ผมคิดว่า เราควรจะคิดนอกกรอบกันบ้าง ปัญหาของเมืองไทยตอนนี้คือคนที่ไปเลือก ไม่ใช่นักการเมือง เพราะฉนั้น จะแบ่งเขต กำหนดจำนวน สส อย่างไง มันก็ออกมาเหมือนเดิม เราจะได้นักการเมืองที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินอยู่ดี
คนไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในวังวนของระบบอุปถัมภ์ และการเลือกตั้งก็ไปใช้เขตภูมิศาสตร์ทับซ้อนกับเขตอำนาจตามธรรมชาติของระบบอุปถัมภ์ นั่นทำให้คนที่มีอำนาจในระบบอุปถัมภ์สามารถมีอิธิพลเหนือระบบเลือกตั้ง (ระบบการได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง) ชาวบ้านที่อยู่ในระบบอุปถัมภ์เหล่านั้น เค้าไม่มีแนวคิดเรื่องประชาธิปไตยหรือทางการเมืองใดๆ มีแต่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการได้มาซึ่งอำนาจ ถ้าต้องการปฏิรูป ต้องตัดระบบอุปถัมภ์ออกจากกระบวนการได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง ให้เวลากับชาวบ้าน ได้ทำมาหากิน ยกระดับความเป็นอยู่ ยกระดับการศึกษา จนเป็นชนชั้นกลาง ตอนนั้นประชาธิปไตยจึงจะเกิด
ที่ว่านอกกรอบของผม ก็คือ เราไม่ควรมุ่งตรงไปที่การสร้างประชาธิปไตยในเวลาไม่กี่เดือน เพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านมาล้มเหลวตลอดเพราะคิดว่าประชาธิปไตยสร้างได้ด้วยการเขียนตัวอักษรลงบนรัฐธรรมนูญ แต่เราควรสร้างระบบเปลี่ยนผ่านซึ่งจะเป็นระบบที่จะไปสร้างประชาธิปไตยอีกทีหนึ่ง เป็นระบบชั่วคราวที่มีความเป็นนิติรัฐ มีการตรวจสอบ ถ่วงดุลย์ และสามารถรับประกันได้ว่า ทุกๆวัน ที่ผ่านไป เราจะเข้าใกล้ความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
ผมเสนอว่่า ในระบบเปลี่ยนผ่านนี้ สภาผู้แทนควรมาจาก "ตัวแทนโดยธรรมชาติ" ของคนไทย ทุกๆสังคมเมื่อรวมตัวกันได้ซักพักหนึ่งจะมีการสร้างตัวแทนโดยธรรมชาติในด้านต่างๆ ซึ่งตัวแทนเหล่านี้เป็นที่ไว้วางใจของคนส่วนใหญ่อยู่แล้ว เช่น ตัวแทนด้านการศึกษา ก็จะเป็นมหาวิทยลัยทั้งหลาย เวลารัฐบาลต้องการศึกษาวิจัยอะไร มหาวิทยลัยเหล่านี้ก็จะได้รับความไว้วางใจจากคนไทย ตัวแทนด้านวิศวกรรม ก็คือ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เวลาเกิดประเด็นปัญหาด้านวิศวกรรม สะพานยังใช้ได้มั๊ย ตึกจะพังมั๊ย เราจะวางใจเมื่อมีวิศวกรจากสถาบันนี้เข้าไปตรวจสอบ เวลาเราส่งนักกีฬาไปแข่งโอลิมปิก นักกีฬาเหล่านี้เป็นตัวแทนของประเทศ เราเลือกตั้งนักกีฬากันหรือเปล่า? เปล่า เราให้สมาคมกีฬาต่างๆคัดเลือกให้ เราไว้วางใจสมาคมเหล่านั้น เรามีตัวแทนด้านอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน สภาทนายความ สภาวิชาชีพต่างๆ NGO ศาล สมาคมธุรกิจ หอการค้า มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ให้สถาบันเหล่านี้เป็นผู้เลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่นิติบัญญัติในระบบเปลี่ยนผ่านซิ
ในขณะเดียวกัน กระจายอำนาจ ให้ประชาชนได้เลือก สภา และผู้บริหารท้องถิ่นเอง บริหารงบประมาณกันเอง ตรงส่วนนี้จะเป็นเหมือนแบบฝึกหัดให้ประชาชนได้เรียนรู้ประชาธิปไตย เพราะ มันจะเห็นกันจะๆ ว่า สะพาน โรงเรียน โรงสี มันจะหายไป ถ้าเค้าเลือกคนโกง เค้าจะเริ่มเห็นคุณค่าของระบบตรวจสอบถ่วงดุลย์ เค้าจะเห็นว่าจังหวัดข้างเคียงเค้าพัฒนาไปกว่าเค้า เพราะอะไร เมื่อเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ซักวันประชาชนทั้งประเทศก็จะพร้อมที่จะเป็นผู้เลือกสภานิติบัญญัติเอง
ขอฝากไว้เป็นแนวคิดหนึ่งก็แล้วกันครับ