Jump to content


kaidum

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 7 สิงหาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 00:17
*****

Topics I've Started

เปิดแผนสิบเวที เสื้อแดง ชักธงรบทำสงครามป้องรัฐ

15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:40

เปิดแผน 10 เวทีเสื้อแดง ชักธงรบ ทำสงครามป้องรัฐ

 
  • 13844178741384417894m.jpg
Prev
1 of 1
Next

คลิกภาพเพื่อขยาย

updated: 14 พ.ย. 2556 เวลา 17:30:16 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

อุณหภูมิ การเมืองถูกปลุกเข้าสู่จุดเดือด การเดินหมากบนกระดานผิดแค่ครั้งเดียวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กรณีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้รัฐนาวาลำนี้ถูกต้อนไปสู่มุมอับ

แม้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และองคาพยพเพื่อไทย รวมถึง 4 พรรคร่วมรัฐบาลจะส่งสัญญาณถอยจนเกียร์พัง แต่ไม่สามารถลดอุณหภูมิทางการเมืองได้ นับวันสถานการณ์การเมืองยิ่งเขม็งเกลียวเข้าสู่จุดแตกหัก ขยับไปสู่การขับไล่รัฐบาล

เมื่อกระบวนการ "ถอย" ในระบบยิ่งลักษณ์และพวก ไม่สามารถสู้กับมวลชน "นอกระบบ" ที่สู้ตามท้องถนนของพรรคประชาธิปัตย์ และเครือข่ายได้

แกนนำในรัฐบาลและแกนนำพรรคเพื่อไทยจึงตัดสินใจร่วมกัน ใช้เกม "นอกระบบ" รบระดับมวลชนสู้กับฝ่ายตรงข้าม แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน

เมื่อ ฝ่ายหนึ่งปลุกกระแสดึงมวลชนหวังขับไล่รัฐบาลแบบสุดซอย ฝ่ายพรรคเพื่อไทยจึงปลุกมวลชนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นมาสู้ เพื่อปกป้องรัฐบาลแบบสุดซอยเช่นกัน

หลัง 2 แกนนำเสื้อแดงคนสำคัญ จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกเรียกไปเคลียร์ใจนายกฯ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า และพบ เยาวภา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค ขณะที่แกนนำเสื้อแดงระดับรองถกรอยร้าวกับผู้บริหารพรรคที่พรรคเพื่อไทย

ปัญหา-รอย ร้าวระหว่างคนเสื้อแดง นปช. กับพรรค กรณี "ถูกถอด" รายการออกจากผังกลางอากาศในทีวีคนเสื้อแดง ก็ได้รับการสะสางเยียวยาให้กลับมาออกอากาศได้อย่างเดิม ไม่นับ "ดีลพิเศษ" ที่ไม่มีการเปิดเผย จนกลับมาร่วมปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์อีกครั้ง

ไม่แปลก หลังการเคลียร์ใจ จึงมีการชุมนุมของคนเสื้อแดงถึง 10 วันติดต่อกัน ใช้ธีมจัดงานว่า "นปช.เพื่อคนไทยปกป้องประชาธิปไตย" นัยหนึ่งเป็นการแสดงขุมกำลังให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นว่าคนเสื้อแดงไม่ได้แตก กัน อีกนัยหนึ่งเป็นการประกาศชักธงรบ เพื่อมิให้ "อำมาตย์" ที่คนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยนิยามกลุ่ม "นายทุน" ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมมาโค่นล้มรัฐบาลทำสิ่งที่หวังได้สำเร็จ

โดยมีการกำหนดในปฏิทินชัดเจนเมืองทองธานี-ขอนแก่น-เชียงใหม่-อุดรธานี-ชลบุรี ต่อจากนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองเป็นตัวกำหนด

