Jump to content


Maestro

Member Since 17 June 11
Offline Last Active 26 December 12 21:52
-----

#545281 รมช.คลัง ทนุศักดิ์ บอก "รถคันแรก" ทำให้คนไทย 1 ล้านคนขยันขึ้น ที่ได้เ...

Posted by สีนวล...สีนิล on 19 December 2012 - 16:01

<_< เอาขี้เล็บในหัวแม่เท้าข้างไหนคิด ... ด่าแบบนิยายจีนสักดอก... ผายลมมารดาเจ้า...


ระวังเจอคำตอบของอาฮุย (ฤทธิ์มีดสั้น) นะครับ

"บิดามารดาเจ้าก็ผายลม บิดามารดาข้าก็ผายลม
คนทุกคนก็ผายลม ไม่เห็นมีอะไรแปลก "


#545062 ใครว่า..คนในวงการบันเทิงไร้สมอง

Posted by juemmy on 19 December 2012 - 14:28

184448_10151297936550742_2069401705_n.jpg
วันที่ 16 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เพจผู้ส
นับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยภาพและข้อความของดารา-ผู้กำกับชื่อดัง ครูใหญ่แห่งบ้าน ทรู อเคเดมี แฟนเทเชีย เขียนข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยมีข้อความดังนี้

-“สมัยที่แล้วเห็นสติกเกอร์ ใครเอ่ย ดีแต่พูด สมัยนี้อยากพิมพ์ ใครเอ่ย แค่อ่านยังห่วย แค่พูดยังไม่รอด”
… “มีอะไรให้รวมตัวกันเหนียวแน่นเข้าไว้ บรรยากาศประเทศเราตอนนี้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย”

-“ผมอยากเป็นแค่พสกนิกรชาวไทยที่จงรักภักดีต่อแผ่นดินราชอาณาจักรไทย และองค์พระมหากษัตริย์ แต่ไม่อยากเป็นคนไทยภายใต้การบริหารประเทศโดยคนกลุ่มนี้”

-“ประเทศอะไรเอ่ย… มีนายกฯ ปลอมๆ มีปรองดองปลอมๆ มีพระธุดงค์ปลอมๆ ช่วยตอบให้ภูมิใจหน่อยครับ”

-“การเกิดมาในแผ่นดินองค์พ่อ ร.9 ถือเป็นบุญของผม (แต่การอยู่ร่วมประเทศกับรัฐบาลชั่ว ผู้นำโง่) นี่ก็เป็นกรรมของผมเช่นกัน … ชีวิตก็เป็นแบบนี้นี่เอง”


#544505 สวนดุสิตโพล...... เอาอีกแล้ว

Posted by สุกี้น้อย on 19 December 2012 - 10:24

สวน(สัตว์)ดุสิตโพลอุตส่าห์ทำโพลประเทืองปัญญาสอบถามความเห็นเรื่อง ถ้าวันสิ้นโลกมีจริง อยากให้นักการเมืองคนไหนรอด :D :D

ผลคือ ยิ่งลักษณ์ 32% อภิสิทธ์ 19% คงสมใจสวนสัตว์และเหล่าควาย


จริงแล้ว เด็กๆเข้าสวนสัตว์ยังพอมีประยชน์ ได้ความรู้บ้าง แต่ถ้าเข้ามาโพลสวนสัตว์ละก็ ....... :lol: :wacko: :lol: :wacko:

โพลกดปุ่มอีกจ้าว อาทิตย์นี้ไม่รีบทำคะแนนหรือ 5555

ระวัง jagger โกรธเอานะ......ไปแย่งโพลล์อวยป้าปูมาแปะก่อนเค้าน่ะ :lol: :lol:


#544456 โรงเรียนประจำ ไอ้ขี้แกล้ง และมือส้อมไร้น้ำตา

Posted by เช never die on 19 December 2012 - 09:57

เล่าสู่กันฟัง ...

