Kepler-22b

ชาวบ้านทั่วไปไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ครับ
หน้าด้านซะอย่างก็ยังอยู่ต่อไปได้

เสียงในสภาไม่แน่ใจ
แต่ลุ้นเหงื่อตก เยี่ยวเหนียวที่ปปช.แน่ครับ

ศิริโชค

พอมีจรวดยิงมา เอ้าน้องเลี้ยวเรือ..เลี้ยวเรือ.เรือ..
ส.ส. หัวเราะกันครืน

ศิริโชคบอกว่า พอสุกำพลมาเป็น รมตกลาโหม ก็ไปลดสเปค ระบบเป้าลวง จากเป้าหมุนได้ เป็นระบบเป้าหมุนไมได้ (ไม่รู้ใช้คำพูดถูกหรือเปล่า)

ใช้ได้ครับชาวบ้านอย่างผมอ่านแล้วเข้าใจ
แต่ถ้าอย่างท่านSolidus ว่าไว้นี่ชัดเจนครับ

เวร แท่นยิงเปลี่ยนจากหมุนได้เป็นยึดอยู่กับที่

เวร เปลี่ยนจากหมุนได้เป็นยึดอยู่กับที่

ลูกผู้ชายชาติทหารกลับไปใช้เทคโนโลยีย้อนยุค
เพราะมันไม่ได้อยู่บนเรือกับลูกเรือที่เขาเสี่ยงชีวิต

วอร์รูมเพื่อไทย

ศิริโชคมันพูดนานไปแล้วเราประท้วงกันได้ยัง

ยัง รอก่อน ไม่รู้มันพูดเรื่องอะไร ประท้วงไม่ถูก

อภิสิทธิ์มาแล้วครับ
ศิริโชคย้ำอภิปรายเป็นข้อมูลใหม่ ไม่มีตัดแปะจากข่าว เว็บอินเตอร์เน็ต
อย่างที่เพื่อไทยกล่าวหา แต่ต่อไปหลังจากฝ่ายค้านอภิปรายจบ
สิ่งที่ผู้คนจะตัดแปะคือ สุกำพล


ว่าแล้วศิริโชคไม่เผยไต๋ เข้ามาเสรีไทยก็หลอกล่อเสื้อแดงไปงมเรื่องอื่น

อ่านพร้อมกัน ข่าวสารสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากสำนักเนชั่น
http://breakingnews....p?newsid=660112

ศึกซักฟอกป่วนเกือบชั่วโมง เริ่ม 10.20 น.


เวลา 09.30 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายสมศักดิ์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ได้ยุติการชุมนุมก่อนการที่จะมีการอภิปรายฯ ในวันนี้ เพราะจะได้ไม่มีการกดดันต่อการทำหน้าที่ของ ส.ส. สำหรับเวลาการอภิปราย ตามที่ได้ตกลงกันไว้ คือ ฝ่ายค้าน อภิปราย 30 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐมนตรีชี้แจง รวม 12 ชั่วโมง นั้น ตนขอเสนอว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันแรก และวันที่สอง จะยุติการอภิปราย ในเวลา 01.00 น. และวันอภิปรายวันที่สามนั้นจะขอให้ยุติการอภิปรายก่อนเวลา 24.00 น. แต่หากเวลาการอภิปรายไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้ ขออย่าถือสา ทั้งนี้เพื่อรักษาบรรยากาศการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอหารือถึงการตั้งกรรมการร่วมฝ่ายค้านและรัฐบาล เพื่อตรวจสอบเอกสาร คลิปวีดีโอก่อนนำมาอภิปราย ซึ่งประเด็นนี้ได้ใช้เวลาหารือนานประมาณ 20 นาที โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายคัดค้าน เนื่องจากมีข้อตกลงร่วมกับวิปรัฐบาล และนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ คนที่ 1 แล้วว่าจะไม่มีการตั้งกรรมการตรวจสอบฯ แต่จะเป็นการรับผิดชอบของพรรคฝ่ายค้านที่จะใช้เอกสารและคลิปวีดีโอ ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่าตนได้มอบหมายให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ แต่เชื่อว่าจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ เนื่องจากนายวิสุทธิ์นั้นต้องทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมด้วย ทำให้นายจุรินทร์ เสนอว่าหากนายวิสุทธิ์ขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ขอให้นายสมศักดิ์ และนายเจริญสลับเป็นคนทำหน้าที่พิจารณาเอกสารและคลิปวีดีโอ ซึ่งนายสมศักดิ์ กล่าวขึ้นว่าหากให้ตนทำหน้าที่ ตนจะขอตั้งคณะทำงานเพื่อให้มาทำหน้าที่แทนตน โดยขอให้ดำเนินการให้ข้าราชการรัฐสภา ที่มีความเป็นกลางมาทำหน้าที่กรรมการตรวจสอบเอกสารและคลิปวีดีโอ โดยที่ประชุมได้สรุปเป็นข้อยุติร่วมกัน
การประชุมเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจยังเข้าสู่การพิจารณาไม่ได้ เมื่อนายสมศักดิ์ ได้ระบุว่าจะแจกเอกสารที่พรรคฝ่ายค้ายยื่นถอดถอนนายกฯ และ 2 รัฐมนตรีต่อส.ส. เพื่อให้พิจารณากำกับการประชุม ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ท้วงติงว่าไม่สมควร เพราะเอกสารเป็นชั้นความลับที่สูงกว่าอำนาจประธานสภาฯ ท้ายสุดนายสมศักดิ์ วินิจฉัยว่า เอกสารที่ยื่นมานั้น ท้ายสุดพรรคฝ่ายค้านต้องอภิปรายในรายละเอียดอยู่แล้ว คงไม่เรียกว่าเป็นความลับได้ ดังนั้นตนขอแจกเอกสารให้ ส.ส. เพื่อพิจารณา หลังจากที่ สภาฯ ได้หารือในหลายประเด็น เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง การพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเวลา 10.20 น.

