surasree

ผมไม่เห็นด้วยมาตั้งนานแล้ว ไอโครงการมัดมือชกแบบนี้ แค่บริหารจัดารให้ดีๆ ก็แก้ปัญหาได้ ทำไมต้องให้ประชาชนอีก เป็นหมื่น เป็นแสนครอบครัวต้องเดือดร้อน แล้วจะต้องกู้มาทำไม แค่ใช้การจัดการบริหารให้ถูกต้องก็พอ น้ำท่วมมันเป็นปกติของประเทศไทย จะท่วมมากท่วมน้อยแค่นั้นเอง

แล้วท่านอยากจะให้ ทหารยืนอยู่ฝ่ายไหนล่ะครับ ถ้าดูกันด้วยเหตุผลจริงๆ ท่านคิดว่า การออกมาครั้งนี้ โดยการนำของนายสุเทพ ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จริง ๆ นะหรือ? ถ้าเราเลือกฝั่ง นายสุเทพ จะไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมือง หรือเป็นการช่วงชิงอำนาจ มาให้นักการเมืองอีกฝ่ายนึง แล้วขึ้นมาโกงกินประเทศเหมือนเดิม ท่านและ เรา ต่างก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว ท่านจะมาเรียกร้องอะไร ไม่ว่าฝ่ายไหนก็โกงกินทั้งนั้น................/ทหารพระราชา

1) แล้วท่านอยากจะให้ ทหารยืนอยู่ฝ่ายไหนล่ะครับ

ตอบ ยืนอยู่ที่เขาจะยืนอยู่แบบนี้หละครับ ไม่ต้องขยับ ไม่ต้อง "action" อะไร ... จะขนคณะขึ้นไปตีกอล์ฟที่เชียงใหม่เพิ่มเป็นอาทิตย์ละสามหน ที่บ้านผมก็ยินดีต้อนรับเช่นเดิม ... ขอแต่พอเขาสั่งมา ก็อย่าเอาปืนมาทิ่มปชชก็แล้วกัน    

2) ถ้าดูกันด้วยเหตุผลจริงๆ ท่านคิดว่า การออกมาครั้งนี้ โดยการนำของนายสุเทพ ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จริง ๆ นะหรือ?

ตอบ กำนันเป็นเสมือนเพียง ignition gear ตัวหนึ่งเท่านั้น แต่เหตุที่คนออกมา จริง ๆ แล้ว ปชช เขาก็ทนเกินจะอดมากกว่า โดยเฉพาะหลัง ๆ เร่งซอยยิก ๆ แบบนี้ พอดีกับ กำนันพาเดินเล่น ก็เลยพากันออกมา

แล้วที่ท่านถามว่า กำนันทำเพื่อ ปชช เพื่อชาติ จริง ๆ หรือ ... ตอบว่า ... ใจคนยากแท้หยั่งถึง ก็จริง หากแต่สัญญาประชาคมที่กำนัน ให้ไว้ ว่า จะเลิกเล่นการเมือง เสร็จงานนี้จะกลับไปนอนตีพุงอยู่เกาะสมุย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มติกปปส ที่ออกมา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ปชช ที่ออกกันมาต้องการตามนั้นทั้งสิ้น  และในระยะ 2 เดือนมานี้ มันเสี่ยงเหลือเกิน ที่จะนองเลือด แต่แกนนำก็ย้ำจนปากจะฉีกขึ้นไปถึงหูว่า สันติ นะพี่น้อง ... เป่าแต่นกหวีดนะพี่น้อง ... การคุมมวลชน ระดับหลายแสนถึงล้าน โดยเมืองยังไม่บรรลัย ก็ถือว่าแกนนำมีการจัดการได้ดีระดับหนึ่ง และการณ์ครั้งนี้ ปชช ก็มีการ ตื่นรู้ social awareness มากขึ้นกว่าแต่ก่อน  ทั้งหลายทั้งปวงนี้ จึงเชื่อไว้ก่อนว่า กำนันจริงใจ แล้วมีอะไรจะต้องเสียหละครับ หากปชชเชื่อกำนัน ???