สมัยเรียน หลายๆคนคงรู้ว่า ไอ้พวกขี้แกล้งแม่งก้จะแกล้งอยู่นั่นแหละ ส่วนไอ้พวกหงอ แม่งก็จะหงอตลอด ยอมทุกอย่างไม่เคยมีปากมีเสียง

อยู่มาวันหนึ่งโดนไอ้พวกขี้แกล้งมันล้ำเส้นตอนเข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งวิชาพละ ไอ้ผมก็ไม่ค่อยยุ่งกับใครมาแต่ไหนแต่ไร

แต่ไอ้ขี้แกล้งแม่งย่องๆมาข้างหลังแล้วสับศอกลงกลางกะับาลผมสุดแรง เสียงเหมือนฟ้าผ่าเปลี้ยงลงกลางกะบาล ฉุนขาด

เท่านั้นแหละฟิวส์ขาด หันขวับกลับไปเจอตัวเป็นๆืทำหน้าตากวนตรีนใส่อีก ไม่สนหน้าอินท์หน้าพรมแล้ว กระโดดมือซ้ายดึงคอมันโน้มเข้ามาหาตัวสุดแรง

มือขวากำปั้นลุ่นๆต่อยไปสุดแรง ต่อยแบบย้ำๆแบบไม่ต้องนับ แม่งคงจะงงว่าทำไมผมสู้ แต่อารมย์นั้นไม่สนแล้ว

ตั้งหน้าตั้งตาง้างคอมันเข้ามาด้วยมือซ้าย แล้วประเคนหมัดขวาอย่างเดียว ปาก จมูก ตา แตก

สุดท้ายห้องพยาบาลเอาไม่อยู่ ครูต้องเรียกรถพยาบาลพาไปส่งโรงพยาบาล เย็บไปร่วมสิบเข็ม แม่มันต้องมาย้ายโรงเรียนไปเรียนที่อื่น

ถ้าใครยังนึกออกชีวิตสมัยเรียนแล้วมีต่อยกัน จะนึกออกครับ เวลาต่อยกันมันจะไม่มีใครห้ามมวยครับ

มันจะมีแต่เสียง เฮ เฮ เฮ ในเวลาที่หมัดโดนปาก โดนจมูก โดนตา แบบเลือดอาบ ยิ่งได้ยินเสียงเฮ เฮ เฮ ยิ่งมันส์ ยิ่งบ้าเลือด

ตั้งแต่นั้น ไม่มีใครยุ่งกับผมอีกเลย แล้วผมก็ไม่ยุ่งกับใครด้วย


#544066 -- แม่ผมได้ใบปลิวนี้มาจากวัดในพิดโลก --

Posted by eAT on 18 December 2012 - 23:01

แม่เอามาให้ผมดู พร้อมเล่าว่าตอนไปวัดตอนวันพระ
เห็นใบปลิวนี้ 3 แผ่น แม่ผมหยิบมาใบ เจ้าอาวาส (วัดโคกมะตูม)
และคุณยายอีกคน บอกว่าจะไปพิมพ์แจก แต่เจ้าอาวาสบอกว่า
ให้วัดพิมพ์สิ ไม่ต้องเสียเงิน

นี่ก็กะว่าให้แม่ไปสืบข่าว ถ้าถึงวันพระ ว่าเจ้าอาวาสพิมพ์ใบปลิว
แจกจริงๆ หรือเปล่า?

ใบปลิว1.jpg

ใบปลิว2.jpg


#544450 -- แม่ผมได้ใบปลิวนี้มาจากวัดในพิดโลก --

Posted by คนบูรพา on 19 December 2012 - 09:52

ใครที่มันบังอาจ.....ทำให้พ่อหลวงทรงเศร้าพระทัย

ขออันเชิญดวงวิญญาณนักรบบรรพชน...........

ได้โปรดไปกุดหัวพวกมันด้วย........เทอญ


#544178 -- แม่ผมได้ใบปลิวนี้มาจากวัดในพิดโลก --

Posted by อู๋ ฮานามิ on 19 December 2012 - 00:59

คำพูดในใบปลิวเป็นของปลอมแน่นอน
เข้ามายืนยันอีก 1 เสียง ครับ เพราะพระราชดำรัสที่เผยแพร่สู่สาธารณชนในโอกาสต่างๆ จะใช้เนื้อหาใจความที่เป็นทางการ มีที่่มาที่ไปชัดเจน

อีกอย่าง บ้านเราไม่ได้ปกครองแบบราชาธิปไตยมา 80 ปีแล้วนะครับ


จึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังในการเผยแพร่ครับ
หากไม่ใช่พระราชดำรัสพระองค์ท่านจริง ไม่มีหลักฐานอ้างอิงแหล่งที่มาแล้วเราไปเผยแพร่
ก็จะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทได้

ลองตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ก็ดีครับ


ใช่ครับ ผมเห็นด้วยเรื่องนี้แหละ
ผมมองว่าการนำคำพูดผิดๆ ไม่มีที่มาที่ไปและยังแอบอ้างพระองค์ท่าน เป็นเรื่องที่ไม่บังควร



ไปอ่าน หนังสือพระมหาชนก ที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ แล้วจะทราบความนัยของท่าน

นอกจากนี้ ลองสังเกตุภาพวาดในหนังสือ เพราะมันจะล้อกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต

ผมคงไม่พูดอะไรมาก เพราะหลังจากนี้ ไม่ใช่เหลืองแดง ทะเลาะกัน

แต่จะเป็น เขียว-แดง บ้านเมืองจะเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจ บ้านเมืองวุ่นวาย

สุดท้าย สีเขียวจะชนะกวาดล้างแดงไปหมด

ผมเตือนพวกหัวโจก เสื้อแดงได้เลย ในอนาคต จบแบบศพไม่สวยสักคน

บ้านเมืองต่อไปจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ประชาชนร่วมกันกำหนด

ดวงกรุงรัตนโกสินทร์ ถูกวางไว้ให้ ทหารเป็นใหญ่ มีอิทธิพลในบ้านเมือง



ผมเห็นแล้วครับ เห็นจากภาพวาดในหนังสือที่เป็นเวอร์ชั่นจิตรกรรมศิลปินดังนี่แหละ ถ้าจำไม่ผิดเป็นฉากการทำสงคราม

ในหลวงทรงทำให้คนไทยรู้จักชาดกเรื่องอื่นใน "พระเจ้าสิบชาติ" มากขึ้น (นอกเหนือจากที่เราจะรู้จักเพียงพระเวสสันดรชาดกเพียงเรื่องเดียวจากเทศน์มหาชาติ) ก็คือ มหาชนกชาดกนี่แหละ พระองค์ท่านนำชาดกเรื่องนี้มาเขียนแต่ดัดแปลงเนื้อหาบางส่วนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน


#544163 -- แม่ผมได้ใบปลิวนี้มาจากวัดในพิดโลก --

Posted by Mark Nazi on 19 December 2012 - 00:36

ไปอ่าน หนังสือพระมหาชนก ที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ แล้วจะทราบความนัยของท่าน

นอกจากนี้ ลองสังเกตุภาพวาดในหนังสือ เพราะมันจะล้อกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต

ผมคงไม่พูดอะไรมาก เพราะหลังจากนี้ ไม่ใช่เหลืองแดง ทะเลาะกัน

แต่จะเป็น เขียว-แดง บ้านเมืองจะเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจ บ้านเมืองวุ่นวาย

สุดท้าย สีเขียวจะชนะกวาดล้างแดงไปหมด

ผมเตือนพวกหัวโจก เสื้อแดงได้เลย ในอนาคต จบแบบศพไม่สวยสักคน

บ้านเมืองต่อไปจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ประชาชนร่วมกันกำหนด

ดวงกรุงรัตนโกสินทร์ ถูกวางไว้ให้ ทหารเป็นใหญ่ มีอิทธิพลในบ้านเมือง

? :D
ที่มาพลังจิต<ดอท>คอม ใช่หรือไม่ครับ พระมหาชนกผมก็อ่านทั้งแบบหนังสือบรรยายและหนังสือการ์ตูนนะ

ข้อคิดนะครับ การทำความเพียรของพระโพธิสัตว์เป็นความเพียรเพราะได้ใช้ปัญญาไตร่ตรองดีแล้ว พระโพธิสัตว์เป็นผู้ได้สั่งสมบุญเพื่อที่จะทำความเพียรมาอย่างดีแล้ว


#544144 -- แม่ผมได้ใบปลิวนี้มาจากวัดในพิดโลก --

Posted by RaRa on 19 December 2012 - 00:09

999.jpg

พระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว ประโยคนี้ก็เป็นอีกประโยคที่ผมอ่านแล้วน้ำตาคลอทุกครั้ง


"ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน"


#544117 -- แม่ผมได้ใบปลิวนี้มาจากวัดในพิดโลก --

Posted by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 18 December 2012 - 23:48

