ไผ่ปล้องเดียว

http://bit.ly/woPTgg
ปิดคำให้การโต้งถอนหายใจเจอไล่ซักพรก.กู้เงิน

เกรณ์-คำนูณชำแหละพ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูย้ำไม่มีความจำเป็น‘กิตติรัตน์’โดนตุลาการไล่ซักถึงกับถอนหายใจยันไม่โอนภาระให้ประชาชน

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคำร้องของนายกรณ์ จาติกวณิช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และคณะ และ นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา และคณะ กรณีพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศพ.ศ.2555 และพ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินพ.ศ.2555 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรค1และ2 หรือไม่ ในวันที่ 22 ก.พ.เวลา 14.00น.

สำหรับการไต่สวนเพื่อฟังคำชี้แจงของศาลรัฐธรรมนูญได้ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยเริ่มที่นายกรณ์ ชี้แจงว่า สำหรับพ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯยังไม่มีความจำเป็นอย่างชัดเจนเพราะรัฐสภาเพิ่งได้ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2555 ซึ่งในกฎหมายได้จัดสรรงงบประมาณ 6.8 หมื่นล้านบาทเพื่อชำระดอกเบี้ยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเอาไว้ จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการแหล่งเงินมารับหนี้ เม็ดเงินจัดสรรไว้ในหมวดบริหารหนี้สาธารณะ

"การวัดระดับหนี้สาธาณะ วัดโดยรายได้ประเทศ ปัจจุบันเมื่อเทียบกับจีดีพี 41% ต่ำมากถ้าเทียบกับหลายๆประเทศ ที่สำคัญ คือ ในส่วนของรัฐบาลได้บริหารภายใต้กรอบการยั่งยืนทางการคลังไม่เกิน 60% ส่วนต่าง 20 % กู้ได้อีก2ล้านล้านบาทยังอยู่ในกรอบของความยั่งยืน รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้อยู่แล้ว ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเพดานทางการคลัง โดยไม่กระทบความเชื่อมั่นไม่ต้องซ่อนตัวเลขให้ต่ำกว่าความเป็นจริง"นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า ภาพรวมของพ.ร.ก.โอนหนี้ 1.14 ล้านล้านบาทลักษณะนี้มีผลข้างเคียงหลายประเด็นมีจุดอ่อนตัวกฎหมายมีผลกระทบความมั่นคงเศรษฐกิจ คือ การลดการเรียกเก็บเงินเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝากเหลือเพียง 0.01% จะส่งผลต่อระดับความเชื่อมั่น โดยเฉพาะหากเกิดสถานการณ์วิกฤตจะมีการดูแลอย่างไร รัฐบาลจะต้องค้ำประกันให้กับสถาบันคุ้มครองเงินฝากหรือไม่ เพราะตามหลักกองทุนสถาบันคุ้มครองเงินฝากควรมีอยู่ในระดับ 2 แสนล้านบาทซึ่งตอนนี้มีอยู่ 8 หมื่นล้านบาท แน่นอนว่าถ้ามีการลดการนำส่งเข้ามายังกองทุนคุ้มครองเงินฝากจะทำให้ยอดตัวเลขลดลง

"ปัญหาในระยะยาวภาระหนี้จะส่งต่อไปยังผู้กู้เงินในดอกเบี้ยสูงขึ้น ต้นผู้ประกอบการสูงง ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน เช่นเดียวกับผู้มีเงินออม 60 ล้านบบัญชี มีโอกาสได้รับดอกเบี้ยดลดลง ส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจในครัวเรือน" นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับพ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำ ปรากฎว่ายังไม่มีความชัดเจนในแผนการใช้เงินว่าจะมีการลงทุนตามยุทธศาสตร์อย่างไร โดยมีการให้สัมภาษณ์จาก นายสมิทธ ธรรมสโรช คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ว่าการเสนอแผนของกยน.เมื่อวันที่ 26 ม.ค. เช่นดียวกับ นายปราโมทย์ ไม้กลัด กรรมการกยน.ระบุเช่นกันว่าไม่มีแผนชัดเจน กยน.กรอบกว้างๆไม่มีความชัดเจนแท้จริง ไม่มีความชัดเจนใดๆ

นายคำนูณ ซึ่งได้ทำคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเฉพาะพ.ร.ก.โอนหนี้ ชี้แจงว่า รัฐบาลยังไม่มีความจำเป็นต้องลดภาระดอกเบี้ยในหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเพื่อเพิ่มเพดานในการกู้เงินฟื้นฟูน้ำท่วมเพราะปัจจุบัน คณะรัฐมนตรีมีวงเงินงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยอยู่แล้ว หรือดำเนินการไปพลางก่อน ได้

สว.สรรหา กล่าวว่า งบประมาณดังกล่าว ประกอบด้วย งบประมาณการเยียวยาฟื้นฟูและป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการจำนวน 1.2 แสนล้านบาท เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 6.6 หมื่นล้านบาทซึ่งอยู่ภายใต้พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย รวมทั้งยังมีพ.ร.ก.ที่ผ่านรัฐสภาไปอีก 2 ฉบับก่อนหน้านี้ เท่ากับว่าให้รัฐบาลมีเงินงบประมาณใช้ถึง 7 แสนล้านบาท แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอในการดำเนินการได้ จึงไม่มีความจำเป็นต้องตราพ.ร.ก.ฉบับนี้แต่อย่างใด

"ในทางการเมืองรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาฯ ดังนั้น การเสนอในสภาฯจึงกระทำได้ตลอด ไม่มีอุปสรรคขัดข้อง" นายคำนูณ กล่าว

ต่อมา นายกิตติรัตน์ ในฐานะผู้ถูกร้องได้ทำการชี้แจง ซึ่งในช่วงแรกนายกิตติรัตน์ อธิบายถึงรายละเอียดของรัฐธรรมนูญมาตรา 184 เกี่ยวกับอำนาจในการตราพ.ร.ก.ปรากฎว่านายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้แย้งขึ้นมาทันทีว่า "ประทานโทษท่านรองนายกฯเพราะตอนนี้ประเด็นมันแคบเข้ามาแล้วหลังจากผู้ร้องได้ชี้แจงมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เป็นโอกาสชี้แจงของท่าน ไม่ต้องอธิบายรัฐธรรมนูญให้พวกเราได้เข้าใจอีกครั้งหนึ่ง นี่ไม่ได้เป็นการประท้วงในสภาฯครับ แต่เป็นการเตือนท่านเพื่อรักษาเวลาเท่านั้น กรุณาชี้แจงในส่วนของผู้ร้อง" ซึ่งนายกิตติรัตน์ เกิดอาการชะงักกลางคันก่อนจะชี้แจงต่อ

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ยอมรับว่าประเทศไทยมีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีประมาณ 4.2ล้านล้านบาท และสามารถกู้เงินได้เพิ่มขึ้นเพราะยังหนี้สาธารณะยังไม่ถึง 60%ของจีดีพี แต่ถ้าเราไม่มีการจัดการอะไรและมีความจำเป็นต้องกู้เงินอยู่จะส่งผลให้มีหนี้สาธารณะถึง 50% โดยในนั้นจะมีหนี้ส่วนหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ คือ หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 1.14 ล้านบาท จึงเล็งเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมีการจัดบริหารหนี้ส่วนนี้อย่างเป็นระบบ เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยมีการบอกว่าจะลดหนี้ก้อนหนี้อย่างไร

"หนี้ส่วนนี้เป็นของประเทศไม่มีความประสงค์ยัดเหยียดให้เป็นหนี้ของหน่วยงานใดเพียงลำพัง ส่วนการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนสถาบันคุ้มครองเงินฝาก กระทรวงการคลังได้ปรึกษากับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว โดยเล็งเห็นว่าสถาบันการเงินของไทยในเวลานี้มีความเข้มแข็งภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศจนเงินในกองทุนของสถาบันมีสูงกว่า 8 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาเงินจำนวนมากขนาดนั้นไปกองเอาไว้ ขณะเดียวกัน พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากก็ยังเปิดโอกาสให้สามารถกลับมาเรียกเก็บเงินจากธนาคารได้อยู่แล้วในอัตราไม่เกิน 1%" นายกิตติรัตน์ กล่าว

จากนั้น นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซักถามว่า เมื่อมีการโอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทยรับผิดชอบ หนี้ส่วนนี้ยังไม่พ้นความเป็นหนี้สาธารณะใช่หรือไม่

นายกิตติรัตน์ ตอบว่า ยังเป็นหนี้สาธารณะ

นายวสันต์ ถามอีกว่า หมายความว่าการจะกู้เงินตามพ.ร.ก.สองฉบับที่ผ่านไปแล้ว (พ.ร.ก.กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ พ.ศ.2555 และ พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยพ.ศ.2555) รวมไปถึงพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ 3.5 แสนล้านบาทด้วย จำเป็นต้องผลักภาระการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นของหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯไปให้พ้นก่อนถูกต้องหรือไม่เพื่อให้ภาระงบประมาณรายจ่ายในเรื่องนี้ลดลง

นายกิตติรัตน์ ชี้แจงว่า ทำให้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ 2556 ต้องชำระดอกเบี้ยในส่วนนี้เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ดูแล และการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมงวดแรกจะเริ่มในวันที่ 31 ก.ค.2555 ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีความพร้อมในการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมไปสมทบกับผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯเพราะมีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯมีทรัพย์สินที่ดูแลอยู่ส่วนหนึ่งและสามารถทำให้เกิดผลตอบแทนในจำนวนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินเอาไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี

นายวสันต์ ถามอีกว่า ตามหลักฐานที่ปรากฎรัฐบาลเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 เข้าสู่สภาฯในเดือนพ.ย.2554 หลังจากนั้นมีช่วงเวลาปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไปจนถึงปลายเดือนธ.ค.ทำไมรัฐบาาลไม่พิจารณาออกพ.ร.ก.ในช่วงนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหาว่าชิงออกพ.ร.ก.ทั้งๆที่สภาเปิดสมัยประชุมอยู่ เพราะถ้าออกพ.ร.ก.ช่วงสภาปิดเสียงครหาจะน้อยกว่านี้