แหล่งข่าวจากแกนนำคนเสื้อแดงระบุว่า แนวโน้มเวทีดังกล่าวอาจจัดเกินกว่า 10 วัน หรือจนกว่าการเมืองจะคลี่คลาย โดยจะจัดตามจังหวัดที่เป็นฐานของคนเสื้อแดง เช่น อุบลราชธานี พิษณุโลก นครสวรรค์ หรืออาจย้อนกลับมาจัดที่ กทม.อีกครั้ง หากการเมืองยังรุนแรงอยู่ และอาจใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นที่จัดงาน

กลยุทธ์ ที่พรรคเพื่อไทย+คนเสื้อแดงระดมคนมาร่วมเวทีดังกล่าว กำหนดให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่อยู่ในจังหวัดใกล้เคียงกับสถานที่จัดงาน ระดมคนเข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ขณะ ส.ส.ในจังหวัดที่อยู่ไกลออกไป แต่ละเขตต้องหาคนประมาณ 3 คันรถบัส หรืออย่างน้อยเขตละ 150 คนมาร่วมชุมนุม ตั้งเป้าแต่ละจุดต้องมีคนมาร่วมไม่ต่ำกว่าระดับ 1 หมื่นคน เพื่อแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่า แม้ใน กทม.จะมีชนชั้นกลาง ปัญญาชน ออกมาขับไล่รัฐบาล แต่คนส่วนใหญ่ในต่างจังหวัดยังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และ "ยิ่งลักษณ์" ต่อไป

"ก่อ แก้ว พิกุลทอง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง อธิบายการแสดงพลังครั้งนี้ว่า เป็นการแสดงพลังเพื่อให้ฝ่ายที่คิดล้มรัฐบาล เลิกใช้วิธีเดิม ๆ เหมือนที่เคยทำตอนปี 2549 คนเสื้อแดงจึงต้องออกมาปกป้องประชาธิปไตย เพราะเชื่อว่าจะมีฝ่ายที่ออกมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์เผด็จศึกพรรคเพื่อไทยและ รัฐบาล แต่ตนพูดไม่ได้ว่าเป็นฝ่ายไหน

ด้าน "วิภูแถลง พัฒนภูมิไท" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงอีกราย ประเมินสถานการณ์ว่า วันนี้การต่อสู้ของคนเสื้อแดงอยู่ในโหมด "สู้รบ" ระหว่างอำนาจเก่า คือ "อำมาตย์" กับ อำนาจใหม่ คือ "พรรคเพื่อไทย" ซึ่งกลุ่ม "อำมาตย์" ใช้พรรคประชาธิปัตย์เป็นเครื่องมือ มีกลไกศาลประชาชนที่ "สุเทพ" ประกาศไว้บนเวทีมาตัดสิน เป็นการ "ขุดบ่อล่อปลา" ให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้ทหารมีความชอบธรรมออกมาแทรกแซงสถานการณ์

"สิ่งที่ห่วงใยที่สุดคือการสร้างความเกลียดชังให้กระแสสูง ในที่สุดสงครามกลางเมืองรออยู่ข้างหน้า เมื่อนั้นแหละไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา"

ขณะ ที่แกนนำแดงอีกราย "วรชัย เหมะ" ส.ส.สมุทรปราการ บอกว่า วันนี้เรายังไม่จัดเวทีถาวร แต่ถ้าปล่อยให้เขาชกข้างเดียวต่อไป เราก็อยู่เฉยไม่ได้ วันข้างหน้าผมอาจเสนอว่าใช้สวนลุมพินีเป็นสถานที่ถาวรในการชุมนุมของคนเสื้อแดง

เมื่อต่างฝ่ายต่างมีมวลชนเป็นของตนเอง 

เมื่อต่างฝ่ายต่างปลุกมวลชนขึ้นมาห้ำหั่นกัน 

ต้องจับตาดูว่าการเมืองไทยจะถึงจุดคลี่คลาย หรือแตกหักกันอีกคำรบ

 

 