ไปอ่าน หนังสือพระมหาชนก ที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์ แล้วจะทราบความนัยของท่าน

นอกจากนี้ ลองสังเกตุภาพวาดในหนังสือ เพราะมันจะล้อกับเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต

ผมคงไม่พูดอะไรมาก เพราะหลังจากนี้ ไม่ใช่เหลืองแดง ทะเลาะกัน

แต่จะเป็น เขียว-แดง บ้านเมืองจะเกิดสงครามแย่งชิงอำนาจ บ้านเมืองวุ่นวาย

สุดท้าย สีเขียวจะชนะกวาดล้างแดงไปหมด

ผมเตือนพวกหัวโจก เสื้อแดงได้เลย ในอนาคต จบแบบศพไม่สวยสักคน

บ้านเมืองต่อไปจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ประชาชนร่วมกันกำหนด

ดวงกรุงรัตนโกสินทร์ ถูกวางไว้ให้ ทหารเป็นใหญ่ มีอิทธิพลในบ้านเมือง


เพื่อนสนิทผมมีโอกาสได้ทำงานเกี่ยวกับโครงการพระมหาชนก จึงได้มีโอกาสสนทนากับศิลปินผู้วาดผลงานเกี่ยวเนื่องกับพระมหาชนกหลายท่าน
(รวมถึงอจ.ชัย ราชวัตร)
ทุกท่านบอกตรงกันกับที่ท่าน arch บอกเลยครับว่า...ในหลวงทรง "เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า" แล้วว่าประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้น
ปริศนาธรรมทุกอย่างอยู่ในพระมหาชนก

ที่ผมเขียนมิใช่จะมาอวยท่าน arch แต่เพื่อนสนิทผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว
ซึ่งตรงกับที่ท่าน arch บอก


ดวงกรุงรัตนโกสินทร์ ถูกวางไว้ให้ ทหารเป็นใหญ่ มีอิทธิพลในบ้านเมือง


คนที่ร่ำเรียนทางโหราศาสตร์ไทยจะรู้ข้อนี้ทุกคน ว่าดวงเมืองนี้เป็นดวงกรุงรัตนโกสินทร์ ราชวงศ์จักรี
ดังนั้น ทักษิณจึงอยากย้ายเมืองหลวงไปนครนายกแล้วตั้งดวงเมืองใหม่ครับ
ถามว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว คือได้ทั้งการกว้านซื้อที่ดินรอไว้แล้ว และได้ทั้งตั้งดวงเมืองใหม่

สาเหตุที่ดวงเมืองรัตนโกสินทร์ตั้งให้ทหารเป็นใหญ่ ก็เพราะสมัยนั้นศึกสงครามมากเหลือเกิน
ดวงเมืองของเราจึงตั้งไว้ที่ อาทิตย์เป็นอุจกุมลัคน์เมษ
อยากด่าทหาร อยากริดรอนอำนาจทหาร ให้กลายเป็นรัฐตำรวจ ต้องแก้ดวงเมืองก่อนครับ


edit เข้ามาเพิ่มภาพดวงเมืองครับ

ดวงเมือง 2.jpg


#544272 "ของขวัญปีใหม่จากพ่อ"

Posted by ตะนิ่นตาญี on 19 December 2012 - 05:45

หัตถ์ทิพย์แห่งท่านไท้ กำจัดไข้กำจัดเข็ญ

ถอนทุกข์ขุกลำเค็ญ เย็นทั่วหน้ามาทุกฉนำ

แผ่นดินที่ทรงครอง แผ่นดินทองแผ่นดินธรรม

คราวเข็ญเข้าครอบงำ ทรงดับเข็ญทุกคราวครัน


เหน็ดเหนื่อยนั้นหนักนัก ทรงงานหนักอเนกอนันต์

วันพักเพียงสักวัน ก็แสนน้อยดูนานเกิน

วังทิพย์คือท้องทุ่ง ม่านงานรุ้งคือเขาเขิน

ร้อนหนาวในราวเนิน มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์


ย่างพระบาทที่ยาตรา ยาวรอบหล้าฟ้าสากล

พระเสโทที่ถั่งท้น ถ้าไหลรวมคงท่วมไทย

คัดลอกมาจากส่วนหนึ่งของ กาพย์เห่เรือ ฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี

ประพันธ์โดย นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย

เพื่อนเพื่อน ครับ เมืองไทย เรานั้น
"เย็นศิระเพราะพระบริบาล" โดยแท้ครับ

ตะนิ่นตาญี

วันพุธที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๕.๔๕ นาฬิกา




หมายเหตุ แก้ไข วัน จาก วันอังคารที่ เป็น วันพุธที่....