นายกิตติรัตน์ กล่าวพร้อมถอนหายใจบางช่วงว่า "เออ...ผมเองไม่ใช่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองครับ แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ดำเนินการไม่ได้คำนึงถึงแนวคิดทางการเมืองเป็นหลัก แต่เป็นการดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจทางเศรษฐกิจ เรื่องของเงื่อนเวลาขอเรียนตามจริงว่าผมเองได้พูดต่อสาธารณชนหลายครั้งว่าการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัยซ้ำมีความจำเป็นต้องลงทุนด้วยเงินหลายแสนล้านบาท คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาความเสียหายจากการสำรวจของธนาคารโลกและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดังนั้น เรื่องเงื่อนเวลาจึงไม่คำนึงว่าถ้าจะไปเร่งตรงนั้นแล้วจะเกิดผลประโยชน์ที่ดีกว่าในทางการเมืองอะไร"

นายวสัตน์ ถามเพิ่มเติมว่า ถ้าออกพ.ร.ก.ช่วงปิดสภาฯจะมีข้อแก้ตัวได้แต่การที่มาออกพ.ร.ก.ทั้งๆที่สภาเปิดอยู่เหมือนไม่ให้ความเคารพฝ่ายนิติบัญญัติเลย ตรงนี้ทำไมไม่คิดออกตั้งแต่ตอนนั้น เพราะอุทกภัยก็เห็นๆกันอยู่ กว่าจะถึงสิ้นปี 2554 น้ำในบางแห่งก็ยังไม่แห้ง ซึ่งเห็นสภาพความเสียหายและวิธีการป้องกันมาตั้งแต่ต้นแล้ว กรุณาตอบตรงนีดนึงว่าทำไมตอนนั้นจึงไม่คิดในช่วงเดือนธ.ค.2554 ทั้งเดือน

นายกิตติรัตน์ ถอนหายใจและชี้แจงอีกครั้งว่า การดำเนินการคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน (กยน.) ได้มีการประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งการที่ทำให้เกิดกรอบที่ชัดเจนว่าเรามีความจำเป็นจะต้องลงทุนด้วยวงเงินงบประมาณเท่าไหรมีความจำเป็นที่ต้องมีคำอธิบาย ถ้าเราเร่งดำเนินการอะไรถ้ายังไม่เกิดความแน่ชัดว่าจะเป็น3.5 แสนล้านบาท หรือตัวเลขอื่นๆ และเสนอตัวเลขสูงเกินความจำเป็นจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นได้เพราะมองว่ารัฐบาลชุดนี้อยากจะใช้เงินฟุ่มเฟือย หรือ การเสนอตัวเลขต่ำไปและในที่สุดต้องมาแก้ไขในภายหลังย่อมจะสูญเสียความเชื่อมั่นอีก

"เรื่องนี้ผมได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที 27 ธ.ค.ไม่ได้มีความเข้าใจหรือความชำนาญในเรื่องของการเสนอในช่วงสภาปิดหรือสภาเปิดแต่อย่างใดด้วยความเคารพ" นายกิตติรัตน์ กล่าว

คุณ annaice: ตอบก็ไม่ตรงคำถาม แถมไร้มารยาท ถอนหายใจเฮือกๆต่อหน้าศาลเพื่อ ??? ขอบคุณคุณกรณ์ที่ช่วยปป้องสมบัติของชาติค่ะ
คุณ chabori: โดนศาลถามตรงๆ แต่พยายามตอบอ้อมๆ ติดนิสัยการอภิปรายในสภามาแน่เลย คุณvatana ลองไปอ่านข้างบนอีกรอบนะครับจะรู้ว่ามีเงินงบประมาณสำหรับแก้ ปัญหาน้ำท่วมอยู่มากโขแล้ว อ่านหลายๆรอบก็ได้
คุณ fuckkadaum: สงสัยVatanaจะอ่านหนังสือไม่เข้าใจ งบประมาณนะมีอยู่แล้วสามารถใช้ได้ ไปอยู่ไหนมาจ้ะหรือว่าเป็นประเภทเอาอยู่เหมือนกัล
คุณ kiki: ขอให้ศาลช่วยประเทศไทย ให้พ้นจากพวกนักการเมืองใจนรก ขี้โกงทั้งหลายด้วย เถิด
คุณ reality: ข่าวว่ารองนายกฯถึงกับถอนหายใจหลายเฮือก นี่แหละน้า คำโบราณถึงเปรียบ ว่า "ทองแท้ไม่กลัวไฟ ทองชุบไซร้มักพรั่นพรึง" หลอกคนอื่นๆอาจจะหลอกได้ แต่ กับศาลถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก!!! ถึงกับพูดไม่ออกทีเดียวนะคุณโต้ง
คุณ soapberry: นายกิตติรัตน์ ในฐานะผู้ถูกร้องได้ทำการชี้แจง ซึ่งในช่วงแรกนายกิตติรัตน์ อธิบายถึงราย ละเอียดของรัฐธรรมนูญมาตรา 184 เกี่ยวกับอำนาจในการตราพ.ร.ก.ปรากฎว่านาย วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้แย้งขึ้นมาทันทีว่า "ประทานโทษท่านรอง นายกฯเพราะตอนนี้ประเด็นมันแคบเข้ามาแล้วหลังจากผู้ร้องได้ชี้แจงมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ เป็นโอกาสชี้แจงของท่าน ไม่ต้องอธิบายรัฐธรรมนูญให้พวกเราได้เข้าใจอีกครั้งหนึ่ง นี่ไม่ ได้เป็นการประท้วงในสภาฯครับ แต่เป็นการเตือนท่านเพื่อรักษาเวลาเท่านั้น กรุณาชี้แจง ในส่วนของผู้ร้อง" ซึ่งนายกิตติรัตน์ เกิดอาการชะงักกลางคันก่อนจะชี้แจง ต่อ.......5555 เขาเรียกว่า....อ่านหนังสือไม่แตก....ฟังคำถามไม่เข้าใจ....ตอบ ไม่เป็น...ไปไม่ถูก.....

