Jump to content


Thai people

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 00:34
-----

Topics I've Started

คุณจะเป็นแดงแท้ ตราบเท่าที่คุณมีประโยชน์ แต่ถ้าคุณหมดประโยชน์ หรือทำให้แดงเสื่อมเสีย คุ...

9 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:37

10258561_622716347813441_773065357900320

 

 

 

คลิ ป “โกตี๋” ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวตปท. “จาบจ้วงเบื้องสูง” โผล่  ระบุชัด “คนอื่นไม่กล้าพูดแต่ผมกล้าพูด”  - “ธิดา” ลั่นไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่ นปช.ไม่ใช่กองทัพจะไปห้ามความคิดใครได้ ขอสังคมให้ความเป็นธรรม ดูให้ชัดก่อนว่าตัดต่อหรือไม่ ถ้าผิดจริงก็ว่าไปตามเนื้อผ้า ย้ำไม่ควรดึงสถาบันฯมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

PIC-Kotee-2.jpg

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณี นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ตอบคำถามสื่อต่างประเทศ ถึงบุคคลที่ตนเองกำลังต่อสู้ด้วยว่าเป็นใคร โดยมีการกล่าวพาดพึงถึงสถาบันอย่างชัดเจน พร้อมระบุว่า “คนอื่นไม่กล้าพูดแต่ผมกล้าพูด” ว่า แรกเริ่ม นายวุฒิพงศ์ เป็นมวลชน ต่อมาก็ไปเป็นดีเจคนเสื้อแดง ตนพูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะปัดความรับผิดชอบ เพราะเราไม่สามารถรับผิดชอบคำพูดหรือการกระทำของปัจเจกชนได้ เนื่องจากขบวนการของเราเป็นเสรีชน มันไม่ได้มีการควบคุม และชัดเจนว่านายวุฒิพงศ์ ไม่ได้ขึ้นกับ นปช. เพราะเราเป็นองค์กรที่ชัดเจนว่าสู้โดยสันติวิธี และสู้เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นางธิดา กล่าวย้ำด้วยว่า สำหรับนายวุฒิพงศ์ นั้นเขาไม่เคยเข้ามาร่วมกับเราเลย ถามว่าจะรับผิดชอบเขาได้ไหม ก็คงไม่ได้ แต่ถามว่าเราพยายามพูดเน้นย้ำเสมอเพื่อเตือนคนนั้นคนนี้ เราพยายามแล้ว แต่ว่าเราไม่ใช่กองทัพ จะไปห้ามไม่ให้คนพูดหรือทำอะไรมันไม่ได้ ฉะนั้นเราไม่อยากให้มันมีปัญหา แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

“โกตี๋ เขาพูดจริงหรือไม่ ต้องเริ่มต้นก่อน มีตัดต่อหรือไม่ อันนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา ส่วนที่ 2 ก็ต้องว่าไปตามเนื้อผ้า อะไรก็ตามที่มันผิดกฎหมายก็คือผิด” นางธิดา กล่าว

นางธิดา กล่าวอีกว่า “เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนที่วุฒิภาวะไม่เพียงพอ อาจจะไม่รู้ว่าจะทำอะไร หรือพูดอะไร คล้าย ๆ กับนายสุเทพที่บอกว่าจะเป็นรัฏฐาธิปัตย์นั่นเอง นอกจากนี้การดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้น ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะต้องให้ท่านอยู่เหนือการเมือง ประชาชนทะเลาะกันก็ทะเลาะกันไป”

“อาจมีคนไม่เห็นด้วย เราไม่สามารถไปบังคับเขาได้ ได้แต่เตือนด้วยความระมัดระวังในทั้งคำพูดและการกระทำว่ามันอาจเกิดความเสีย หายต่อผู้พูดและการกระทำ เราจะทำตัวเป็นว่าเราเป็นคนดีแล้วไปเที่ยวห้ามปรามด่าคนนู้นคนนี้มันละเอียด อ่อนมากในหมู่คนเสื้อแดง” นางธิดา กล่าว

อนึ่ง คลิปเสี่ยงสัมภาษณ์นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันอย่างชัดเจนดังกล่าว ถูกเผยแพร่ใน Youtube เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2557 มีผู้ใช้ชื่อว่า "VICE News" ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศนำมาเผยแพร่ 

โดยนายวุฒิพงศ์ กล่าวในคลิปวีดีโอดัง กล่าวตอนหนึ่งถึงเหตุผลที่คนเสื้อแดง ต้องมาออกต่อสู้ในขณะนี้ ว่า “เพื่อเรียกร้องให้เขายุติในการก่อม็อบกัน เรียกร้องให้มีระบอบการเลือกตั้ง เพราะคุณบอกว่ารักชาติ แต่คุณทำลายชาติ เศรษฐกิจ เสียหายย่อยยับ แต่ผมสู้ระบอบที่ครอบงำในเมืองไทยมาชั่วนาตาปีแล้ว สุเทพ (เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.) แค่ตัวละคร ”

ก่อนจะชี้มือขึ้นข้างบน และถามผู้สื่อข่าวกลับว่า“เข้าใจความหมายใช่ไหม” 

พร้อมระบุข้อความพาดพิงสถาบันอย่างชัดเจน  และพูดว่า "คนอื่นไม่กล้าพูด แต่ผมกล้าพูด”

 

 

ที่มา http://www.isranews....Aoal_3c.twitter


"สนธิ ลิ้มทองกุล เสนอให้ ส.ส.ปชป.ลาออกทั้งหมด แล้วพันธมิตรฯ จะร่วมสู้นอกสภา" แ...

17 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 01:20

'สนธิ ลิ้มทองกุล เสนอให้ ส.ส.ปชป.ลาออกทั้งหมด แล้วพันธมิตรฯ จะร่วมสู้นอกสภา

 

Sat, 2013-08-10 22:08

แกนนำ พธม. เสนอประชาธิปัตย์ลาออกจาก ส.ส. ทั้งหมด เดินเกมนอกสภา แล้วแกนนำ พธม. จะร่วมมือด้วย โดยให้ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เชื่อคนจะออกมาเป็นล้านๆ ด้าน "เทพไท เสนพงศ์" ทวิตโต้ถ้าลาออก ส.ส. คิดหรือว่ารัฐบาลจะยุบสภา พร้อมบอกผู้สนับสนุนให้ใจเย็นๆ เพราะมีอีกหลายยก

เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และได้ร่วมรายการด้วย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ โดยในรายการดังกล่าวเขาสวมแว่นตากันแดด โดยให้เหตุผลว่า "เผอิญตาเคือง เป็นต้องหิน" จึงต้องใส่แว่นดำ

ทั้งนี้ในรายการ นายสนธิ ได้กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจพลาดที่ในรัฐสภาเมื่อ 7 ส.ค. ไม่ยอมเดินออกจากสภาทั้งหมด หลังฝ่ายรัฐบาลลงมติให้ประชุมต่อ โดยเขาเชื่อว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจออกจากสภามาทั้งหมด "ตรงนี้รัฐบาลก็เดินไม่เป็นนะ รัฐบาลไปไม่เป็นนะตรงนี้" และ ส.ส.เพื่อไทยที่เก๋าเกมก็จะบอกไม่ให้เดินหน้าออก พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะจะไม่มีความชอบธรรม

อย่างไรก็ตาม นายสนธิกล่าวว่า "ประชาธิปัตย์นอกจากไม่ทำอันนี้แล้ว ยังเสือกไปร่วมในกรรมาธิการเขาอีก ทั้งๆ ที่รู้ว่า ในกรรมาธิการก็แพ้"

นายสนธิกล่าวว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะพรรคประชาธิปัตย์ติดกับดักความกลัว คิดว่าถ้าเอามวลชนไปแล้วบุกเข้าสภาเดี๋ยวจะโดนดำเนินคดี ประชาธิปัตย์ถนัดแต่จะให้คนอื่นติดคุกแทน นอกจากนั้นยังติดกับดักในเรื่องการหลงตัวเอง ว่าตัวเองพูดเก่ง พูดแล้วคนจะฟัง ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ชอบพูด

โดยตอนหนึ่งนายสนธิได้มีข้อเสนอว่า "ผมพูดเนี่ยผมอยากจะพูดให้สาวกพรรคประชาธิปัตย์ฟัง ให้ตั้งใจฟังกันให้ดีๆ คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองมั้ย คำว่าเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองต้องหมายความว่า ต้องไม่ยอมรับระบบเดรัจฉานในสภานี้ หมายความว่ายังไง หมายความว่าต้องพิจารณา หาทางที่จะให้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน วิธีเดียวที่จะหาทางให้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกันได้คือ พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องลาออกหมดเลย ลาออกมาเดินเกมการเมืองนอกสภา แล้วการเดินเกมการเมืองนอกสภา"

เมื่อลาออกจาก ส.ส. แล้วเดินเกมนอกสภาแล้ว นายสนธิกล่าวว่ายินดีร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ "ผมพร้อมจะร่วม พันธมิตรฯ พร้อมจะร่วม แต่คุณต้องลาออกนะ พันธมิตรฯ พร้อมจะร่วม ให้คุณนำ ผมไม่ต้องการนำ ผมเป็นผู้ตามคุณ ผมยินดีตามพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณกล้าทำอย่างนี้ อาการเจ็บหลังของผมที่ผมโดนแทงทั้งหลัง และเจ็บหัวที่โดนยิงหัว ผมลืมได้ ผมทิ้งไว้ข้างตัวเลย เอาชาติมาก่อน"

"ถ้าอย่างนั้นแล้ว ระดมคนทั่วประเทศไทย 7 วันต้องมีคนเป็นล้านมา วันนั้นเพื่อไทยต้องเคาะประตูแล้วขอคุยด้วย เพราะเขาต้องขอคุยด้วยทันทีเลย ขอคุยด้วยตอนนั้นล่ะ คือการที่จะมากำหนดกติกาทางการเมืองที่มีภาคประชาชนเป็นส่วนร่วม ที่ไม่ใช่พึ่งพาหลักคณิตศาสตร์ วันนั้นเป็นวันที่เจรจาได้หมดทุกอย่าง และวันนั้นอาจจะเป็นวันที่บอกว่าให้ทหารมาตั้ง หรือให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งรัฐบาลรักษาการชั่วคราว 2 ปี เพื่อมาตกลงกติกา วิธีการกันใหม่ นี่คือทางออกของประเทศไทย"

"แต่ถ้าประชาธิปัตย์ยังจมอยู่กับความคิดโง่ๆ หวังไปเชื่อทหารบางคนที่แทงกั๊กอยู่ว่าทหารจะออกมาสลับขั้วให้ ไม่ลงมาเล่นการเมืองกับประชาชน ประชาธิปัตย์ต้องถึงเวลาต้องมาเล่นการเมืองกับภาคประชาชน ต้องลาออกเลย สละระบบการเมืองนี้ไป ผมพร้อมจะเข้ามาร่วมและผมพร้อมจะเดินตามแกนนำประชาธิปัตย์ ให้ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ และผมไม่จำเป็นต้องมีแกนนำ ผมพร้อม จะให้ผมขึ้นเวทีพูดปราศรัยผมจะขึ้น ไม่ให้ขึ้น ผมก็ไม่ขึ้น แต่ผมจะไปแสดงความบริสุทธิ์ใจของผม ถ้าเราจะทำอย่างนี้เพื่อความบริสุทธิ์ เพื่อชาติ แต่ต้องไม่มีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าประชาธิปัตย์อยากจะปฏิรูปการเมือง อยากทำการเมืองให้ดี ประชาธิปัตย์ลาออกมาแล้วนำไปเลย จะให้ แม้กระทั่งอภิสิทธิ์อยากนำ นำไป สุเทพอยากนำ นำไปไม่เป็นไร ผมไม่ว่า แต่คุณลาออกมาได้ไหม พิสูจน์ตรงนี้ให้ผมดูหน่อย เสียสละให้ผมดูก่อน อย่าใช้นโยบายตีกินเหมือนเดิม ถ้าอย่างนั้นแล้วผมเชื่อ"

ทั้งนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า ข้อเสนอของเขาไม่ใช่มติของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เชื่อว่าแกนนำคนอื่นๆ เห็นด้วย "ผมเชื่อว่าผมพูดกับพี่ลอง ผมพูดกับพี่พิภพ หรือ อ.สมเเกียรติ ทุกคนเอาด้วย เพราะทุกคนพวกผม และพันธมิตรฯ เป็นคนที่ไม่มีผลประโยชน์กับใคร แต่เอาชาติเป็นหลัก"

"วิธีนี้เท่านั้นเองที่จะทำให้ทุกอย่างกลับไปสู่ที่ศูนย์แล้วเริ่มกันใหม่ด้วยความแฟร์" นายสนธิกล่าวในรายการ

ถ้าปล่อยให้เพื่อไทยปู้ยี่ปู้ยําประเทศต่อไป ความผิดจะอยู่ที่ประชาธิปัตย์ เพราะมีศักยภาพสูงสุดในการเปลี่ยนประเทศได้ มีถึง 12 ล้านเสียง พันธมิตรฯ มีแค่ 1-2 ล้านเสียงเอง และมีผู้นำที่มีบารมีพอ ขอแค่ใส่ความกล้าเข้าไป การสู้ในสภารอถึงวาระ 3 เป็นแค่การซื้อเวลาตายเท่านั้น แต่ในที่สุดก็ต้องตาย สู้ดิ้นออกมาก่อนและหาทางเกิดใหม่ดีกว่า

"ผมไม่ต้องไปพูดถึงความผิดพลาดเขา ที่เขามีอำนาจและเขาไม่ปราบเสื้อแดง เอาล่ะ ช่างมัน เขามีโอกาสล้างความผิดในชีวิตเขาได้ด้วยการลาออก เชื่อผมสิถ้าเขาลาออกปั๊บ รัฐบาลเดินไม่ถูกเลย เดินไม่เป็นจริงๆ นะ" นายสนธิกล่าว

ทั้งนี้นายสนธิ กล่าวด้วยว่า เขาเชื่อว่ามวลชนจะเยอะมากขั้นต่ำเป็นล้านและเผลอๆจะสูงถึง 2-3 ล้านคน อย่างน้อยที่สุดพันธมิตรฯ ไปแน่ นี่จะเป็นการเปลี่ยนประเทศจริงๆ และตนเชื่อว่าด้วยปริมาณคน ความรู้ของมวลชน คนชนชั้นกลาง ด้วยอะไรต่ออะไรที่พร้อมอยู่ มันจะทำให้พรรคเพื่อไทยต้องมานั่งโต๊ะเจรจา แล้ววันนั้นทุกคนจะก้าวข้ามพรรคการเมืองทั้งหมดและก้าวข้ามทักษิณด้วย นี่คือข้อเสนอทางออกของประเทศ

 

ที่มา : http://prachatai.com...l/2013/08/48128

 

 

 

 

คนพูดแล้วไม่ทำ......จะต่างจาก........หมาเห่า........ตรงไหน


ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยังพอรับได้ แต่....นักโทษหนีคดีเสนอ ตำรวจสนอง ประเทศชาติต่อไปจะเป็...

10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:07

ต่อไปนี้.....ถ้ามีนักโทษหนีคดี หรืออยู่ในเรือนจำ พอจะมีเงิน เคยช่วยเหลือตำรวจ อยากให้ตำรวจทำอะไร ตำรวจก็ต้องทำตามงั้นหรือ

 

เมื่อตำรวจ ไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รักเกียรติภูมิ ไม่รักศักดิ์ศรี ของการเป็นตำรวจซะแล้ว

 

เห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนตัว แม้คนนั้นจะได้ื่ชื่อว่าเป็นนักโทษที่ศาลท่านตัดสินแล้วว่าผิดจริง ยอมทำตามในสิ่งที่นักโทษคิดให้ทำ

 

จริงอยู่ว่าการติดตามผู้ก่อการร้ายเผาบ้าน เผาเมือง เผากรุงเทพฯ เป็นหน้าที่ของตำรวจนครบาล ที่ต้องหาตัวมาลงโทษตามคดีความ ที่ผ่านมา จะดำเนินการสืบหาตัวคนร้ายหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบได้ เพราะไม่เคยมีข่าว ไม่เคยมีเบาะแส ไม่เคยมีการแถลงข่าวใด ๆ ออกมาเลย

 

จนวันหนึ่ง นักโทษหนีคดี บอกว่าให้ทำ ก็รีบทำอย่างแข็งขัน ตั้งโต๊ะแถลงข่าวทันทีทันใด

 

สังคมไทย ประเทศชาติ ต้องก้มกราบคนเลว แต่ร่ำรวย อย่างนั้นหรือ ????