 
3) ถ้าเราเลือกฝั่ง นายสุเทพ จะไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมือง หรือเป็นการช่วงชิงอำนาจ มาให้นักการเมืองอีกฝ่ายนึง แล้วขึ้นมาโกงกินประเทศเหมือนเดิม 1) ท่านและ เรา ต่างก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว 2) ท่านจะมาเรียกร้องอะไร 3) ไม่ว่าฝ่ายไหนก็โกงกินทั้งนั้น
 
ตอบ
1) ผมมีคำตอบของผมแล้วครับ แต่ผมไม่ทราบคำตอบของท่าน ดังนั้น ผมก็ไม่กล้าที่จะพูดว่า "ทั้งท่านและผม ต่างรู้คำตอบดีอยู่แล้ว"
2) ผมมาเรียกร้องให้ขับไล่ไอ้+อี+ขี้ข้า ของทักษิณ รวมทั้ง Set มแร่ง Zero ระบอบทักษิณ ครับ
3) ด้วยคำพูดที่ท่านว่า "ไม่ว่าฝ่ายไหนก็โกงกินทั้งนั้น" ยิ่งทำให้ต้องรีบ ๆ ออกมากกัน ช่วยกัน "Reform Before Election" หนะครับ มาวางกฎระเบียบกันใหม่ จะได้ไม่มีคำนี้เกิดขึ้นอีกนะครับ


ขอบคุณท่านทหารพระราชานะครับที่ชวนคุย ผมไม่ได้คุยยาว ๆ แบบนี้มานานแล้ว

จากลูกของทหารเสือพระองค์ดำ ร.๗ พัน.๒  
 
edit : แก้ไขสะกดผิดครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับคำชี้แนะ ถ้าพูดตรง ๆ แบบเปิดอกเลย ผมอยากให้ทหารปฏิวัติครับ แต่เป็นการปฏิวัติเพื่อประชาชนจริงๆ เข้าร่วมกับประชาชนจริงไม่แฝงนักการเมือง ไม่ใช่เพื่อนักการเมือง และใช้การปฏิรูป แบบโละนักการเมืองทั้งหมด เอาคนใหม่ที่รักชาติ มีอุดมคติ ไม่โกงกิน ขึ้นมาแทน จัดระบบป้องกันและตรวจสอบ การทุจริต คอรัปชั่นอย่างเข้มงวด และไร้ช่องทางหลบเลี่ยง สำหรับการซื้อเสียงผมว่า หมดทางแก้ไข เพราะว่ามันมีทั้งทางตรง และทางอ้อม หลายช่องทางเหลือเกิน แต่ถ้าเข้าไปเป็น ส.ส.แล้วโกงกินไม่ได้ การซื้อเสียงก็คงจะเบาลง แค่นี้ก่อนครับ ไปทำงานก่อนครับ........./ทหารพระราชา กคส.สพ.ทบ.

เหอะ เหอะ อ่านแล้วเหมือนอาจารย์คนนี้แกไปทำงานวิจัยในต่างจังหวัด เพื่อจะมาบอกให้
คนใน กทม เปลี่ยนวิธีคิดในการเลือก สส ยังงั้นแหละ
 
งานวิจัยในต่างจังหวัดของแก ผมยังไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไรเลย เพราะผมก็เคยคลุกคลีอยู่ใน
ต่างจังหวัด มองเห็นแง่มุมของการซื้อเสียง จนกระทั่งมีคนมาซื้อเสียงกับตัวผมเองก็เคยมาแล้ว
 
การซื้อเสียงผมมองว่ามันมีอยู่สองประเภท คือประเภทที่เลือกอยู่แล้วแต่ต้องซื้อเพราะ เส รื อก
ไปสร้างความเคยตัวให้ชาวบ้านไว้ จนต้องซื้อกันเป็นประเพณีไปแล้ว จะจ่ายค่าหัวมากน้อยแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับคู่แข่งครับ ถ้าคู่แข่งสู้ก็ต้องจ่ายมาก ถ้าคู่แข่งหวังเอาความดีสู้ ก็จ่ายค่าหัวน้อยเท่านั้นเอง
 
อีกประเภทหนึ่ง ต้องซื้อเพราะคะแนนของฐานเสียงสูสีครับ ตัดสินแพ้ชนะตรงคะแนนที่ซื้อนี่แหละ
 
