้ดีแต่คงไม่อยากพูดถึง...

ท่องได้คำเดียวตามโผที่เขาให้มา...