ฮ่า..
จขกท.พยายามเอาคำพูดเมื่อ 8 ปีที่แล้ว มาทำให้ดูเหมือนว่า อ.ลิขิต
เป็นไม่หลักปักขี้เลน หรือทำนองพยายามดิสเครดิต แต่ไม่ได้โต้แย้งในเนื้อหาในคลิปเลย
แต่เน้นโวหารแทน
ผมว่า อ. แกพูดไม่ผิดหรอกครับ ก่อนนั้นประชาชนในชนบท อาจจะรู้ข้อเท็จจริงน้อย
แต่หลังจาก รปห. ปี 49. มาจนถึงปัจุบัน ด้วยเทคโนโลยี ทำให้ข่าวสารต่างๆ
แพร่หลายมากขึ้น แปดปีให้หลัง คนชนบทอาจจะยังจนอยู่ แต่คงไม่เขลาแน่นอนครับ จขกท.
รปห. 49 ทำให้ชนบท ฉลาดขึ้น มองเห็นอะไรมากขึ้น
ใจเย็นๆครับ ดูจากชื่อเรื่องมีวงเล็บ (1 ) เรื่องนี้ยาวแน่นอน
คุณจาฤกเป็นคนฉลาด ในเรื่องการพูดประเด็นที่ตัวเองได้ประโยชน์ อธิบายหน่อยครับ ชาวชนบทฉลาดขึ้นอย่างไร
ก็ถ้าคนได้รับข่าวสารมากขึ้นหลายๆด้าน หลายๆสื่อ ก็คงจะทำให้ฉลาดขึ้นบ้าง
มั้งครับ ผมคิดอย่างนั้น ยกเว้นคนที่ไม่ยอมรับสื่อที่เห็นต่าง อาจจะเข้าข่ายดักดาน
พัฒนาการของประชาธิปไตย 8 ปี นับตั้งแต่ลิขิต ธีรเวคิน ราชบัณฑิต พูดว่า...
คนชนบททั้งจน ทั้งเขลา ตกเป็นเครื่องมือของการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง
ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ...
การซื้อเสียงต่อหัวสูงขึ้นจากแค่ไม่กี่ร้อยบาทเป็นหลักพันต่อเสียง
แถมด้วยมีแพ็คเกจซื้อยกครัวในราคาเหมาสามพันบ้าง ห้าพันบ้าง แล้วแต่จำนวนสมาชิก
เอาแค่ระดับ นายก อบต. มีเงินต่ำกว่าห้าล้าน สิบล้าน ก็เลิกคุย
แจกเงินทุกคน หากย่ามใจไม่แจกญาติพี่น้องด้วยย่ามใจว่าเป็นของตาย
ก็มีสอบตกมาให้เห็นมากมายหลายพื้นที่
นับประสาอะไรกับการเมืองระดับชาติ ที่ซื้อเสียงด้วยงบประมาณแผ่นดิน
กับโครงการผลาญชาตินานับประการ อ้างความยากจนของชาวบ้าน
เพียงเพื่อคะแนนเสียงและการทุจริตเพื่อพวกพ้อง...
ถ้าใครจะแย้งให้ลองไปถามเสี่ยเต้นดู ว่าข้าวที่จำนำมาแล้วมีเท่าไหร่ ขายไปเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่
ขาดทุนกี่แสนล้าน ข้าวหายสาบสูญโดยหาสาเหตุไม่ได้อีกกี่ล้านตัน
ปฏิรูปเพื่อให้สิ่งเหล่านี้หายไป แล้วมาเลือกตั้งกัน ไม่ดีกว่าหรือ...
- ชาวสวน, blackdragon, kokkai and 5 others like this