ผมรู้แต่ว่า นี่จะเป็นก้าวที่พลาดของคนเสื้อแดงที่ยังเป็นทาสของทักษิณ

เป็นก้าวที่พลาดของ จตุพวย ไอ้เต้น เพราะสิ่งที่พวกมันคิดว่าเป็นสงคราม

ไม่ใช่สงครามของเสื้อเหลือง กับ เสื้อแดง เหมือนในอดีต

 

แต่มันกำลังทำสงครามกับมวลมหาชนทั้งประเทศ 

ที่เสื้อแดงจะเหลือเพียงหยิบมือเดียว เท่านั้น

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1384417874


แกล้งก็แล้ว ดึงเกมก็แล้ว ต้องมากลายเป็นอิโง่กินแห้ว แถมยัง แหกหมอเย็บไม่ติด น่าสังเวช

26 กันยายน พ.ศ. 2556 - 14:43

รบ.ช้ำหนัก !! ศาลปกครองสูงสุดเคาะยืนตามศาลปกครองกลาง คืนตำแหน่งเลขาสมช.ให้ถวิล เปลี่ยนศรี -ชี้ขัดกม. มีเจตนาแอบแฝง  -ด้านเจ้าตัว ระบุ ไม่ได้หวังตำแหน่งแค่อยากให้เป็นธรรม

 
 
 
 


วันนี้ ( 24 ก.ย.) ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก กรณีที่นายกรัฐมนตรี ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152 /2554 วันที่ 7 ก.ย. 2554 ที่ให้นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ โดยนายถวิล ผู้ฟ้องคดีนี้ได้เดินทางมาด้วยตนเอง แต่ไม่ประสงค์ที่จะแถลงปิดคดี ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกฟ้องคือนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือก.พ. เป็นผู้รับมอบอำนาจ แถลงปิดคดีด้วยวาจา

 
 


          หลังจากที่คู่กรณีแถลงด้วยวาจาเสร็จแล้ว องค์คณะได้ให้ตุลาการผู้แถลงคดีแถลงความเห็นส่วนตัวต่อคดีที่ไม่มีผลผูกพันต่อการพิจารณาวินิจฉัยขององค์คณะ โดยเห็น ว่า ตามระเบียบก.พ.ไมได้กำหนดวิธีการปฏิบัติในการโอนย้ายไว้ชัดเจน ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงพบว่า มีการยินยอมของ 2 รัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลหน่วยงานที่จะให้มีการโอนย้ายกัน แม้จะมีลักษณะเร่งรีบ แต่ก็เชื่อว่ามีการประสานงานกันก่อนแล้ว จึงไม่ทำให้ขั้นตอนการโอนย้ายเสียไป อีกทั้งมีการเสนอให้ ครม.เห็นชอบในเวลาต่อมา และมีการนำความขึ้นกราบบังคงทูลฯ ดังนั้นคำอุทธรณ์ของนายกรัฐมนตรีรับฟังขึ้น ส่วนที่นายถวิลอ้างว่า การใช้ดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งโยกย้ายไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีเจตนาแอบแฝงและหากศาลเข้าไปวินิจฉัยก็จะเป็นการก้าวล่วงฝ่ายบริหารนั้น เห็นว่าตำแหน่งเลขาฯ สมช.เป็นตำแหน่งนักบริหารระดับสูง เทียบเท่าหัวหน้าระดับกรม มีอำนาจหน้าที่และศักดิ์ศรีมากกว่าตำแหน่งที่ปรึกษา หากจะมีการโยกย้ายก็ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและเป็นไปตามหลักคุณธรรม ของมาตรา 42 พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

 