[b]วันนี้ใครได้เห็น...คงอึดอัดที่ 'รองโต้ง-กิตติรัตน์' อ้ำๆ อึ้งๆ แจงเหตุจำเป็นออก พรก.กู้เงิน หลังตุลาการฯ ไล่บี้ กว่า 3 ชม.หลังฟังคำชี้แจง
ซึ่งตุลาการศาล รธน. นัดฟังคำวินิจฉัย พรก. กู้เงิน 2 ฉบับ วันที่ 22 ก.พ.ครับ
เล็ก เจ้าเก่า

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเสียก่อนว่า การมาของข้านี้มิได้มุ่งเป้าประสงค์เพื่อการเยี่ยวรดศพของเอ็งแต่ประการใด เนื่องจากสภาพศพทุกองคาพยพที่วิปริตบิดเบี้ยวของเอ็งนั้น เบื้องต้นนิติวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ทราบแล้วว่า การเสียชีวิตของเอ็งเกิดจากของแข็งที่มีลักษณะคล้ายตีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส้นตีนของเพื่อนสมาชิกร่วมบอร์ดแทบทั้งนั้น
ดังนั้นสิ่งที่คนอาภัพอนาถาเช่นข้าพึงกระทำ มิใช่การลบหลู่ร่างที่ไร้วิญญาณของเอ็ง หากแต่เป็นการมาส่งความอาลัยรักเป็นครั้งสุดท้าย ให้แก่ดวงวิญญาณประชาธิปไตยของเอ็ง ได้ประดับไว้อย่างทรงเกียรติใน ๓ แดนโลกธาตุ

บทนำ

เนื่องจากข้าเป็นคนที่มีสภาวะจิตวิปลาส ดังนั้นจึงมักแสวงหาความสำราญจากการเสพข้อขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นตามกระดานสนทนาต่าง ๆ แต่ในระยะหลัง เนื่องด้วยเวลาอันจำกัด จากการที่ต้องไปพบแพทย์บ่อยขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณยาระงับประสาท ทำให้การหาทรัพยากรเพื่อบำบัดความต้องการเป็นไปอย่างทุลักทุเล โดยส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาบริการของศูนย์รวมความขัดแย้งอันดับหนึ่งแห่งชาติอย่างบ้านเพ่จ่า

ซึ่งในระยะแรกของการเสพความขัดแย้ง ที่มีเพ่จ่าเป็นวาทยกรคอยเสี้ยมและเรียบเรียงนั้น บอกตามตรงว่าให้ความสยดสยองและความเสียวชนิดพุ่งปรี๊ดติดเพดานระดับ ๕ กะโหลก อย่างไรก็ดีนักเขียนมือเมพเช่นเพ่จ่าก็มิอาจฝืนกฎการลดน้อยถอยลงของผลผลิตส่วนเพิ่มได้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากวัตถุดิบในการปรุงดรามา มีคุณภาพไม่เพียงพอ

จะเห็นได้ว่าในระยะหลัง ๆ บรรดาข้อขัดแย้งต่าง ๆ ที่เพ่จ่าทำการเรียงร้อย มันไม่ค่อยลื่นคอห่านหวานคอแร้ง ขาดความซับซ้อนชนิดที่ต้องเอาชื่อปู่เป็นเดิมพันเพื่อการคลี่คลาย ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อาการวิปลาสทางจิตของข้ากำเริบขึ้นมา โดยทีมแพทย์ที่ทำการรักษาข้าได้วินิจฉัยอย่างตรงกันว่า เกิดจากความดรามาในกระแสเลือดต่ำ พร้อมทั้งแนะนำให้ข้าลองกลับไปที่บ้านเพ่จ่าอีกครั้ง เนื่องจากบัดเดี๋ยวนี้เพ่จ่าได้ค้นพบกากบุรุษระดับซุป'ตาร์ ผู้พกพาความฮาระดับโลกคนใหม่แล้ว

เมื่อกาลเป็นดั่งนี้ ข้ามิรอช้าที่จะซอยเท้ายิก ๆๆๆๆ เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านเพ่จ่าตามใบสั่งของแพทย์ ซึ่งใช้เวลาเพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก ก็พบรัศมีกายเทพของเอ็ง เปล่งประกายวาววับจากสุดขอบนรกภูมิ โดยเมื่อปรี่เข้าไปมุงใกล้ ๆ ก็ปรากฏแก่สายตาว่า เพ่จ่านักชำเรามือทองกำลังเย่อศพของเอ็งอย่างเมามันส์

อย่างไรก็ตามจากคำให้การของคุณหญิงหมอท่านหนึ่ง ผู้ทำการชันสูตรพลิกศพของเอ็งพบว่า ก่อนหน้าที่เพ่จ่าจะซั่มศพที่ขึ้นอืดของเอ็งนั้น มีการประกอบพิธีฌาปนกิจมาจากที่อื่นแล้ว จึ่งค่อยนำศพมาทิ้งยังบ้านเพ่จ่าเพื่ออำพรางคดี ซึ่งเพ่จ่าใจงามก็ช่วยชี้เบาะแสของจุดเกิดเหตุ พร้อมกำชับอย่างหนักแน่นว่า อย่าลืมตามไปเสพกันนะเธอว์

บทสรรเสริญ

อุษาโยคอุดมฤกษ์ แสงตะวันสาดส่องทะลุทิวเมฆเป็นสีทองผ่องอำไพ แม้แต่โลงผีอันพังผุก็มิอาจระบุชื่อของเขาได้ บุรุษหนุ่มผู้นี้เขาเป็นใครมาจากไหนไม่มีใครทราบ ขนาดข้าพเจ้าผู้พากย์ยังไม่ทราบว่าไอ้เชสสะแม่นี้เป็นใคร

แต่จากการพินิจพิเคราะห์วัตถุพยานในสถานที่เกิดเหตุ ต้องยอมรับโดยดุษณีว่า หนังหน้าของเอ็งนั้นมันช่างหนากว่าหนังตีนอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่เอ็งเป็นคนไปท้าทายคนอื่นเขา แต่ท้ายที่สุดดันเอาหลักฐานเหียก ๆ ซึ่งปลอมแปลงด้วยวิธีการเห่ย ๆ มาใช้อ้างอิง

พอคนเขาจับได้ไล่ทันกับความเจ้าเล่ห์ซึ่งกระเดียดไปทางทุพพลภาพทางสมองของเอ็ง แทนที่จะออกมายอมรับผิดและขอโทษ ที่ทำให้คนอื่นเขาต้องมาเสียเวลาเพื่อเปิดโปงความปัญญาอ่อนของเอ็ง แต่เอ็งดันทะลึ่งไปโยนความผิดให้ฝ่ายเอชอาร์เก๊ ซึ่งถูกเอ็งอุปโลกน์ขึ้นมา มิหนำซ้ำยังกล้าเสนอหน้ามาพูดเท่ห์อีกว่า ปิดกระมู้เถอะฮับ เพราะเราก็ชนะกันทุกฝ่ายแล้ว.....เหยดดดด !? ไอ้กันดาร ไอ้กระเพาะแพะ

หลังจากนั้นเอ็งก็หายเข้ากลีบดากประตูทวาร ซึ่งเพ่จ่าบอกว่าเป็นผลจากการแดกโลโมติลหมดอายุ จึงทำให้เอ็งตดเต็มที่ขี้เต็มกางเกง แต่ข้ารู้ว่าจริง ๆ แล้ว เอ็งล็อกออฟแล้วแอบอ่านไป...ร้องไห้ไปใช่ไหมไอ้เห็บหมา

พอเริ่มทุเลาจากการสะอื้นไห้แล้ว เอ็งก็โกงความตายและกระชากวิญญาณกลับมาอีกครั้ง ในมาดใหม่ของพญาราชสีห์ พร้อมกับหล่นวาทกรรมบันลือโลกในท่วงทำนองที่ว่า มีอีกราวแปดหมื่นคนที่คอยให้กำลังใจเอ็ง....โธ่...ช่วงตรุษจีนนี่เขาให้กินเป็ด กินไก่ แต่เอ็งนี่กระไรอ้าปากมาทีขี้เต็มปากเลยนะ (เฮ่อ...พ่อแม่ส่งให้เรียนหนังสือ เอ็งเจือกไม่รักดีโดดเรียนไปเสพหญ้า มันก็เลยโง่เง่าเต่าปูปลาแบบนี้แหละ)

แล้วถามจริง ๆ เถอะนะ เวลาไปฉาบปูนที่อาคาร ๒๔ ชั้น สูงระดับนกเขาเหิน เอ็งขับอัลทิสหรืออาศัยติดมากับรถขยะ เพราะเท่าที่ข้าลองวิเคราะห์ดูจากสภาพของเอ็งแล้วนะ ถ้าไม่นั่งแทะเม็ดมะขามคั่ว ก็คงขุดปลวกแดก ส่วนไอ้ที่เอ็งมาแพล่มโน่น...อวดนั่นตามกระมู้ต่าง ๆ จนสกปรกไปหมด (นี่เว็บบอร์ดนะ...ไม่ใช่ถังขยะ) ซึ่งข้าดูทรงของเอ็งแล้ว ฟันธงเลยว่าเอ็งแม่มโม้ทุกเรื่อง (ยกเว้นเรื่องขมิบตูด....อิอิ)

สุดท้ายนี้อยากบอกเอ็งว่า ที่แฟนของเอ็งเขาไปมีกิ๊กนั้น สาเหตุมาจากความตอแหลเป็นไฟ ***เป็นพรวนของเอ็งนั่นแหละ แรกเริ่มก็ไปหลอกให้เขาวาดฝันว่าเสื้อผ้า หน้า ผมของเอ็งนั้นคล้ายคลึงกับวิศวกรหนุ่มรถไฟฟ้า จากภาพยนตร์ชื่อดังของหนังค่ายนั้น (ค่ายไหนวะ?) แต่พอเจอตัวจริงเอ็งกลับเป็นกุลีแบกปูน ปูเสื่อน้ำมันนอนอยู่ข้างถังขยะเปียก ซึ่งถ้าว่ากันอย่างเป็นธรรมตามหลักตรรกศาสตร์แล้ว เอ็งก็ไม่สมควรจะไปโทษฝ่ายหญิง เพราะคงไม่มีใครในโลกใบนี้หรอกที่จะเอาสวะไปทำผัว