ชาวบ้านที่นิยมชมชอบ ยิ่งลักษณ์ คงไม่ได้ชอบเพราะโครงการบ้าบออะไรหรอกครับ อย่าหลอกตัวเอง
แต่เขาชอบเพราะกระแสที่เข้าไปปั่นเขาให้ชอบมากกว่า ทั้งจากสื่อ ทั้งจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
เงินซื้อเสียงเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่ที่เขาเลือกและนิยมชมชื่นเพราะมันมีการปั่นกระแสให้ชอบ
ด้วยครับ
 
สื่อ มีบทบาทในการสร้างภาพหลอกลวงประชาชน ให้เห็นว่า คนบางคนเป็นคนดีทั้ง ๆ ที่ชั่วหาตัวจับยาก
หรือสร้างภาพหลอกลวงประชาชนให้เห็นว่า คนบางคนเป็นคนเลว ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนดี
สื่อทำให้คนเลวกลายเป็นคนดี ทำให้คนดีกลายเป็นคนเลว มาเยอะแล้วครับ ซึ่งหมายรวมถึงนักวิชาการเลว ๆ
ก็มีส่วนในการสร้างภาพเหล่านี้หลอกลวงประชาชนด้วย
 
อิทธิพลในท้องถิ่น ไม่ได้หมายถึงการไปบังคับข่มขู่ชาวบ้านให้ชอบใคร หรือเลือกใคร แต่มันเป็นการ
ใช้อิทธิพลช่วยเหลือชาวบ้านในทางผิด ๆ เช่น ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกจับเรื่องขายยาเสพติด ขาย
หวยเถื่อน เล่นการพนัน ถูกจับเรื่องรถยนต์รถจักรยานยนตร์ ฝากลูกเข้าโรงเรียนเข้าทำงาน การนำ
งบประมาณไปทุ่มให้ชาวบ้านบางกลุ่มที่ถูกจัดตั้งโดยหัวคะแนนของตน 
 
เรื่องเหล่านี้ต่างหากที่เป็นเรื่องที่ได้ใจชาวบ้าน จากกระแสสื่อ และอิทธิพล
 
ชาวบ้านถูกบิดเบือนความจริงว่าอะไรดีอะไรเลว จากสื่อที่ไร้สำนึกตลอดเวลา
ชาวบ้านถูกครอบงำโดยอิทธิพลชั่ว จนมองว่าอิทธิพลเหล่านี้คือสิ่งที่พึ่งพิงได้
 
เรื่องเหล่านี้ คนที่มีอำนาจรัฐเท่านั้นที่จะทำได้ คู่แข่งไม่มีทางไปทำได้หรอก การได้ใจแบบนี้มันทำได้ใน
ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะจังหวัดที่ประชาชนยังค่อนข้างมีรายได้น้อย และมีค่านิยมในทางพึ่งพิง
ภาครัฐสูง ซึ่งมันต่างกับคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพเพราะคนในกรุงเทพจะพึ่งพิงภาครัฐน้อยมาก ส่วนใหญ่ต้อง
พึ่งตัวเองตัวใครตัวมัน ประกอบกับต้องการให้ภาครัฐทำอะไรของคนในกรุงเทพ มันเป็นอีกระดับหนึ่งที่ต่างจาก
คนต่างจังหวัด
 
เพราะฉะนั้นวิธีคิดในการเลือก สส ของเขามันย่อมแตกต่างไปจากคนต่างจังหวัด อยู่แล้ว คนที่พึ่งพิงภาครัฐน้อย
เขาก็มีวิธีคิดไปแบบหนึ่ง คนที่ต้องพึ่งพิงภาครัฐมากเขาก็มีวิธีคิดไปแบบหนึ่ง มันอยู่ทึ่ภาครัฐจะมีความจริงใจ
กับประชาชนแค่ไหน อยากเห็นประชาชนพัฒนาความรู้ความคิดแค่ไหน ถ้าภาครัฐคิดแต่จะมอมเมาประชาชนให้
หลงชอบตนเอง โดยความร่วมมือจากสื่อไร้สำนึกนักวิชาการไร้คุณธรรมข้าราชการฉ้อฉลแล้ว กรรมก็เป็นของ
ประเทศชาติและประชาชนนั่นแหละ