          ซึ่งกรณีดังกล่าวปรากฏหลักฐาน ว่า นายกรัฐมนตรีอ้างเหตุในการย้ายนายถวิล ว่า ไม่ปฏิบัติตามนโยบายด้านความมั่นคงที่รัฐบาลได้แถลงไว้ อีกทั้งตำแหน่ง สมช. เป็นตำแหน่งระดับปฏิบัติ ซึ่งนายถวิลมีความเหมาะสม เชี่ยวชาญด้านการวางแผนในลักษณะเสนาธิการมากกว่าจึงเห็นควรให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่า ตำแหน่งเลขาฯ สมช. เป็นตำแหน่งที่มีบทบาทอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่มากกว่าที่ปรึกษานายกฯ อีกทั้งตามพ.ร.บ.สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นสมาชิกของสภาความมั่นคง เช่นเดียวกับนายกฯและรองนายกฯที่กำกับดูแล ดังนั้นที่อ้างว่าการโอนย้ายนายถวิลเพื่อยกระดับการปฏิบัติงานภาคสนามมาเป็นด้านเสนาธิการจึงไม่อาจรับฟังได้ และที่อ้างว่าการพิจารณาของศาลเป็นการก้าวล่วงอำนาจฝ่ายบริหารนั้น เห็นผู้บังคับบัญชาสามารถใช้ดุลยพินิจแต่งตั้งโยกย้ายผู้ใต้บังคับบัญชาได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ หากให้ศาลมีอำนาจตรวจสอบแค่ขั้นตอน โดยไม่อาจตรวจสอบเจตนาการใช้ดุลยพินิจ ว่า ชอบหรือไม่ ก็อาจเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ซึ่งกรณีนี้มีการนำเสนอข่าว การยอมรับของรองนายกฯที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในขณะนั้น ว่ายินดีที่จะถูกย้ายจากตำแหน่ง ผบ.ตร. หากมีตำแหน่งที่เหมาะสมกว่า อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่า นายถวิล ซึ่งเคยเป็นเลขาธิการ ศอฉ. รัฐบาลนี้จึงไม่อยากให้อยู่ในตำแหน่ง

 


          แม้คำสัมภาษณ์ดังกล่าวของรองนายกฯที่ปรากฏทางสื่อฯจะไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานในการวินิจฉัยได้ แต่ในข้อเท็จจริงปรากฏว่า เหตุการณ์หลังจากนั้น เป็นไปตามคำพูดของรองนายกฯ ประกอบกับการย้ายตำแหน่งนายถวิล ไปดำรงตำแหน่งอื่นก็ควรเป็นตำแหน่งที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการ ที่ไม่ด้อยไปกว่าตำแหน่งเลขาฯสมช.และควรได้รับการยินยอมจากนายถวิล เช่นเดียวกับที่ย้ายพล.ต.อ.วิเชียร พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. รวมถึงการย้ายนายถวิล ก็ไม่ได้เกิดจากการดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี จึงเห็นว่าการย้ายนายถวิล ไม่ได้มีเจตนาที่แท้จริงตามที่อ้างว่าย้ายเพื่อยกระดับการบริหารงานด้านความมั่นคง ซึ่งการใช้ดุลยพินิจของนายกฯไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเห็นควรเสนอต่อศาลปกครองสูงสุดให้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายและให้คืนตำแหน่งเลขาฯ สมช.แก่นายถวิล นับแต่วันที่มีคำสั่งย้าย โดยหลังการพิจารณาคดีครั้งแรกเสร็จสิ้น องค์คณะไม่ได้แจ้งให้คู่กรณีได้ทราบว่าจะมีคำสั่งในคดีนี้เมื่อใด

 


          ด้านนายถวิล กล่าวภายหลังที่เข้ารับฟังการพิจารณาคดีครั้งแรก ว่า ตนรู้สึกพอใจกับการพิจารณาคดีดังกล่าว และมั่นใจว่าสิ่งที่ตนถูกกระทำนั้นไม่เป็นธรรม มีวาระแอบแฝง ซึ่งตนจะเกษียณอายุราชการในปี 2557 ก็หวังว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งออกมาก่อนวันที่ 30 ก.ย. 57 หากเป็นคำสั่งที่ออกมาเป็นคุณแก่ตนเองนั้น ก็จะพิจารณาการเยียวยาของรัฐว่าเป็นไปในลักษณะที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้เสนอว่า ตนควรไปฟ้องร้องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิดนายกฯและคณะรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้ที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม แต่ตนเป็นข้าราชการมา 30 ปี ไม่อยากเห็นนายกฯและคณะรัฐมนตรี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะสาเหตุมาจากตน แต่หากคำพิพากษาไม่เป็นคุณก็จะทำหน้าที่ที่ปรึกษานายกฯให้ดีที่สุดจนกว่าจะเกษียณ

 


          นายถวิลยังกล่าวอีกว่า การกลับเข้าไปดำรงแหน่งเลขาฯ สมช.หรือไม่ สำคัญน้อยกว่าการรักษาองค์กรสมช.ไว้ โดยในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา องค์กรสมช.ได้มีความผิดเพี้ยนไปมาก เนื่องจากถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ซึ่งมีการย้ายทหารและตำรวจเข้ามาดำรงตำแหน่งต่างๆ ซึ่งในวันที่ 30 ก.ย. นี้ จะมีตำแหน่งรองเลขาธิการ สมช. ว่างลง 2 ตำแหน่ง จึงอยากฝากถึงรัฐบาลและผู้มีอำนาจ ว่า คนในสมช.มีความพร้อมในด้านวัยวุฒิและคุณวุฒิ จึงไม่อยากให้มีการพิจารณาเอาบุคคลภายนอกมาดำรงตำแหน่งให้ซ้ำรอยตนเอง เพราะจะทำให้กระทบต่อขวัญกำลังใจข้าราชการสมช.

 

http://www.tnews.co....เปลี่ยนศรี.html


น่าน้อยใจ ชัดๆเต็มสองตาขนาดนี้ มีหน่วยงานใหน มองว่าเป็นภัยความมั่นคงบ้าง

15 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:18

พวกสัสนรกฆ่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตาย ชาวบ้านตาย พวกสัสหนักโลก ยังแว้งมาจาบจ้วง เหยียบหัวใจกุอีก

ดีเอสไอ รัฐบาล ไอซีที พวกคุณก็เก่งแต่จับคนไทย ช่วยนายกโง่ แต่ไม่มีน้ำยาจัดการ

พวกสัสระยัมพวกนี้

 

www.facebook.com/fatoni.tiger.180

 

เลียง่ามตรีนอิปูว์กันเสร็จแล้วหันมามองหน่อยนะ


กูขอโทษ กูไม่แดง แต่กูเป็นเพื่อนมึง มาก่อนที่มึงจะแดง

13 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 22:43

กระแสแตกแยก แบ่งสี และขั้วทางการเมืองเกิดเป็นกระแสในวงกว้างทางสังคม
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว และ เป็นจริง แม้กระทั่งในครอบครัว ผัวเมียลูก
หลายๆครอบครัวที่ประสบปัญหานี้ จนเกิดเป็นปัญหาใหม่ในสังคมไทยปัจจุบัน
ผัวแดง เมียเหลือง ลูกฟ้า. นั่งกินข้าวร่วมกันได้ แต่ห้ามเสวนาเรื่องการเมือง
เหตุจากความชอบ ความคิดเห็น ความรู้สึกที่ต่างกัน สิ่งที่ผูกโยงสัมพันธ์เอาไว้
ไม่ให้ครอบครัวแตกสลาย คือสายเลือด และความรัก ของครอบครัว

แต่ถ้าเป็นเพื่อนล่ะ ??
เพื่อนรักคนหนึ่งของผมเป็นเสื้อแดง ในขณะที่ผมเป็นแมงสาบ เราคบหากันมานานเหลือเกิน
เพื่อนเจ็บ เราเจ็บ เพื่อนมีความสุข เรามีความสุข เพื่อนเดือดร้อน เราเดือดร้อน
ทุกๆปัญหา ทุกๆความสุข. ผมกับเพื่อน เราก็พึ่งพาช่วยเหลือกันมาตลอด
แม้กระทั่งในบางเรื่อง ที่เอ่ยบอกใครไม่ได้