บทส่งท้าย

การขมิบดากสสสส์ ไม่ช่วยลดอาการหลั่งเร็ว ต่อให้เอ็งจะทำตูดมิบๆๆๆๆๆ ทั้งวัน จนไม่เว้นแม้กระทั่งขณะนั่งฉาบปูน ซึ่งสถาบันวิจัยทางการแพทย์แห่งเยอรมันตะวันเหนือ ได้แถลงว่าวิธีการที่ดีที่สุดที่ช่วยยืดระยะเวลาการหลั่งของท่านชายคือก่อนที่เอ็งจะเล่นซ่อนเจี๊ยวกับคู่รักนั้น ให้เปิดช่องสทท ๑๑ เพื่อค้นหาให้เจอข่าวของขนิษฐาแห่งจ้าวมูลเมือง จากนั้นก็ขัดจรวดจนมั่นใจได้ว่าเหลือแต่ลมเท่านั้นที่ออกมาได้ จึ่งค่อยปฏิบัติกามกิจตามปกติ หากกระทำการตามขั้นตอนในข้างต้นแล้วไม่ได้ผล ให้เปลี่ยนรูปแบบเป็นเซ็กส์เอาท์ดอร์ตามศาลาริมทางหรือข้างเพิงขายส้มตำ เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจและเพิ่มความแปลกใหม่ ที่สำคัญเอ็งควรลดการดื่มชาที่มีส่วนผสมของฟางข้าวและหญ้าสด รวมทั้งควรงดการดูดยาเส้นตราแมวของโปรดด้วย

คุณชายคฑาเทพ

ศุภมัสดุ พระพุทธศาสนกาล เปนอดีตภาคลวงแลว ๒๕๕๕
วันพุธ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะ

คนเรานี่เวลาโง่แม่งไม่แบ่งใครเลยจิงๆ

จากที่อ่านมาทั้งหมดของคุณใจดีและแบล๊กสมิธแล้ว
ผมคิดได้แค่ 2 กรณีครับในส่วนของสมอง

1 สมองของคุณมีลักษณะการทำงานเหมือนอวัยวะเพศ คือมีหน้าที่แ่ค่ถ่ายทอด(สืบพันธุ์) และระบายของเสียที่เป็นจำพวกของเหลว
2 สมองขอบคุณในบางกรณีเปรียบเสมอรูทวาร ก็คือมีน่าที่ขับถ่ายของเสีย ในบางกรณีเอาไว้รวมเพศในกลุ่มคนรักร่วมเพศ

ในส่วนของหลักตรรกะถูกผิด ผมก็คิดได้แค่ 2 กรณี
1. สมองด้านซ้ายของคุณทั้งสองมีอาการพิการมาตั้งแต่ในครรภ์คาดว่าอาจจะติดเชื้อจากประชาธิปไตยที่รับประทานหญ้า โดยรับเชื้อผ่านทางสายรกของมารดา หรืออาจจะมีเชื้อประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่ในพันธุกรรมของทั้งฝั่งบิดาและมารดา
2. สมองด้านซ้ายของคุณทั้งสองได้รับความกระทบกระเทือนจากการคลอด อาจจะเป็นจังหวะที่เอาหัวออกมามารดาใช้แรงเบ่ง จนทำให้กล้ามเนื้อพนังช่องคลอดเกิดการรัดตัว (กระตุก) และบีบสมองซีกซ้ายจนทำให้พิการไม่สามารถทำงานคิดโดยใช้ตรรกะที่มีเงื่อนไขได้ในหลายๆloop เป็นผลให้การทำงานในด้านตรรกะพิการ แต่ไม่ึถึงกับสิ้นเชิง หากแต่ผลกระทบข้างเคียงที่เห็นได้ชัดก็คือสองด้านขวาที่ควบคุมด้านจิตนาการ มีการทำงานที่เกินกว่าบุคคลปกติธรรมดาโดยทั่วไป อาจจะเรียกได้ว่าเป็น คนที่มีจิตนาการสูง แต่ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสมมุติฐาน ที่ได้อ่านจากการตอบกระทู้


ด้วยความปรารถนาดี
กะทิ

สมองของผมมีลักษณะเหมือนอวัยวะเพศ อย่างนั้น วันวาเลนไทน์ปีนี้ ก็เอาดอกกุหลาบ ที่เป็นอวัยวะเพศ ของพืช ไปให้กัน แล้วผม มันประหลาดตรงใหน

ผิดกับพวกคุณมากกว่า หัวสมองบรรจุแต่ขี้ ยิ่งคุ้ยมันยิ่งเหม็น เหม็นกว่าอวัยวะเพศเสียอีก HAHAAAA!!

พูดแค่เนี้ย คุณยังตีความหมายว่าฉันด่าคุณ ฉันแค่เปรียบเปรยคะ จริงๆแ้ล้วความหมายที่อยากให้คุณเข้าใจ ก็คือ สิ่งที่อยู่ในสมองของคุณก็คือข้อมูลที่มี คุณพยายามจะนำมาสื่อให้คนอื่นได้เข้าใจ หากแ่ต่ว่าสิ่งที่คุณคิดในสมองนั้นมันไม่มีเหตุ มันมีแต่เรื่องของอารมณ์ ความเชื่อส่วนบุุคคล คนอื่นที่จะยอมรับข้อมูลอื่นก็ต่อเมื่อ ข้อมูลนั้นมีเหตุและมีผล การเปรียนสมองคุณคืออวัยวะเพศนั้นก้หมายถึง คุณใช้อารมณ์มากกว่าใช้เหตุและผลในการอธิบายปัญหา

ประเด็นต่อมา ที่เปรียบเทียบสมองของคุณเหมือนรูทวารกำลังพูดถคงหน้าที่ในสมองของคุณ ในการแสดงออกของคุณนั้นเหมือนกับการนำข้อมูลที่ไม่มีเหตุมีผลระบายเท่านั้นเองก็เหมือนลักษณะของการปลดทุก ถามว่ารู้ได้อย่างไร ก็ดูจาก ที่คนอื่นๆเค้าตอบกระทู้คุณดูว่าเค้าให้ความหมายว่าอะไร

ประเด็นด้านตรรกะ
ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่า ผู้ว่าราชการกทม ไม่มีหน้าที่ กำกับ ดูแล และควบคุม สำนักงานตำรวจ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงหรือทบวงใดๆ การที่จะให้เค้ารับผิดชอบก็ต้องให้เค้ามีหน้าที่โดยตรงเค้าถึงจะรับผิดชอบได้หากแต่สิ่งที่มันเกิดมัน เกินกว่าที่ระดับผู้ว่ากทมจะเข้าถึงข้อมูล ผมถึงได้เปรียบเทียบสมองของคุณว่า ตรรกะคุณมันพิการ ประเด็นถัดมา ผมพยายามจะบอกว่าวิธีการคิดของคุณมันไม่ผิดหรอก หากแต่สำหรับมนุษย์ปกติแล้วมันไม่ถูกต้อง คุณมีสิทธิ์คิดตามระบบเสรีประชาธิปไตย แ่ต่การแสดงความคิดเห็นอันใดนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล ผมถึงได้ตั้งคำถามว่าคุณพิการเรื่องเหตุผลมาตั้งแต่ตอนใหน

นั้นคือเหตุและผลที่ผมสรุปโดยย่อให้ฟัง

หนึ่งสมองพร้อมสองมือ อย่ายึดถือสิ่งที่ฝัน
จงมองด้วยใจที่เป็นธรรม มันจะนำชีวิตดี
หากมองด้วยอารมณ์ จะทุกข์ทมเท่าทวี
โปรดเปิดใจด้วยปราณี แผ่นดินนี้เป็นพยาน

ด้วยจิตคารวะ
กะทิ

จากที่อ่านมาทั้งหมดของคุณใจดีและแบล๊กสมิธแล้ว
ผมคิดได้แค่ 2 กรณีครับในส่วนของสมอง

1 สมองของคุณมีลักษณะการทำงานเหมือนอวัยวะเพศ คือมีหน้าที่แ่ค่ถ่ายทอด(สืบพันธุ์) และระบายของเสียที่เป็นจำพวกของเหลว
2 สมองขอบคุณในบางกรณีเปรียบเสมอรูทวาร ก็คือมีน่าที่ขับถ่ายของเสีย ในบางกรณีเอาไว้รวมเพศในกลุ่มคนรักร่วมเพศ

ในส่วนของหลักตรรกะถูกผิด ผมก็คิดได้แค่ 2 กรณี
1. สมองด้านซ้ายของคุณทั้งสองมีอาการพิการมาตั้งแต่ในครรภ์คาดว่าอาจจะติดเชื้อจากประชาธิปไตยที่รับประทานหญ้า โดยรับเชื้อผ่านทางสายรกของมารดา หรืออาจจะมีเชื้อประชาธิปไตยที่แท้จริงอยู่ในพันธุกรรมของทั้งฝั่งบิดาและมารดา
2. สมองด้านซ้ายของคุณทั้งสองได้รับความกระทบกระเทือนจากการคลอด อาจจะเป็นจังหวะที่เอาหัวออกมามารดาใช้แรงเบ่ง จนทำให้กล้ามเนื้อพนังช่องคลอดเกิดการรัดตัว (กระตุก) และบีบสมองซีกซ้ายจนทำให้พิการไม่สามารถทำงานคิดโดยใช้ตรรกะที่มีเงื่อนไขได้ในหลายๆloop เป็นผลให้การทำงานในด้านตรรกะพิการ แต่ไม่ึถึงกับสิ้นเชิง หากแต่ผลกระทบข้างเคียงที่เห็นได้ชัดก็คือสองด้านขวาที่ควบคุมด้านจิตนาการ มีการทำงานที่เกินกว่าบุคคลปกติธรรมดาโดยทั่วไป อาจจะเรียกได้ว่าเป็น คนที่มีจิตนาการสูง แต่ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสมมุติฐาน ที่ได้อ่านจากการตอบกระทู้


ด้วยความปรารถนาดี
กะทิ

คาดว่า กระทู้นี้ jaidee20 จะดังกระฉ่อน อีกครา ....

jaidee20 เรียกร้อง ผู้ว่า กทม.รับผิดชอบ

กรณี พบชาวต่างชาติ(อาจเป็นผู้ก่อการร้าย)

ปาระเบิด กลาง กทม.

