Jump to content


john_04

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2557 19:12
-----

#1190792 มท.ลั่นเปรี้ยง!!เด้งป้าง!!โยกยับ!!ผู้ว่าฯ9ราย

โดย john_04 on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:11

วันนี้(27พ.ค.57)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งที่ 279/2557 ให้ข้าราชการรักษาการในตำแหน่ง 9 ราย ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.2557 ดังนี้
1.นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการ
2. นายกำธร ถาวรสถิต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการขอนแก่น
3.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดชัยนาท
4.นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
5.นายสุริยะ ประสาทบัณฑิต  ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
6.นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ให้รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
7.นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
8.นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
9.นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ให้รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์




#1189213 "แอ๊ด คาราบาว" จัด MV เพื่อ "บิ๊กตู่" ยกย่อง! "รัฐบุร...

โดย john_04 on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:59

"แอ๊ด คาราบาว" ปล่อยมิวสิควีดีโอเพลง  "นาวารัฐบุรุษ" มอบแด่ "บิ๊กตู่" ลั่นเห็นทีอนาคตประเทศชาติ ต้องพึ่งพาท่าน

วันนี้ (27พ.ค.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชียลมีเดีย มีการแชร์คลิปมิวสิควีดีโอ "นาวารัฐบุรุษ" จากสมาชิกเว็บไซต์ยูทูปดอทคอม ที่มีชื่อว่า Chaiyuth Limlawan  ซึ่งเป็นเสียงการขับร้องของนักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว โดยเป็นบทเพลงที่มีภาพและเนื้อหาเป็นการเชิดชู พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (บิ๊กตู่) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

        ทั้งนี้ มีการโพสต์ข้อความบรรยายมิวสิควีดีโอดังกล่าว มีใจความว่า.. ขอมอบบทเพลงนี้ให้พี่ตู่ที่เคารพ เห็นทีอนาคตประเทศชาติ ต้องพึ่งพาท่านแล้วละครับ ข้อเสนอแนะประกอบเพลงนี้ให้ คสช. ตั้งกระทรวงประชาธิปไตยขึ้นเพื่อเอาจริงเอาจังต่อการปลูกฝั่งลัทธินี้อย่างจริงจังในชีวิตประจำวันของประชาชน มีแต่ทำเช่นนี้ถึงจะเดินหน้าต่อได้ มิเช่นนั้นประชาชนจะไร้ซึ่งศักดิ์ศรีเพราะตกเป็นหนี้ระบบอุปถัมป์ของบรรดานักเลือกตั้งที่มีน้อยคนนักจะเห็นแก่ประโยชน์แห่งบ้านเมืองเป็นหลัก ประเทศไทยมีนักประชาธิปไตยเก่งๆ เยอะ แต่ไม่มีงานทำ นอกจากได้สอนหนังสือไปวันๆ พูดไปวันๆ ถึงเวลาที่ผู้ฉลาดทรงภูมิปัญญาจะได้แสดงฝึกมือกันบ้าง ว่าภาคสนามนั้นต่างจากในตำราที่ไปจบเมืองนอกเมืองนาอยู่ถมไป...  แอ๊ด คาราบาว

 




#1188401 คลิปชัดๆ ฝูงแทบแตก !!! ปชช.เปล่งเสียง ไล่แดงชุบแป้งทอด -ทำอนุสาวร...

โดย john_04 on 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:31

สุดอั้นแล้ว ! ปชช.ร่วมกันโห่ไล่ พวกต้านรัฐประหาร ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ  -มาไม่กี่คน แต่ซ่าทำชาวบ้านเดือดร้อน ปิดเส้นทางทั้งถนน  บนบีทีเอสก็วิ่งไม่ได้ ???

 
 
 
 
 


วันนี้ ( 26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ในเพจนามว่า "uddthailand" ได้แชร์คลิปประชาชนส่วนหนึ่งทนไม่ได้กับพฤติกรรมของกลุ่มคนต้านรัฐประหาร ที่ร่วมตัวกันปิดถนนอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ 
พร้อมกับตะโกนโห่ไล่ โดยชายคนหนึ่งทนไม่ได้พร้อมกับต่อว่า "เกรงใจประชาชนที่เขาจะกลับบ้าน ติดไปไหนไม่ได้รถบีทีเอสก็ปิด โห่ไล่ไอ้พวกนี้หน่อยครับ  ทำบ้านเมืองเดือดร้อน ทำให้มีประชาชนที่คิดเห็นต่าง สร้างความขัดแย้ง ผมขอเชิญชวนพี่น้อง โปรดลงมาเถอะครับ มาเห็นหน้าพวกนี้หน่อย"

 

 

 




#978336 สุเทพต้องปฏิรูปกองทัพด้วยครับ ทหารอยู่กับรัฐบาลแล้ว เหลือแต่ประชาชนเท่านั้น

โดย john_04 on 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 22:19

“ทีพ่อหลวงโดนหมิ่น ท่านไม่ว่า
เพื่อนของท่านโดนฆ่า วางท่าเฉย
ซ้ำยังถูกยัดเยียด เป็นจำเลย
ทำแต๋วแตกเป็นกระเทย เอาใจนาย

ศักดิ์ศรีของของทัพ อยู่ที่ไหน
อยู่ที่ใจมุ่งรัก ชาติตั้งมั่น
สถาบันศูนย์รวมใจ ช่วยป้องกัน
หาใช่ท่าน ขาสั่น จันทร์โอชา”

 

 

พวกกูนี้ ยอมพลีชีวี เพื่อแผ่นดินไทย

แต่พวกมึงไซร้ เป็นเจ้านาย มัวทำอะไร
หากตัวมึงคิด ได้แค่เพียงก้ม กราบโจรร้าย
แต่กูต้องตาย รบโจรใต้ ขาดนายเหลียวแล
เครื่องดักฟัง กูต้องใช้ ไว้ป้องกันตัว
พวกมึงก็มั่ว มาเอาไปใช้ ในเมืองหลวง
มึงเบิกงบลับ เบิกงบเล่ห์ เบิกงบหลอกหลวง
งบเชียนช่วง งบดูงาน เบิกบานตะไท
พล.อ........ นั่งอยู่หัวโต๊ะ รับครั้งละหมื่น
พวกกูต้องยืน เข้าเวรยาม ทั้งเดือนแปดพัน
มึงเอาภาษี มาเป็นงบลับ แล้วกลับแบ่งกัน
ไม่เคยแบ่งปัน ลงมาภาคใต้ ซื้อใจพวกกู
กระดากใจไหม มึงบอกใครๆ เป็นวีรบุรุษ
แต่พวกกูหยุด ลมหายใจ กลายเป็นแค่ผี
มึงคิดบ้างไหม กูมีเลือดเนื้อ มีความภัคดี
กูตายทุกที พวกมึงเสพสุข แอบอ้างผลงาน
ลูกมึงเข้าเรียน โรงเรียนหรูๆ อังกฤษเยอรมัน
มึงคิดถึงกัน เบิกงบหลวงไป เยี่ยมได้เสรี
ลูกเมียกูอยู่ อีสานไกล ทุกทั้งปี
พบกันอีกที กูเป็นศพตาย รับได้ที่สนามบิน
นี่หรือคือ นายคนใหม่ แห่งกองทัพบก
กินเงินสกปรก เพื่อไต่เต้าสู่ความสุขี
เหยียบย้ำลงไป บนซากศพเศษเถ้าธุรี
และบนศักดิ์ศรี แห่งทหารไทย ที่ตายทุกคน
ต้องตายเท่าไหร่ เราจึงจะได้ แผ่นดินคืนมา
จันทร์แจ่มโสภา จะกลับมาสาดแสงอ่อนโยน
คืนนี้จันทร์สวย อาบด้วยเลือด กระดูกขาวโพน
ทหารไทยทุกคน เซ่นสังเวยให้ เจ้านายทุกคน
พวกเราทุกคน เซ่นสังเวยให้......เจ้านายทุกคน
 

 — กับ กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ หนึ่งหนึ่งศูนย์ห้า และ 15 อื่นๆ ที่ ฉก.ปัตตานี 25 อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี

 

จาก 

จ.ส.ต.อุเทน แก้ววิเชียร 

 

1528594_565259370219398_1483345346_n.jpg




#895736 ปานเทพเผย “สนธิ” รับแกนนำพธม.ยุติบทบาทถูกต้อง ยินดี “ประชาชน-ปชป.” ตื่นแล้ว

โดย john_04 on 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 15:14

ASTVผู้จัดการ – “ปานเทพ” เผย “สนธิ ลิ้มทองกุล” ชี้การยุติบทบาทของแกนนำพันธมิตรฯ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง รับพันธมิตรฯ มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ การยุติบทบาทจึงเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ “พลังใหม่-ประชาธิปัตย์” เคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่และเต็มศักยภาพ ยินดีหากการต่อสู้จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น
       
       วานนี้ (7 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ใกล้ชิดของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนพันธมิตรฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โดยกล่าวถึงเหตุการณ์เนื่องในวาระวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปีของนายสนธิ และเนื่องในโอกาสวันก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ สื่อในเครือ ASTV-ผู้จัดการ ว่านายสนธิได้กล่าวกับพนักงานถึงสถานการณ์บ้านเมือง โดยมีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์ในอดีต รวมไปถึงเหตุการณ์การต่อต้าน พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติในปี 2555
       
       ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า การประกาศยุติบทบาทของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว ดังที่เคยระบุว่าการยุติบทบาทดังกล่าวเป็นการยุติบทบาททางยุทธวิธีในการต่อสู้กับระบอบทักษิณ เนื่องจากเหตุการณ์ ณ วันนี้ก็พิสูจน์ว่า การยุติบทบาทดังกล่าวของแกนนำพันธมิตรฯ เป็นการเร่งปฏิกิริยาก่อให้เกิดพลังใหม่ๆ ในสังคม ซึ่งคนเหล่านี้เดิมทีไม่อยากออกมาเคลี่อนไหวภายใต้ธงของพันธมิตรฯ ขณะเดียวกันก็เป็นแรงผลักดันให้พรรคประชาธิปัตย์ออกมาแสดงบทบาท และศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ด้วย
       
       ทั้งนี้นายสนธิยังกล่าวด้วยว่า การยุติบทบาทของแกนนำพันธมิตรฯ คือการลดอัตตา เพื่อนำไปสู่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่า และขอให้เป็นชัยชนะกับประเทศชาติ โดยนายสนธิยังได้แสดงความคาดหวังด้วยว่าหากพรรคประชาธิปัตย์สามารถแปรเปลี่ยนพลังของมวลชนครั้งนี้ให้นำไปสู่การปฏิรูปประเทศได้อย่างยั่งยืน ก็จะก่อคุณูปการให้กับประเทศชาติและสังคมอย่างสูง
        ------------------------
       วันนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้กล่าวถึงการชุมนุมในช่วงเวลานี้กับพนักงานเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปี และวันคล้ายวันเกิดของค่าย ASTV-ผู้จัดการ โดยได้กล่าวถึงสถานการณ์ในการชุมนุมในช่วงเวลานี้ว่า
       
       "ถ้าเรายังไม่ยุติบทบาท ประชาชนจะลุกขึ้นมาต่อสู้เรื่องนี้ทั่วประเทศอย่างนี้หรือไม่?"
       
       คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบกับปี 2555 (30 พ.ค.-1 มิ.ย.) ที่ในเวลาตอนนั้นสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ (ฉบับ พล.อ.สนธิ บุญญรัตกลิน) ซึ่งเนื้อหาในเวลาตอนนั้นก็คือการนิรโทษกรรมล้างความผิดที่แทบจะไม่ต่างกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับปัจจุบันเลย แต่ในเวลานั้นแม้การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะได้รับชัยชนะด้วยการปิดล้อมสภาฯจนไม่สามารถดำเนินการประชุมได้สำเร็จ แต่ผู้ชุมนุมก็มีจำกัดอยู่กับคนหน้าเดิมที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแทบทั้งสิ้น
       
       จากคำพูดของคุณสนธิ ผมอยากให้ย้อนกลับไปอ่านแถลงการณ์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2556 ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างละเอียดก็จะยิ่งเข้าใจว่าการยุติบทบาททางยุทธวิธีนั้นคืออะไร?
       
       "การยุติบทบาทครั้งนี้ถือเป็นยุทธวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบัน หรือผู้ที่มีโอกาสจะมีอำนาจในอนาคต รวมถึง ทหารภายใต้จอมทัพไทยและศาลที่กระทำการภายใต้พระปรมาภิไธย ตลอดจนผู้ที่มีบทบาทในบ้านเมือง รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้ตัดสินใจที่จะทำหน้าที่ของตนเองและเลือกเดินทางของตัวเอง มากกว่าที่จะคาดหวังหรือรอมติการนำมวลชนโดยแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
       
       ในเวลานั้นคนยังไม่เข้าใจว่าเรายุติบทบาททางยุทธวิธีคืออะไร แต่เรารู้ว่าถ้าเรื่องใหญ่ๆแม้กระทั่งเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมยังต้องให้ผูกขาดการชุมนุมอยู่กับแกนนำพันธมิตรฯซึ่งมีมวลชนอยู่เพียงเท่านี้ นั่นย่อมแสดงว่าภาคประชาชนนิ่งเฉยเกินไปแล้ว
       
       คุณสนธิ ได้วิเคราะห์ว่าที่ผ่านมาคนที่ไม่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะ
       
       1. นิ่งเฉยเพราะคิดว่ามีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ผูกขาดต่อสู้ได้รับชัยชนะประสบความสำเร็จมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่จึงคิดว่าธุระไม่ใช่ เพราะคิดว่ามีคนต่อสู้ให้แทนแล้ว อีกทั้งความสำเร็จในการเคลื่อนไหวมวลชนติดต่อเนื่องกันหลายปีมากเกินไป พลังการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯได้กลบการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มอื่นไปหมด จนคนกลุ่มอื่นๆก็ไม่อยากจะจัดการชุมนุม
       
       2. นิ่งเฉยเพราะไม่ชอบพันธมิตรฯ หรือแกนนำพันธมิตรฯ เพราะเราอยู่ในบทบาทนี้นานเกินไป วิวัฒนาการหลายปีย่อมไม่ได้สะสมคนที่ชอบเราเป็นทองเนื้อแท้อย่างเดียว แต่คนที่ไม่ชอบพวกเราก็มีเพิ่มมากด้วยเช่นกัน (ทั้งการชุมนุมที่สนามบิน ตั้งพรรคการเมืองใหม่ การโหวตโน การประท้วงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ฯลฯ ) และหลายคนก็ไม่อยากเคลื่อนไหวแล้วถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเสื้อเหลือง (ขั้วสี) หรือ เป็นพวกพันธมิตรฯ
       
       ด้านหนึ่ง การยุติบทบาท จึงเหมือนเป็นการ "เร่งปฏิกิริยา" ให้เกิดขึ้น ฝ่ายทักษิณฮึกเหิมมากขึ้น เพราะคิดว่าไม่มีใครขวางได้ ความฮึกเหิมของทักษิณถึงขนาดยอมทรยศมวลชนคนเสื้อแดงจนหมดสิ้น
       
       เมื่อการยุติบทบาทที่เร่งปฏิกิริยาให้ฝ่ายระบอบทักษิณให้แสดงความชั่วมากขึ้น กฎหมายปรองดองที่เว้นมาปีกว่า ก็ถูกแปรญัตติกลายร่างกายเป็นกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับลักหลับที่ทำลายความชอบธรรมของคำว่าเสียงข้างมากในสภาจนหมดสิ้น
       
       ในอีกด้านหนึ่ง ก็เลยทำให้ประชาชนที่ส่วนหนึ่งต้องออกมาทำหน้าที่ เพราะคิดว่าไม่สามารถฝากความรับผิดชอบไว้กับแกนนำพันธมิตรฯที่ยุติบทบาทไปแล้ว ในขณะคนที่อยากเคลื่อนไหวแต่ไม่อยากอยู่ภายใต้ธงของพันธมิตรฯ ก็ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ทุกชนชั้น ทุกสาขาอาชีพ และทั่วประเทศ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ทั้งๆที่เป็นเนื้อหาเดียวกันกับที่พันธมิตรฯได้เคยออกมาต่อสู้เมื่อปีที่แล้ว
       
       เราไม่ได้ยุติบทบาทเพื่อให้เกิดพลังใหม่ด้านเดียว แต่เราได้พยายามผลักดันคนที่มีศักยภาพและมีฐานคะแนนเสียงมากที่สุดคือพรรคประชาธิปัตย์ให้ออกมาด้วย และสิ่งที่เราคิดก็ได้รับผลสำเร็จ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีศักยภาพในการนำที่โดดเด่นกว่าการชุมนุมของคนกลุ่มอื่นอย่างเห็นได้ชัด จนวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้อยู่บนคลื่นมหาชนที่อาจไปกว่าเพียงแค่การคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแล้ว และถ้าประชาธิปัตย์ทำได้ดีจนถึงขั้นนำไปสู่การปฏิรูปประเทศได้จริง พรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลายเป็นพรรคการเมืองที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์และอยู่ในใจประชาชนอีกตราบนานเท่านาน
       
       คุณสนธิ พูดกับผมว่าการยุติบทบาทคือการลดอัตตา เพื่อชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่า และขอให้เป็นชัยชนะกับประเทศชาติ ชัยชนะนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในมือเราเลยก็ได้
       
       ผมนึกถึงประโยคสุดท้ายในแถลงการณ์ฉบับสุดท้ายของพันธมิตรฯฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2556 อีกครั้ง:
       
       "เราขอยืนยันว่าจะยังคงแน่วแน่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของวีรชนและพี่น้องประชาชนที่เสียสละไม่เคยเปลี่ยน และขอให้มั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นยุทธวิธีที่จะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน"

 

http://www.manager.c...D=9560000139389