วันวาน เราได้ร่วมวงสุราพูดคุยสัพเพเหระ. และปัญหาชีวิต หลังจากที่เราห่างหายกันไปตามยถา
ผมเริ่มไต่ถามถึงสารทุกข์เหมือนเดิมที่เราเคยเป็นมา มึงเลิกกะเมียแล้ว ลูกมึง หลานมึง เป็นไงมั่งเพื่อน
มันก็บอกเล่าเก้าสิบ ตามสถานภาพของคนเป็นพ่อ เป็นตา พร้อมกับตัดพ้อวัยที่ลุล่วงรวมถึงภาระ จนไม่สามารถ
ทำอะไรอิสระได้ดั่งเช่นเคยเป็น ผมนั่งฟังเพื่อน เหมือนเช่นที่ผ่านมานับสิบๆปี ด้วยรอยยิ้มเปี่ยมด้วยความผูกพันธ์
จนจบความ

แม่มึงเป็นไงมั่ง คำถามของเพื่อนต่อผม เป็นคำแรกในวันแม่ และเป็นประเด็นจุดชนวน ผมบอกเล่าเรื่องมารดา
เรื่องครอบครัว ที่เสี่ยงชีวิตเหลือเกินในแต่ละวัน ด้วยภัยโจรสามจังหวัดภาคใต้ ที่ผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ต้องประสบ
ความห่วงใยต่อเพื่อนร่วมชะตากรรมในพื้นที่ ความสูญเสียของทหารผู้น้อย ความน้อยใจในสถานะของคนพุทธ
ในพื้นที่. และสรุปด้วยความรู้สึกที่อยากทิ้งเมืองกรุง เพื่อกลับไปร่วมชะตากับพี่ๆน้อง

แต่ผมกลับได้ยินจากปากเพื่อนเต็มสองหู ด้วยประโยคที่ว่า. ถ้าไม่ปฏิวัติทักษิณเสียก่อนปัญหานี้จะไม่เกิด..........

ผมอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะถามกลับไปว่า แล้วมึงรู้ไหม ใครจุดไฟเผาบ้านกู
มันตอบแบบมั่นใจเหลือเกินว่า.
" ประชาธิปัตย์ กลัวฐานเสียงทางภาคใต้ต้องเสียให้ทักษิณ จึงก่อชนวนความวุ่นวาย จนยากที่จะแก้"
แล้วอารัมภบทต่อเนื่อง ถึงความเลวของพรรคนี้ และการต่อสู้ของเสื้อแดง เพื่อล้ม ปชป ตบท้ายด้วย
การสำทับว่า ถ้าพื้นทีทางภาคใต้เป็นแดง ปัญหานี้จะคลี่คลาย เพราะคนแดงทั้งประเทศจะไม่มีทางยอม
ให้ใครมารังแกคนใต้เด็ดขาด เหมือนที่คนแดงเคยช่วยกันมาตลอด พร้อมส่งสายตาแสดงออกว่า
เป็นเพราะมึงเลือก ปชป

เห็นท่าจะไม่ค่อยดี เพราะถึงแม้ว่าผมจะอธิบายไป แต่ก็ไม่สามารถเอาความจริงอีกมุมอธิบายความรู้สึกต่อเพื่อนได้
ผมจึงบอกกับเพื่อนอย่างรอมชอมและสุภาพที่สุดว่า...

เพื่อน...กูคบหามึงก่อนทีทักษิณจะมาเป็นนายก กูรักมึงเพราะมึงคือเพื่อนกู เพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกัน
กูรักมึงไม่ใช่เพราะ ปชป และไม่เกี่ยวกับปัญหาบ้านกู และกู ก็อยากจะรักกับมึง ในแบบนี้ ตลอดไป
เพราะมึงคือมึง.

กูคบกับมึงเพราะเราคือเพื่อนที่รับรู้รับฟังปัญหาซึ่งกัน ไม่ได้เกี่ยวพันกับใคร
ต่อไปนี้ มึงกับกู จะคบหากันด้วยความเป็นเพื่อน ที่ไม่เกี่ยวพันกับปัญหาทางการเมือง
มึงจะรักใครในแง่มุมการเมือง. กูจะชื่นชมใครในเรื่องการบริหารประเทศ.
เราทิ้งไว้ตรงนั้น. กูจะเลี่ยงที่จะพาดพิง. มึงจงเลี่ยงที่จะกล่าวถึง.

ขอให้ความรู้สึกดีๆ ของมึง กับกู ที่มีมาก่อนทักษิณและ ปชป เป็นมิตรภาพที่นิรันดรตลอดไป


เพื่อนผม มองหน้าผมอย่างตั้งใจ.
แล้วบอกผมว่า " แล้วจะคุยกันได้อย่างไรในเมื่อมึงกับกู คุยกันคนละเรื่อง"
ผมหัวเราะ แล้วบอกมันว่า ตอนมึงมีปัญหากับเมีย ตอนมึงมีปัญหากับลูก แล้วมึงโทรมาหากู
มึงเคยรู้ไหมว่า กูเป็นแมงสาบ......ไอเ หี้ย....

กูขอโทษ กูไม่แดง แต่กูเป็นเพื่อนมึง มาก่อนที่มึงจะแดง

13 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 22:43

กระแสแตกแยก แบ่งสี และขั้วทางการเมืองเกิดเป็นกระแสในวงกว้างทางสังคม
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว และ เป็นจริง แม้กระทั่งในครอบครัว ผัวเมียลูก
หลายๆครอบครัวที่ประสบปัญหานี้ จนเกิดเป็นปัญหาใหม่ในสังคมไทยปัจจุบัน
ผัวแดง เมียเหลือง ลูกฟ้า. นั่งกินข้าวร่วมกันได้ แต่ห้ามเสวนาเรื่องการเมือง
เหตุจากความชอบ ความคิดเห็น ความรู้สึกที่ต่างกัน สิ่งที่ผูกโยงสัมพันธ์เอาไว้
ไม่ให้ครอบครัวแตกสลาย คือสายเลือด และความรัก ของครอบครัว

แต่ถ้าเป็นเพื่อนล่ะ ??
เพื่อนรักคนหนึ่งของผมเป็นเสื้อแดง ในขณะที่ผมเป็นแมงสาบ เราคบหากันมานานเหลือเกิน
เพื่อนเจ็บ เราเจ็บ เพื่อนมีความสุข เรามีความสุข เพื่อนเดือดร้อน เราเดือดร้อน
ทุกๆปัญหา ทุกๆความสุข. ผมกับเพื่อน เราก็พึ่งพาช่วยเหลือกันมาตลอด
แม้กระทั่งในบางเรื่อง ที่เอ่ยบอกใครไม่ได้

วันวาน เราได้ร่วมวงสุราพูดคุยสัพเพเหระ. และปัญหาชีวิต หลังจากที่เราห่างหายกันไปตามยถา
ผมเริ่มไต่ถามถึงสารทุกข์เหมือนเดิมที่เราเคยเป็นมา มึงเลิกกะเมียแล้ว ลูกมึง หลานมึง เป็นไงมั่งเพื่อน
มันก็บอกเล่าเก้าสิบ ตามสถานภาพของคนเป็นพ่อ เป็นตา พร้อมกับตัดพ้อวัยที่ลุล่วงรวมถึงภาระ จนไม่สามารถ
ทำอะไรอิสระได้ดั่งเช่นเคยเป็น ผมนั่งฟังเพื่อน เหมือนเช่นที่ผ่านมานับสิบๆปี ด้วยรอยยิ้มเปี่ยมด้วยความผูกพันธ์
จนจบความ