ต้องรับผิดชอบ
โดยการเป็นผู้ว่าต่ออีกหนึ่งสมัย

โทษคนอื่นได้หน้าตาเฉยเลยว่ะ ไอ้พวกควายแดง เห็นแล้วสมเพช ยังกับประเทศนี้ รัฐบาลอีเอ๋อ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย น้ำท่วมจังหวัดอื่น มันโทษผู้ว่า กทม ระเบิดกลางกรุง สหรัฐแจ้งเตือน ไอ้เหลิม อีปู บอกว่าเอาอยู่ พอมีระเบิดให้พวกลิ่วล้อขี้ข้าควายแดง ออกมาโทษ กทม เฉยเลย
คนที่สมควรจะไปโทษ น่าจะโทษไอ้เพียวพันธ์ กับอีปู ซะมากกว่า กทม เค้าไม่ได้มีเวรยาม มาคอยระวังภัยคนวางระเบิดนี่หว่า

อยากรู้ด้วยคน ใครเอ๋อ ครับ ...

สติปัญญา อย่าง jaidee20 กล้าเรียกคนอื่นว่าเอ๋อ ใครคนนั้น เขาต้อง ....

- ได้เงินเดือนน้อยกว่า คุณแน่ๆ(jaidee20 เงินเดือนตั้ง15000 แล้ว)

- ตำแหน่งการงานต้องต่ำต้อยสุดๆ(jaidee20คุมงานก่อสร้างตึก 24ชั้นUp)

- การศึกษาไม่มี(่jaidee200จบตรีวิศวะ)...

ไม่รู้จักไอ้เอ๋็อ รู้จักแต่อีเอ๋อ ที่ควายแดงมันเรียกว่านางยก ว.5

ใครคือเอ๋อครับ

ก็เอ๋อกทมอ่ะ

เป็นแค่ผู้ว่ากทม. พวกเอ็งกะจะใช้งานอย่างกะเขาเป็นนายก ให้รับผิดชอบทุกอย่าง

ใครคือเอ๋อครับ

ก็เอ๋อกทมอ่ะ

เอ๋อกทม. นี่ เค้าคุมเรื่องข่าวกรอง และ ความมั่นคงด้วยเหรอครับ?

ผมเห็นแต่เป็ด ออกมายืนยัน นั่งยัน ว่า ควบคุมได้ พวกก่อการร้าย ต่างๆๆนาๆๆ ไม่มีในประเทศไทย ไม่ต้องห่วง

ตั้งแต่เกิดเหตุ จถึงตอนนี้ รอง ฝ่ายความมั่นคง หายเงียบไปเลย ออกมาแถลงยังอ่ะ?

เดี๋ยวนี้โรงแรมเค้ามีโปรเจคเตอร์ไว้นำเสนอ power point ในห้องนอนด้วยเหรอครับ หรือว่าแบบแปลนโครงการใหญ่มากไม่มีโต๊ะวางเลยต้องใช้เตียงกางกันเลย แต่ทำไมตอนเดินออกมาไม่เห็นถือเอกสารล่ะ สงสัยเป็นโปรเจ็คลับเสนอเสร็จเลยต้องทำลายหลักฐาน

ปล. ปชป.เป็นสุภาพบุรุษพอไม่เอาเรื่องแบบนี้มาเป็นประเด็นในการล้มใครหรอก (ไม่ใช่พร้อมพงษ์) แต่เป็นสิ่งที่คนเป็นผู้นำต้องมีความละอายใจเองมากกว่า (ซึ่งคงเป็นได้ยาก เรื่องอื่นยังโกหกได้หน้าตาเฉย)

นึกไว้แล้วเชียว ... ป้ากลวงไปทำภาระกิจ ว.5 ที่ห้องพักโรงแรม ในเวลาราชการ(ที่ควรต้องไปเข้าประชุมสภา)

ไปๆมาๆ จะมีคนมาแถให้กลายเป็นความเลวของปชป. จนได้ .... แล้วก็จริง

ป้านกแก้วไปทำอะไรมา มาร์คก็ผิดวันยังค่ำ

ก็อ้ายมาร์คนั่นแหละผิดเต็มๆ อย่ามาปัดความรับผิดชอบครับ

ไม่ใช่มาร์คหรอกหรือครับ ที่เป็นตัวปัญหา สร้างมาตรฐานคุณธรรม-จริยธรรม-จรรยา ใว้ซะสูงปรี้ด

เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ไม่เทียวผับไม่เที่ยวบาร์ ไปพาตนเองไปในสถานที่อโคจร ไม่นอกใจคู่ของตนเอง

แล้วอย่างนี้อ้ายวงศ์วานเศรษฐีขี้ครอกมัวเมากามโลกีย์มันจะไปเดินตามมาตรฐานจริยธรรมของมาร์คไหวหรีอ

มาร์คนั่นแหละผิดเต็มๆ อย่ามาปัดความรับผิดชอบ แมนๆหน่อยมาร์ค

ปล.นี่แถให้เสื้อแดงแบบดริฟท์คร่อมรางแล้วนะเนี่ย ถ้าไม่เวอร์คก็ไม่รู้จะช่วยอิปูยังไงแล้ว

_{"กิน กาม เกียรติ" เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เดินดิน ... เอาใจช่วยนางยกปูครับ คราวหลังก็อย่าให้เขาจับได้อีกล่ะ เห็นใจพี่น้องเสื้อแดงมั่งดิว้า แค่คดี "โง่" นี่ก็แถกันจะไม่ไหวอยู่แล้ว มาเจอข้อหา "เอาอยู่" อีก เห้อ...ไม่ไหวจะเคลียร์}