#543339 ขอสีซอเป็นอุทาหรณ์กรณีฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดของเหล่าใต้ตม...

Posted by Stargate-1 on 18 December 2012 - 14:51

หลวงพ่อไปกราบหลวงปู่ดูลย์ครั้งแรกแล้วนำคำสอนของท่านมาปฏิบัติ พออีก 3 เดือนไปส่งการบ้าน ท่านอธิบายให้ฟังว่าที่ปฏิบัติอยู่ไม่ถูกหรอก เสร็จแล้วท่านสอนจิต คือพุทธะให้ฟัง จิตคือพุทธะ เทศน์ๆๆ อยู่ 45 นาที ก็เทศน์กลับไปกลับมาเรื่อย รอบหนึ่ง 45 นาที เราฟังจนเหนื่อยเต็มประดานะ จึงถามหลวงปู่ว่า

'หลวงปู่ ที่หลวงปู่เทศน์มาทั้งหมดเนี่ย ผมขอดูจิตอย่างเดียวได้มั้ย?' ที่ต้องถามเพราะมันไม่รู้เรื่อง ที่เทศน์มาเนี่ยไม่ได้รู้เรื่องเลย

หลวงปู่ก็เลยบอกว่า

'ธรรมะทั้งหลายเกิดที่จิต ธรรมะ 84,000 พระธรรมขันธ์นะเกิดที่จิต ถ้ารู้อยู่ที่จิตก็รู้ธรรมะได้'

ฟังแล้วค่อยสบายใจนะ อือ โห ทำไมท่านสอนธรรมมากมาย ท่านสอนให้ไว้ใช้ในอนาคตแต่สอนทีไรก็สอนอย่างนี้ สอนเวียน ไปอยู่ในเรื่องของจิตคือพุทธะ จนครั้งสุดท้าย ไปหาท่านครั้งสุดท้าย 36 วันก่อนท่านมรณภาพ ไปหาท่านตั้งแต่ตอนบ่ายๆ อยู่กับท่าน ท่านก็เทศน์ให้ฟังไปเรื่อยๆ นะ จนทุ่มหนึ่ง ท่านนะหอบแฮ่กๆ เลย ไม่ยอมหยุดสอน เราก็สงสารท่านมากเลย บอกหลวงปู่

'หลวงปู่เหนื่อยมากแล้ว ผมจะกลับแล้ว'

'จะกลับเหรอ ยังกลับไม่ได้นะ ต้องจำไว้ก่อน พบจิตให้ทำลายจิตนะ พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ จิตจึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง'

จริงๆ มีอีกประโยคหนึ่ง แต่ไม่ค่อยอยากเล่า ท่านว่าพบพระพุทธเจ้าให้ฆ่าซะ ฟังแล้วมันน่าตกใจนะ

'พบจิตให้ทำลายจิต พบผู้รู้ให้ทำลาย ผู้รู้ จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง เข้าใจมั้ย?' บอกท่านว่าไม่เข้าใจแต่ผมจะจำไว้

'เออดี จำไว้นะ ไป ไปได้แล้ว ไป'

ลาท่านมา ลาแล้วหันไปมองหลายรอบนะ เฮ้อ รู้สึกอาลัยอาวรณ์ ไม่ได้เจออีกแล้ว รุ่งเช้าขึ้นรถไฟไปกราบหลวงพ่อพุธที่โคราช วัดท่านอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ลงรถไฟแล้วก็เดินไปได้ ท่านเห็นหน้าท่านถามว่า

'นักปฏิบัติ หลวงปู่สอนอะไร รอบนี้หลวงปู่สอนอะไร'

ท่านรู้ว่าหลวงพ่อไปเรียนจากหลวงปู่ดูลย์ ทุกครั้งที่เรียนจะต้องแวะมาหาท่านนะ แล้วท่านก็จะถามว่าหลวงปู่สอนอะไรบ้าง กราบเรียนท่านว่า หลวงปู่บอกว่าพบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต ท่านก็บอกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน ท่านไปหาหลวงปู่ดูลย์มา หลวงปู่ก็บอกท่านเหมือนกันบอกว่า