ครับสำหรับ บทความอันนี้ ผมเห็นด้วย กล่าวได้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด ในต่างจังหวัด ส.ส. จะเน้นอิทธิพล และหัวคะแนนมาก แต่ถึงอย่างไร เราก็ไม่สมควร ไปกล่าวหาในทางทางที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่จะเป็นที่พวกข้าราชการประจำที่เป็นหัวคะแนน คอยชักจูง หรือบางจังหวัดบิดเบือน ข่มขู่ก็ยังมี แต่ชาวบ้านไม่กล้าที่จะมาบอกกล่าว หรือแจ้งความ เพราะต่างจังหวัดยังมีอิทธิพลเถื่อนครอบงำอยู่ พวกเราควรเห็นใจประชาชนต่างจัดหวัด และชนบทไกล ๆ ครับ บางพื้นที่ ตร.ก็พึ่งไม่ได้ หลายคดีเงียบหาย โดยเฉพาะคดีของคนยากจน ยิ่งถ้าผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานนักการเมืองด้วยแล้ว ตายก็ตายเปล่าวเลยครับ ขนาดนอนอยู่บ้านยังไม่เข้าไปจับเลย .............อนิจจาประเทศไทย.............../ทหารพระราชา

ผมเห็นด้วยกับการล้มโครงการ 3.5 แสนล้าน ทำไมต้องให้ประชาชนในต่างจังหวัดมารับกรรมน้ำท่วมแทน คนในกรุงเทพฯ จะอ้างว่าเป็นเขตเศรฐกิจก็ฟังไม่ขึ้นเลย ชาวนาโดนน้ำท่วมนาครั้งนึงแทบล่มจม ได้ค่าชดเชยมานิดนึง ไม่พอซื้อพันธุ์ข้าวด้วยซ้ำ แต่คนกรุงเทพฯ หรือพวกนายทุนทั้งหลาย มีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พอชาวนาจะกู้บ้างเรื่องมากมาย ผลออกมาว่า คนทำนาที่เช่าที่นาเขาทำกู้ไม่ได้ กรรมของชาวนา

แต่ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ คือ ใน พรฎ.ยุบสภา จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 60 วัน

มาตรา ๑๐๘
 
พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกิน หกสิบวันนับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร
การยุบสภาผู้แทนราษฎรจะกระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน

 
        หากใน พรฎ. ยุบสภา ได้กำหนดวันเลือกตั้งไว้แล้ว ก็คือจบความรับผิดชอบต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๐๘ นี้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า จะมีการออก พรฎ. เพื่อเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปมิได้ เพราะรัฐธรรมนูญก็มิได้บัญญัติว่าห้ามกระทำ
 
        ทั้งนี้ ผมไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่อยากให้ผู้ที่ตีขลุม อ่านกฎหมายเข้าข้างตัวเองแบบ อ. เอกชัย ได้ตรึกตรองดูให้ดีว่า กฎหมายหรือกฎกรูกันแน่ที่ตัวเองกำลังยึดถืออยู่ ทั้งที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติไว้ว่าห้ามเลื่อนวันเลือกตั้ง แต่ทำไมยังคงยืนยันว่าเลื่อนไม่ได้? หรือจะบอกว่าคนระดับรองคณะบดี คณะนิติศาสตร์ ไม่รู้ว่าสามารถออกพระราชกฤษฎีกา ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเก่าได้?
 
        กฎหมายคือสิ่งที่มนุษย์บัญญัติขึ้น สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลา ผมคิดว่าการยึดกฎหมายจนตัวตาย โดยไม่คิดว่ากฎหมายคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะของสังคมและบ้านเมือง น่าจะเป็นสิ่งที่โง่เขลาที่สุดที่นักกฎหมายคนหนึ่งพึงจะเป็นได้

ที่คุณโพส์มาก็ถูกครับ แต่คุณลองไปอ่าน พระราชกฤษฎีกา ฉบับนี้ดู ได้กำหนดวันเลือกตั้ง มาแล้ว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว มันหมายความว่าอย่างไร ท่านคงทราบนะครับ ถ้าหากไม่ได้กำหนดมาก็ไม่จำเป็นต้องภายใน 60 วัน ถ้าจะเลื่อน หรือปลดนายกออกจากรักษาการณ์ ต้องทูลเกล้าฯ ขอยกเลิกพระราชกฤษฎีกาฉบับเก่า ท่านก็รู้นี่ครับ ไม่จำเป็นว่านายก ต้องขอทูลเกล้าฯ นายสุเทพ ก็ได้ แต่ทำไมไม่ทำล่ะครับ อย่างมากก็ 4-5 วัน ทำไมใช้มวลชนกดดันล่ะครับ ................