http://breakingnews....p?newsid=660113

ปชช.ร้อยละ 74 เชื่อนายกฯชี้เเจงศึกซักฟอกได้



ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง"การวางตัวของนายกรัฐมนตรีช่วง บารัค โอบามา มาเยือนประเทศไทย การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และก้าวต่อไปของฝ่ายการเมืองที่ประชาชนอยากเห็น" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ลพบุรี ชลบุรี จันทบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ มุกดาหาร หนองคาย ชัยภูมิ สุรินทร์ อุดรธานี ขอนแก่น พัทลุง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,054 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20 - 24 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน ความคลาดเคลื่อนร้อยละ 7 พบว่า

เมื่อสอบถามถึงความเหมาะสมในการวางตัวของนายกรัฐมนตรีช่วง บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาเยือนประเทศไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.9 ระบุว่าเหมาะสมแล้ว ในขณะที่ร้อยละ 36.1 ระบุว่าไม่เหมาะสม และเมื่อถามว่า ถ้าคุณเป็นนายกรัฐมนตรี คุณจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าหรือแย่กว่านายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.1 ระบุว่าพูดได้แย่กว่านายกรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 28.9 ระบุว่าพูดได้ดีกว่า นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.8 ประทับใจในการใช้ภาษาอังกฤษของนายกรัฐมนตรี ช่วงผู้นำประเทศต่างๆ มาเยือนประเทศไทย

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.7 ให้ความสำคัญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 12.3 ไม่ให้ความสำคัญ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.5 อยากให้อภิปรายเฉพาะปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ในขณะที่เพียงร้อยละ 6.5 เท่านั้นที่อยากให้อภิปรายเรื่องส่วนตัว

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.4 เชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรีในการชี้แจงช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ร้อยละ 25.6 ไม่เชื่อมั่น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.9 คิดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในรัฐบาลหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขณะที่ร้อยละ 24.1 คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามถึงระยะเวลาที่ต้องการให้โอกาสรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำงานต่อไป พบว่า ร้อยละ 46.9 ระบุ 2 ปีจนครบวาระ ในขณะที่ร้อยละ 29.8 ระบุ 1 - 2 ปี ร้อยละ 12.5 ระบุ 6 เดือนถึง 1 ปี และร้อยละ 10.8 ระบุไม่เกิน 6 เดือน ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ 5 อันดับแรกของก้าวต่อไปของฝ่ายการเมืองที่ประชาชนคนไทยทุกคนอยากเห็น (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.8 ระบุช่วยกันปกปักษ์รักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รองลงมาคือร้อยละ 91.8 ระบุให้เลิกแตกแยก มุ่งปรองดอง ร้อยละ 84.2 ให้สำนึกรู้คุณแผ่นดิน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ร้อยละ 74.1 ระบุให้รักสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลมีไมตรีจิตต่อกัน และร้อยละ 72.9 ให้เกียรติกัน ไม่เยาะเย้ย ถากถางกัน

ส่วนก้าวต่อไปของรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่อยากเห็นมากที่สุด พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 45.9 เร่งแก้ปัญหาปากท้อง ลดภาระค่าครองชีพ ร้อยละ 20.7 เสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติ ลดความแตกแยก ร้อยละ 14.9 พัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศอาเซียน ร้อยละ 12.5 กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้มงวดพฤติกรรมผู้ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง และร้อยละ 6.0 ระบุอื่นๆ เช่น แก้ปัญหาสังคม ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาคุณภาพประชาชน ปัญหาเด็กและเยาวชน เป็นต้น

http://breakingnews....ang=T&cat=&key=

ฝ่ายค้านแฉคลิปเสียงสุกำพลแทรกแซงตั้งนายพล


นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายในญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อประเด็นที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ใช้อำนาจการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสังกัดกระทรวงกลาโหม พร้อมได้นำเอกสาร และคลิปเสียงการสนทนาระหว่างพล.อ.สุกำพล กับพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อการเสนอบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงกลาโหม จำนวน 10 คลิปมาเปิดต่อที่ประชุม ทั้งนี้นายวิรัตน์ได้อภิปรายย้ำว่า การใช้อำนาจไปแทรกแซงการแต่งตั้งนายทหาร โดยไม่คำนึงถึงระเบียบปฏิบัตินั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนั้นแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ต้องกำกับดูแลกลับเพิกเฉยต่อประเด็นดังกล่าว ยิ่งเป็นประเด็นที่ทำให้พรรคฝ่ายค้านไม่ไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป
จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล ชี้แจงยืนยันว่า การแต่งตั้งทหารชั้นนายพล ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติระเบียบกระทรวงกลาโหมที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง ซึ่งการอัดเสียงที่อยู่ในการประชุมไม่ถูกต้อง ผิดวินัยทหารอย่างร้ายแรง ตนทราบว่าใครอัดเสียง ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ส่วนการสั่งย้ายพล.อ.เสถียร ไปช่วยราชการสำนักรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นไปตามอำนาจที่ตนสามารถทำได้ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องระบุไว้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงสั้นๆ ประมาณ 1.52 นาทีว่า "การแต่งตั้งทหารชั้นนายพลนั้น ดิฉันไม่สามารถเข้าไปดำเนินการแทรกแซงได้ เนื่องจากมีกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ ส่วนประเด็นที่พล.อ.เสถียร ทำหนังสือร้องเรียนมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ดิฉันไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ให้เลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการแต่งตั้งให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ นอกจากนั้นหนังสือฉบับดังกล่าวนี้ได้ส่งไปให้ พล.อ.เสถียร รับทราบแล้ว"

ตอนนี้ท่านให้คะแนนฝ่ายค้านในการอภิปรายเท่าไหร่
เก็บเอาไว้ในใจนะครับ เอาไว้ลงคะแนนตอนท่านซิกกรีทำโพลล์

ไม่มีเรื่องเกณฑ์ทหารเลย ท่าทางทางนั้นกำลังป่วนนะ เพราะเตรียมมาเรื่องเจออีกเรื่อง
แต่ละคนตอบแบบหน้าตา งง

ให้ไลค์ท่านซิกกรีไม่ได้ ของผมหมดแล้ว
2 เรื่องก็เซอร์ไพรส์แล้ว ยังเหลืออีกกี่คนครับเนี่ย

สรุปอลงกรณ์อภิปรายต่อครับ
และสรุปของสรุป เพื่อไทยเริ่มดิ้นรน เดือดร้อนแล้วครับ เจอขุดหลักฐานการโกงเงินแผ่นดินออกมา
มันคาดไม่ถึงเหรอครับ ว่าเขาจะเล่นพวกมันเรื่องนี้

ขออภัยเพื่อนสมาชิกด้วยนะครับ ผมจะขอเปลี่ยนหัวข้อกระทู้บ่อยๆ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ในสภา

ยิ่งลักษณ์ลุกขึ้นชี้แจง

ทหารไม่เอาเสธ.อ้าย ทหารเอาพท. เลยส่งคลิปมาให้ ใช่คลิปที่เสธ.อ้ายยังไม่เปิดใช่ไหม

พึ่งเห็นกันทั้งประเทศก็เมื่อกี้แหละครับ อึ้งกันหมด ส.ส.เพื่อไทยก็นั่งเงียบอยู่

พรุ่งนี้มีงานต้องจับรัฐบาลเปลือยกายในสภา ผมจะคอยเอาใจช่วย
25 พ.ย. 2555 09:30 น. เจอกันครับ

http://www.facebook....elevant_count=1

เสธ.อ้ายประกาศยุติการชุมนุมเนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต
ทางรัฐบาลใช้สารพัดวิชามาร ไม่มีสัจจะ ใช้ความรุนแรง ปล่อยงูพิษ ตัดน้ำ ตัดไฟ
ใช้แก๊สน้ำตา ทั้งที่ไม่มีเหตุอันควร ชีวิตของพี่น้องเป็นสิ่งมีค่า




ผู้ชุมนุมมีอารมณ์ค้างคาอยู่ บอกว่าไม่เลิกๆ เสธ.จึงเดินเข้าไปอธิบายให้ใจเย็นๆ และเข้าใจในเหตุผล