'เจ้าคุณ การปฏิบัติจะยากอะไร พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต'

เสร็จแล้วหลวงพ่อพุธก็บอกหลวงพ่อว่า

'คุณกับอาตมามาทำกติกาตกลงกัน ใครทำลายผู้รู้ได้ก่อนให้บอกกันนะ ว่าทำลายยังไง'

ตอนนั้นปี 26 เสร็จแล้วก็ไปเจอท่านเรื่อยๆ นะ ตอนหลังๆ ท่านหนีไปจากวัด ท่านทนโยมไม่ไหว หลวงพ่อตอนนี้ยังทนไหวนะ อีกหน่อยคงทนไม่ไหวคงหนีเหมือนกัน หาตัวท่านไม่เจอ เจอเวลาท่านเข้าไปเทศน์ในกรุงเทพฯ บ้าง อะไรบ้าง คนเยอะๆ คน หลายร้อย คนเป็นพันเลยเข้าไม่ถึง ไม่เจอท่านนาน หลายปีไม่เจอ จนก่อนหลวงพ่อพุธจะมรณภาพไม่นาน ท่านไปเทศน์ที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หลวงพ่อ ยังทำงานอยู่องค์การโทรศัพท์ ไปนั่งฟังเทศน์ คนก็เต็มห้องนะ 100 คนได้ ค่อยน้อยหน่อย ท่านเทศน์จบก็คลานเข้าไปกราบท่าน

'หลวงพ่อ ผมไม่เจอหลวงพ่อนานแล้ว' ท่านบอกว่า ท่านจำได้นักปฏิบัติมีไม่มากหรอก

บอก 'หลวงพ่อผมยังทำลายผู้รู้ไม่ได้เลย'

โห คราวนี้นะธรรมท่านเปลี่ยนฉับพลันเลย ที่เทศน์ๆ ธรรมดา เทศน์เสร็จแล้ว พอบอกว่าผมทำลายผู้รู้ไม่ได้เลย ท่านห้าวหาญเลยพูดขึ้นมา

'จิตผู้รู้เหมือนฟองไข่ เมื่อลูกไก่นั้นนะเติบโตเต็มที่แล้ว มันจะเจาะทำลายเปลือกออกมาเอง'


#543331 ขอสีซอเป็นอุทาหรณ์กรณีฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดของเหล่าใต้ตม...

Posted by isa on 18 December 2012 - 14:46

ถ้าในสายลัดสั้นอย่างเซ็น เขายังมีคำสอนที่แรงกว่านี้อีกครับ อย่าง...

"พบพุทธะ ให้ฆ่าพุทธะ"

ถ้าคนไม่ได้ศึกษามาก่อน หรือคนที่มาสายเถรวาท อ่านแล้วก็สะดุ้ง แต่ความหมายแท้จริงก็คือ
ในการปฏิบัติธรรม ไม่ให้หลงนิมิต ไม่ให้ยึดติดใดๆทั้งสิ้น บรรลุแล้วต้องทิ้งให้หมด

ในคำสอน 48,000 บท หรือพระธรรมขันธ์นั้น พระพุทธเจ้าสอนคนต่างๆหลากหลาย บางคนก็มีปัญญาระดับตื้น
บางคนก็ปัญญาระดับลึก บ้างเป็นการสอนชาวบ้านธรรมดา บ้างสอนนักปราชญ์ บ้างสอนกษัตริย์
บ้างก็สอนนักบวชต่างลัทธิ คำสอนบางอย่างเป็นแค่การแนะนำหลักครองชีพ บางอย่างเป็นระดับปานกลาง
บางอย่างเป็นระดับลึก ท่านถึงเปรียบคำสอนของพระพุทธเจ้าเหมือนท้องทะเล ที่ค่อยๆลาดจากตื้นไปหาลึก
ในแต่ละระดับก็มีสิ่งพึงอัศจรรย์ให้ชมต่างๆกัน

ปราชญ์ที่มีปัญญาเมื่อพบคำสอนแต่ละระดับก็รู้ได้ว่าคำสอนนั้นเหมาะกับคนระดับใด เหมาะกับตนหรือไม่
และควรจะรับคำสอนนั้นไปปฏิบัติเช่นไร ...นี่เรียกว่ามีโยนิโสมนสิการ

