TheBook

ในที่สุด เอกยุทธ์ก็ตาย คดีนี้พิรุธมากมายตั้งแต่วันแรก

มีการพยายามจะเน้นประเด็นการไล่ออกพนักงานมากที่สุด

แล้วสุดท้าย ก็เป็นเรื่องพนักงานจริงๆ

จึงอยากจะทำสรุปพิรุธในคดีนี้ไว้ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและเพิ่มเติมข้อมูลกันในบอร์ดนี้ เพราะมีหลายท่านได้ตั้งข้อสังเกตุที่ดีๆ

จึงอยากจะเอามารวบรวมกันไว้ที่กระทู้เดียว

 

พิรุธที่เราสงสัยคือ

 

1.คนขับรถ เพิ่งเข้างานมาแค่ไม่กี่เดือน ทำไมถึงกล้าที่จะทำฆาตกรรม

2.ตอนนี้ ไม่ชัดเจนว่าผู้ร่วมขบวนการ เพียงแค่ช่วยเหลือ หรือ ร่วมกันทำการฆาตกรรมด้วยตั้งแต่เริ่มการลักพาตัว

3.ข้อมูลจากทางตำรวจที่ออกมา มีแต่ความไม่ชัดเจนจนถึงเวลานี้ ที่รู้แค่ว่า คนขับรับสารภาพ ว่าบีบคอฆ่าเอกยุทธ์

   ทำไมไม่ชัดเจนเหมือนคดีอื่นๆ ที่จะต้องเค้นหารายละเอียดให้ชัดเจนถึงแผนว่ามีอะไรบ้าง ในข่าวไม่มีแจ้งรายละเอียดนี้เลย 

   น่าสงสัยมาก ว่าทำไมไม่มี ที่ผ่านมาจะมีการรายงานข่าวตลอด

4.คืนนี้ 11 มิ.ย. จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพเลย จริงหรือ ทำไมรวบรัดขนาดนั้น

5.เอาคนขับออกมาแถลงข่าวทำไม ทั้งๆที่เปิดพิรุธในคำให้การมากมายขนาดนั้น เพื่ออะไร

6. จับได้ตั้งแต่เที่ยงเมื่อวานนี้ เอาไปทำอะไรทั้งวันเพิ่งจะออกมาแถลงข่าวแบบมีพิรุธมากมายตอน 11 โมงวันนี้

7. ทำไมรับสารภาพเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากป๋าเหลิมให้สัมภาษณ์ชี้นำ

8. เมื่อวานนี้ทั้งวันทั้งคืน ไอ้คนขับมันไม่สารภาพ แต่พอออกโทรทัศน์แค่ไม่กี่ชั่วโมง สารภาพได้อย่างง่ายดาย

9. หลังจากสารภาพแค่ไม่นาน ก็จับผู้ร่วมขบวนการอีกคนนึงได้ทันที

10. ช่วงแถลงข่าว คุณเคยเห็นคนร้ายคนไหนที่มั่นใจในการพูดต่อหน้าตำรวจขนาดนี้ไหม

      เขาพูดอย่างฉาดฉานมาก เหมือนไม่กลัวอะไร ปกติถ้าคนทำผิด เวลาเจอตำรวจหรือนักข่าวถามจะไม่กล้าตอบมั่นใจแบบนี้หรอก

 

นี่เป็นข้อสงสัยของเราเบื้องต้น ณ เวลานี้

วันพรุ่งนี้เห็นสำนวนแล้วจะตั้งข้อสังเกตุเพิ่มเติม

 

จากการรวบรวมข้อมูล เราคาดการณ์สรุป Crime Scene พอจะได้ดังนี้

 

แผนมันเริ่มต้นจาก ร้านกระแต ร้านอาหารที่คุณเอกยุทธ์ไปทานกับเพื่อน ในคืนวันที่ 6

คนขับรถ ที่ปกติจะสั่งอาหารมาหลายอย่างกลับสั่งแค่อย่างเดียว ไม่ทักทายใคร คุยโทรศัพท์ตลอด แล้วก็ขับรถออกไป

ออกไปรับ ทีมลักพาตัว น่าจะมีประมาณ 3 คน ขึ้นมานั่งอยู่ด้านหลังรถตู้ ซ่อนอยู่

เพื่อไม่ต้องการให้ใครสงสัย ก็เลยต้องถอยเอาท้ายรถเข้ามา โดยถอยลากมายาวถึง 50 เมตร ทั้ๆที่สามารถเอาหัวเข้าแล้วกลับรถได้

เพราะ

1 ไม่ต้องการให้ผิดสังเกตุว่ามีการนำรถเข้ามาตอนไหน และ

2 ถ้าเข้ามากลับจะมีคนเห็นหลายคน ซึ่งมีสิทธิที่จะสังเกตุเห็นทีมที่ซ่อนตัวในรถตู้ได้ เพราะกระจกหน้าไม่ได้ติดฟิล์ม

นี่คือแผนที่แยบยลอันแรก

 

ต่อมาเมื่อเอกยุทธ์ขึ้นรถ ทีมที่ซ่อนตัวอยู่ก็ล็อกตัวเอกยุทธ์ทันที  รถตู้ติดฟิล์มทึบ ไม่มีใครมองเห็นข้างในได้

มีการบังคับให้เขียนเช็คสั่งจ่ายโดยให้ไปเอาเช็ค จากที่บ้าน

คนขับเลยพาขึ้นทางด่วน เพราะข้างล่างรถติด เกรงจะมีคนสังเกตุเห็นผ่านฟิล์มได้

นี่ก็แยบยลอีกแผนนึง

 

ไปถึงบ้าน เอกยุทธ์ใช้มุกหากุญแจบ้านไม่เจอ ต้องโทร.ถาม โดยพยายามพูดให้คนฟังรู้ตัว แต่คนฟังกลับไม่สามารถสังเกตุได้

แต่เข้าไปแล้วก็ไม่มี เอกยุทธ์ใช้แผนถ่วงเวลา

เวลานั้น คนที่เข้าไปบ้านกับเอกยุทธ์ มีอย่างน้อย 2 คน รวมคนขับด้วย เพื่อกันเอกยุทธ์วิ่งหนี

ถ้าดูจากเทป จะเห็นว่าเอกยุทธ์ถูกใส่กุญแจมืออยู่

สิ่งที่ยืนยันว่าคนร้ายเป็นผู้ที่มีความรู้และมีการวางแผนมาอย่างดี คือ การถามเอกยุทธ์ว่า เซอร์เวอร์กล้องวงจรปิดของบ้านอยู่ที่ไหน

ซึ่งบอกตามตรงว่า ถ้าเป็นพวกคนร้ายธรรมดา ไม่มีใครกล้าไปที่บ้านแน่นอน แถมมีการเช็คเรื่องกล้องวงจรปิดด้วย

นั่นคือหลักฐานชิ้นสำคัญ  และคนร้ายก็เอาแล้วออกไปพร้อมกับเอกยุทธ์

 

เมื่อยังไม่ได้เงิน เอกยุทธ์ก็ยังไม่ตาย คนร้ายก็พาออกไปเพื่อทำการ รีดเงินต่อ

แต่เนื่องจากเป็นกลางคืน ยังไงก็เบิกเช็คไม่ได้ จึงต้องรอเช้าวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันศุกร์

ก็ตามปกติ เอาสมุดเช็คไปให้เอกยุทธ์ คนเอาสมุดเช็คไปให้ก็ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมเอกยุทธ์ไม่มารับเอง

แต่ก็อย่างนี้ ปกติก็ทำกันอย่างนี้ เลยไม่มีใครสงสัย

เมื่อได้ 5 ล้านแล้ว

ก็ได้เวลาตายของเอกยุทธ์

 

คนขับ และ เพื่อนจัดการ อำพรางศพ หลังจาก ทีมฆ่าแบ่งเอาเงินไปแล้ว

โดยเตี๊ยมกันไว้เรียบร้อย

คนขับที่มีส่วนในการฆาตกรรม ก็เอ้อละเหยลอยชาย ขับรถเข้ากรุงเทพลั้นลา

ทั้งๆที่เพิ่งฆ่าคน แต่ดันขับรถของเหยื่อวิ่งมากี่จังหวัด 

เพื่อมาให้จับที่สมุทรสาคร อ้างว่ายางแตก

อันนี้คือ แผนที่โง่เกินคนจะคิดได้ ต่างจากแผนตอนจับตัวลิบลับ

 

พอออกหน้าสื่อ

ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ท่องบทกันอย่างดีขึ้นใจ พูดจาฉาดฉาน ตาแข็งกร้าวมั่นใจเต็มที่

เอามาแถลงข่าวเพื่อทดสอบกระแส ว่าคนเชื่อหรือเปล่า

พอเห็นว่า ไม่มีคนเชื่อว่าเอกยุทธ์จะจัดฉากหนีไปพม่าเอง

แถมเจอร้านกระแตแฉพิรุธคนขับ

 

บ่ายๆ ป๋าเหลิมก็บอกว่า ฆาตกรรม เย็นๆ ฆาตกรก็ สารภาพ ค่ำๆก็จับคนร่วมขบวนการได้ ดึกๆทำแผน

แล้วก็จบ

ง่ายจริงๆ ฆ่าคนสมัยนี้

 

ถ้าเป็นคดีลักพาตัวยิ่งลักษณ์ล่ะก็ ต้องดูต้องสืบกันลึกไปอีกว่า ไอ้คนขับมันเป็นคนของใคร

ก่อนมาทำงานนี้มันเคยทำงานเป็นสายให้ใครหรือเปล่า แน่นอน

ไม่มีทางรีบปิดคดีเร็วปานฟ้าผ่าขนาดนี้หรอก!!!!

 

ลุงชัย สู้ๆๆๆๆ

ปชป. ไม่เคยได้คุมเสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จพรรคเดียว ทำอะไรก็ติดๆ ขัดๆ และมักจะได้เป็นรัฐบาลตอนถังแตก

 "เสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง"

สำหรับผู้พลาดชมในช่วงเช้า..  

 

ถ้าสั่งกวาดล้างไล่ฆ่าจริงๆ คงไม่แคล้วเหมือนจตุรัสเทียนอันเหมิน

เอารถถังไล่ยิง อาวุธหนักไล่กวาดล้างดีกว่า แกนนำจับได้ยิงทิ้งหมด ไม่ต่างกับ ............ข้างถนน

ขึ้น ฮ. ไปไล่ยิง เหมือนสมัย ถนอม ประภาส ก็ได้

อยากให้คิดจริงๆ ว่าถ้าทหารหมายเข่นฆ่าประชาชน อภิสิทธิ์สั่งฆ่าจริงๆ ป่านนี้มันจะยังเหลืออีกเหรอ

สั่งให้จับกุม ยิงทิ้งคนในตระกูลชินวัตร นับตั้งแต่วันแรกที่เป็นรัฐบาลก็ได้

ปล. กระทู้จินตนาการ แบบ m 79 ใครก็ตั้งได้ ขอแค่จินตนาการเยอะหน่อย

เหมือนเดิมครับ ปชป. เขาเปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาหลายรอบแล้วครับ

เจ้าของกระทู้เพิ่งเกิดเมื่อวานซืนเหรอครับเลยไม่รู้ 

นี่คือบทความบทวิเคราะห์ส่วนตัว

 

และจะชี้ไปถึงอีกสี่ปีข้างหน้าด้วย

 

"หลังจากนี้ก็ถึงยุคสิ้นสุดของพรรคเพื่อทักษิณในสนามท้องถิ่นอย่างกรุงเทพฯสักที"

 

การเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไทย หรือ เพื่อแม้ว

 

ได้ส่งผู้สมัครที่นับได้ว่า "แข็งแรง" และ "แข็งแกร่ง" ที่สุดมาแล้ว

 

หลังจากนี้ต่อไปคงจะไม่มีใครแข็งแรง แข็งแกร่ง เท่าพงศพัศ อีกแล้ว

 

ลองดูย้อนหลังไปสองคนก่อนก็ได้

 

ตุ๊ ประภัสร์ กับ แซม ยุรนันท์ ยังไม่มีความแข็งแรงเท่าพงศพัศเลย

 

ทั้งความนิยม ความเชื่อมั่น ก็ยังเทียบไม่ติด

 

ที่พูดแบบนี้ผมก็ยังให้ราคาค่าตัว จูดี้ พงศพัศอยู่บ้าง เพราะเป็น

 

บุคคลหนึ่งที่พอมีต้นทุนทางสังคมอยู่ เชื่อว่าทักษิณก็คงจะเห็นจุดนี้

 

ถึงเคาะแล้วส่งลงสมัคร หลังจากนี้อีก 4 ปีข้างหน้า ก็คิดว่าคงไม่เท่านี้แล้ว

 

เพราะ "แชมป์ ก็ต้องทำงานหนัก เพื่อรักษาแชมป์ไว้ และ ค่อยๆฟื้นศรัทธา

 

ลบคำปรามาสว่าคนเลือกเพราะความกลัว"

 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการทำงานอย่างหนักของคุณชายสุขุมพันธ์

 

และ "การร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวแบบไร้รอยต่อของสภากทม."

 

เพราะทาง ส.ก. เพื่อไทยเองก็คาดไว้แล้วว่าผลเลือกตั้งเป็นเช่นนี้แน่

 

การร่วมมือทำงานกับคุณชายสุขุมพันธ์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

 

ถ้าไม่มีคำสั่งเชิงบังคับมาให้บรรดา ส.ก. คอยเตะถ่วงซะก่อนนะ

 

หรือ ถ้าถึงที่สุดก็เป็นไปได้ที่จะมีปรากฎการณ์ย้ายค่ายในสนามเล็กนี่แหละ

 

เพราะหวังจะพึ่งพาหญิงหน่อย ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ

 

"เมีย ที่รอ สามี (จากต่างแดน) เรียกขึ้นห้อง"

 

ถ้าไม่เรียกเลย ก็ได้แต่เข้าวัด เฝ้าเรือนมันอย่างนั้นแหละ

 

อำนาจ บารมี ก็อาจเสื่อมลงง่ายๆ สิ่งนี้เหล่าคนใกล้ชิดก็ย่อมรู้อยู่

 

มิฉะนั้นคงไม่ดันเธอลงมาชิงตำแหน่งเป็นตัวแทนพรรคแข่งกับพงศพัศหรอก

 

เมื่อหญิงหน่อยไม่ลง ป้อมค่ายของ "เจ้าแม่ฝั่งพระนคร" ก็สะเทือนพอสมควร

 

นกที่ดีย่อมรู้จักหากิ่งไม้เกาะ นับประสาอะไรกับคน

 

เมื่อป้อมค่ายเจ้าแม่ฝั่งพระนครสะเทือน มีหรือป้อมค่ายของ

 

เจ้าพ่อฝั่งธนฯไม้เบื่อไม้เมาจะไม่กระทบบ้าง เพียงแต่สัญญาณยังไม่ชัด

 

เมื่อสนามเล็กเริ่มสลายพลพรรคเพื่อไทยลง ก็คาดหวังต่อได้เลย

 

สะเทือนถึงสนามใหญ่ในกรุงเทพฯแน่

 

ที่เพื่อไทยมีวันนี้ เพราะ "ขาดสามัคคี คอยแต่แก่งแย่งเอาใจคนต่างแดน"

 

ก็สมควรแล้วที่จะสูญพันธ์ในกรุงเทพมหานคร........

 

โจโฉ นายกตลอดกาล

 

 

ขำ กับจินตนาการไอ้แป๊ะมากมาย คือว่า..

 

ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก สงสัยไอ้แป๊ะกะลูกมันประชุมหารือกันสองคน โอดว่า สาวกหดหายปล่อยไปอย่างนี้จะเหลือแค่หมาสองตัว เห่าไปก็แสบคอหาใครได้ยินไม่ ทำไงดี

ปรึกษากันประสาหมาๆก็ได้ข้อสรุปจนมีชุดความคิดหนึ่งที่ยัดใส่สมองสาวกสายโง่ไม่รุ้สี่รู้แปด(อะไรๆก็ลุงสนธิผู้หยังรู้ จิตอนาถผู้เรืองแสง) ความว่า

 

จะต้านทักษิณ ต้องทำทุกทางเพื่อทำลาย ปชป.ไปจากแผ่นดินให้จงได้เป็นอั้นดับแรก (เห็นหลักฐานได้จากมันและสาวกมุ่งโจมตีปชป.ฝ่ายเดียวในปัจจุบัน) เป้าหมายเพื่อเพิ่มฐานมวลชนที่หรอมแหรม เพิ่มอย่างไร มาดูที่มันหลอกสาวกกัน

 

เมื่อตี ปชป.สิ้นสลายตามจินตนาการแล้ว มวลชนที่แตกระส่ำจาก ปชป. ซึ่งมีเกิน 10 ล้าน ก็จะมาร่วมกับพันธมิตรสายโง่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ร่วมต้านทักษินต่อไป

 

จากมวลชน สมมุติ แป๊ะมี สองแสน(มากไปป่าวเนี่ย) ก็จะกลายเป็น สิบกว่าล้าน+สองแสน เห็นมะ มวลชนมาพรึบ โอกาสเป็นหนึ่งในแผ่นดินก็ไม่ยากแล้ว

 

อันนี้คือเรื่องจริง ที่สาวกดักดานมันรับชุดความคิดนี้มาแล้วตั้งเป้ามาเล่น ปชป. อย่างที่เห็น โดยละเลยความเร่งด่วนที่คนเลวกำลังทำร้ายประเทศ 

 

โชคยังดีที่ พันธมิตรสายดักดาน มีน้อยกว่า พันธมิตรที่คิดเองเป็น หลายเท่า เมื่อมีเหตุประเทศจะถูกกินรวบเขาก็ไม่เอาด้วย นโยบายหลอกพันธมิตรผู้บริสุทธิ์ของไอ้แป็ะ จึงเป็นได้แค่ฝันกลางวัน

 

สมมุติบังเอิญเป็นย่างที่แป๊ะมันฝัน พันธมิตรสายดักดานที่รัก ท่านไม่คิดหรือว่า เมื่อถึงเวลานั้น แป๊ะจะมีเหตุผลร้อยแปดที่จะไปต่อรองยุติศึกโดยขอมีเอี่ยวรวยรากเลือดด้วยคน ก็กำพืดมันเป็นคนแบบนั้น

 

โหวตโน > ถล่มปชป.ก่อนกรือช่วงเลือก ผู้ว่า กทม.    เป้าหมายใเพื่อห้ ปชป.ล้ม มากกว่าล้มทักษิน เห็นกันอยู่

 

พันธมิตรสายดักดาน พบเห็นได้ที่ไหน ก็...มีประปราย ตามถ้ำ ตามหลืบ หากท่านบังเอิญพบเห็น จะได้ยินเสียงเรียกขาน "ลุงสนธิ" "ลุงจำลอง" นั่นหละ แม่นแล้ว ไม่ผิดตัว 5 5 5 5 5 5

 

ปล.ผมไม่ได้ยินจากปากไอ้แป๊ะหรอก แต่ได้ยินจากสาวกแป๊ะสายดักดานเขาพูดกัน เลยมาเล่าต่อ

 

ปล 2 ชื่อ"คนกวาดขยะ"ปัจจุบันไม่มีสถานะเป็นผู้ดูแลเน้ออออ จึงขอลงมาเล่นด้วยในบางครั้ง  

ผมจะบอกให้เอาบุญแล้วกันว่าทำไมโพลถึงคลาดเคลื่อน โดยสมมติฐานที่ว่าอาจารย์มีความจริงใจในการทำโพลก็แล้วกัน

1. อาจารย์สุขุมเคยสนใจหรือไม่ว่าผลโพลที่ประกาศออกมานั้น หากคลาดเคลื่อนไปมากก็ไม่ควรประกาศออกมา โดยเฉพาะโพลด้านการเมือง เพราะมันจะเป็นการชี้นำประชาชนและทำให้ประชาชนไม่พอใจ และเมื่อออกมาตรงข้ามกับผลจริง โพลก็จะเสียเครดิต เมื่อเสียเครดิตแล้วคนที่ไม่พอใจก็จะไม่ตอบ ยิ่งไม่ตอบ โพลก็ยิ่งผิดแบบกลับขั้ว วนกันไปเป็นวงจรอุบาทว์ ถามว่าอาจารย์เคยสนใจหรือไม่
2. อาจารย์มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองที่จะคอยดูผลโพลว่ามันออกมาประหลาดพิกลพิการบ้างหรือไม่ บทเรียน exit poll เลือกตั้ง กทม. คราวที่แล้ว ไม่ได้สอนบทเรียนอะไรอาจารย์เลยหรือ ส่วนตัวผมเห็นว่าการที่อาจารย์ทำผลสำรวจออกมาเอียงเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างน่าเกลียดและขัดกับผลเลือกตั้งอย่างชัดเจน แล้วยังหาญกล้าประกาศมาแบบนี้ น่าจะแสดงว่าอาจารย์ไม่ได้สนใจเลยว่าผลมันจะตรงหรือตรงข้ามกับความเป็นจริงกันแน่
3. โพลเลียนักการเมืองอย่างเช่น โลกแตกอยากให้ใครรอดเอย หรือ ลอยกระทงอยากลอยกับใครเอย แบบนี้ ท่านก็ยังขยันทำออกมา ถามว่าทำแล้วประชาชนได้อะไร นอกจากว่าคนที่ได้คะแนนมากที่สุดก็ปลื้มอกปลื้มใจ แต่ถามว่าผลโพลที่ได้นั้นจริงมั้ย กลับไปดูข้อ 1. ก็แล้วกัน
4. โพลชี้นำอย่างเช่นการตั้งคำถามแบบมีตัวเลือกให้ล่วงหน้าแล้ว ถือเป็นการทำโพลที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ เพราะคนตอบแบบสำรวจย่อมจะตอบตามตัวเลือกที่มีมากกว่าที่จะคิดคำตอบขึ้นมาเอง เมื่อทำออกมาบ่อยๆ คนย่อมสงสัยว่าทำไมคนจึงตอบเหมือนๆ กัน... อ่อ เพราะมีตัวเลือกให้นี่เอง แปลว่าผู้ทำแบบสำรวจจะตั้งตัวเลือกชี้นำคำตอบตามใจตนเองอย่างไรก็ได้ หากใครอ่านตัวเลือกแล้วไม่พอใจไม่อยากตอบทำอย่างไรละครับ ก็ไม่ตอบโพลบ้าง เลือกสุ่มๆ ไปบ้าง แล้วมันจะถูกต้องได้อย่างไร และเมื่อเป็นแบบนี้คนตอบบางคนก็ไม่พอใจว่าทำไมตัวเลือกถึงชี้นำ มันก็กลับไปวนวงจรอุบาทว์ข้อ 1 ต่อ

ยังดีครับที่อาจารย์ยังยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของสำนักโพล แต่เท่าที่อ่านดูเนื้อหา ดูเหมือนความจริงท่านจะโทษประชาชนที่ตอบโพลเสียมากกว่า ซึ่งถามว่าถ้าประชาชนไม่พอใจโพล เขาก็มีสิทธิจะไม่ตอบใช่หรือไม่ แล้วใครกันเล่าที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจ ก็โพลที่ทำงานแบบไม่เป็นมืออาชีพใช่หรือไม่

 

ท่านทำโพลแต่ไม่เคยฟังเสียงสะท้อนของประชาชน รอจนความจริงที่ไม่ใช่ผลสำรวจในกระดาษมันมาตบหน้าท่านท่านถึงจะตื่น ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะสายไปหรือไม่ที่ท่านจะแก้ไข เพราะตอนนี้คนทั้ง กทม. ก็ได้รับรู้แล้วว่าผลสำรวจโพลของท่านนั้นตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง ไม่อยากบอกว่าทางเลือกที่ดีก็คือ เปลี่ยนจากตัวท่านเป็นคนอื่นมาทำแทนท่านซะ แต่ก็คงต้องบอก เพราะเครดิตของท่านตอนนี้มันต่ำติดดินไปแล้ว จะให้เรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนคืนมาก็คงจะยากละครับ 

อันนี้ไม่ได้ยกตัวอย่างเพราะน้องตั๊นนะ
แต่บังเอิญมันมาด้วยกัน

ช่วงน้ำท่วม สิงห์เขาช่วยไปเท่าไหร่ มีข่าวใหมครับ
(ผมยังเอิญทราบมาว่าเป็นคำสั่งประจำตระกูลว่า ห้ามป่าวประกาศความดีของตนเอง)

เสี่ยเจริญควักกระเป๋าบูรณะวัดโพธิ์ไปกี่ร้อยล้านแล้ว
มีใครทราบใหมครับ เคยออกทีวีใหมครับ

ตันกับทักษิณนี่ ผมไม่เห็นความต่าง
เพียงแต่ตันยังไม่เล่นการเมืองเท่านั้น

ในบอร์ดเราวันนี้ผมยังเห็นกระแสนี้น้อยนะครับ (มีบ้างแต่น้อย) เพราะเรามุ่งเรื่องแพ้ชนะกี่เปอร์เซ็นต์กันซะเยอะมาก

แต่ในบอร์ดอื่นคนพูดถึงประเด็นนี้เยอะ คือ "คนกรุงเทพกำลังตบหน้าทักษิณ" ครับ

ไม่ใช่ว่าเราชนะแล้วกร่างหรือประมาท หรือเยาะเย้ยคนแพ้นะครับ  

แต่มันเป็นเซ้นส์ความรู้สึกจริงๆว่าเรากำลังทำอย่างนั้นอยู่

 

หลังจากจบศึกแล้ว ฝุ่นหายตลบ ตอนผมดูข่าวทีวีรายงานผลนับคะแนนช่วง 90% สุดท้าย

ปรากฎว่าคนมาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์ มากกว่าปีก่อน

แล้วผมก็รู้สึกสะกิดใจบางอย่าง บอกไม่ถูกครับ

ว่า ศึกที่เพิ่งผ่านไปครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก และสำคัญมากจริงๆ

 

ผมรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่คนกรุงเทพพร้อมใจกันสื่อไปถึงทักษิณจริงๆครับ

ถ้าให้ตอบตามเซ้นส์ตอนนี้  ผมรู้สึกเหมือนว่า

คนกรุงเทพกำลังประกาศจุดยื่นเด่นชัดและหาญกล้า ไปถึงทักษิณว่า  

มันไม่มีวันยึดกรุงเทพได้  พวกเราไม่ยอม  

 

 

ศึกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นสงครามที่รบกันระหว่างเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์แล้ว

มันยกระดับไปเหนือกว่านั้น  คือศึกที่สู้กันระหว่างคนกรุงเทพกับทักษิณโดยเฉพาะ

 

 

 

เพื่อนๆว่ายังไงครับ

ผมลองไล่อ่านนโยบายของท่านดู
ก็หาได้แตกต่างจากข้อเขียนของท่านโจโฉ
การทำกิจกรรมใหญ่ๆ ที่ต้องมีการวางเงินประกัน
เพราะหลายครั้งที่เคยมีการชุมนุมทางการเมืิง
ไม่ว่าจะเป็นสนามหลวงหรือที่ไหน
ก็ล้วนแต่ทิ้งสิ่งโสโครกเอาไว้ให้เป็นภาระกับ กทม
แล้ว กทม ต้องรับผิดชอบหรือครับ

ส่วนที่ท่านจะคืนสนามหลวงให้
ทำไมต้องคืน
ในรูป ท่านยังสามารถไปยืนชักว่าวกลางสนามหลวงได้
ท่านต้องขออนุญาต หรืเสียตังค์ค่าชักว่าวหรือไม่ครับ

ในฐานะที่เป็นรุ่นน้อง สถาบันเดียวกันกับคุณ สุหฤท และก็ทราบว่าคุณสุหฤทเป็นคนดี

 

คุณสุหฤท จบจากโรงเรียน อัสสัมชัญ และ ต่อ ตรี ศิลปศาสตร์ โท สื่อสารมวลชน ที่ ม.อัสสัมชัญ

กับสายการงานอาชีพ คุณสุหฤทก็ประสพความสำเร็จในระดับหนึ่งครับ

 

แต่การบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ผมยังไม่เห็นคุณสุหฤทมีความสามารถด้านไหนที่ตรงกับงานที่อาสาตัวเองเข้ามาทำ

การเป็นนักประชาสัมพันธ์อาจสามารถทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักได้ แต่สิ่งที่ผู้ว่าต้องการไม่ใช่แค่นโยบายที่ดี แต่ต้องมีฝีมือด้านบริหาร

 

คุณสุหฤทไม่มีพื้นฐานด้านบริหารจัดการ ยิ่งเป็นผู้สมัครอิสระ ยิ่งไม่มีฐานเสียง สก สข เป็นของตนเอง แล้วอย่างนี้ผมจะมั่นใจได้อย่าง

ไรว่า กทม อีก 4 ปีข้างหน้า จะเป็นไปตามที่คุณสุหฤทรับปากในนโยบายต่างๆครับ

 

ผมเลือกคุณชายสุขุมพันธ์ ไม่ใช่เพราะ สีแดง สีเหลือง แต่ผมเลือกในเหตุผลส่วนตัวของผมในฐานะประชาชนชาวกรุงเทพคนหนึ่ง

อย่างน้อยผมก็เห็นความตั้งใจ และนโยบายต่างๆของกทม ที่ทำมาแล้ว 4 ปี มีหลายเรื่องครับไม่อยากพูด ณ ที่นี้ เพราะเยอะ ส่วน

คนที่ไม่สนใจจะทราบ ก็เปล่าประโยชน์ที่จะพูดถึง นโยบายที่ประสพความสำเร็จให้ฟังอยู่ดี

 