แม่มึงเป็นไงมั่ง คำถามของเพื่อนต่อผม เป็นคำแรกในวันแม่ และเป็นประเด็นจุดชนวน ผมบอกเล่าเรื่องมารดา
เรื่องครอบครัว ที่เสี่ยงชีวิตเหลือเกินในแต่ละวัน ด้วยภัยโจรสามจังหวัดภาคใต้ ที่ผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ต้องประสบ
ความห่วงใยต่อเพื่อนร่วมชะตากรรมในพื้นที่ ความสูญเสียของทหารผู้น้อย ความน้อยใจในสถานะของคนพุทธ
ในพื้นที่. และสรุปด้วยความรู้สึกที่อยากทิ้งเมืองกรุง เพื่อกลับไปร่วมชะตากับพี่ๆน้อง

แต่ผมกลับได้ยินจากปากเพื่อนเต็มสองหู ด้วยประโยคที่ว่า. ถ้าไม่ปฏิวัติทักษิณเสียก่อนปัญหานี้จะไม่เกิด..........

ผมอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะถามกลับไปว่า แล้วมึงรู้ไหม ใครจุดไฟเผาบ้านกู
มันตอบแบบมั่นใจเหลือเกินว่า.
" ประชาธิปัตย์ กลัวฐานเสียงทางภาคใต้ต้องเสียให้ทักษิณ จึงก่อชนวนความวุ่นวาย จนยากที่จะแก้"
แล้วอารัมภบทต่อเนื่อง ถึงความเลวของพรรคนี้ และการต่อสู้ของเสื้อแดง เพื่อล้ม ปชป ตบท้ายด้วย
การสำทับว่า ถ้าพื้นทีทางภาคใต้เป็นแดง ปัญหานี้จะคลี่คลาย เพราะคนแดงทั้งประเทศจะไม่มีทางยอม
ให้ใครมารังแกคนใต้เด็ดขาด เหมือนที่คนแดงเคยช่วยกันมาตลอด พร้อมส่งสายตาแสดงออกว่า
เป็นเพราะมึงเลือก ปชป

เห็นท่าจะไม่ค่อยดี เพราะถึงแม้ว่าผมจะอธิบายไป แต่ก็ไม่สามารถเอาความจริงอีกมุมอธิบายความรู้สึกต่อเพื่อนได้
ผมจึงบอกกับเพื่อนอย่างรอมชอมและสุภาพที่สุดว่า...

เพื่อน...กูคบหามึงก่อนทีทักษิณจะมาเป็นนายก กูรักมึงเพราะมึงคือเพื่อนกู เพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกัน
กูรักมึงไม่ใช่เพราะ ปชป และไม่เกี่ยวกับปัญหาบ้านกู และกู ก็อยากจะรักกับมึง ในแบบนี้ ตลอดไป
เพราะมึงคือมึง.

กูคบกับมึงไม่ใช่เพราะเราคือเพื่อนที่รับรู้รับฟังปัญหาซึ่งกัน ไม่ได้เกี่ยวพันกับใคร
ต่อไปนี้ มึงกับกู จะคบหากันด้วยความเป็นเพื่อน ที่ไม่เกี่ยวพันกับปัญหาทางการเมือง
มึงจะรักใครในแง่มุมการเมือง. กูจะชื่นชมใครในเรื่องการบริหารประเทศ.
เราทิ้งไว้ตรงนั้น. กูจะเลี่ยงที่จะพาดพิง. มึงจงเลี่ยงที่จะกล่าวถึง.

ขอให้ความรู้สึกดีๆ ของมึง กับกู ที่มีมาก่อนทักษิณและ ปชป เป็นมิตรภาพที่นิรันดรตลอดไป


เพื่อนผม มองหน้าผมอย่างตั้งใจ.
แล้วบอกผมว่า " แล้วจะคุยกันได้อย่างไรในเมื่อมึงกับกู คุยกันคนละเรื่อง"
ผมหัวเราะ แล้วบอกมันว่า ตอนมึงมีปัญหากับเมีย ตอนมึงมีปัญหากับลูก แล้วมึงโทรมาหากู
มึงเคยรู้ไหมว่า กูเป็นแมงสาบ......ไอเ หี้ย....