...คำพูดนี้ของท่านว. ถ้าเป็นคนที่ศึกษามาถึงระดับลึก เข้าใจเรื่องสังสารวัฎ ก็จะเข้าใจทันทีว่ามันหมายความว่าอย่างไร
คำสอนในระดับลึกของพุทธ เตือนไว้ว่าสังสารวัฎเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะเป็นสิ่งที่ไม่รู้จบ และเหนือการควบคุม
ต่อให้รู้หลักในการปรุงจิตดวงสุดท้ายก่อนตายให้แสวงภูมิเกิดใหม่ที่ดีได้ แต่ใช่ว่าจะจำหลักได้ตลอดไปในชาติต่อๆไป ประมาทนิดเดียวเป็นพลาดทันที
เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายบนปากเหว ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ขวนขวายหาทางออกไปเสีย ขณะที่ยังมีโอกาส

การฆ่าคนอาจส่งผลแค่ถูกประหาร ตกอบาย แต่หลังจากนั้นก็มีโอกาสไปเกิดใหม่ที่ดีกว่าเก่าถ้ามีบุญเก่าช่วย แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฎ
ยังมีขึ้นมีลงไม่สิ้นสุด แต่สำหรับนักปฏิบัติการฆ่าเวลาที่ใช้ปฏิบัติธรรม บางครั้งเป็นการทิ้งโอกาสที่จะได้หลุดพ้นไปได้ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาส
ได้มาพบเจอกับคำสอนนี้อีกเมื่อไหร่...นั่นคือความหมายจริงๆของคำพูดนี้...นักปฏิบัติเคร่งๆเขาจะเข้าใจดีครับ

เหมือนอย่างเรื่องพระเทวทัต เราก็เคยสงสัยกันว่าถ้าพระพุทธองค์ทราบล่วงหน้าว่าเทวทัตจะประกอบกรรมหนักถึงขั้นตกอเวจี
แล้วท่านบวชให้ทำไม ...แต่ถ้าเข้าใจเรื่องสังสารวัฎ ก็จะรู้ว่าพระเทวทัตนั้น ท่านก็บุญบารมีถึงระดับหนึ่ง แต่ติดด่านเดียวที่เคลียร์ไม่ผ่าน
ก็คือการแข่งดี จองล้างพระพุทธองค์ แต่เมื่อผ่านตรงนี้ไปได้ หลังจากพ้นจากนรก ท่านก็จะบรรลุเป็นพระปัจเจกโพธิ์ในอนาคต
...อธิบายง่ายๆก็เหมือนกับการจับเด็กที่สอบตกให้เรียนซ้ำชั้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จในอนาคตในภาพรวม

...แต่คำเตือนที่มีค่าแบบนี้ เมื่อมาแสดงกับบุคคลผิด ก็เลยเอาไปโยงกับการปราบเสื้อแดง ประกอบกับความไม่ชอบหน้าพระอยู่แล้ว
ก็เลยลามปามใหญ่ เท่านั้นเอง -_-


#543211 ขอสีซอเป็นอุทาหรณ์กรณีฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดของเหล่าใต้ตม...

Posted by isa on 18 December 2012 - 13:46

มู้นี้ตรงกว่า... มู้ก่อนขออภัย... :D

งานนี้ ต้องนี่...



ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น


:D


...เรื่องบรรลุพลังจิตขั้นสูงแล้วเหาะได้หรือไม่ เรื่องนั้นเป็นอีกเรื่อง...
ลองมาดูคลิปนี้กัน



คลิปนี้ไม่ใช่การเหาะนะครับ แต่เป็นการวิ่งที่เรียกว่า Free Running เป็นเหมือนสตั๊นต์กลายๆ
แต่ที่ให้ดูก็คือ นี่เป็นอีกแนวคิดหนึ่งของการวิ่ง ที่ไม่ใช่เป็นการใช้กล้ามเนื้อล้วนๆอย่างการจ๊อกกิ้ง
หรือการสปรินท์ หรือวิ่งมาราธอนที่เราคุ้นเคยกัน แต่เป็นการวิ่งโดยอาศัยการ Flow ของพลังงานจลน์
การฝึกกล้ามเนื้อนั้น เน้นไปที่การควบคุมกล้ามเนื้อให้เลื่ือนไหลตามการเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดการขัดขวาง
ซึง่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บ ฉีกขาด เรียกว่าใช้พลังกล้ามเนื้อน้อยมาก จะเห็นว่าพวกนี้กระโดดข้ามตึก
หรือกระโจนลงมาจากความสูงระดับตึกสามชั้นได้โดยไม่เป็นอันตรายเลย