อย่างน้อยผมก็มั่นใจได้ว่า อีก 4 ปี กรุงเทพมหานคร เมืองที่ผมอยู่อาศัยจะพัฒนาไปในแนวทางใด และนั่นคือเหตุผลที่ผมเลือก เบอร์ 16

 

และผมก็ขอขอบคุณ คุณชายสุขุมพันธ์ ทุกครั้ง ที่ช่วยต่อสู้ จนทำให้บ้านผม "น้ำไม่ท่วม" ครับ

ผมเองสมัครสามชิกมาสักปีกว่ามั้งครับ เคยตั้งกระทู้ครั้งนึงนานแล้วส่วนใหญ่จะอ่านอย่างเดียว ^ ^

 

      คราวนี้ตั้งกระทู้เพราะเรื่องการเรื่องตั้ง กทม. และ ปชป ส่งคุณชายสุขุมพันธ์ลงสนามและทำให้กองเชีย ปชป และคนกลางๆดูกังขา

ระดับนึงจนมีกระแสข่าวไม่ดีว่าที่ผ่านมาคุณชายไม่มีผลงานเลย ผลงานเงียบมาก และก่อให้เกิดสโลแกนและกระแสว่า

 

                        "เลือกคุณชายเถิดต่อให้ไม่มีผลงาน ดีกว่าเลือกพวกเผาเมือง"

 

      มันกลายเป็นเราสรุปว่าคุณชายห่วยในสายตาคนรอบข้างถึงขั้นห่วยมากๆผมเองก็เป็นคนนึงที่ถูกคลื่นนั้นกลืนไปด้วย

จนผมก็ถอดใจและก็ลองนั่งอ่านข้อมูลที่หาได้จนตกใจว่าจริงๆแล้ว ผลงานที่คุณชายทำมันเยอะพอควรเหมือนกัน

แล้วทำไมเราดันไปมองคุณชายในภาพลบแบบนั้น ถ้าเราศึกษาข้อมูลดีๆ เราจะรู้ว่ากระแส "เลือกคุณชายเถิดต่อให้ไม่มีผลงาน

ดีกว่าเลือกพวกเผาเมือง" จะไม่มีทางเกิดเด็ดขาดแต่เพราะ ปชป. เองก็ช้าเกินไปและโฟกัสผิดจุดในหลายๆเรื่องตอนเริ่มแรก

แม้ว่าตอนนี้จะโฟกดัสถูกจุดมากขึ้นผมเลยจะสรุปย่อๆผลงานของคุณชายใน 4 ปีที่ผ่านมา โครงการเด่นๆในสายตาผม ดังนี้

 

"ด้านการศึกษา"
1.เพิ่มงบประมาณเรียนฟรี 15 ปี
2.จัดตั้งมหาลัยกรุงเทพมหานครเป็นมหาลัยท้องถิ่น ซึ่งมีคณะแพทย์ศาสตร์รวมอยู่ด้วย

 

"ด้านสาธารณสุข"
1.ริเริ่มโครงการแท็กซี่สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ
2.ก่อสร้างโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ 

 

"ด้านขนส่งมวลชน"
1.เพิ่มส่วนขยาย BTS ในฝั่งธนบุรี
2.ปรับปรุงสะพานและเพิ่มอุโมงค์ลอดถนน
3.รายงานสภาพการจราจรออนไลน์ผ่าน App - BMA livetraffic 
 

"ด้านการกีฬา"
1.สร้างสนามบางกอก อารีน่า สำหรับกรุงเทพตะวันออก
2.เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพ 5000 กว่าไร่
3.โครงการจักรยานสาธารณะ

 

         ในระยะ 4 ปีที่ กทม. เจอการประท้วงใหญ่ 2 ครั้งและน้ำท่วมใหญ่ 1 ครั้ง คุณชายยังริเริ่มโครงการและทำได้ระดับนี้ผมว่า

ไม่ได้ห่วยเลยนะครับ แต่ส่วนใหญ่มันไม่เด่นเพราะไม่ได้แจกเป็นประชานิยมไงครับ ผมว่าเราควรชูสโลแกดนใหม่ว่า

 

                 "เราเลือสุขุมพันธุ์เพราะผลงานใช้ได้และทำงานจริงต่างหาก 3 มีนา นี้กาเบอร์ 16 ครับ"
 

 

 

ป.ล.แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อมูลได้ครับ เราจะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องในการตัดสินใจ