นอกจากสนใจเรื่องพุทธ ผมก็สนใจเรื่องชี่กง หรือกังฟูจีนอยู่บ้าง ในแง่ของสุขภาพ และเคยข้องใจเรื่องของวิชาตัวเบา
ว่ามีจริงหรือ แต่พอเห็นฟรีรันนิ่งเข้า ผมก็ถึงบางอ้อว่าที่แท้วิชาตัวเบามันก็น่าจะเป็นแบบนี้นี่เอง

ขณะที่ในเชิงวิทยาศาสตร์ ระบุว่าการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่สมองสั่งไปที่ประสาท และประสาทสั่งต่อไปที่กล้ามเนื้อ
แต่วิชากังฟูจีนสอนว่า การเคลื่อนไหวเริ่มที่เจตจำนง (อี้) ที่จะไปควบคุมชี่ (ผมคิดว่าในเชิงตะวันออกชี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าธาตุลม)
และเมื่อธาตุลมหรือชี่เคลื่อน ร่างกายจึงเคลื่อนตาม นักกังฟูหรือคนที่ฝึกกายกรรม หรือพวกนักเต้นรำที่ฝึกฝนไปถึงขั้นหนึ่ง
จะสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ และสามารถเคลื่อนไหวกายได้อย่างที่คนธรรมดาไม่อาจทำได้

มอริเฮย์ อุยาชิบะ ปรมาจารย์ไอกิโด ในวัยเก้าสิบกว่า ต้องหามไปโรงฝึก แต่พอถึงโรงฝึก แกก็ลุกขึ้น จับลูกศิษย์ทุ่มเป็นว่าเล่น
แล้วขากลับก็ให้ลูกศิษย์หามกลับ นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ



ผมเอง ฝึกชี่กงเล่นๆ ในแง่ของรักษาสุขภาพมากกว่า แต่ก็ทำอะไรเล่นๆได้นิดหน่อย เช่นสมัยทำเสิร์ฟอยู่ญี่ปุ่นก็แบกถังขยะร้านสุกี้
หนักร่วมร้อยกว่าโลวิ่งขึ้นบันไดให้เด็กญี่ปุ่นเหวอเล่นบ่อยๆ

ก็เลยเข้าใจโลกในแง่ที่ว่า โลกนี้อยู่ที่มุมมองของคุณ ถ้าคุณมองมันแง่หนึ่ง คุณก็จะจำกัดตัวเองอยู่ในแง่นั้น และด้วยข้อบังคับนั้นๆ
แต่ถ้าคุณมองมันในแง่อื่น ในทฤษฎีอื่น โลกก็อาจจะตอบสนองในแง่มุมที่ต่างออกไปที่อาจทำให้คนอื่นๆตาค้าง ทั้งๆที่มันก็คือ
กฎธรรมชาติอีกกฎหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้ฝืนธรรมชาติตรงไหน

ถ้าคนที่อาศัยเจตจำนงระดับหนึ่ง ควบคุมการโฟลวของพลังงานจลน์ได้ระดับหนึ่งทำได้แค่นี้ ผมก็อยากรู้อยู่เหมือนกันว่าถ้าคนที่มีสมาธิในระดับฌาณ
ที่ควบคุมธาตุลมแล้วเล่นกับมันได้อย่างใจคิด จะทำอะไรแปลกๆที่มนุษย์ธรรมดาทำไม่ได้ ได้แค่ไหน :)

...โลกนี้ไม่ได้มีแค่ที่ตาคุณเห็นหรอกครับ.... :)


#543105 ขอสีซอเป็นอุทาหรณ์กรณีฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดของเหล่าใต้ตม...

Posted by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 18 December 2012 - 12:41

^
^
เซนคงต้องบอกว่า หมอนี่เป็น "ชาล้นถ้วย" ครับท่าน wat :rolleyes: